By: arjin 
on 4 August 2011 - 07:23
Tags:
Topics:
หลังจากมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่างานวิจัยที่บอกว่าผู้ใช้ IE มีไอคิวต่ำกว่าผู้ใช้เบราเซอร์อื่นนั้นน่าจะเป็นข่าวลวง ล่าสุดทาง AptiQuant ต้นเรื่องทั้งหมดได้ออกมายอมรับแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องแต่งขึ้น
Tarandeep Gill นักวิจัยด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์และปัญญาประดิษฐ์ผู้อยู่เบื้องหลังข่าวโกหกนี้บอกว่า เขาเจตนาใช้คำประเภทไอคิวต่ำกว่า โง่กว่า ไม่ได้เพื่อจะดูถูกใคร แต่มองว่าคำประเภทนี้สร้างความสนใจกับสื่อได้ดีมากกว่า (และก็ดีจริงๆ) ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขาสร้างข่าวนี้ออกมา ก็เพราะเขามองว่าการพัฒนาเว็บให้มีความเข้ากันได้กับทุกเบราเซอร์นั้นเป็นเรื่องยากลำบาก โดยเฉพาะการทำให้มันเข้ากันได้กับ IE เวอร์ชั่น 6.0 ถึง 8.0 จึงทำให้งานวิจัยลวงนี้พุ่งเป้าโจมตีไปที่ IE เวอร์ชั่นดังกล่าว
Gill เชื่อว่าเหตุผลที่ข่าวนี้กระจายไปเร็วมาก เพราะข่าวดังกล่าวพูดในสิ่งที่คนอยากได้ยินมานานแล้ว มันจึงเผยแพร่ออกไปรวดเร็วมาก อันที่จริงเขาก็คิดว่าจะเฉลยเรื่องทั้งหมดในเร็วๆ นี้ แต่ดันถูกจับได้เสียก่อน
ที่มา: AptiQuant
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
*ปาหมอน
โดนหลอกกันเป็นแถบๆ
^
^
that's just my two cents.
บทเรียนราคาแพ้สินะ...
ผมลง Browser ทุกตัว แล้วก็ดูว่าอันไหนเหมาะกับเราและงาน มากที่สุด
บรรทัดสุดท้ายนี่ดริฟรึเปล่าหว่า
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
เหมือนจะดริฟ แต่ก็แอบจริงนะ
เห็นหลายคนชอบจิกกัดผู้ใช้ IE บ่อยๆ (และตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น :P)
จะโดน MS ฟ้องได้ไหมเนี่ย เหมือนดิสเครดิต
ปล.เห็นด้วย ชีวิตนี้อยากลืมๆ IE6 เพราะขี้เกียจทำ pngfix ทุกรอบ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
รอดตัวแล้วเรา.. อิอิ
จะโดนฟ้องไหมหว่า
สมควรฟ้องดีไหม จะได้ไม่เกิดการเอาเยี่ยงอย่าง
เชื่อว่า Geek ตปท ก็น่าจะตะลุมบอลกันหัวแตกไม่แพ้บ้านเรา..
ฉลาดมาก
PR Stunt ซะงั้น
นายแน่มาก
"เพราะข่าวดังกล่าวพูดในสิ่งที่คนอยากได้ยินมานานแล้ว" เข้าใจพูดนะ ตานี่ !!
พวกที่เทียงเมือตอนนู๋หายกันเป็นแถว
ดีนะที่ไม่ใช่เครื่องมือในส่วนหนึ่งของ PR จากคู่แข่งไม่อย่างนั้นถือว่าน่าเกลียดมาก
ป.ล. ถ้าเป็นเรื่องจริง กะว่าจะวิจัยซ้อนในงานวิจัยลวงหรือ ?
กดเข้าไปดู beastoftheweb ฮาเลย
ถ้าอยู่เมืองไทยได้ลงเว็บดราม่าไปแล้วนะเนี่ย ดริฟท์ซะ
MS ฟ้องเลย เชียร์
แหม บอกมาได้ว่า "พุ่งเป้าไปที่ IE เวอร์ชั่น 6.0 ถึง 8.0" ในวิจัย(เก๊ง ๆ) มันให้ค่า IQ ต่ำทุกเวอร์ชั่นเลยนะ
คนใช้เวอร์ชั่น 9.0 ได้ต่ำกว่า 8.0 เสียอีก
แล้วที่บอกว่า "ข่าวดังกล่าวพูดในสิ่งที่คนอยากได้ยินมานานแล้ว" อยากรู้จักว่า สิ่งที่คนอยากได้ยินมานานแล้วคืออะไร
อยากได้ยินว่า "ผู้ใช้ IE มีไอคิวต่ำกว่าผู้ใช้เบราเซอร์อื่น" งั้นเหรอ แถได้น่ารังเกียจมากกกกก
พอลองกลับไปอ่านข่าวเก่าแล้วก็นึกขำเหมือนกันว่า ข่าวที่ปะหน้าเป็น "งานวิจัย" นี่
มันลวงคนได้ชะงัดจริง ๆ
Happiness only real when shared.
กร๊ากกกกกกกกก หุยฮา หัวเราะงอหายพวกที่เชื่อข้อมูลจากการเก็บวิจัย ถูกตบหน้าจังๆ บอกแล้วไงว่ามันไม่น่าเชื่อถือ
คอมเมนท์แบบนี้เดี๋ยวก็มีข้อพิพาทอีกอะครับ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
+1
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้ามีกรณีที่เกิดเถียงกันไปมาแบบนี้ เราเชื่อว่าคำพูดเราถูก แล้วเกิดสุดท้ายมันก็ถูกอย่างที่เราว่าจริงๆ..
การที่เรา "นิ่งเงียบ" และ "ไม่แสดงออกอย่างสะใจ" หรือ "ทับถมกัน" มันจะให้เราเป็นสุภาพชน และเป็นผู้มีอารยธรรมมากครับ ("ใจหล่อมาก" ว่างั้น)
เพราะผมเชื่อว่า อีกฝ่ายหนึ่ง เขาก็ต้องรู้ตัวแล้ว และก็ต้องรู้สึกผิดอะไรในใจบ้างล่ะ แม้จะแสดงออกมาหรือไม่ก็ตาม
เหตุใด จึงต้องไปทับถมกันอีกครับ เพื่ออะไร และได้อะไรขึ้นมา? ได้แค่ความสะใจงั้นหรือ? กลับกัน มันจะทำให้ตัวท่านนั้น ดูแย่ลงไปเสียด้วยซ้ำครับ เป็นผมผมคงไม่ทำ
และจริงๆ การโต้เถียงกันอย่างปัญญาชน คงไม่ใช่การมาหาผู้แพ้ ผู้ชนะ แต่เป็นการช่วยกันหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับทุกคนต่างหาก
ด้วยความเคารพ
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เชื่อ หรือไม่เชื่อครับ แต่อยู่ที่ว่าถ้าบอกว่ามันไม่น่าเชื่อถือแล้วจะหาอะไรมาค้านกัน
ฝ่ายที่เชื่อข้อมูลนี้ (จริงๆ ผมก็ยังไม่เห็นมีคนบอกว่าเชื่อชัดเจนนะครับ เห็นแย้งกันเรื่องหลักการสถิติมากกว่า) ก็ย่อมมีเหตุให้เชื่อ เพราะข้อมูลที่มาดูน่าเชื่อถือ
ในขณะที่มีผู้ที่บอกว่าไม่น่าเชื่อถือบางคนก็บอกว่าตัวอย่างน้อยไป หรือไม่เห็นการควบคุมตัวอย่าง ฯลฯ (ผมก็ไม่ถนัดเรื่องสถิติมากนัก) ซึ่งก็เป็นการคัดค้านการตามปกติของเว็บนี้
และสุดยอดจริงๆ ของเรื่องนี้คือนักข่าวที่สงสัยในความน่าเชื่อถือ เขาเลือกที่จะไปพิสูจน์หาความจริง (เท่าที่จะหาได้) มีแย้งกัน รวมไปถึงคุณ wienna ที่สามารถหาข่าวมาแย้งว่ามันมีความไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งแบบนี้ดูมีประเด็นและหักล้างกันได้ดีกว่าการพูดแต่ว่า ไม่น่าเชื่อถือ แต่เพียงอย่างเดียว
แน่นอนว่ากระทู้ต้นเรื่องอาจมีคนที่คุณ joomla คิดว่าเขาคือเกรียน แต่ความเห็นนี้ ทำให้ผมรู้สึกได้ว่า สุดท้ายมันก็เป็นแค่เหตุการณ์เกรียนตบเกรียนธรรมดาครับ
ผมว่าเขาสมควรแล้วคับ คุณ Joomla โดนเยอะมาก
ผมก็ไม่เชื่อในงานวิจัยเนืองจากไปอ่านมาแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอามาชี้วัย แล้วผมบอกไปแล้วด้วย แต่ก็มีแต่คนมา บลาๆๆแบบไม่มีข้อเท็จจริง
ไม่เห็นพวกเชื่อข้อมูลจากการวิจัยจะเสียหน้าอะไรเลย
การตรวจสอบความถูกต้องของการวิจัยเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว
ไม่งั้นเขาจะมีการสอนวิธีวิพากย์วิจารณ์ตรวจสอบงานวิจัยหรือ
แล้วยังต้องตรวจสอบความเป็นไปได้ของการแปลความหมายอีก
แต่คนหรือประเทศที่เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นบรรทัดฐานนี่สิ
เชื่อน่ะไม่เป็นไร แต่เชื่อแล้วไปถล่มใส่คนที่ไม่เห็นด้วยว่าเก็บข้อมูลวิจัยไม่ถูกต้องนี่สิไม่รู้จะว่ายังไง
ผมกลับไปอ่านข่าวเก่าก็ยังไม่มีใครออกมาพูดเลยว่ายืนยันข่าวนี้เป็นจริงแน่นอนหรือออกมาถล่มใส่คนที่เห็นขัดกับคนที่ไม่เชื่อนี่ครับหลายๆคอมเมนท์ที่ไม่เชื่อยังไม่โดนว่าอะไรเลยครับ มีแต่คอมเมนท์กันตรงไปตรงมา
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ขอฮาต่อ
จนใจก่อกวน แบน 1 สัปดาห์นะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
+31414
1 สัปดาห์ผ่านไป ไวเหมือนโกหกกกกกก
Happiness only real when shared.
หนึ่งเดือนผ่านไป...
Happiness only real when shared.
ไม่อินังขังขอบ
Happiness only real when shared.
อย่าดราม่าต่อเลยครับ ในเมื่อความจริงมันปรากฏแล้ว
ใครแสดงความคิดเห็นอะไรไว้ มันก็โชว์อยู่ในข่าวเก่าอยู่ จะฟืนฝอยให้ทะเลาะกันอีกทำไม
ผมว่าแค่เงียบ ๆ และเรียนรู้จากบทเรียนนี้กันดีกว่า
Happiness only real when shared.
-__-"
หวังว่า คุณ joomla คงยังไม่โดนแบนนะ
Happiness only real when shared.
เรียบร้อยไปแล้ว =__="
ง่ายดี...
ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
Happiness only real when shared.
บางคนออกตัวไว้แรง ยอมรับความจริงไม่ได้
เจอ เ.รียนไม่ยอมรับความจริงก็แบบนี้แหละคับ
ผมหมายถึงผู้มีไอคิวสูง
คนที่เชื่อในเรื่องประโยชน์ของงานวิจัยไม่มีใครเชื่ออะไรที่อ้างว่ามาจากการวิจัยทันที่โดยไม่ตรวจสอบหรอก
แต่ก็ไม่มีใครเอาความรู้สึกของตัวเองเป็นบรรทัดฐาน
ระเบียบวิจัยมีเยอะทั้งแบบอ่อนทั้งแบบแข็ง จะว่าไปแบบสอบถามที่มาขอให้ตอบทางหน้าเวปก็จัดเป็นการวิจัยที่เชื่อถือได้น้อยอยู่แล้ว
ถ้ามีข่าวต่อไปว่า สองข่าวที่บอกว่าลวงนี่เป็นข่าวลวงผมคงจุกจนแน่นลิ้นปี่
ขนาดค้านและอธิบายไปแล้วว่าเก็บข้อมูลไม่ถูกต้องยังจะเชื่อเป็นตุเป็นตะ เชื่อไม่เป็นไร ไม่ว่า แต่ดันไปเกรียนใส่คนที่เขาไม่เชื่อนี่สิ อธิบายขนาดนี้จะเข้าใจกันอีกไหมเนี่ยว่าไม่ได้โจมตีคนเขียนข่าวหรือข่าว แต่ค้านถึงการเก็บข้อมูล แต่ตอนนี้ขอฮา
ก็ไม่เห็นว่าคุณค้านโดยอธิบายอะไรที่เป็นเหตุผลเลยนี่
คุณลองเปรียบเทียบเหตุผลของคุณกับของข่าวก็ได้
อีกอย่างที่สงสัยมากคือทำไมต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องไกลตัวกันขนาดนี้
เพราะไม่ว่าจะวิจัยจริงหรือไม่จริง ผลวิจัยจะเชื่อได้หรือไม่ได้ มันเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรานักหรือ ทำให้เราดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร ไม่เข้าใจ
ถ้าผลวิจัยลวงโลกไม่บอกว่าผู้ใช้ไออีโง่เขาคงไม่ออกมาค้านหรอกครับ ข่าวบางช่องใช้คำว่าเหยียดหยามเลยทีเดียว การค้านด้วยการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ บางทีการเชื่อมั่นในตัวเอง ในตัวเลข ก็ถูกหลอกได้ แต่ข่าวนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทั้งสาวกแมคและกูเกิ้ลก็แถเป็นไม่แพ้กัน
ในฐานะคนที่เรียนรู้การทำวิจัยมาบ้าง ก็เห็นว่าข้อมูลที่อ้างว่าวิจัยกับเหตุผลของผู้ค้านไม่น่าเชื่อถือพอๆกัน(ห่วยพอกัน)
ถ้าบอกว่าเหยียดหยามก็ self center แล้วแหละ
โดยส่วนตัวผมการสร้างงานวิจัยเท็จออกมาถือเป็นการกระทำที่ต่ำช้ามาก
อยากถามว่าคนส่วนมากอยากได้ยินว่า คนใช้ IE ไอคิวต่ำ หรือ
IE ไม่ใช่ Browser ที่ดี เมื่อเปรียบกับ บลาๆๆๆๆ กันแน่ ?
หมายเหตุ: คิดว่าเหตุผลหนึ่งที่คนปล่อยข่าวออกมาเชิงศึกษาทาง IQ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้ยาก
แต่หากเป็นงานวิจัยทางเทคนิคของ IE คงมีหลายคนที่รู้อยู่แล้วและหากเป็นเท็จก็คงถูกจับได้ง่ายกว่าเป็นแน่
คนทำวิจัยเกรียนจริง
นึกถึง angry whopper เลย
ดีที่ได้อ่านข่าวนี้ก่อนข่าวอื่น เลยไม่โดน 555
ตอนนี้กลับกลายเป็นการทดสอบ EQ ของฝ่ายสนับสนุนไปแล้ว อิอ
+1
ถ้าแบบนี้ไมโครซอร์ฟจะฟ้องได้มั๊ย ?
แบบว่าออกข่าวมาทำให้มีผลต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
เกรียนเกิ๊น
จากที่มาในเวบเจ้าตัว เข้าไปอ่านตอนก่อนเที่ยง มีแขวะประมาณว่า "ผมนึกว่าความจริงจะเปิดเผยเร็วกว่านี้ซะอีก แค่เข้า whois ก็รู้แล้วว่าเวบนี้ใครทำแท้ๆ"(ข้อความไม่เป๊ะนะครับ แต่ก็อารมณ์นี้) เขียนอารมณ์เฮฮา จะสื่อว่า เฮ้ เอาน่า นี่มันโจ๊กน่ะ โจ๊ก
ตอนนี้เอาออกไปแล้ว เปลี่ยนเนื้อหาเป็นคำขอโทษอย่างเป็นทางการ ประเด็นหลักที่ยังอยู่คือ
บริษัทเก่าของผมทำเวบขายของ(พร้อมลิ้งค์เวบ) แล้วผมพบว่ามันยากมากถ้าจะให้ support IE6 ผมเลยทำเวบกับผลวิจัยปลอมนี้มาจู่โจม IE6 โดยเฉพาะ
คาดว่าตอนแรกคงโดนถล่มเละเลยกลับมาแก้ เออ สมควร
คงไม่ใช่อาทิตย์ต่อมา AptiQuant ออกมายอมรับว่า เรื่องที่เขายอมรับแล้วว่างานวิจัย IE เป็นเรื่องโกหกนั้น เป็นเรื่องโกหก
แบบนั้นคงโดนด่าเละกว่าเดิมแหงๆ
กลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปเลย
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
เกรียนหน้าแหกไปเลย
งั้นรอรายงานจากเวปที่ทำเรื่องนี้จริง ๆ ดีกว่า อิอิ
งั้นผมก็โดนว่าฟรีสินะ ฟ้องมันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ถ้าอีตา Tarandeep Gill เป็นเพื่อนผมรับรองว่าตบเกรียนแตกแน่ครับ
ผมไม่ได้โกรธอะไรที่เค้าดูถูกคนใช้ IE แต่ผมโกรธตรงที่ แทนที่จะยอมรับแบบตรงๆ พร้อมเหตุผลอะไรก็ตาม
แต่นี่ดันเล่นตอบประมาณ "ก็พวกคุณเชื่อเอง แค่เรื่องตลก พวกคุณอย่าคิดมากสิ"
เพียะๆๆๆๆ
ผมอ่านทีแรกก็ว่ามันไม่มีเหตุผล อย่างผลวิจัยพบว่าว่าคนใช้ Thinkpad มี IQ สูงกว่าคนใช้ Elitebook มันก็อาจจะเป็นไปได้ แต่จะวัดไปทำไม ส่วน browser ที่ผมใช้ก็มีแค่ Firefox กับ Chrome
ตรงที่มีแสง
ถ้าคิดบวก
จากบางคำอย่างเช่น Dumb(โง่) เป็นเรื่องที่อ่อนไหว น่าจะทำให้เข้าใจหัวอกของผู้ที่ถูกกระทำในอดีต(Past) บ้าง