วันนี้ที่งาน Computex อินเทลได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการ Sleep ของคอมพิวเตอร์ใหม่ "Smart Connect" และ "Rapid Start"
Smart Connect จะเป็นระบบที่คอยตรวจสอบเว็บแอพต่าง ๆ ในขณะที่คอมพิวเตอร์อยู่ในโหมด Sleep ซึ่งนั่นก็หมายความว่าใครที่มีแอพอย่าง E-mail Client, Twitter หรือ Facebook เปิดทิ้งไว้ก่อนเข้าโหมด Sleep เมื่อเปิดคอมกลับมาอีกทีทุกอย่างจะถูกอัพเดตพร้อมให้เราใช้งานได้ทันที
ส่วน Rapid Start เป็นวิธี Hibernate แบบใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์ โดยการเปิดเครื่องกลับมาใช้งานใหม่อีกรอบจะใช้เวลาเพียงแค่ 5-6 วินาทีเท่านั้น และอย่าลืมว่า Hibernate คือโหมดที่คอมพิวเตอร์ใช้พลังงานเป็น "ศูนย์" แต่จากที่น่าสนใจระบบ Hiberate ใหม่นี้สามารถเก็บสถานะของคอมพิวเตอร์ก่อนเข้าโหมดนี้ได้เพียงแค่ 30 วันเท่านั้น
ทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับแล็ปท็อปที่ใช้ชิปตระกูล Sandy Bridge ของอินเทลที่จะรัน Windows 7 เร็ว ๆ นี้ และคาดว่าจะสามารถใช้งานอย่างแพร่หลายจริง ๆ ได้ภายในปลายปีนี้
ที่มา - Engadget
Comments
เก็บได้ 30 วัน ทำไม มีข้อจำกัดด้วยหว่า แบตหมด หรือ อะไรเนี่ย
พวก Twitter , Facebook จะเช็คไงหว่า cilent มีหลายตัวนะเนี่ย
30 วัน สงสัยจะเก็บใน capacitor -_-"
"เข้าโหมดนี้ได้ถึง 30 วันเท่านั้น"
คำว่าได้ถึง น่าจะเป็นได้เพียงนะครับ...
ปล.ถ้าใช้พลังงานเป็น 0 ทำไมต้องม่ข้อจำกัดเรื่อง 30 วันด้วยหว่า
แล้วที่ผมต้องพิมพ์เว้นบรรทัด ไม่ได้กวนนะครับ ผม Enter แล้วมันไม่ลงจริงๆ
อ๋อ.. เดานะ ที่มัน Hibernate แล้วเปิดใหม่ใช้เวลาแค่ 5-6 วินาที
ก็เป็นเพราะเวลา Hibernate มันไม่ได้เก็บข้อมูลใน Ram ลง Harddisk
แต่มันเอาไปเก็บไว้ใน Flash Rom หรืออย่างอื่นที่เร็วกว่า HDD ทำให้ boot ได้ไวมากๆ
หรือไม่ข้อมูลก็อยู่ใน Ram นั่นแหละ แต่มีระบบที่ใช้จ่ายไฟให้ Ram ทำให้ข้อมูลไม่หาย
ซึ่งเป็นที่มาของข้อจำกัด 30 วันนั่นเอง... (แบบนี้ PC ก็ทำไม่ได้ซิ)
เอ่อ ถ้าจ่ายไฟให้แรม มันก็เหมือน ๆ กับ sleep ธรรมดาสิครับ
ข้างล่างเขาบอกมาว่า "rapid start เป็นการ hibernate ใน ssd"
ผมไม่เชื่อครับ ผมว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น !
ใช้แบตเตอรี่ไงครับ
บันทึกและอ่านข้อมูลจากแบตเตอร์รี่สินะครับ
(ผมล้อเล่น :P)
เป็นสองพีเจอร์ที่ เจ๋งมาก
ตอนนี้ชักเข้าใจแล้วว่า tablet-like feature อย่างนึงที่ว่าคือแบบนี้
คือเปิดปุ้บติดปั๊บ และอัพเดทอัตโนมัติเมื่อเปิดดู
ไปอ่านเพิ่มมาแล้ว rapid start เป็นการ hibernate ใน ssd แสดงว่า ต้องมี ssd ขนาดที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐานติดมาด้วยเลย กับ ultrabook
ส่วน smart connect ยิ่งดูมี ประเด็นให้น่าสนใจมากกว่า
คือตอนที่เครื่อง sleep มันสามารถเชื่อมต่อกับ internet ผ่าน เครือข่าย ( ไม่แน่ใจว่าทำได้เฉพาะ wifi หรือเปล่า) ดึงข้อมูลต่าง ๆ สำหรับโปรแกรมที่ต้องอัพเดทข้อมุลมาเก็บไว้ได้ เช่นอีเมล์
จุดนึงที่ cpu ตระกูล ARM เหนือกว่า ฝั่ง intel เห็นได้ชัดคือ การใช้พลังงาน
ขณะที่ cpu ไม่มี load หรือ load น้อย จะใช้พลังงานน้อยมาก โดยธรรมชาติ
intel ตอบโจทย์นี้ด้วยการ สร้าง โหมดการทำงานพิเศษ (ไม่แน่ใจว่าทำยังไง สลับให้ตัว chip อื่นเป็น master หรือตัว cpu มีส่วนที่ทำงานนี้เอง ) ที่ใช้พลังงานน้อยเพื่อทำงานเฉพาะบางอย่าง (เช่นติดต่อเน็ตเวิร์ค ดึงข้อมูลมาเก็บ เป็นระยะ ๆ) ที่จำเป็นต่อรูปแบบการใช้งานตามความเป็นจริง และตัดการทำงาน อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้งานออกไปเลย เช่นการประมาลผลกราฟฟิค (ก็ sleep อยู่) ซึ่งน่าจะประหยัดพลังงาน ได้มาก
ด้วยเทคโนโลยีสองตัว และ form factor ที่กำหนดให้บาง และมีน้ำหนักเบา
ดังนั้นในการใช้งานแบบ mobile หลายรูปแบบ การทำงานแบบนี้จึงตอบโจทย์ได้ บางส่วน
เช่นขณะที่เรากำลังเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า เราถือ ultra book ไปด้วย (บางและเบา)
เครื่องก็ sleep แต่ยังโหลดข้อมูลที่ต้อง update มาได้เรื่อย ๆ
พอเราขึ้นรถไฟฟ้าแล้ว เราเปิดเครื่อง ในห้าหกวินาที เครื่องก็อยู่ในสภาพเดิมก่อน sleep
(ตรงนี้ดูเหมือนยังมีโดน arm ทิ้งห่าง เพราะถ้าเป็น ARM เรียกว่ากดดูปุ้บมันก็มาปั๊บ ติดอยู่ตลอด )
ซึ่ง ห้าหกวินาที ดูเหมือนจะพอรับได้ในกรณีขึ้นรถไฟฟ้า เราก็สามารถเช็คเมล์ เช็คทวิตเตอร์ เฟสบุค
บนรถไฟฟ้าได้ (แต่ก็นั่นแหละถ้ามันไม่ touch แสดงว่าถ้าเราไม่ได้นั่งก็คงทำอะไรไม่ถนัดนัก )
ตอนจะเลิกใช้ก็ปิดพับ ๆ มันไป (หรือกดปุ่มเฉพาะ) เดี๋ยวมันก็ sleep เอง
ประเด็นสำคัญคือ โหมดการทำงานนี้รองรับ 3g หรือเปล่า และเกี่ยวกับระบบ push notification
ซึ่งผมเดาว่า อาจจะทำได้บ้างแบบอยู่ในช่วงคาบที่กำหนด ตามความถี่ของการ เรียก update ของ smart connect
การตั้งค่าสั่งให้มันตื่น แล้วเรียก เมื่อมีเหตุการณ์ตามเงื่อนไข (น่าจะมี api)
ส่วนจุดที่เป็น critical function ในมือถือแบบ การตอบสนองแบบ realtime ต่อสัญญาณเรียกเข้า แบบโทรศัพท์ อาจจะไม่ใช่ประเด็น ที่ผู้ใช้คาดหวัง เพราะเป้าหมายก็กำหนดไว้อยู่แล้วว่า tablet-like
Hiberate => Hibernate
สงสัยจะได้ Hibernate มันแน่ๆ หึๆ
ยังมองประโยชน์จริงๆไม่ออกครับ เพราะมันยังไม่เร็วพอเหมือน sleep หน้าจอมือถือครับ ถ้าจะบอกว่าช่วยประหยัดพลังงานมันคงจะต้องเริ่มทำงานหลังจาก sleep ได้ไวกว่านี้ ถ้าไม่งั้น SSD บูตเข้าระบบก็ไม่ได้ช้าอะไรมากอยู่แล้ว
ส่วน Smart connect นี่ คล้ายๆ BB ปะครับ
พูดใน มุม PC นี่แทบไร้ประโยชน์เลยถ้ามันต้องใช้ SSD อยู่แล้ว พูดใน มุม mobile แค่ Stand by ปกติมันก็ไม่ได้กินแบตอะไรมากแถมเปิด auto sync ไว้ตลอดเวลา มันจะไม่กินแบตมากขึ้นหรืออย่างไร
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ปัญหาพลังงานเป็นปัญหาทั้งของ intel และ MS