แม้ว่า Android จะเป็นแพลทฟอร์มที่ผู้ใช้ในสหรัฐอยากได้ไปใช้มากที่สุดก็ตาม แต่ดูเหมือนว่านักพัฒนายังให้ความสนใจกับการพัฒนา App ให้กับ iOS มากกว่า Android และกว่าสองในสามของนักพัฒนากลุ่มตัอย่างยังเห็นด้วยอีกว่ามันคือการ "จบเกม" (Game Over) แล้วสำหรับแพลทฟอร์มอื่น ๆ เช่น RIM, โนเกีย, ไมโครซอฟท์และ HP
จากรายงานของ Appcelerator ที่ทำการสำรวจนักพัฒนาจำนวน 2,760 คน นักพัฒนาได้ให้เหตุผลว่าปัญหา Fragmentation บนแพลทฟอร์มของ Android เป็นสาเหตุหลักที่นักพัฒนา App ให้กับ Android โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ เมื่อปัญหา Fragmentation นั้นแย่กว่าเดิมหากดูจากสินค้าแท็ปเล็ตต่าง ๆ ที่กำลังผลิตออกมา
โดยจากรายงานนี้นักพัฒนากว่า 91% "สนใจอย่างมาก" ที่จะเขียน App ให้กับไอโฟน (86% สำหรับ iPad) ในขณะที่มีเพียง 85% ที่สนใจจะเขียน App ให้กับ Android อย่างมาก (71% สำหรับแท็ปเล็ต Android)
ทางเว็บ 9to5Mac เองยังให้ความเห็นส่วนตัวว่า แอปเปิลในตอนนี้ควบคุมกำไรเกือบครึ่งของธุรกิจมือถือทั้งหมด และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นักพัฒนาอยากพัฒนา App ให้กับ iOS มากกว่า และผู้ใช้มือถือ Android ไม่ค่อยจะซื้อ App มากเท่ากับผู้ใช้ iOS โดยได้อ้าง Tweet หนึ่งที่เขียนไว้ว่า "ในห้องเรียนที่มีนักเรียน 60 คน 40 คนใช้มือถือ Android อีก 20 คนใช้ไอโฟน ไม่มีใครที่ใช้ Android เคยซื้อ App ที่ต้องเสียเงินมาก่อนเลย แต่เกือบทุกคนที่ใช้ iPhone เคยแล้ว"
ที่มา - 9to5Mac
Comments
อืม ใช้ iPhone ดีกว่าสินะ
แล้วแต่คน
แล้วแต่ความชอบครับ
ไม่มีอะไรดีกว่าอะไร
ทุกอย่างก็มีทั้งขอดีและข้อเสีย
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
ผมหมายถึงตัวผมเองครับ
ข่าวนี้ทำให้ผมลังเลจะซื้อ Android นิด ๆ เหมือนกัน แต่ยอมรับเลยว่า App ของ Android มีหน้าตาสู้ของไอโฟนไม่ได้เลยจริง ๆ (ตัดใจยาก)
@TonsTweetings
ผมว่าตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไม่ซื้อโปรแกรมใช้นะ ทั้ง ui และตัว icon ด้วยผมว่ามีผลมากเหมือนกันในการตัดสินใจซื้อ
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องทำให้ app ใน 2 os ต่างกัน(แต่แย่ลงในดรอย) โดยที่บริษัทเดียวกันเป็นคนทำ
เพราะว่า ขายใน ios ได้ตังแน่นอนกว่าหรือป่าวครับ เพราะคนใช้ android ส่วนใหญ่จะโหลดฟรีกัน บริษัทก็คงไม่ได้หวังอะไรมากแต่ครอบคลุม ผมเห็นบาง app ขายในไอโฟนเก็บตัง สักพักพอทำลง android ฟรี เอาผมงงเลย- -*
UI ของ android ทำยากกว่า ios ครับ
อันนี้ถูกต้องเลยครับ
ทำ layout ทีเล่นพิมพ์กัน
มือหงิกไปเลย
ต้องวางแผนก่อนด้วย
ปวดหัวมากกว่า
ไม่รู้เมื่อไหร่ Google จะทำ Tools ดีๆออกมา
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
เจอจอคนละสเกล คนละความละเอียดก็ งานงอกแล้วครับ
เท่าที่อ่านดูแล้วจริงครับ โดยเฉพาะ SDK ของ iPhone ที่มาพร้อมกับพวก Core Animation อะไรอยู่แล้วด้วย
@TonsTweetings
ผมเคยถามใน Blognone เหมือนกันครับว่า ทำไม dict.longdo.com ของ iPhone มันค้นหาศัพท์แบบออฟไลน์ได้
แต่ android ต้องผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างเดียว
จึงได้รู้ว่าเพราะไม่สามารถลงโปรแกรมขนาดใหญ่บน android บางรุ่นได้ แต่รุ่นใหม่ๆ สามารถทำได้
แต่นักพัฒนาต้องการในรันได้หมด เลยตัดสินใจให้โปรแกรมมีขนาดเล็กเพื่อที่จะรันได้ทุกเครื่อง
ผมพัฒนา iOS เป็นหลัก แต่ก็กำลังศึกษา android อยู่
Android คงมีคนใช้น้อยด้วยครับเลยไม่อยากลงแรงทำมากนัก
จริงๆแค่เอาไฟล์ใส่ sd เขียนโค้ดเพิ่มไม่กี่บรรทัดก็ใช้ได้แล้วครับ
ไม่ใช่ apple ออกกฎห้ามไว้เหรอครับ ที่ห้ามพัฒนาให้กับเจ้าอื่นในลักษณะที่เหมือนกันหรือดีกว่า แค่เคยได้ยินมานะครับ ไม่ได้ฟันธง เหมือนเคยไปอ่านเจอที่ไหนสักแห่ง
ที่มาของข่าวคือ 9to5Mac นะครับ
แล้วผมก็มีความสนใจจะพัฒนา App บน Android และ Windows Mobile มากกว่า
ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง
<< อยู่ใน 85%
^
^
that's just my two cents.
ยังไม่เคยพัฒนาแอพของ iOs เลยยังยอกไม่ได้ว่าอะไรดีกว่าอะไร แต่การพัฒนาแอพบน Android เป็นการฝึกให้ผู้พัฒนาเป็น Perfectionist เล็กๆ เพราะทำแอพครั้งนึง ต้องให้สนับสนุนทั้ง ldpi,mdpi,hdpi
ยังมีอีกหลายจุดที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่ถ้าใครชินกับหารพัฒนายน Java ก็น่าจะชิน
+1 แต่เหนื่อยแล้วขายไม่ได้นี่สิ
ถ้าอยากจะขายคงต้องไปทางแอปเปิลนะครับ
ทาง Android มันยากถ้าจะทำเงินกับการขาย App แต่ถ้าเป็น Advertising Based ก็มีลุ้นครับ
Rovio Mobile ผู้ผลิต "นกงิ่ด" (นกหงุดหงิด) ยังทำรายได้หลักล้าน USD แค่เดือนแรกจากโฆษณาบนตัวเกมครับ (ก็มันเล่นแปะโฆษณาไว้ในตำแหน่งที่บังเอิญคลิกไปโดนง่ายๆ)
นอกจากเกมแล้วมันมีแอพอะไรน่าลงบ้าง
Market Android ใช้ยากอะ
เพราะการทำ app บน ISO ไม่ต้องทำรองรับ เวอร์ชั่นมาก ไม่ต้องกำหนดจุด ตำแหน่ง หน้าจอที่แตกต่างกันออกไปไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของอุปกรณ์สื่อสาร ประมาณนี้นะครับ
อ้างอิงจากคณะผม android 5 คน ซื้อแอพ 4 คน ไอโฟน 100 เครื่อง jailbreak 99 เค่รื่อง
555 ไหงมันกลับกันมากมายขนาดนั้นล่ะ....
นั้นสิครับ ถ้ามาเก็บข้อมูลในบ้านเราอาจให้ผลต่างกัน
ส่วนนึงมาจากพฤติกรรมการบริโภค software ของคนไทยด้วยละ บวกกับปัญหาการไม่มีบัตรเครดิต
+1 ตรงประโยคหลังครับ
เพื่อนซื้อไอโฟนใหม่มา คำถามแรกที่คนอื่นถามคือ "jail รึยัง?"
jailbreak ไม่ได้แปลว่าไม่ซื้อ app นะครับ
That is the way things are.
ถูกต้องครับ jailbreakแล้วก็ยังซื้อ app ได้ปกติ และก็ยังมี appอีกพวกที่ไม่ได้ขายใน app stores เพราะใช้ Private API เขียน
ก็รู้ๆกันอยู่ครับว่า "ส่วนใหญ่" เจลไปเพื่ออะไร
ลองทำแบบสอบถามคนใช้ไอโฟนในประเทศไทย 1000 คนมั้ยครับ ว่า Jailbreak เพื่ออะไร? อิอิ
แล้วคิดว่าคนไทยส่วนมากซื้อ App จาก App Store หลังแหกคุกมั้ยครับ
ยมันก็จริงน่ะแหละครับ
ตามความรู้สึกผมนะ Android ผิดพลาดตรงไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนทำให้แต่ละเจ้าที่ผลิตแข่งขันกันทำในแบบที่เป็นของตัวเองเท่านั้น แต่ทางมองอีกมุมมองมันก็พัฒนาไวมากเลยทุกเจ้า 3 เดือนออกรุ่นใหม่ตลอดตอนนี้ Y_Y
มีมาตรฐานนะครับ แต่ผู้ผลิตมือถือ ไม่เคารพต่างหาก
ผมอยากซื้อบาง App อย่าง LauncherPro Plus, และเกมอย่าง Angry Birds ... แต่ อุ ป า ส า ก ก ก ก มันเยอะเหลือเกิน
อีกอย่างมันน่าจะหักเงินผ่าน Operator เพราะผมไม่กล้าใช้ Credit Card อ่ะ... (เรื่อง Credit Card นี่เป็นกับการใช้ Online ทุกอย่างนะไม่ใช่เฉพาะ Market)
ผมก็ใช้ K-web shopping card เอาครับ ปลอดภัยกว่าเครดิตเยอะ
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
ประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นใหญ่เหมือนกันนะครับ ยุทธศาสตร์ของ Apple ตรงจุดนี้ยังไม่มีใครสู้ได้
ยิ่งนานวันเข้าจะยิ่งเกิดช่องห่างมากขึ้น
+1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
App Android ผมอยากซื้อ แต่มันไม่ให้ผมซื้อ
บอกตรงๆเลยว่าผมซื้อแอพบนไอโฟนมันเกินหลักพันบาทไปแล้ว T^T (ไปแพงอีตรงซื้อ Longman Dictionary นี่แหละ)
ของผมรวมแล้วตั้งแต่มันมี App Store มาเยอะจนเศร้าเลยครับ คิดจะเปลี่ยนมา HTC นี่ตัดใจยากมาก แต่ซักวันก็คงกลับมา อาจจะสมัย iPhone 6 :)
@TonsTweetings
google ถึงทำแบบนั้นกับ Android 3 ไง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมก็อยากเขียน app บน ios นะแต่ hardware ไม่อำนวย ใจเริ่มเทมาทาง android แล้วแต่โดยส่วนตัวขอชม apple เลยวิสัยทัศน์ดีเยี่ยม
สร้างแอพบน Android ถ้าแอพไหนฮอทๆหน่อย จะมีอีเมล์มาหาแทบทุกสัปดาห์ เรื่อง Fragmentation
ก็ทำให้ Market ซื้อได้ทุกประเทศซักทีสิคร้าบบบบบบบบบบบบบบบเพ่กูเกิลลลลลลลลลลลลล
นั่นสิครับ อยากเสียตังยังต้องลักลอบทำเลย
ชอบ iphone ตรงนี้ล่ะ
มีรุ่นเดียว ยี่ห้อเดียว application จากเหล่านักพัฒนามุ่งมารุ่นเดียวหมด
เข้า Store แล้วจิ้มๆๆๆ ชี้นิ้ว โหลดๆ อย่างเดียว UI ก็สวยดูพรีเมี่ยม น่าใช้มาก
ตัอย่าง => ตัวอย่าง
จะว่าไป คนที่ทำ App นี่ส่วนใหญ่ใช้ Absolute Pixel กันสินะครับ ถึงได้บ่นอุบเรื่องขนาดหน้าจอ
ผมว่าสถานการณ์บนหน้าจอ PC นี่น่ากลัวกว่าบน Android อีกนา (นึกถึงขนาดหน้าจอน่ะครับ) คนที่ทำเวปเองก็น่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน แถมย่อขยายหน้าต่างได้อิสระอีก ยิ่งหนักกว่าบนมือถืออีก
บน Android ผมใช้หน่วยเป็น DIP (Density Independent Pixel) นะครับ ปัญหาคือเราต้องทำ Resource ของเราเป็น 3 ขนาดนี่เพื่อให้สนับสนุนกับหน้าจอที่มี DPI ต่างๆ กัน (Android แบ่ง DPI เป็น 3 ระดับ ต่ำ กลาง และสูง)
ผมจึงบอกว่าการพัฒนา App บน Android ทำให้เราเป็น Perfectionist เล็กๆ
เห็นด้วยครับ เวปต้องเจอปัญหา resolution ร้อยแปด
android หรือ mobile apps อื่นๆ ใช้ layout แบบ markup เหมือนกันหมดเพื่อแก้ปัญหานี้
ยืนยันเรื่องพฤติกรรมการซื้อแิอพบน iOS เมื่อเทียบกับ android ครับ ผู้ใช้ iOS มีสัดส่วนซื้ัอแอพสูงกว่าผู้ใ้ช้แอนดรอย ผมเขียนแอพแอนดรอยแต่ผมก็สนจะเขียนลง iOS เหมือนกัน แต่ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงของการเขียนลง iOS คือต้นทุนที่สูงมากกกก ค่าธรรมเนียม 99 USD ต่อปี (น้องด๋อยจ่าย 25$ ทีเดียวจบใช้ได้ไปอีก 30 ปี!) ตัว IDE/SDK ที่ต้องรันบนเครื่อง Mac (เครื่องก็ถูกเหลือเกิน T_T) แถมถ้าเขียนจนใกล้เสร็จต้องเอาไปลองรันบน iOS devices ของจริงดูก่อนเพื่อความชัวร์ ต่ำๆก็ ipod touch ละครับนั่น สิริรวมกว่าจะเขียนลง iOS ได้ผมต้องใช้ตังค์เกือบครึ่งแสนเลยมั้ง (ใครมีหนทางอื่นทีี่ถูกกว่านี้ก็เสนอได้นะครับ เพราะไม่รู้จริงๆ)
คนใช้เยอะ ก็ไม่ได้หมายความว่า Developer จะได้เงินเยอะสินะ 80 20 ป่าว
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.