ที่ D9 โดย All Things D ในวันนี้ Walt Mossberg ได้มีการสัมภาษณ์ประธานบอร์ดบริหารของกูเกิล นาย Eric Schmidt โดยผมได้นำเฉพาะส่วนสำคัญของการสัมภาษณ์ครั้งนี้มาสรุปที่นี่ ส่วนบทสัมภาษณ์เต็ม ๆ สามารถหาอ่านได้จากที่มาครับ
เรื่องเด่น ๆ ที่ Eric Schmidt ได้พูดถึงในสัมภาษณ์นี้:
- ความสัมพันธ์ระหว่างกูเกิลกับแอปเปิล ความเห็นต่อ Facebook
- ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากูเกิล
- Cloud คืออนาคตของอุปกรณ์พกพาและภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
- "เปลี่ยนมาใช้แมคกันเถอะ"
กดเข้ามาอ่านต่อได้เลยครับ

ความสัมพันธ์กับแอปเปิล
- ความสัมพันธ์ระหว่างกูเกิลกับแอปเปิลในตอนนี้คือเป็นทั้งพาร์ทเนอร์และคู่แข่ง
- กูเกิลและแอปเปิลได้ต่อข้อตกลงการใช้ระบบแผนที่ของกูเกิลต่อไป
กรณี Facebook
- Facebook ทำสิ่งที่ต่างกับกูเกิลโดยสิ้นเชิง และกูเกิลจะไม่ลงเข้าไปแข่งกับ Facebook
- กูเกิลจะเปิดตัวปุ่ม +1 ในวันพรุ่งนี้
- Eric ไม่เชื่อว่าคนเริ่มพบสิ่งใหม่ ๆ ผ่าน Friend Suggestion หรือการแนะนำจากเพื่อนแทนการใช้ Search Engine
- Eric ยอมรับว่าเรื่องที่กูเกิลไม่ประสบความสำเร็จในเรื่อง Social Network ถือเป็นความผิดของเขาเอง
Google Music
- กูเกิลเป็นบริษัท Cloud Computing ในหลาย ๆ ด้าน
- หัวใจของอุปกรณ์พกพาในตอนนี้คือเพลง นี่คือสาเหตุที่ทุกคนต้องการให้บริการ Cloud Music
- กูเกิลได้พยายามที่จะเสนอค่ายเพลงให้มาร่วมให้บริการกับกูเกิลในรูปแบบตอบรับสมาชิก (Subscription) แต่ทุกค่ายเพลงกลับไม่ยอมที่จะมาร่วมด้วย ในส่วนของแอปเปิล ค่ายเพลงได้มีสัญญาและความสัมพันธ์กับแอปเปิลมานานมากแล้ว
- สาเหตุหลักที่ค่ายเพลงไม่อยากร่วมด้วยคือ: ละเมิดลิขสิทธิ และการลดความสำคัญของค่ายเพลงลง
เรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
- เมื่อ Walt ถามว่าลูกค้าเชื่อถือกูเกิลเรื่องความเป็นส่วนตัวของตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า Eric ตอบอย่างทันทีว่าหากใครได้ใช้เวลากับรัฐบาลสหรัฐมานานแล้ว จะรู้สึกมั่นใจกับข้อมูลความเป็นส่วนตัวที่เก็บไว้กับบริษัทเอกชนทั่วไปอย่างแน่นอน (ฮา)
- กูเกิลเลือกใช้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อไปใช้ในการจัดการอัลกอริทึ่มของระบบ โดยปกติแล้วข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บเป็นระยะเวลา 12-18 เดือน และนักการเมืองกับฝ่ายกฎหมายก็พอใจกับระยะเวลานี้แล้ว
- กรณีที่สตีฟ จ็อบส์เคยกล่าวหาว่า Android คือ "เครื่องดักจับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้พกพา" Eric ตอบทันทีอีกเช่นกันว่าเราไม่เคยเก็บข้อมูลตำแหน่งต่าง ๆ ของผู้ใช้แล้วส่งไปที่การค้นหา (เหมือนกับ iPhone) แต่เราเลือกเฉพาะข้อมูลบางอย่างที่ไม่สามารถระบุเจ้าของข้อมูลได้ แต่กูเกิลก็ไม่เคยคิดที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในบริการค้นหาแต่อย่างใด
- Eric เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้อาจจะถูกนำไปใช้ทั้งในแง่บวกและลบได้ และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการนำข้อมูล Location Data มาผสมกับข้อมูล Biometer ทั้งหลาย รัฐบาลบางประเทศอาจนำสิ่งนี้มาใช้ในทางที่ไม่ดีกับประชาชนได้ และในขณะนี้ทางการในแถบยุโรปก็เริ่มมีไอเดียนี้ขึ้นมาแล้ว
- กรณีที่มีแอพหลาย ๆ อย่างที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอนแต่ยังถูกใช้อยู่อย่างแพร่หลาย Eric เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้วิธีการใช้ในแง่บวกหรือลบก็ตกอยู่ในมือของผู้ใช้อยู่ดี
เมื่อยุค IT ตายแล้ว
- หากพูดถึงการเติบโตของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม Eric เห็นว่ายุคของ IT ในตอนนี้ตายไปแล้ว และทุกอย่างจะถูกเข้ามาแทนที่ด้วย Cloud Computing แทน บริษัททั้งหลายในอนาคตจะเปลี่ยนมาใช้บริการประเภทเว็บแทน
- เมื่อทั้งภาคอุตสาหกรรมย้ายมาอยู่บน Cloud หมดแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่ธุรกิจจะต้องการ "ความสามารถเฉพาะด้าน" (Specialization) ในการทำงานอีกต่อไป
- เมื่อถูกถามว่าใครเป็นผู้ที่เสียหายจาก "ยุค IT ตายแล้ว" มากที่สุด Eric บอกว่าให้คิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านมากกว่า โดยได้ยกตัวอย่างไมโครซอฟท์ ที่ตอนนี้เริ่มมีปัญหาในด้านตลาดผู้ใช้ทั่วไป ในขณะที่ตลาดองค์กรยังทำได้ดีต่อไป
กรณีการพัฒนาแอพให้กับ Android และ iOS
- คำถามที่ว่าหาก Eric เป็นนักพัฒนาที่ไม่ได้มีทุนอะไรมากมาย และต้องการจะสร้างแอพให้ได้ผู้ใช้งานมากที่สุด Eric จะเลือกแพลทฟอร์มใดเป็นแพลทฟอร์มที่สามหลังจาก iOS และ Android นาย Eric ตอบว่า "คนส่วนใหญ่ไม่เลือกตัวเลือกที่สาม..."
- เนื่องจากแอปเปิลเป็นแพลทฟอร์มปิด นักพัฒนาไม่สามารถที่จะพัฒนาแอพด้วยทูลต่าง ๆ ของ Android แล้วพอร์ทแอพไปบน iOS ได้ในตอนนี้
- สิ่งที่แอปเปิลและกูเกิลเห็นเหมือนกันคือความสำคัญในการสนับสนุน HTML5
- หลังจากที่โดนบีบให้ตอบว่าต้องเลือกแพลทฟอร์มที่สาม Eric ตอบว่า "ต้องตัดสินใจจากตลาด ที่จริงเราอยากให้โนเกียหันมาใช้ Android บ้าง และโนเกียคงจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีกับเรา"
ตำแหน่งปัจจุบันของ Eric
- Larry ซีอีโอคนปัจจุบันของกูเกิลจะเน้นเรื่องสินค้า ส่วนตัว Eric จะยุ่งกับเรื่องการเข้าถึงและการลงทุนกับอินเทอร์เน็ต
- Eric กังวลกับฝ่ายกฎหมายของประเทศที่เริ่มจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่อง DNS มากขึ้น หากฝ่ายกฎหมายไม่มีความรู้มากพอแล้วตัดสินใจอะไรผิดพลาดไป สุดท้ายแล้วเราอาจจะมีอินเทอร์เน็ตของแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกันก็ได้
Google Wallet
- Eric โชว์การใช้งาน Google Wallet ซึ่งไม่มีอะไรใหม่จากคราวที่แล้ว
- มีความเป็นไปได้ว่า Google Wallet จะสามารถใช้งานได้บน iPhone และมือถือ Windows Phone 7 หากมีการเพิ่ม NFC เข้าไปในตัวเครื่องและอนุญาตให้แอพเข้าถึงได้
- เรื่องผู้ขายจะไม่เข้าร่วมกูเกิลไม่ใช่ปัญหา เพราะอีกไม่นานผู้ขายกว่า 1,000 รายจะเข้าร่วมโปรแกรมนี้กับเรา
- Google Wallet ดีกว่ากระเป๋าเงินแน่นอน เพราะเราไม่ต้องพกการ์ดสมาชิกและบัตรเครดิตต่าง ๆ หลาย ๆ ใบติดตัวอีกต่อไป และเมื่อทำหายก็สามารถลบทิ้งและกู้คืนได้ทันทีต่างกับกระเป๋าเงินจริง
- กรณีเรื่องความเป็นส่วนตัวของ Google Wallet กูเกิลจะยึดหลักปฏิบัติของบริษัทเครดิตการ์ดเป็นหลัก ไม่เหมือนกับกรณีเก็บข้อมูลส่วนตัวเป็นเวลา 12-18 เดือนที่พูดมาก่อนหน้านี้
YouTube
- คำถามเกี่ยวกับ YouTube มาจากผู้รับชมจากห้องส่ง ถามเกี่ยวกับว่าอนาคตของ YouTube จะเป็นอย่างไรต่อไป
- Eric บอกว่า YouTube เป็นหนึ่งในการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของกูเกิล แผนการของกูเกิลมีอยู่สองขั้น ขั้นแรกกูเกิลจะต้องหาวิธีหารายได้จาก YouTube ก่อน หลังจากนั้นเริ่มสร้างคอนเทนท์ที่สามารถหาได้เฉพาะบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
- ปัญหาหลักของ YouTube คือการอัพโหลดวีดีโอผิดกฎหมาย
อนาคตของ Android
- คำถามจากห้องส่งถามว่า Android จะเป็นแพลทฟอร์มชั่วคราวก่อนที่เราจะก้าวไป Cloud ใช่หรือไม่
- Eric ตอบว่า Android ยังประสบความสำเร็จมาก และยังใช้ Java เป็นหลักในการพัฒนา แต่แพลทฟอร์มที่เร่ิมโตขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนนี้คือ HTML5 ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มเปิด แต่แอพของ Android นั้นต่างจาก HTML5 มาก
- เป็นไปได้ว่าในอนาคต HTML5 จะเป็นแพลทฟอร์มหลัก และนักพัฒนาก็สามารถพัฒนาแอพภายใน wrapper ได้ แต่ที่พูดนี้คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี หรืออาจจะประมาณ 5 ปีจากนี้ไป
พูดเรื่องความปลอดภัย
- Eric บอกว่าความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยาก ยกตัวอย่างผู้ใช้สามารถที่จะเลือกใช้แมคแทน PC ได้ เนื่องจากมัลแวร์และไวรัสต่าง ๆ บนแมคยังไม่แพร่หลายมากเท่ากับบน PC (แต่ก็แน่นอนเรื่องนี้เป็นเรื่องความรักความชอบส่วนบุคคล เพราะ Eric เองก็เป็นผู้ใช้แมคเป็นประจำอยู่แล้ว)
ที่มา - Engadget
Comments
น่าสนใจ สงสัยต้องหาแมคมาลองใช้ดูบ้าง
เห้ย ไม่ใช่ ChromeOS หล่ะ !?
walt คนที่สัมพาษณ์ มาจากสายเลือดของ walt disney หรือเปล่า (ไม่ได้กวนนะ)
http://en.wikipedia.org/wiki/Walter_Mossberg
walt หรือ walter เป็นชื่อนะครับไม่ใช่นามสกุล
:-)
youtube เป็นบริการที่ดึงคนได้มากที่สุดตอนนี้รึป่าว ถึงได้เรียกว่าคุ้มค่า (แต่หาวิธีทำกำไรไม่เจอ)
เมื่อครั้งที่ Google จัดงาน Devfest ปีที่ผ่านมา ณ ม.เกษตรฯ
ทุกคนที่มาจากกูเกิลใช้แมค...
+1
เห็นวิสัยทัศน์แล้วไม่แปลกใจว่าทำไมถึงได้แพ้เฟซบุ๊ค เพราะ Eric ค่อนข้างยึดติดเกินไป อีกอย่างผมเชื่อว่าคนยังต้องการเลือกแพล็ตฟอร์มที่ 3 เพราะแพล็ตฟอร์มนึงปิด อีกแพล็ตฟอร์มยังไม่ดีพอ
ถ้าะแพล็ตฟอร์มที่สามมันดีพอ มันจะเป็นแพล็ตฟอร์มที่สามได้ไงครับ
เค้านับกันตามความดีหรอครับ
ถ้ามันดีจริงก็ก้าวขึ้นมาเป็นที่ หนึ่ง สิครับ
พูดรวมๆ แบบนี้ผมงงครับ
อธิบายหน่อยจะดีมากว่าอะไรแพ้ เพราะกูเกิลมันมีหลายส่วน
วิเคราะห์เองสิครับ ผมไม่ใช่คุณครูสักหน่อย ทำไมจะต้องมานั่งอธิบาย
เขาแค่อยากรู้ความคิดเห็นของคุณครับ ว่าอะไรที่แพ้บ้างในมุมมองของคุณ..
ก็แค่แลกเปลี่ยนทรรศนะกันครับตามประสาชุมชน IT ไม่ใช่ไปไล่ให้เขาไปคิดเองแบบนั้น แบบนี้หล่ะครับคนเราถึงทะเลาะกันได้ง่ายๆ ลองเปิดใจมองโลกให้กว้างอีกนิดครับ..
ถ้าลองวิเคราะห์ด้วยตัวเองก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก ทำไมถึงมองว่าเป็นการทะเลาะล่ะครับ ผมว่าคุณน่าจะมองโลกให้กว้างอย่างที่บอกผมบ้างนะ
"ไม่ใช่คุณครูสักหน่อย ทำไมจะต้องมานั่งอธิบาย"
ทำไมผมต้องมามองว่าคุณใจกว้างละครับ..
ก็มันไม่มีอะไรต้องอธิบาย และก็ไม่ใช่หน้าที่ อ่านดูก็รู้ว่าเค้ากวน ผมก็กวนกลับครับ กราบเรียนตามตรง อีกอย่างผมก็ไม่ได้บอกว่าให้คุณมองผมใจกว้าง คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า หรือจะดราม่า?
คนเรามันทะเลาะกันก็ประเภทเกรียนมาแล้วก็เกรียนกลับเนี่ยหล่ะครับ ยอมกันไม่ได้
แต่ความจริงมันก็น่าไม่มีอะไร ถ้าไม่อยากอธิบายก็ปล่อยมันถามทิ้งไว้เนี่ยหล่ะ จริงไหมครับ..
แต่ผมเองก็ไม่อยากพูดอะไรต่อหล่ะ เพราะคิดว่าคุณก็คงไม่ยอมแพ้ (ความจริงตอนแรกผมเองก็แอบหวังมาฟังสาระครับ เพราะชีวิตผมไม่ได้ตามติดอะไร Google มากเท่าไหร่ ผมเองก็จึงอยากรู้จากคนที่รู้อยู่เหมือนกัน ว่าอะไรมันคืออะไร ยกตัวอย่างมาให้ฟังนิดๆ หน่อยๆ พอเป็น Knowledge เป็นสาระ..)
----
Sent from my finger to your face..
ปล่อยไปเถอะครับคุณ Perl ผมไม่มีปัญหาอะไรกับคำตอบของเค้าครับ
ผมแค่อยากฟังความเห็นของเค้าว่าเค้าคิดว่ากูเกิลแพ้ Facebook ในด้านใด เพราะพูดตามตรงว่าความรู้ทางธุรกิจผมแทบจะเป็นศูนย์ ผมคิดว่าถามแล้วผมน่าจะได้ความรู้เพิ่ม เพราะผมก็แค่ตามอ่านข่าวอยู่ไม่กี่เว็บ คงไม่ได้รู้ลึกรู้จริงอะไร
ผมกล้าที่จะบอกว่า "ผมไม่รู้" ครับเพราะถ้าผมบอกว่าผมรู้ก็คงเป็นได้แค่ "น้ำเต็มแก้ว"
ผมเองเห็นว่ากูเกิลแพ้ Facebook คงเป็น Buzz มั้ง (หรือ Wave ผมจำชื่อไม่ได้)
จริงๆ แล้วกูเกิลก็แพ้อีกหลายๆ ด้าน และก็ยังเหนือชั้นกว่าหลายด้าน
เค้าจะตอบหรือไม่ตอบมันเป็นสิทธิของเค้าครับ พอใจจะตอบแบบไหนก็เอาเลยตามสบาย
ปล.แต่ผมคงเลือกที่จะไม่คุยกับเค้าดีกว่าครับ เสียความรู้สึกปล่าวๆ ยังงงเลยว่าผมกวนอะไรตรงไหน
คุณก็เข้าใจดีอยู่แล้วนี่ครับแต่ยังมาถาม ไม่ให้ผมมองว่ากวนจะให้ผมคิดยังไงครับ เฟซบุ๊คทำแต่โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คคุณจะไปเอาอะไรมาเทียบอีก? คนเราทำอะไรรู้ดีอยู่แก่ใจ ผมขอให้คุณปฏิบัติตามคำพูดด้วยนะ ถ้าคุณ Perl ทำด้วยได้ก็จะดี เพราะผมก็ไม่อยากคุยกับคนกวนผมเหมือนกัน
จริงๆ แล้วผมยังรู้มากกว่านั้นอีกครับ แต่ก็แค่วิเคราะห์เอาเอง
นั่นก็คือตอนนี้เฟซบุคทำตลาดโฆษณาออนไลน์ด้วย หลายคนบอกว่ามันชนะกูเกิลแล้วมั้ง
ผมไม่แน่ใจก็เลยถามครับ ผมชี้แจงเจตนาตัวเองเรียบร้อยแล้วครับ
ก่อนจากขอถามหน่อยครับ เราเคยรู็จักกันมาก่อน หรือผมเคยไปทำอะไรกวนใจคุณ หรือเพื่อนคุณรึเปล่าครับ หรือว่าเคยเห็นผมกวนใครในนี้?
เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คุณไม่เคยกวนผม แต่คำถามที่รู้ดีอยู่แล้วยังถามเนี่ยโดยทั่วไปถือว่ากวน ถ้าคุณไม่เคยรู้มาก่อนถือว่าเป็นเคสศึกษานะครับ ก่อนถามอะไรใช้ความคิดตรึกตรองว่าคนอื่นเค้าจะตอบสนองกับคุณยังไง และความจริงเรื่องมันจะจบถ้าไม่มีผู้ช่วยมาช่วยกวนนะครับ เรื่องวันนี้ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่คุณแรงมาผมก็ต้องแรงไป เพราะผมถือว่าไม่ทำดีกับคนที่ทำไม่ดีกับผม
ผมตบมือให้ละกัน
ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่ผมมองว่า คำตอบของคุณ PaPaSEK ไม่ได้กวนอะไรเลย แค่ถามเพื่อความเข้าใจ(ที่ตรงกัน) แค่นั้น
ใครๆก็คงมองออกล่ะครับ ว่าใคร "กวน" กันแน่
+1 ผมอ่านแค่นี้ก็รู้แล้วใคร "เกรียน"
ผมว่าผมคิดหมือนคุณนะ
+ ด้วยคน
ดราม่า?
มาม่า บะหมี่ !!
เรื่องนึงคือผมไม่ได้คิดว่าเค้ามากวนนะ น่าจะอยากรู้ว่าคุณวิเคราะห์ยังไงมากกว่า(เพราะผมก็อยากรู้)
ว่าแต่ที่คุณกล้าพูดแบบนี้ แสดงว่ามั่นใจมากว่าตัวเองวิเคราะห์ไม่ผิดแน่ๆเหรอครับ
ถ้าที่คุณวิเคราะห์มันผิด คนอื่นคิดให้ตายยังไงก็ไม่เหมือนหรอกนะครับ นอกจากจะคิดผิดแบบเดียวกัน
ผมพูดเสมอว่าชอบเว็บนี้ตรงที่ Geek มันมารวมตัวกัน
ข้อมูลที่ถกกันนี่เป็นข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วมาเป็นอย่างดี การถกกันเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างนึง หลายๆ ครั้งก็มีเหมือนกันที่การถกกลายเป็นการแถ อันนั้นแล้วแต่คนอ่านจะตัดสิน
ถ้าคุณ mk คุณ lew เป็นคนถามเค้า ผมว่าเค้าน่าจะพูดสุภาพกว่านี้มั้ง
ทัศนคติมันฝึกกันยากครับ
คิดว่าคุณคงเรียงคำในประโยคสั้นไป สำหรับการ "ขอ"
ลักษณะเหมือน คุณวางใจว่าคนนี้คือเพื่อนสนิท คุณเลยพูดแบบสนิทสนม แต่อีกฝ่ายไม่ได้คิดว่าคุณใช่..
ผมเห็นบ่อยๆแบบนี้.. ผู้ถูกถาม ถ้าอารมณ์ดี ก็ผ่านไป แต่ถ้าไม่..ก็อย่างงี้แหละ
จริงๆ แล้วผมไม่เคยถามตอบอะไรกับเค้าเลยครับ
แต่ลองมาคิดๆ ดูตัวหนังสือมันบอกอารมณ์ไม่ได้ ก็คงอยู่ที่วิธีตีความของแต่ละคนแล้วล่ะครับว่าจะคิดยังไง ผมเองไม่ได้ตั้งใจกวนอารมณ์เค้าอะไรเลยครับ
จริงๆ แล้วถ้าไม่ตอบ หรือไม่ออกความเห็นก็คงไม่มีปัญหา แต่นี่เล่นเหวี่ยงวีนใส่ผมซะจนผมงง เหมือนกับโกรธผมเป็นทุนเดิมมาก่อน
ผมยอมรับว่าคาใจครับ
ผมอ่านแล้วยังเคืองเลย แต่ต้องชมว่าคุณตอบเก็บอารมณ์ได้ดี ดีแล้วครับที่ไม่ไปฟีดโทรล
ปกติแล้วผมก็ป้อนอาหารอยู่เรื่อยๆ นะครับ
เพียงแต่รายนี้เค้าไม่ใช้ Troll หรอก วันนั้นเค้าอาจเข้าใจผิดในสิ่งที่ผมสื่อ อย่างที่ผมว่า ตัวหนังสือมันบอกอารมณ์ผู้พิมพ์ได้ยาก บางทีพิมพ์แหย่เล่นแต่งอนกันจริงๆ ก็มีให้เห็นหลายราย
อยู่ร่วมกันก็อะลุ่มอล่วยดีกว่าครับ
น่าจะแพ้ตรงไม่สามารถดึง Facebook มาเป็นพวกได้
ผมว่าคุณลืมเอาใจเขา มาใส่ใจเรา
ผมว่าเขาเลือกตัวเลือกที่ 3 ไว้ในใจอยู่แล้วล่ะ
แต่มันเป็นของคู่แข่ง จะให้ตอบตรงๆได้ไงล่ะครับ
เลี่ยงๆได้ ก็เลี่ยงที่จะไม่พูดถึงดีกว่า
การถูกถามในเรื่องที่ไม่อยากตอบ ก็งี้แหละ
ปล. ผมวิเคราะได้ขาดใหม แบบนี้ อิอิ... (วิเคราะด้วยจิตวิทยา)
ขาดครับ ต่างคนต่างวิเคราะห์ในมุมมองของตนครับถึงจะเรียกว่าแลกเปลี่ยน คห. จะมาบังคับผมอธิบายเพิ่มในสิ่งที่ผมคิดว่าไม่จำเป็น ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่น่ะครับ ผมหวังว่าท่านอื่นคงไม่มาต่อความยาวประเด็นที่มันจบไปแล้วนะครับ จะได้แลกเปลี่ยน คห. กันอย่างเดียว ไม่มีดราม่า
คุณก็อย่าพยายามต้มสิครับมาม่าน่ะ ใจร่มๆ ไว้ครับ
ปล. ทะเลาะกับแฟนมาป่าวเนี่ย เอิ้กๆ
"เราเลือกเฉพาะข้อมูลบางอย่างที่ไม่สามารถระบุเจ้าของข้อมูลได้ แต่กูเกิลก็ไม่เคยคิดที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในบริการค้นหาแต่อย่างใด"
แต่เอาไปใช้ในบริการอื่นใช่มั้ย?
ตอนดู google i\o คนของ google ก็ใช้ mac กันเยอะนะ
ตอนนี้ผมก็เริ่ม เป็น new user หลังจากใช้ ipad แต่ก็ยังรัก android ดี android
ผมว่า หลังจากที่ Session นึงของ Google I/O ปีนี้โดน Windows Update เล่นงานไป ...
คน Google ก็คงหนีไปใช้ Mac เพิ่มขึ้นอีกล่ะครับ 555
เดี๋ยวรอ MacBook Air ออกใหม่จะซื้อมาเล่นอีกสักครั้ง
รอดูอัพเดทด้วย เพราะตอนนี้ Mac mini มันช่างนิ่งตายสนิทจริงๆ = ="
การที่ GG ไม่เข้าไปชน fb ตรง ๆ ก็ถือว่าฉลาดมาก การอ้อมไปเปิดบริการในรูปแบบใหม่แล้วหาจุดที่น่าสนใจน่าจะใช้เวลาไปกับบริการ อาจจะมีสิทธิดึงดูดคนไปได้เรื่อย ๆ แต่การเปิดบริการแบบเดียวกันเลย แค่อันดับ 2 ก็คงจะยากแล้ว
เท่าที่ผมลองคิดๆ ดู
ส่วนนึงที่ Facebook ไม่ยอมร่วมมือกับกูเกิล อาจเป็นเพราะตัวมาร์ค ซักเกอร์เบิร์กเป็นหลักนะครับ เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยไว้ใจใคร และไม่ค่อยร่วมมืออะไรกับใคร
โดยเฉพาะกับคนหัวหมออย่าง Larry Page และ Sergey Brin
Mark Zuckerberg ตอนนี้กำลังไล่ฆ่าสัตว์อยู่
@TonsTweetings
ผมยังงงว่าถ้าเค้าอยากกินวัว/กินหูฉลามขึ้นมาจะทำยังไง
คงหลีกเลี่ยงไปกินพวกปลา พวกไก่แทนมั้ง
เขาจึงไปจับมือกับ Steve Ballmer แทน เพราะดูเป็นคนโง่ ๆ บื้อ ๆ แทนกระมัง ??
อันนี้ฮา
มีเพื่อนที่ย้ายไปทำงาน Google เห็นว่าเวลาเลือกโน้ตบุ๊คใหม่ มี MacBook Pro เป็นตัวเลือกด้วย
เพื่อนผมเลยมีทั้ง MacBook Air (ส่วนตัว) และ MacBook Pro (บริษัท) เลย
"ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เลือกตัวเลือกที่ 3" หากตอบแบบนี้ WebOS ของ HP และ QNX ของ BB เอาไปไว้ไหน มีแต่ iOS กับ Android เท่านั้นหรือที่จะคงอยู่ในตลาด ส่วน Window Phone นี่อาจจะต้องรอ Window Phone 8 ออกวางตลาดก่อนหรือเปล่าจึงจะบอกได้
ขอบคุณสำหรับข่าวครับ