เว็บไซต์ MacRumors อ้างแหล่งข่าววงในว่าแอปเปิลเตรียมเลิกขายซอฟต์แวร์เป็นกล่องกระดาษในร้านของตัวเอง โดยจะเปลี่ยนไปขายผ่าน Mac App Store แทนทั้งหมด ชั้นวางของที่เคยวางกล่องซอฟต์แวร์ก็จะเปลี่ยนไปวางฮาร์ดแวร์แทน
ตอนนี้ถ้าซื้อเครื่องแมคใหม่ในร้านของแอปเปิล พนักงานของแอปเปิลจะช่วยเซ็ตเครื่องให้ ซึ่งแอปเปิลได้เพิ่มขั้นตอนให้สอนการใช้ Mac App Store เข้ามาแล้ว
ยังไม่มีข้อมูลว่าแอปเปิลจะทำอย่างไรกับซอฟต์แวร์ดังๆ อย่าง Adobe Creative Suite หรือ Microsoft Office ที่ยังไม่อยู่ใน Mac App Store
ที่มา - MacRumors
Comments
This changes everything, again!
ก็น่าจะไปในทิศทางนี้อยู่แล้ว ไม่ช่าก็เร็ว เริ่มก่อนได้เปรียบก่อน เป็นการลดต้นทุนอีกหลายๆ อย่าง เช่น กระดาษแพคของ ลดกระบวนการพิมพ์เฉพาะกระบวนการพิมพ์ก็ช่วยลดไปได้หลายเรืองแล้วเช่น หมึกพิมพ์ เพลท(โลหะ) ไฟฟ้า ช่างพิมพ์ ต่อไปก็ไม่ต้องสร้างเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ๆ เปลืองทรัพยากร และต่อไปเป็นเรืองของความคิดและโอกาส ไม่ใช่เป็นเรื่องของขนาด ลดการขนส่ง ลดพลังงานในการขนส่ง ลดอารมณ์หงุดหงิดเวลาสั่งของแล้วได้ช้า ฯลฯ....ดีครับ เป็นแบบนี้แน่นอนและจะมีอีกหลายๆ เจ้าจะทยอยทำตามกันครับ ไม่น่าจะเป็นข่าวลือเพราะมันเป็นจริงแน่นอน
ราคาก็ช่วยลดหน่อยนะครับ ถึงจะน่าซื้อหน่อย อิอิ
ถูกครับ ช่วยลดราคาลงด้วยนะครับ
คงไม่ลดง่ายๆ เพราะอ้างว่าซื้อเครื่องรวม OS + iLife
ค่าพัฒนาไม่ใช่น้อยๆ ไม่ยอมลดหรอก กำไรทั้งนั้น
Aperture ซื้อจาก Mac App Store ถูกกว่าแบบกล่องเยอะนะครับ
iLife ก็ถูกกว่านิดหน่อย
ถ้าไม่มีบัตรเครดิตจะทำไง
เขาก็เตรียม NFC ไว้ให้ไง[อีกหนึ่งช่องทาง]
เดี๋ยวนี้การซื้อของผ่านอินเตอร์เนตไม่ใช่เรื่องยาก ไปสมัครพวกบัตรเดบิตไว้ก็ได้ครับแค่มีเงินในบัญชีก็ใช้ได้แล้ว
ใช่คะ ใช้ k-bank สะดวกดีเหมือนกัน ใช้งานได้เหมือนบัตรเครดิตเลย
+1 ใช้อยู่เหมือนกันครับ ใช้มาปีกว่าๆ สะดวกดี มีตังแค่ไหนใช้แค่นั้น ไม่ต้องใช้เงินเกินตัวด้วย
อีกอย่าง บัตร k-debit รู้สึกว่าจะเอามาทำเหมือนบัตรเครดิตได้แล้วนะ ใช้หมายเลขบนบัตรเลย (แต่สะดวกใจใช้แบบ k-web shoping มากกว่า)
อนาคตอาจจะมีให้ซื้อ Serial Code จากร้าน Retail Store ก็ได้ละมั๊งครับ?
Dream high, work hard.
ที่เมืองนอกซื้อ Giftcard ตามร้านคอมทั่วไปมีขาย แต่เมืองไทยนี่ยังไม่เห็นมี
ยุคนี้ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
CD เถื่อนตาม Pantip ก็ยังคงมีอีกต่อไป คิดว่าน่าจะมีช่องทางหากินได้อยู่อีกระยะหนึ่ง ถึงยุคสังคมเสมือนแล้วครับ ให้ดีก็หาช่องทางรองรับสำหรับคนที่ไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้บ้างก็จะดีนะครับ มันอาจจะมีเหตุผลหลายอย่างที่บางคนไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้ คิดเล่นๆ ว่าตอไปถ้าผู้ผลิต PC ต้องใช้ระบบปฎิบัติการที่ Run จาก Network โดยตรง (ผมเรียกไม่ถูก คือไม่ต้องติดตั้งระบบปฎิบัติการบนเครื่องคอมพิวเตอร์แต่สามารถเรียกใช้ได้จาก Network ได้ตลอดเวลาก็เท่ากับว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ไม่ต้องซื้อ Windows แต่อาจจะเสียเงินค่านิดหน่อยเพื่อใช้งานมันบน Network ก็เท่ากับว่า Microsoft ก็ไม่สามารถขาย Windows ได้เหมือนเก่า (ขายตามจำนวนเครื่อง) สำหรับ Apple ก็มีให้สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องอยู่แล้วดังนั้นถ้าเป็นบริการลักษณะนี้ก็เท่ากับว่าลูกค้าที่ซื้อคอมพิวเตอร์จาก Apple ก็ไม่ต้องเสียค่า OS แน่นอน แต่สำหรับ PC แล้วจะจ่ายค่า Windows แบบไหน และถ้าเกิด Microsoft เกิดผลิตคอมพิวเตอร์เองแล้วขายหรือแจก Windows ไปพร้อมคอมพิวเตอร์ของ Microsoft ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่นๆ ก็เดือดร้อน งานนี้ Linux และ Chrome เกิดได้แน่นอน ตลาดระบบปฎิบัติการในอนาคตก็น่าจะมีอยู่สี่กลุ่มใหญ่ๆ MacOSX+ iOS / Windows / Linux / Chrome (งานนี้บรรดา Hacker ก็คงสนุดกับการพยายามใช้งานข้ามแพลทฟอร์ม เหมือนที่ทำกับ SmartPhone ในปัจจุบัน ......คิดเล่นๆ เท่านั้นครับ
ผมว่านี่เป็นการแก้ปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ที่ดีมากนะครับ จะขอความร่วมมือกับรัฐบาล, บังคับใช้กฏหมาย หรือ ปลูกจิตสำนึกมันยากเกินไป ทำให้คนที่ใช้ของเถื่อนต้องลำบากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้คนที่ใช้ของถูกลิขสิทธิ์สบายขึ้นเรื่อยๆ ก็จะได้ผลดีกว่า
เพื่อนหลายคนที่เคยใช้ Windows เถื่อนมาโดยตลอด เริ่มรับได้เวลาใช้ iPhone แล้วต้องเสียตังค์ซื้อ App ถ้าแนวโน้มเป็นอย่างนี้ต่อไป ประเทศไทยน่าจะได้มีซอฟแวร์ไทยดีๆ ใช้กันมากขึ้น :)
ตายๆๆ. ตอนผม upgrade Logic Studio จาก 9 ไป 10 ไม่ต้องรอ download กันทั้งอาทิตย์เหรอ เอิ๊กๆ
ผมพยายามนึกว่า ถ้ามีคนในบ้านเราซื้อ NI Komplete ผ่าน AppStore ... คงต้องโหลดกันเป็นเดือน ๆ
Final Cut Pro!!! แค่คิดก็สยองแล้ว