หนึ่งในคุณสมบัติใหม่ของ Mac OS X 10.7 "Lion" ก็คือ AirDrop ซึ่งเป็นวิธีที่จะส่งไฟล์ผ่าน Wi-Fi จากคอมพิวเตอร์ที่รัน Lion เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งที่รัน Lion เช่นเดียวกัน แม้ว่าที่เคยใช้ Mac OS X มาก่อนอาจจะบอกว่านี่แทบจะไม่ต่างอะไรกับ Bonjour หรือ Rendezvous แต่จริง ๆ แล้วมันต่างกันตรงที่คอมพิวเตอร์สองเครื่องไม่จำเป็นต้องอยู่บนเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน แต่ขอให้ตัวเครื่องอยู่ใกล้ ๆ กันพอที่ Wi-Fi จะเจอกันเท่านั้น
แต่นั่นก็หมายความว่าไม่ใช่คอมพิวเตอร์ทุกรุ่นที่จะมีฮาร์ดแวร์ Wi-Fi ที่รองรับการทำงานเช่นนี้ แต่จากรายงานนั้น ผู้ใช้จะไม่สามารถติดตั้ง Lion ได้หากมีซีพียูที่เก่ากว่า Core 2 Duo ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ Intel Mac รุ่นแรก ๆ อาจจะพลาดโอกาสที่จะได้อัพเกรดเครื่องมาใช้ Lion แต่ผู้ใช้อื่น ๆ อาจจะมีฮาร์ดแวร์ Wi-Fi ที่สนับสนุน AirDrop แล้วก็เป็นได้
ความสามารถในการเคลื่อนย้ายไฟล์โดยไม่ต้องอยู่บนเครือข่ายเดียวกัน น่าจะเป็นประโยชน์มากหากมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง หรือเมื่ออยู่ในออฟฟิศหรือห้องเรียนที่มีความจำเป็นที่จะต้องแชร์ไฟล์กัน
แม้ว่าตอนนี้ใน OS X 10.7 Developer Preview ที่ออกมานี้ การทำงานของ AirDrop ยังมีปัญหาทำให้ Finder ค้างบ้างในครั้งแรกที่มาการย้ายไฟล์ แต่ดูการใช้งานแล้วมันพอที่จะทดแทนการส่งไฟล์ผ่านอีเมลและไดรว์ USB ได้ดีเลยทีเดียว
ที่มา - 9to5mac
Comments
มันคือ dropbox ที่ไม่จำกัดพื้นที่สินะ
อ่านแล้วคิดแบบเดียวกันเลย
Ad-hoc?
"หากมีคอมพิวเตอร์หมายเครื่อง"
แก่เป็น "หลายเครื่อง" นะครับ
หมายเครื่อง อ่านดูคล้ายๆหมายหัวเลย
หลาย รึป่าวครับ :)
Ad-hoc แน่นอน
ใช้ครับ ฟังดูกล้วมันก็คือการทำงานแบบ Ad-hoc นี้แหละ
แต่ในมุมมองผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากนัก มันเป็น Feature ทีดีมากๆ
เพราะการ setup ad-hoc คงยุ่งยากเกินไปสำหรับคนทั่วไปแน่ๆ แต่ตรงนี้ Lion จัดการให้หมดแล้ว
ผมก็ว่าสะดวกดีครับ เวลาส่งไฟล์เล็กๆ น่าจะทำให้ส่ง text หรือ link ได้ด้วยไม่ต้องมา paste ใส่ไฟล์ก่อน
ตรงที่มีแสง
ถ้าบ้านติดกัน ก็มีหวังมองเห็น folder กันหมด
เท่าที่เห็นไม่น่าจะเป็นระบบเปิด share folder นะครับ
ถ้าคอนเซปตามชื่อ air drop คือ เหมือนเครื่องบินทิ้งของ
น่าจะทำได้แค่ลากวาง
เป็นชื่อที่ตั้งเก๋ไก๋ทีเดียว
ชื่อตั้งตาม action คือ drop
ส่วน air เป็นคำแทนระบบ wifi ของผลิตภัณฑ์ของ apple อยู่แล้ว เช่น air port
เยี่ยมเลยครับแบบนี้ แบบนี้ใคร ๆ ก็ใช้เป็น
absolute beginner ก็สามารถเข้าใจได้
เพียงนำเครื่องไปไว้ใกล้ ๆ (ที่สัญญาณเห็นกัน)
ไม่ต้อง setup เครือข่าย
ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
กดหาชื่อแล้วลากไฟล์ส่งเลย
มันยังใช้กับ สถานการณ์อื่น ๆได้อีก
เช่นเราไปคุยงานภายนอกที่ใช้ ระบบนี้เหมือนกัน
(ส่วนใหญ่ที่คุยกันแต่ละเครื่องจะ อยู่บนเน็ต (mobile) แต่ไม่มี wifi ที่ปลอดภัย)
เราคุยกันจอข้าง ๆ ส่งไฟล์กัน ไม่ต้องลากใส่ thumbdrive เสียบ
ตอนนี้ที่อยากรู้คือมี notification ไหม เพราะในคลิปเป็นการเปิด finder พร้อมกันแล้วส่งไฟล์
ถ้ามีจะยิ่งสะดวก
อีกประเด็นที่ยังห่วงคือจะเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหรือเปล่า
ก็ยังงงอยู่ว่ามันใหม่ยังไง สรุปคือเอาของเก่ามาใส่ชื่อใหม่พร้อมปรับให้ใช้ง่ายขึ้น (เช่น Facetime)
ทำสิ่งที่มีอยู่ให้แตกต่าง และขายได้ รู้สึกไมโครซอฟต์ จะทำแบบนี้ไม่เป็นแหะ
การสร้างนวัตกรรมในองค์การ สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท (ภานุ, 2546) ได้แก่
นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ (Product innovation) เช่น ยาอมแก้เผ็ด :เวลากินของแซ๊บแล้ว พริกลวกปาก อมประเดี๋ยวเดียวก็หายเผ็ด
นวัตกรรมกระบวนการ (Process Innovation) เช่น ครูแบบพกพา : สอนที่ไหนก็ได้
นวัตกรรมการจัดการ (Manangement Innovation) เช่น การบริหารองค์การแบบไร้เจ้านาย
http://gotoknow.org/blog/9nuqa/11973
ผมว่า Kinect น่าจะนับเป็นนวัตกรรมได้นะครับ
ที่ Kinect พัฒนามาได้ขนาดนี้เพราะมี hacker เขาเอา Kinect มาเจาะครับ แล้วคนๆ นั้นก็ถูกไมโครซอฟตจ้างไปพัฒนาต่อเลย
ยังไงก็แล้วแต่ก็ต้องยกเครดิตให้ Microsoft แหละครับ เพราะก่อนหน้านั้นถ้าจำไม่ผิด Apple เคยโยนโอกาสนั้นทิ้งไปแล้วด้วย
และถ้าจะอ้างอย่างนั้นผมว่า Apple ก็ตัวดีเลยทั้ง Xerox ทั้ง iPod (เป็นต้น)
แล้วก่อนที่เจาะได้นี่ ไม่ให้เครดิตเขาเลยเหรอครับ?
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องแบบนี้ คอมเมนต์โดยไม่ต้อง "กัด" ไมโครซอฟท์ก็ได้นะครับ
ของที่ไมโครซอฟท์ขายได้เยอะๆ ล้วนแต่ "ทำสิ่งที่มีอยู่ให้แตกต่าง และขายได้" ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Windows, Office, Xbox
กรณีของ Windows นั้นเป็น "ทำสิ่งที่มีอยู่ให้แตกต่าง และขายได้ แถมทำให้เจ้าตลาดเดิมเกือบตาย" เสียด้วย
"แซ่บ" ไม่ได้แปลว่า "เผ็ด" อย่างที่คนไทยภาคอื่น (ที่ไม่ใช่ภาคอีสาน) เข้าใจกันครับ จริงๆ แล้วแปลว่า "อร่อย" แถมยังมีคำว่า "นัว" ที่แปลว่า "กลมกล่อม" หรือ "อูมามิ" (สองคำนี้น่าจะใกล้เคียงสุดแล้ว) อีกต่างหาก
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1 เห็นคนเข้าใจแบบนี้เยอะจนร้านบอกแซ่บผมต้องเตรียมใจเผื่อว่ามันเผ็ดจัดแล้ว - -"
ก็สำหรับคนอีสานนี่... อย่างกะว่าถ้าไม่เผ็ดจะไม่มีทางแซ่บ
มันก็คือ ตั้ง wi-fi ในเป็น host เครื่องนึง แล้วรับเครื่องนึงใช่ไหมเนี่ย
ราวๆ นั้นครับ เพียงแต่ไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่ายปกติก่อน
เป็นการใช้ Wireless-N ที่ support MIMO ได้เต็ม spec ดีจริงๆ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
มันก็คือ ตั้ง wi-fi ในเป็น host เครื่องนึง แล้วรับเครื่องนึงใช่ไหมเนี่ย
Home Group น่าจะทำบ้าง T-T
ใช้ง่ายดีแฮะ เหมือน Bluetooth File Transfer เป้ะๆเลย ใครๆก็ใช้เป็นกันหมดแล้ว
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
air bomb
ถ้าเป็นวินโดว์คงใช่ละครับ ส่งไวรัสไปบอมกันกระจาย โชคดีแมคมีน้อยหายาก
ง่ายกว่า ad-hoc อีกมั้งเนี่ย
ดีกว่า wi-fi host ที่ติดต่อได้ 2 ทางอีก 0
OSX เป็น OS ที่ดู high end มากๆๆ ถึงมากที่สุด
เป็น OS ที่ผม ใช้เลย ไม่คุ้นสุดๆเลย
สุดท้ายคงต้องถอยสักเครื่องมั้งนี่ Back to the Mac อิอ
รู้สึกว่าจะมีร้านอาหารร้านหนึ่งที่จะไม่ชอบแมค แล้วก็คอยบอกคนอื่นว่าไม่ต้องเมนต์อย่างโน้นอย่างนี้ เห็นหลายที่หล่ะ ที่นี้จำกัดความอิสระในการคอมเมนต์ด้วยหรอครับ
จำกัดครับ ที่ไหนๆ ก็จำกัดทั้งนั้นล่ะครับถ้าไม่ทราบนะ
เว็บเขาสิทธิ์เขาครับ ไม่พอใจต้องทำเว็บเอง (หรือง่ายกว่านั้น ซื้อเว็บนี้)
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
ยังใช้ไม่เป็นเลยอ่ะ