ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รัฐบาลของประเทศอย่างบาห์เรน ซาอุดิอาระเบีย หรือเยเมน สามารถเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่อะไรอื่นครับ เทคโนโลยีจากโลกตะวันตกนี่เอง
ข่าวบอกว่าบริษัทด้านความปลอดภัยดัง ๆ ในสหรัฐฯ และแคนาดา เช่น McAfee, Blue Coat, Netsweeper และ Websense ต่างก็มีลูกค้าเป็นรัฐบาลที่มีการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวดทั้งนั้น ซึ่งก็ดูขัดกับที่ Hilary Clinton เคยกล่าวประณามการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตไว้เมื่อปีที่แล้ว
ว่าแต่ ISP บ้านเราใช้ผลิตภัณฑ์ของเจ้าไหนครับ
ที่มา - The Wall Street Journal
Comments
นั้นสิ
เวลารัฐบาลอเมริกาเรียกร้องให้เปิดเสรีภาพ เขาถึงต้องทำอย่างระมัดระวังเพราะเป็นดาบสองคมทิ่มแทงเศรษฐกิจตัวเองเหมือนกัน
ความจริงแล้วจะให้ดีที่สุดต้องมีทั้งสองอย่าง
เขาไม่ได้ต้องการเสรีจริงๆ และไม่ต้องการให้ปิดจริงๆ
เสรีพอที่อเมริกาไปควบคุมประเทศนั้นได้ และปิดกั้นเพียงพอที่รัฐบาลที่อเมริกาไปควบคุมได้ไม่ล่มเพราะความเสรีเกินไป
เสรีแบบไทยๆ ไม่ว่าใครเข้ามาก็ก่อม๊อบออกมาประท้วงได้หมด ไม่ว่าจะหน้าไหน เพราะเสรี?
หึ ๆๆ
มองในแง่ดีคือ ความเสถียรภาพ ยิ่งรัฐบาลอยู่ได้นานเศรษฐกิจยิ่งแข็งแกร่งเพราะนักลงทุนไม่ต้องกังวลในเรื่องนโยบายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ปัญหาคือความร่ำรวยจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมันตกอยู่ในมือคนไม่กี่คน และมักจะเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล นั่นคือที่มาของการรุกฮือโดยประชาชนจริงๆ
Huawei
ถ้าไทยจะซื้อเทคโนโลยีพวกนี้ นึกไม่ออกเลยว่าจะของบกี่พันล้านอีก = =
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยน จำได้ว่า ISP ไทยส่วนใหญ่ใช้ระบบที่พัฒนาโดย ม.เกษตร ครับ ชื่อ WebScreen ครับ
ข้อมูลที่พอจะหาได้ก็ที่ http://www.apan.net/meetings/xian2007/presentations/security/WebScreen_P_21082007-revised2.ppt
Websense นี่ห่วยมากอะ... Bug เยอะมากกก