Sunday Times รายงานว่าดีไซน์เนอร์และสมาชิกบอร์ดบริหารจากแอปเปิล นาย Jonathan Ive กำลังตัดสินใจเส้นทางชีวิตของเขา โดยเขาอยากจะใช้เวลาในอังกฤษซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของเขามากกว่านี้
ในช่วงระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา Ive ได้ทุ่มเวลาทำงานให้กับแอปเปิลอย่างเต็มที่ โดยแอปเปิลได้ทำสัญญา "มัดตัว" ที่น่าสนใจจนไม่อาจจะปฏิเสธได้ตั้งแต่ปี 2008 (ที่มาเลือกใช้คำว่า Golden Handcuffs หรือกุญแจรัดข้อมือทอง) โดยสัญญาดังกล่าวมีมูลค่ามากถึง 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 890 ล้านบาท) เป็นไปได้ว่า หลังจากสิ้นสุดระยะสัญญานี้ Ive อาจจะเลือกลาออกจากแอปเปิล
จากในรายงาน Ive ยังกล่าวอีกว่าเขายินดีที่จะเลือกเดินทางมาจากเมือง Somerset บ้านเกิดมายังแอปเปิลเพื่อที่จะทำงาน แต่ดูเหมือนว่าบอร์ดบริหารของแอปเปิลจะไม่ชอบข้อเสนอนี้มากนัก โดยสมาชิกครอบครัวของ Ive รายหนึ่งได้ออกมาบอกว่า Ive เป็นคนที่มีค่าตัวสูงมากสำหรับแอปเปิล และบริษัทไม่อยากให้เขากลับมาที่ประเทศอังกฤษอีก และไม่สามารถที่จะให้ดำรงตำแหน่งกับแอปเปิลได้หากเขาต้องกลับมาจริง
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Jonathan Ive ดีพอ เขาเป็นนักดีไซน์สินค้าให้กับแอปเปิลมาหลายปี และเป็นผู้ที่ดีไซน์สินค้าดัง ๆ ต่าง ๆ ของแอปเปิลมาหลายชิ้นแล้วตั้งแต่ Unibody MacBook Pro, iPod, iPhone และ iPad เขาได้เริ่มทำงานกับแอปเปิลมาตั้งแต่ปี 1992 และยังเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกทาบทามให้มารับตำแหน่งผู้นำของบริษัทหากเกิดอะไรขึ้นกับสตีฟ จ็อบส์อีกด้วย
ที่มา - MacRumors
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สรุปสาระสำคัญและของใหม่จาก Microsoft Ignite 2023 | Cloudnone Special EP
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
- Microsoft, Amazon, Google ประกาศตั้ง Data Center ในไทย แล้วไงต่อ | Cloudnone EP 16
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
Comments
ผมชอบคนนี้ ผมว่านายคนนี้แหละสำคัญ..
ใช่ คีย์แมนเลยนะ
เทียบกับค่าตัวนักบอลแล้ว...... - -"
50 ล้านปอนด์ :P
ผมว่าคนนี้ได้เยอะกว่าอีกนะครับ ค่าตัวนักบอลสโมสรได้ แต่ค่าทำสัญญา Jonathan Ive ได้เต็มๆนะครับ ถ้าเทียบกับนักบอลก็ 187500 ต่อสัปดาห์ครับ
ตามตรรกะผมนักบอลก็ได้อยู่ดี เพราะสโมสร-ขาย-ให้สโมสรอื่น แล้วก่อนที่สโมสรนั้นจะมีสิทธิ-ขาย เค้าเอาสิทธิ์มาจากไหน? ก็ต้องให้นักบอล-"ขายตัว"-ให้สโมสรก่อน
ปล.ผมไม่ได้ติดตามวงการนี้ครับ เดาล้วนๆ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
มันเป็นแบบนี้ครับ สมมุติว่าคุณเป็นนักบอลนะครับ ตอนอายุก่อน 16 ปีคุณก็จะอยู่ที่สโมสรใดสโมสรหนึ่งเป็นเด็กฝึกหัดไปก่อน หลังจากที่อายุ 16 ปี ถ้าคุณมีความสามารถเพียงพอทางสโมสรก็จะเซ็นสัญญากับคุณ ตรงนี้จะมีข้อตกลงมากมายแล้วแต่ฝึมือของคุณเอง เช่นอาจมีโบนัสหากยิงประตูได้, สามารถย้ายออกได้หากไม่ได้รับโอกาศในการลงเล่น การเซ็นสัญญาทำให้สโมสรมีสิทธิในตัวผู้เล่นคนนั้น
หากว่าสัญญายังไม่หมด แต่คุณเล่นฟุตบอลดีมากจนสโมสรอื่นต้องการตัว ในส่วนนี้อีกจึงเกิดการซื้อขายสัญญาของนักแตะขึ้นมาครับ ซึ่งเราก็จะเรียกว่าการซื้อขายนักแตะครับ การซื้อสัญญาโดยส่วนมากแล้วนักแตะจะไม่ได้รับเงินส่วนนี้ เพราะเป็นความต้องการของสโมสรเองว่าต้องการจะขายนักแตะไปหรือไม่ เว้นแต่มีการตกลงกันในสัญญาในตอนแรกครับ
คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ได้ค่าจ้างปีนึงก็เป็น 10 ล้านปอนด์แล้วครับ เฉพาะค่าเหนื่อยนะ
แต่ในโลกนี้ ดีไซน์เนอร์ที่ได้ค่าตัวเป็น 10ๆ ล้านปอนด์ก็คงมีไม่กี่หรอกเนาะ...แฮ่ะๆ
เป็นคนออกแบบ EVE หุ่นสีขาวในเรื่อง Wall E ด้วยครับ
จริงรึเปล่าครับ?
จริงครับ
http://pixarblog.blogspot.com/2008/05/jonathan-ive-helped-design-eve.html
มิน่าล่ะ ตอนดูยังว่ากลิ่น Apple โชยฟุ้งเชียว
ผมเคยอ่านจาก Comment จากใน ฺBlognone นี่แหละ
เหมือนกับว่า Steve Jobs ถือหุ้นทั้ง Pixar และ Apple
เห็นว่า Wall-E มีเสียงบูทเครื่องเหมือน Mac OSX ด้วย O_o
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
Steve Jobs เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Pixar ด้วยครับ !
Pixar began in 1979 as the Graphics Group, part of the Computer Division of Lucasfilm before it was acquired by Apple co-founder Steve Jobs in 1986. The Walt Disney Company bought Pixar in 2006.
ถูกต้องนะคร้าบ
สิ่งนี้แหละครับที่ผมชอบมากที่สุดในผลงานของเขา
positivity
โอ้ววว
มันต้องเป็นพี่น้องกันแน่ๆ
โอ้ เอาดีไซเนอร์มาเป็นผู้บริหาร นี่เองความลับความสำเร็จของแอปเปิล สุดยอด !!!
ถ้าได้เป็นเเทนล่ะด็สุดยอด
เห็นนายคนนี้บ่อยมากตอนเปิดตัวสินค้า :D
เห็นหน้าครั้งแรก ผมนึกถึง Lincoln Burrows ใน Prison Break
+1
+1
Wentworth Miller(พระเอก Prison Break) ก็เกิดในอังกฤษแต่ไปโตที่ สหรัฐอเมริกา
คนนี้นี่เป็นผู้สร้างภาพลักษณ์ของสินค้ายี่ห้อแอ๊ปเปิ้ลเลยนะครับ
ในมุมของ Apple ยังไงก็น่าจะรั้งไว้นะ ให้อยู่บ้านก็ยังดีกว่าหนีไปทำที่อื่น
ซื้อเครื่องบินส่วนตัวให้บินมาทำงานสิ เหมือนที่เคยซื้อให้ Job ไง
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
หรือไม่ก็ย้าย Apple ไปอยู่ UK
แอปเปิลคงไม่ยอมปล่อยตัวไปง่ายๆ แน่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้าเปลี่ยนตัวดีไซน์เนอร์แล้วทิศทางการออกแบบไม่เนียนเท่าเดิม ก็เตรียมเสียลูกค้าไปได้เลย หรือว่าทาบทาม Dieter Rams มาออกแบบให้แทนแล้ว
เห็นด้วยว่าในโลกนี้คนที่เก่งกว่า Ive มีแค่ Dieter Rams คนเดียว
ถ้าไม่มี Ive ยุคของ Apple ก็สิ้นสุดไม่ต่างกับการที่ไม่มี Jobs
Apple คงไม่ทำแบบนั้นแน่นอน และเชื่อว่า Professor Dr.Dieter Rams ในช่วงท้ายๆของชีวิต
ท่านคงไม่อยากมาทำงานแบบนี้แน่ แต่จะเอาใครมาแทน Ive ในแง่ของการออกแบบผลิตภัณฑ์
หากในทีมออกแบบของ Apple มีคนที่แข็งแกร่ง ที่สามารถดึงความมีเอกลักษณ์ของแบรนด์ Apple ได้
และสร้างให้คงอยู่ได้ยาวนาน Apple ก็คงไม่ต้องอาจจะพึ่ง Ive อีก
และในองค์การที่ความลับสำคัญยิ่ง คงไม่มาจ้างบริษัทข้างนอกออกแบบผลงานให้เป็นหลัก
อาจจะจ้างเสริมชั่วครั้งชั่วคราว เพื่อหลายๆเหตุผล เช่นในอดีต Apple จ้าง IDEO ออกแบบเมาส์ เป็นต้น
และ facility ของ Apple ก็ค่อนข้างครบถ้วน มีทุกอย่างพร้อมในการทำต้นแบบเป็นร้อยๆพันๆ ก่อนสรุปแบบ
ยังมีนักออกแบบในโลกอีกหลายคนที่มีฝีมือ อาจจะไม่เก่งเท่า Ive แต่ก็น่าจะได้แสดงฝีมือในอนาคต
หากพวกเขาเหล่านั้นสนใจมาทำงานกับ Apple
ที่ยกเอา Dieter Rams ก็แค่การเปรียบเทียบหน่ะครับ เค้าคงไม่จำเป็นต้องมาทำงานแบบนี้อยู่แล้ว :)
ต้องแยกแยะหมวดหมู่ดีๆครับ Ive ไม่ใช่แค่ นักออกแบบ product ทั่วๆไป ขนาด Design Museum ประเทษอังกฤษ ถึงกับใหรางวัล Designer of the Year ปี 2003
นั่นยิ่งยืนยันว่าเค้าเป็นบุคคลระดับ Hall OF Frame คนหนึ่งครับ
ซึ่งมีจำนวนไม่กี่คนในโลกที่สร้างผลงานได้ใน Level เท่าๆกันที่มีผลงานระดับ "การเปลี่ยนแปลกโลก และมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิต"
Dieter Rams, Mark Newson, Ron Arad, Nato Fukasawa ,Yves Behar, Philipe Stack
ถ้าเห็นชื่อคนเหล่านี้แล้วก็มีชื่อของ Ive อยู่ในกลุ่มพวกนี้ด้วย อาจจะเรียกได้ว่า เป็นระดับบนสุดของสายงาน product design ก็ไม่ผิดนัก
ดังนั้นถ้าจะดึงเอา นักออกแบบทั่วๆไปมาทำงานหลังจาก Ive นี่มันคนละระดับชั้นกันเลย แน่นอนว่า ความกดดันที่"คนใหม่"จะต้องเจอ มันมากเหลือเกิน เพราะว่าสิ่งที่ Ive ทำไว้มันมากมาย จากวั้นนั้น จนวันนี้ ทั้งโลกนี้มีใครบ้างที่พอจะเทียบ Level กับ Ive ได้บ้าง ??? แน่นอนว่า Designer จาก Nokia หรือ SONY เทียบชั้นกันไม่ได้แน่นนอน
ผมเชื่อว่าถ้าเป้นอย่างที่ว่าจริง Steve Jobs เองก็น่าจะมองถึงอนาคตนี้เอาไว้สำหรับคนทีี่มีความสามารถพอที่รับช่วงต่อ และทาง Ive เองก็น่าจะมองคนใน Team Design ไว้เช่นเดียวกัน งานนี้ผมคิดว่าคนใน Apple ที่ Steve และ Ive รับสมัครมาน่าจะมี"ตัวแรง"อยู่ข้างใน และน่าจะสานต่องานนี้ได้ดีกว่าคนนอก อีกทั้ง Ive เอง ได้ใช้คำว่า Our Team เสมอๆ และ product แต่ละตัวที่ Ive ได้รับการยกย่อง เค้าก็จะให้เครดิตว่า Design by Jonathan Ive and Apple design team เสมอๆ
ผมว่าใน Apple มี"ตัวจี๊ด" อยู่อีกนอกจาก Ive แน่นอน
ไปทำงานต่างประเทศนานๆ ผมเชื่อทุกคนยังไงก็กลับบ้านนะครับ
เป็นผมผมยังอยากกลับประเทศไทยเลยถึงรู้ว่าประเทศไทยเป็นยังไง
แล้วมีอีกกี่อย่างที่เค้าออกแบบแล้วไม่ได้ ออกมาบ้างเนี่ย อย่าไปไหนเลยครับ แต่บ้านเกิดอ่ะเนอะ
จริงๆ เก่งขนาดนี้ก็อาจมีอารมณ์อยากทำเองบ้างอะไรบ้างนะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
คงยากนะครับเพราะเค้าเก่งข้างนอกไม่ได้เก่งข้างในแต่ถ้าทีมงานในapple ด้าน hardware กับ design รวมกันอันนี้ไม่แน่
ก่อนที่ Jobs จะกลับมาไหงไม่มีใครเห็นความสำคัญของ Ive เลยนะ อิอ
ช่วงนั้นไม่มีใครมีพาวเวอร์พอที่จะผลักดันคนหนุ่มมีความสามารถในแอปเปิลไงคับ : )
positivity
ผมว่า POWER น่ะเยอะแยะ
แต่วิสัยทัศน์น่ะไม่มี
สมมุติกันเล่นๆ ถ้าย้ายไปอยู่กับมือถือโนเกีย+ไมโครซอฟท์รับรองตีตลาดกระจุย ข่าวนี้จะดังกระหึ่ม แต่ก็ได้แค่สมมุติ
ถ้าได้คงสนุกน่าดูล่ะครับ
เดี๋ยวก็ลาออก Designer พอเขาอิ่มตัวในสายงานก็อยากหาวัตถุดิบใหม่ๆ ให้สมอง เขาอาจเบื่องานออกแบบสินค้า IT อยากออกแบบอย่างอื่นก็ได้มั้ง ดูคริส แบงเกิล ของ BMW เป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบ BMW ตอนนี้ลาออกไปเปิดสำนักออกแบบของตัวเอง ออกแบบอย่างอื่น ที่ไม่ใช่รถไปแล้ว
Best Case สุดคือเขาไปเปิดสำนักออกแบบใน UK แล้วรับจ้างออกแบบให้ Apple อย่างนี้ Apple คงไม่ยอมหรอก แต่ผมว่าอันนี้น่าจะใกล้เคียงแนวคิดในสมองเขาตอนนี้ เพียงแต่คงต่อรองเรื่องการเก็บความลับเรื่องงาน Design ถ้า Apple ไม่ยอมเขาก็คงเปิดสำนักออกแบบเอง แล้วตอนนี้ลูกค้าในวงการ IT คงจะวิ่งไปหาเีพียบ อาจได้มากกว่า 18 ล้านปอนด์หลายเท่าก็ได้นะ คงใกล้หมดสัญญากันแล้วแหล่ะ เหมือนนักบอลเลยแหะ
jobs ไม่อยู่ ive กลับอังกฤษ Apple งานเข้าแน่
ถ้าให้ดีต้องย้ายแผนกออกแบบตามไปอังกฤษด้วย :-)
แอบทำงานให้ ซัมซุงด้วยหรือเปล่า :p ๆๆๆๆๆๆ
^
^
that's just my two cents.
มันต้องใช่แน่ๆ
ตรงที่มีแสง
ประธานคนเก่ากูเกิ้ลก็เป็นหนึ่งในแอปเปิ้ล ไม่แน่อาจดึงตัวมาอยู่กับพี่กรูแล้วออกแบบให้ด๋อย
เมื่อสูงสุดแล้วก็ต้องมีตกบ้างเป็นธรรมดา
หมายถึง apple ใช่ไหม
ประสพความสำเร็จแล้วลาออกไปใช้เงินทำไมหมายความว่าตกต่ำ?
ผมว่าพวกที่ยังรั้งตำแหน่งไว้แต่ทำประโยชน์อะไรไม่ได้นี่ตกต่ำกว่าอีกนะ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
หรือว่าเขาออกแบบล่วงหน้าไปถึงiPhone10แล้วเลยลาออก?
เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแล้ว? ช่วงนี้มีข่าวอะไรเกี่ยวกับเค้าอีกป่ะ?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อ้อ รู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสินค้าของแิอปเปิ้ลละ หน้าตาอย่างนี้นี่เอง
ผมล่ะชอบเค้าคนนี้มากๆ ถ้าข่าวเรื่องการจะจากไปของ Jobs เป็นจริง ก็ทำให้ข่าวนี้มีนน.เหมือนกันนะครับ เพราะเค้าคนนี้กับ Jobs ซี้กัน
positivity
หรือว่าจะ "หนีตาม Steve Jobs"
"เขาเป็นนักดีไซน์สินค้าให้กับแอปเปิลมาหลายปี" ใช้คำว่า นักออกแบบ หรือ ดีไซน์เนอร์ ไม่ก็ designer ดีกว่าครับ
ไม่มี Ive Apple ต่อไปคงไม่ใช้ Apple เหมือนตอนนี้
เดิมที นาย Jonathan Ive เค้าก็เป็นดีไซน์เนอร์เครื่องสุขภัณฑ์ ถ้ามีเรื่อง homesick เรื่องจุดอิ่มตัวทางด้านสินค้า electronics ก็อาจเป็นไปได้เรื่องที่เค้าจะไป แล้วหาความท้าทายในด้านอื่นๆ ที่อังกฤษ
หน้าเหมือน SJ ตอนหนุ่มและไม่ใส่แว่น
ไม่มี ive ก็หา adam มาแทน
"Adam Apple"
อ๊ากกกก คุณลุงอย่าเพิ่งไปไหนนะ >___<'''
ยากที่จะหาใครแทนคุณได้
ผมมองว่าจริงๆ อาจจะมีดีไซเนอร์เก่งๆ อีกเยอะ แต่หาคนให้โอกาสหรือคนตาถึงหยิบมาใช้ทำงานไม่ได้นี่แหละเหตุผลหลัก เหมือนที่ Ive อยู่กับ Apple ตอนร่วงมาก่อน แต่พอ Jobs กลับมาจึงเห็นแววแล้วให้โอกาสจึงดังขึ้นมา
ถ้าไปอยู่กับบริษัทอื่นล่ะก็ สนุกแน่งานนี้
ถ้าเขาติสมากคงอยากจะอยู่เฉยๆ ใช้ชีวิต ถือหุ้้นแอปเปิลไปวันๆ พอหุ้นตก เด๋วเขาก็กลับมาเองแหละ :P
แต่อย่าไปไหนเลยนะ คนนี้รักพอๆกับจอบส์เลยนะ
จริงๆแล้ว เขาเป็น ceo คนถัดไปครับ ตามธรรมเนียม ceo apple ต้องมีข่าวลือเยอะๆ คริคริ
twitter.com/djnoly
ผมหละชอบงานออกแบบของเค้าจริง ๆ
twitter.com/exfictz