ผมเห็นว่าหลาย ๆ คนได้บ่นเรื่อง Fair Use Policy ของการให้บริการ 3G โดย AIS แล้วก็อดที่จะเขียนข่าวเรื่องนี้ไม่ได้แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับเราเสียทีเดียว สำหรับคนที่ยังจำได้เมื่อ AT&T บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของสหรัฐได้เปิดตัวไอโฟนครั้งแรก ลูกค้าสามารถสมัครแพ็คเกจข้อมูลไม่จำกัด (Unlimited Data) ได้
ล่าสุด AT&T ได้ออกมาประกาศแล้วว่าผู้ใช้แพ็คเกจเหล่านี้จะเริ่มถูกลดความเร็วในการเชื่อมต่อลงแล้ว โดยสาเหตุเกิดขึ้นเพราะว่าผู้ใช้ส่วนน้อยมียอดการดาวน์โหลดมากจนทำให้เกิดปัญหากับเครือข่าย การลดความเร็วของ AT&T ในครั้งนี้จะโดนเฉพาะผู้ใช้ที่ใช้งานมากเกินไป (AT&T ยังไม่ได้บอกว่าต้องใช้เท่าไหร่จึงจะถือว่ามากเกินไป) และหากลูกค้าคนไหนให้ความสำคัญกับความเร็ว ก็ให้เปลี่ยนมาใช้แพ็คเกจจำกัดจำนวนการใช้งานแทน
เห็นว่าอย่างไรเข้ามาถกกันได้ครับ
ที่มา - 9to5Mac
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Urgent Jobs
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
จำนานการใช้งานฮะ
แก้ไขแล้วครับ
@TonsTweetings
เหมือน time base ของ ais จำกัดไว้ที่ 1Mbps
ไม่เหมือนครับ เพราะของ AT&T ไม่มี time base promotion
เหมือน time base ของ ais จำกัดไว้ที่ 1Mbps
ถกอีกกันยาวกว่าจะถึง LTE Advanced ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะบรรเทาได้ไหม แล้วยังมีคำถามอยู่ในใจว่าทำไม Wi-Fi ถึงไม่ถูกจำกัดมากเท่านี้ด้วย Promotion ต่างๆเหมือนขึ้นราคากลายๆบางอันทำแยกเป็นบริการใหม่ที่ต้องซื้อเพิ่ม(ซึ่งแต่เดิมมันก็มีอยู่ในบริการอยู่แล้ว)แบบนี้
คุณไม่เข้าใจช่วงแบนด์วิธในการจัดสรรคลื่นความถี่ ว่าต่างกับ wifi ยังไงใช่หรือเปล่า ถึงไม่รู้ว่าทำไมมันถึงต้องจำกัดมากกว่า wifi
ไม่เข้าใจเหมือนนาทีละ 25 สตางค์ แล้วทำให้ระบบล่ม หรือว่าโทรเข้าโทรออกไม่ค่อยได้(ในไทย)
กับ
Tethering(ในสหรัฐอเมริกา)
ครับ
WIFI เป็น fix area
HSPA เป็น mobile area
เพราะฉะนั้นเรื่องการควบคุมการใช้งานจะยากกว่า
ส่วน 25 สตางค์ ขึ้นอยู่กับ cell site ที่คุณอยู่ ถ้าตรงนั้นมีคนใช้งานมากโอกาสทีจะแย่งช่องสัญญาณกันก็มากตาม
แต่มีโซลูชั่นที่ว่าดึงช่องสัญญาณจาก cell site ข้างๆมาช่วยแต่ถ้าข้างๆไม่ว่างเลยก็เป็นแบบที่ผู้ใช้จะเจอ
tethering ธุรกิจ
Solution ที่ว่าเป็นที่มาของการใช้ประโยชน์ Dual-Cell, MIMO หรือเปล่าครับ(นอกจากเรื่อง soft hand off หรือ handover เช่นการใช้งานบนการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ในรุ่นถัดมา)
ซวยละครับ จ่ายเดือนละ 30 เหรียญแค่ค่า Data เพื่อที่จะได้เป็น Unlimited ยังต้องมาโดนจำกัดความเร็วอีก แต่ให้เดาน่าจะใช้เกิน 2 GB/เดือน นะครับ เพราะว่าตอนนี้ Package ที่ใช้เลือกมันสูงสุดที่เท่านี้
กด *3282# ดูครับ
ผมใช้ตัว 2GB/$25 กับ iPhone4 กระหน่ำใช้งานเต็มที่ไม่เคยเกิน 1.2GB
แต่ถ้าเดือนไหนใช้ Pandora เนี่ย ขึ้นไป 1.6-1.7 เลย
2GB สูงสุดสำหรับ AT&T ครับ ถ้า Unlimited ก็น่าจะเหลือแค่ $29.99 ของ Verizn
ออ ของผมเริ่มใช้มาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ที่ยังมี Unlimited อยู่ครับ
ระบบ ไร้สายทุกชนิด ต้องแบ่งๆ กันใช้ อย่าให้ใครได้จับจองหรือบ้าโหลด
ไม่งั้นจะเดือดร้อนกันไปหมด
ถ้าชอบความเร็วสูง ไม่พ้นระบบสาย
แต่ถ้าชอบความสะดวก แต่ไม่เร็วมาก ก็ระบบไร้สาย
ให้เลือกเอาสินะว่าจะจำกัด data หรือ bandwidth แล้วอันที่เหลือให้ Unleashed ไปเลย
"บอกตูตรงๆก็ได้ว่าไม่มีปัญญาขยายช่องสัญญาณให้ทันก็ว่ามาเถอะ"
ช่องสัญญาณ = คลื่นความถี่ ซึ่งคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรที่มีจำกัดนะครับ
ช่องสัญญาณมันเป็นคลื่นความถี่ขยายไม่ได้ครับ = =!! ได้โควต้าสัมปทานมาเท่าไรใช้ได้แค่นั้นครับ
เอ้อ ปล่อยไก่ซะงั้น -*- ผมหมายถึงถ้ามีคนใช้งานเยอะๆอัด Antenna แทนจะได้ไหม?
คิดถึงปัญหาวิทยุชุมชนอัดสัญญาณตีกันสิครับ จะเข้าใจ
สั้นๆ ไม่แฟร์กับคนจ่ายเงินครับ จ่ายแล้วจะเอาไปใช้อะไรยังไงก็ได้ ไม่งั้นก็ไม่ต้องใช้คำว่าอันลิมิต
ไม่แฟร์ยังไงครับ เค้าบอก unlimited data คุณจะทำอะไรก็ได้ ถ้าไม่ใช้คำนี้แล้วใช้คำว่าอะไร
อันนี้คือถ้าใช้แบนวิธมากแล้วความเร็วจะถูกลดลงเหมือน AIS 3G ใช่มั้ย ผมว่ามันไม่แฟร์ที่เราจ่ายตังค์เพื่อความเร็วระดับนึง แล้วใช้ได้จำนวนจำกัดน่ะ
ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขึ้นราคา อย่างของพี่ไทยถ้าจะทำให้ได้แบบนั้นจริงก็คงต้องเดือนละ 3,000 ขึ้นไป (จากปกติราคาเท่า EDGE คือ 799)
ถามว่าเอาจริงๆผู้บริโภครับได้ไหม?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าลดหลังขายไปปก็น่าจะไม่แฟร์แต่ถ้าบอกไว้ก่อนแบบ AIS ผมว่าไม่เห็นจะไม่แฟร์ตรงไหน ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องซื้อบริการอันนั้นสิ ไม่ใช่ด่า AIS ทั้งที่เค้าบอกไว้ก่อนแล้ว พอตกลงซื้อบริการใช้แล้วไปด่าเค้าว่าไม่แฟร์
Like!
ซ้ำ
เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ผมเห็นด้วยนะครับที่จะมีจำกัดไว้บ้าง เพียงแต่ 2-5GB ที่บ้านเราจำกัดไว้มันน้อยเกินไป ดู youtube อย่างเมามันก็อาจจะไม่พอได้
น่าจะให้สัก 10GB คือป้องกันปัญหาโหลด bit โดยเฉพาะ เพราะแค่นี้ DVD 2 แผ่นก็หมดแล้ว คงไม่มีใครบ้าเอาไปโหลด bit หรอก
ถ้าใช้คำว่า Unlimited Data Transfer ก็จบเรื่อง
แต่ที่ไม่ใช้เพราะมันจะมี backlash ทางการตลาดกลับมามากกว่า
คนทั่วไปคงใช้ไม่ค่อยถึง limit อยู่แล้ว
+1 ใช่ครับมันเป็นเหตุผลทางการตลาดล้วน ๆ ปกติดูโฆษณาพวกนี้ต้องเน้นไปที่ * เป็นพิเศษ โปรดดูซ้ำอีกครั้ง 555
เปิดอีกโปรเป็นแบบไม่จำกัดทุกอย่าง แต่เพิ่มราคาเป็น 2-3 เท่าไปที่คิดว่าคุ้มก็ได้นี่ จะได้ไม่ถูกมองไม่ดี
สำหรับ โทรศัพท์น่ะมันโอเค
แต่คนส่วนใหญ่เขาใช้ AirCard 3G ต่อกับ Notebook เล่นเน็ต ดู youtube ครับ
3GB ไม่พอแน่ๆ ผมเลือกแบบจำกัดความเร็วที่ 1mb/s แต่ Unlimited Data ดีกว่าครับ
ปล.เอาความเร็วแค่ดู youtube ไม่กระตุก แต่ดูได้ทั้งเดือนอย่างสบายใจดีกว่า ดูละครย้อนหลังก็ได้ อิอิ
ถ้าเอาไปใช้แบบนั้นในลักษณะทำงานพรีเซ้นงานเจอลูกค้าอะ ผมว่าพอแต่ถ้าเล่นกะเอาแทน adsl ผมว่าคุณใช้งานมันผิดประเภท
ผมว่าความสามารถเทคโนโลยี 3G มันไปไม่ถึงความคาดหวังมากกว่า(ปัญหาการสร้างกระแส กับ โครงสร้างโครงข่ายสาย ไม่ทั่วถึงก็มีส่วน) สุดท้าย Last mile หรือ พื้นที่ห่างไกล ก็ลำบากกว่าที่อื่นทั้งๆที่ปัญหานี้เกิดจากความหนาแน่นจากในเมืองที่ใช้ขนาด Cell site ไม่เหมาะสมใช้งานผิดประเภทหวังลดต้นทุนเพราะเร่งขยาย(ให้ดูกว้างเป็นหลักไม่เน้นครอบคลุม เช่น ภายในตึก หรือพื้นที่ ที่มีตึกเยอะ และมีความหนาแน่นในการใช้งาน) แล้วโฆษณาว่าครอบคลุมกว้าง ตอนนี้มีการสะท้านกลับถึงปัญหา(ไม่รู้ว่าต่างประเทศเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ไหม)จากการแก้ปัญหาด้วยวิธีเหมารวมแบบนี้
ลักษณะการใช้งานคงไม่ต่างกับบริการ Voice(เสียง) ในสมัยก่อนมากนักหรอก ถ้าคุณทันดูอนาคตของมันคุณก็จะรู้เอง
คนส่วนใหญ่น่ะใครครับ? ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ คนที่รู้จักส่วนมากก็แนวๆ นี้
ส่วนมากเค้าก็ใช้ 3G กับสมาร์ทโฟนนะครับ แล้วถ้าอยากดู YouTube ก็ใช้ ADSL
แต่ผมเจอคนรอบข้างบ้างคนเอาไปโหลดบิท
ถ้าจะดูยูทูบทั้งวันทั้งคืน ก็ไปติด ADSL เถอะครับ
ถ้าสายโทรศัพท์เข้าไม่ถึงก็ทำใจเถอะนะ ผมบอกตรงๆ
ก็ทำใจครับ เพราะอยู่หอ และหอก็ไม่มีนโยบายให้ติด
สุดท้ายก็ทำใจอย่างที่ว่าแหละครับ
ผมไม่ได้ต้องการเร็วครับ แค่ต้องการความต่อเนื่องก็เท่านั้น
รายการทีวีดีๆ ก็อยู่ดึกๆตลอด อยากจะดูย้อนหลังบ้าง
ทันเปิดแพคเกจ 699 ตอนเปิดบอก 5 GB แต่ใช้จริงได้ 8 GB ไม่ Unlimited แต่เดือน ๆ นึงใช้เต็มที่ก็ 5 อะคับ
ผมใช้เป็นโมเด็มกับโน็ตบุค ก็อัพเดท Ubuntu ด้วย เข้าเว็บอะไรไปเรื่อยเปื่อยแต่ไม่ดู Youtube เดือนที่ใช้ถึง 5 GB นั่นรู้สึกจะโหลดจากพวกเว็บฝากไฟล์แบบกระหน่ำน่ะครับ แต่เอาเข้าจริงเฉลี่ยเดือนนึงก็ 3 GB นิด ๆ ถ้าไม่ใช้เป็นโมเด็มนี่คงไม่ถึง 1 GB เลยมั้ง ???
มันคิดว่าจะดีขึ้น ถ้าเกิดการแข่งขันครับ
ตอนนี้การแข่งขันยยังไม่เกิดดี แถมหนทางให้บริการ 3G ในประเทศไทยก็ซับซ้อน และลงทุนมากเกินปกติเพราะต้องเล่นแร่แปรธาตุเยอะ
ก็ต้องเห็นใจผู้ให้บริการบ้าง (และเห็นใจคนใช้ด้วยนี้แหละ)
ที่ Australia สำหรับโทรศัพท์ ก็ประมาณนี้แหละครับ ไม่เกิน 3GB หลังจากคิดเงินเพิ่ม เพราะเค้าเอาไว้ให้โทรศัพท์ใช้ ซึ่งไม่ได้โหลดอะไรมากมาย ถ้าคนที่จะใช้เยอะจริงๆ ต้องซื้อแบบ Mobile Broadband ซึ่งจะได้เยอะหน่อย แต่แต่ก็จำกัดอยู่ดี ที่ผมใช้อยู่จ่าย $AUD 39.95 ได้ 12GB ต่อเดือนถ้าใช้เกินจ่ายอ่วมครับ ของมีจำกัดต้องแบ่งๆ กันใช้ครับ
เอาจริงๆ ผมว่าที่หลายๆ คนไม่พอใจเพราะคำว่า "Unlimited" แค่นั้นแหละ ผมเองก็ไม่ชอบเหมือนกันที่ใช้คำนี้ แต่ถามว่าชอบ Fair policy มั้ย -> ผมก็ชอบ แต่อยากให้เปลี่ยนไปใช้คำอื่นที่มันไม่ดูหลอกลวง หัวหมอ แบบนี้
เบื่อโฆษณาที่ต้องอ่านดอกจันด้านล่างแล้วก็ใส่ฟอนต์ขนาด 6pt
คนไทยเอาไว้โหลดบิต :P