ปัญหาเรื่อง fragmentation เป็นจุดอ่อนของ Android มาโดยตลอด แต่สถานการณ์ในช่วงหลังดูจะไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น เพราะผู้ใช้ Android ส่วนมากเปลี่ยนมาใช้ Android 2.1/2.2 กันแล้ว
จากสถิติที่กูเกิลนำมาเปิดเผยเป็นระยะบนเว็บไซต์ Android Platform Versions พบว่า Android 2.1 มีส่วนแบ่ง 29%, Android 2.2 มีส่วนแบ่ง 61.3% ซึ่งนับสองรุ่นนี้รวมกันได้ 90.3%
Android รุ่นเก่าสาย 1.x มีส่วนแบ่งรวมกันเหลือแค่ 7.8% อย่างไรก็ตามถ้า 2.3 และ 3.0 แพร่หลายมากขึ้น ก็อาจกลับมาเจอปัญหา fragmentation อีกรอบ
ที่มา - Engadget
Comments
ใช้ 2.3.2 อยู่ฮะ ...
คาดว่าอีกซักพัก 2.1 กับ 2.2 ก็จะเป็นปัญหาต่อไป
2.2.1 เป็นชนหมู่มากซะงั้น
ผมลองใช้ 2.2 แล้วเครื่องมันอืดได้ใจเลย (Spica) ทนได้ 2 วันต้องถอยกลับมา 2.1 คืน
เฮ้อ... - -!
ยังเป็นชนหมู่มากอยู่เลย 2.2 ไม่ได้ไป 2.3 ซะที
milestone เพิ่งได้กิน 2.2
เหมือนปัญหา UNIX ในอดีตมีหลายค่าย หลายรุ่น
2.3 บน CM7
ผมลงเป็น cyanogenmod 6.1 เป็น 2.2.1 ฮะ
และคงไม่เปลี่ยนแล้ว แปลี่ยนอีกทีก็เปลี่ยนเครื่องเลย จบข่าว
gingerbread (2.3.x) แทบไม่ต่างกับ froyo (2.2.x) มากมายเลยครับ ยิ่งถ้าพิจารณาจาก hardware ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันก็ยิ่งไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างหรือได้เปรียบเสียเปรียบมากมายระหว่างคนที่ลง 2.2 กับ 2.3 เพราะฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใน 2.3 จะไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่มากมายนัก อย่างเช่น
- NFC ตรงนี้ต้องการ hardware ที่ใช้อ่าน/เขียนข้อมูลแบบนี้ได้ ปัจจุบันมีมือถือไม่กี่รุ่นที่ทำได้ (ex. nexus S)
รุ่นก่อนหน้านั้นถ้าลง 2.3 ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์
- NDK, openGL direct api access , จะิพิ่มฟีเจอร์ให้นึกเขียนเกมส์สามารถทำให้เกมส์ของตนทำงานได้เร็วขึ้น แต่เกมส์ที่อยู่ในตลาดปัจจุบันยังไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้นัก ดังนั้นเครื่องมือถือถ้าลง 2.3 ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์มากนัก
- User interface อันนี้เปลี่ยนแปลงจริงๆ แต่ก็แล้วแต่คนชอบ ยิ่งถ้าเครื่องสามารถลง custom rom ได้ ตรงนี้แทบไม่มีความต่าง (ผมได้หน้าตา ui แบบนี้มาตั้งแต่ cyanogen mod 6.1.1 แล้วครับ)
ดูจากเหตุผลข้างต้นจะเห็นได้ว่า 2.2 กับ 2.3 ไม่มีความแต่งต่างอะไรมากเลย คนที่ลง 2.2 อยู่ก็สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่และมีความสุข สำหรับเครื่องออกใหม่ก็ได้ 2.3 ไปแต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเครื่องที่ลง 2.2 เลยยกเว้นเรื่อง UI ที่เห็นชัดๆ ส่วนเรื่องความเข้ากันได้ของ software ที่อยู่บน market ถ้าไม่ไ้ด้ใ้ช้งาน feature เฉพาะของ 2.3 จริงๆ (์NFC hardware compatible) สามารถใช้งานได้แทบจะทั้งหมดเลยครับ แต่ถ้า honeycomb port มาลงมือถือเมื่อไหร่อันนั้นน่าจะสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ
ปัญหามันยังไม่เกิด เพราะว่าเครื่อง 1.5 1.6 ผู้ผลิตปล่อย 2.1/2.2 ออกมาให้หมด
แต่เครื่องเกินครึ่งในตลาดผู้ผลิตเลิก up firmware ใหม่ให้แล้ว fragmentation ก้อนใหญ่ละทีนี้
2.2 > 2.3 แทบไม่ต่าง
แต่ 2.3 > 3.0 นี่สุดๆ
ใช่เลย... มันคทอการข้ามกระโดดระหว่าง smart phone > Tablet !
คุ้มที้จะทิ้ง 7.8% แล้วสนใจกว่า 90%
ลากยาว api level 7 ของ 2.1 ไปได้อีกชั่วอายุขัยมือถือเครื่องหนึ่ง
ระหว่างนั้นก็ทำความคุ้นเคยกับหนมปังขิงไปด้วย
แล้ว 2.4 จะเปิดตัวปลายปี... โอ้ว ม่ายยยยยย ! :P
แต่ผมว่าปัญหาไม่น่าใหญ่มาก ถ้าเครื่องส่วนใหญ่เป็น 2.2+ ขึ้นไปนะครับ ถึงแม้ 2.3 จะมีเรื่อง NFC ก็ไม่น่าปีปัญหาในระดับดลก เพราะผมว่าประเทศที่ใช้ NFC คงมีกันไม่มาก น่าจะเป็นญี่ปุ่นหนึ่งประเทศ ที่น่าจะต้องการ 2.3+ ผมว่าดีไม่ดีผู้ใช้เองอาจจะพอใจแค่ 2.2 ก็ได้ครับ ถ้า 2.3 ต่างแค่ NFC และประเทศนั้นไม่ได้ใช้ NFC กันอย่างแพร่หลาย นอกจากว่า 2.4 จะมีอะไรที่แตกต่างจาก 2.2 อย่างชัดเจน และถ้าต่อๆไปรุ่น 1.x จะค่อยๆหายไป ผมว่าก้น่าจะตัดปัญหา และถ้า Google แยกชัดเจนระหว่างรุ่นที่ลงมือถือกับ Tablet ผมว่ายิ่งไม่น่ามีปัญหา นอกจากว่า จะเป็นปัญหาของใครของมัน เช่น fragment กันเองในกลุ่มระหว่า tablet กับกลุ่มมือถือ ไม่น่าจะ fragment กันในกลุ่ม Android
ไม่โตขึ้นเท่าไหร่เลยแฮะ (ไม่เขียนดีกว่า) ล่าสุด