HTMX เฟรมเวิร์คเว็บขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นมากในช่วงหลังออกเวอร์ชั่น 2.0 หลังจากออกเวอร์ชั่น 1.0 มาตั้งแต่ปี 2020 โดยปรับเปลี่ยนด้วยการย้ายส่วนขยายต่างๆ เช่น Server Side Events, Web Sockets, Preload ออกเป็นโครงการแยกและเปิดให้อัพเดตเวอร์ชั่นได้แยกจากโครงการหลัก
หลังจากแยกส่วนขยายออกไปแล้ว เวอร์ชั่นนี้จึงถอดฟีเจอร์ที่เคยอยู่ในโครงการหลักออกไปต่างหาก ปรับ API ให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วการใช้งานยังคงเดิมอยู่แม้จะไม่สามารถทำงานกับโค้ดเดิมได้แล้วเพราะ API เปลี่ยน ที่สำคัญคือถอดการรองรับ Internet Explorer ออกทั้งหมด
ไมโครซอฟท์อัพเดตแผนเตรียมเลิกใช้งาน VBScript โดยระบุว่าจากนี้ VBScript จะเข้าสู่ส่วนฟีเจอร์แบบออนดีมานด์ ที่หากต้องการใช้งานต้องดาวน์โหลดติดตั้งเพิ่มเอง ก่อนจะถูกนำออกไปใน release ในอนาคตของ Windows ต่อไป
VBScript เข้าสู่สถานะที่เตรียมปิดการใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ปิดการทำงานของ VBScript ใน Internet Explorer 11 ในปี 2019 และล่าสุดเมื่อต้นปี ได้ปิดการทำงานโหมด IE บน Windows 10 ไปทั้งหมด
ที่มา: ไมโครซอฟท์ ผ่าน Neowin
ไมโครซอฟท์ออก "อัพเดตสุดท้าย" ปิดการทำงานของ Internet Explorer บน Windows 10 อย่างถาวร ตามที่ประกาศเอาไว้ล่วงหน้า
หลังติดตั้งอัพเดตตัวนี้แล้ว IE จะไม่สามารถรันใน Windows 10 ได้อีกต่อไป การคลิกที่ไอคอน IE จะเรียก Edge ขึ้นมาแทน แต่ผู้ใช้ยังสามารถรัน IE Mode ที่ใช้เอนจิน MSHTML ตัวเดิมใน Edge ได้อยู่ ซึ่งไมโครซอฟท์การันตีว่าจะทำงานได้จนถึงปี 2029 เป็นอย่างน้อย
Internet Explorer 11 สิ้นระยะซัพพอร์ตไปตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2022 แต่ถ้าต้องการใช้งานจริงๆ ก็ยังสามารถรันได้ใน Windows 10 บางเวอร์ชัน
เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Edge ราบรื่นขึ้น ไมโครซอฟท์จึงประกาศว่าจะออกอัพเดตสุดท้าย ที่จะปิดการทำงานของ IE11 อย่างถาวรในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งหลังจากนั้นมันจะเรียกใช้ไม่ได้อีกแล้ว
ไมโครซอฟท์ยังจะออกอัพเดตอีกรอบในวันที่ 13 มิถุนายน 2023 ถอดไอคอนใน Start Menu และ Taskbar (ที่ยังมีอยู่แต่รันโปรแกรมไม่ได้แล้ว) ตามด้วย
หากผู้ใช้ยังจำเป็นต้องเปิดหน้าเว็บด้วย IE จริงๆ ยังมีทางเลือกคือ IE Mode ใน Edge
ท่านผู้อ่านที่ติดตาม Blognone มานานแล้ว น่าจะพอจำกันได้ถึงธรรมเนียมปฎิบัติระหว่างทีม Firefox และ Microsoft Edge/Internet Explorer ที่จะส่งเค้กให้กัน เมื่ออีกทีมได้ผ่านหลักไมล์สำคัญของการพัฒนาเบราว์เซอร์ (ดูตัวอย่างเค้กจากข่าวเก่า 1, 2)
ล่าสุดเนื่องในโอกาสที่ไมโครซอฟท์ได้ประกาศปลดเกษียณ Internet Explorer ทีม Firefox ก็ไม่พลาดที่จะร่วมแสดงความยินดีให้ทีม MS Edge/IE ด้วยการส่งเค้กตามธรรมเนียม
แม้ว่า Internet Explorer จะหยุดการซัพพอร์ตไปเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว ล่าสุด Nikkei ออกรายงานว่า IE ยังคงเป็นเบราว์เซอร์ที่มีการใช้งานอยู่ในองค์กรญี่ปุ่น ซึ่งบางองค์กรเพิ่งจะตื่นตัวเพียงระยะเวลาไม่กี่เดือนก่อนจะหมดซัพพอร์ต และหลายองค์กรยอมรับว่ายังเปลี่ยนไม่ได้
Internet Explorer หยุดซัพพอร์ตอย่างเป็นทางการในวันนี้ 15 มิถุนายน 2022 ตามที่เคยประกาศไว้ ก่อนหน้านี้
แต่ IE ยังไม่ตายสนิทซะทีเดียว สิ่งที่ไมโครซอฟท์หยุดซัพพอร์ตคือ IE ในฐานะเว็บเบราว์เซอร์แยกเฉพาะ แต่ใน Microsoft Edge ยังมี IE Mode ที่ยังใช้งานได้สำหรับเว็บที่ยังไม่ปรับตัว
ใครที่อยากระลึกความหลัง IE เวอร์ชันเก่าๆ สามารถดูได้จากคลิปที่ไมโครซอฟท์ทำมาเพื่อบอกลา IE
ไมโครซอฟท์ร่วมมือกับ Selenium โครงการโอเพ่นซอร์สซึ่งพัฒนาเครื่องมือสั่งรันงานอัตโนมัติบนเว็บเบราว์เซอร์ออก Selenium WebDriver สำหรับ Internet Explorer (IE Driver) เวอร์ชันใหม่ เพื่อรองรับการใช้งาน Selenium WebDriver กับ IE Mode บน Microsoft Edge โดยเฉพาะ
สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือข้างต้น Selenium WebDriver เป็นเฟรมเวิร์คที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ดเพื่อสั่งรันงานบนเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งมักจะใช้กับการทดสอบเว็บอัตโนมัติ (automated test)
Microsoft แจ้งเตือนผู้ใช้ Internet Explorer หรือ IE อีกครั้งว่าให้หยุดการใช้งานและเตรียมย้ายไปใช้ IE Mode บน Microsoft Edge เนื่องจากเป็นซอฟต์แวร์เก่าแล้วและกำลังจะถูกปิดการใช้งานใน Windows 10 เร็ว ๆ นี้
Microsoft ระบุว่าตอนนี้อนาคตของ IE อยู่ใน Microsoft Edge แล้ว Edge เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่เร็ว, ปลอดภัย และรองรับเทคโนโลยีเว็บยุคใหม่ได้ดีกว่า IE และ Edge ยังมี IE Mode ที่ปรับให้ตัวเบราว์เซอร์เข้ากันได้กับแอปหรือเว็บไซต์เก่าที่ทำมาเพื่อ IE โดยเฉพาะ โดย IE Mode บน Edge จะนำมาแทน IE 11 บน Windows 10 เต็มตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ Microsoft ออกกำหนดหยุดซัพพอร์ตและปิดการใช้งาน IE บน Windows 10 ในวันที่ 15 มิถุนายน 2022
ไมโครซอฟท์ออกประกาศแจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2021-40444 ช่องโหว่รันโค้ดระยะไกลอาศัยวางไฟล์ Office ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ ActiveX ใน Internet Explorer เปิดขึ้นมารัน ตอนนี้มีการโจมตีแล้วและยังไม่มีแพตช์
ไมโครซอฟท์ระบุว่า Windows Defender ตรวจสอบการโจมตีแบบนี้ได้แล้ว หากพบจะแจ้งเตือนว่า "Suspicious Cpl File Execution" แต่หากต้องการลดผลกระทบจากช่องโหว่ก็สามารถปิดการทำงาน ActiveX ใน Internet Explorer ไปได้
Internet Explorer มีกำหนดยกเลิกการซัพพอร์ตปี 2022 และบริการของไมโครซอฟท์เองก็เริ่มหยุดซัพพอร์ตแล้ว
ที่มา - Microsoft
ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดซัพพอร์ตการใช้งาน Microsoft 365 บน Internet Explorer 11 นับจากวันนี้เป็นต้นไป ตามกำหนดที่ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
แม้จะหยุดซัพพอร์ตไปแล้ว แต่บริการหลัก คือ Outlook Web App และ SharePoint จะยังคงใช้งานได้ในโหมดซ่อมบำรุง หน้าจอต่างๆ จะไม่ได้รับอัพเดตอีกต่อไป
ปีที่ผ่านมา บริการต่างๆ หยุดซัพพอร์ต Internet Explorer ไปแล้วเป็นจำนวนมาก เช่น Google Workspace, หรือ WordPress ทางไมโครซอฟท์เองก็ประกาศหยุดซัพพอร์ตตัว Internet Explorer 11 เองกลางปี 2022
ไมโครซอฟท์เริ่มหยุดซัพพอร์ต IE11 กับการใช้งาน Microsoft 365 แล้วเมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) ตามที่ประกาศไว้ล่วงหน้า 1 ปีก่อน
เว็บแอพหลายตัวใต้ร่มแบรนด์ Microsoft 365 จะเริ่มใช้กับ IE11 ไม่ได้แล้ว เช่น Outlook Web App และ SharePoint โดยไมโครซอฟท์ระบุว่าไม่ได้บล็อคการใช้งาน IE11 แต่ฟีเจอร์หลายตัวจะเริ่มใช้งานไม่ได้ ผู้ใช้ IE11 อาจได้เห็นหน้าเว็บแบบลดความสามารถ (เช่น Outlook Web App Light) แทนหน้าเว็บแบบปกติ
นอกจาก Microsoft 365 แล้ว เว็บแอพตระกูล Dynamics 365, Power Platform ก็หยุดรองรับ IE11 พร้อมกัน บริการตัวถัดไปคือ Azure Virtual Desktop จะหยุดรองรับ IE ในวันที่ 30 กันยายน 2021
WordPress ประกาศหยุดซัพพอร์ต Internet Explorer 11 ตามประกาศของไมโครซอฟท์ โดยจะเริ่มมีผลใน WordPress 5.8 ที่ออกช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
WordPress บอกว่าการหยุดซัพพอร์ตหมายถึงว่าจะไม่ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ กับ IE11 อีกแล้ว แปลว่าอาจใช้งานได้ (โชคดีไป) หรือไม่ได้ จากข้อมูลของ WordPress เองคาดว่าจุดที่ได้รับผลกระทบที่สุดคือ block editor ตัวใหม่ (Gutenberg) และหน้า dashboard ที่ใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ CSS หลายอย่างที่ไม่มีใน IE11
ที่มา - WordPress
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Internet Explorer 11 เวอร์ชันสุดท้ายของเบราว์เซอร์ Internet Explorer บนเดสก์ท็อป Windows 10 จะหยุดการสนับสนุนตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2022 เป็นต้นไป พร้อมคำประกาศที่ชัดเจนว่าอนาคตของ Internet Explorer บน Windows 10 ก็คือ Microsoft Edge นั่นเอง
สำหรับผู้ใช้งานเว็บเก่าที่ยังต้องการคุณสมบัติใน Internet Explorer สามารถเปิดใช้ IE mode บน Edge ทดแทนได้ ซึ่งไมโครซอฟท์บอกว่า IE Mode นี้จะยังรองรับไปจนถึงปี 2029
ทั้งนี้บริการ Microsoft 365 และแอปอื่นที่เกี่ยวข้อง จะเริ่มหยุดการสนับสนุนบน Internet Explorer 11 ตั้งแต่ 17 สิงหาคม ปีนี้
กูเกิลประกาศหยุดการสนับสนุนแอป Google Workspace ทั้งหมดบน Internet Explorer 11 หรือ IE11 มีผลตั้งแต่ 15 มีนาคม 2021 เป็นต้นไป โดยกูเกิลจะเริ่มขึ้นข้อความเตือนกับผู้ใช้งานที่ยังใช้ IE11 ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
กูเกิลบอกว่าประกาศนี้เป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับไมโครซอฟท์ ที่เริ่มหยุดสนับสนุนแอปของตนเองอย่าง Microsoft Teams และ Microsoft 365 บน IE11 ก่อนหน้านี้
บริการใน Google Workspace รวมทั้ง Gmail, Google Calendar, Google Drive, Google Docs, Google Sheets, Google Slides, Google Meet และอื่น ๆ
เอกสารซัพพอร์ตของไมโครซอฟท์ระบุว่า ใน Microsoft Edge 87 รุ่นเสถียรรุ่นหน้า จะมีอัพเดตที่เปลี่ยนค่าของ Internet Explorer ในเครื่อง ให้การใช้ IE เปิดเว็บบางเว็บที่อยู่ใน incompatibly list จะกลายเป็น redirect มาเปิดด้วย Edge แทน
เว็บไซต์ที่อยู่ใน incompatibly list เหล่านี้ถือว่าเป็นเว็บสมัยใหม่ที่ไม่รองรับ IE แล้ว ในรายการตอนนี้มีทั้งหมด 1,156 เว็บ ตัวอย่างได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter, Google Drive, Microsoft Teams, Yahoo Mail, ESPN เป็นต้น
Microsoft เผยรายละเอียดเกี่ยวกับการหยุดซัพพอร์ตเทคโนโลยี Flash Player บนเบราว์เซอร์ของ Microsoft ทั้งหมด โดยจะเริ่มการตัดซัพพอร์ตตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป
สำหรับ Microsoft Edge รุ่น Chromium จะปิด Flash Player เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่ธันวาคมนี้ ซึ่งถ้าใครใช้ Flash Player รุ่นเก่ากว่าอัพเดตเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตัวเบราว์เซอร์จะบล็อคไม่ให้เปิดใช้งาน Flash Player และกรณีของผู้ใช้เบราว์เซอร์เก่าของ Microsoft ทั้ง Edge รุ่นก่อน Chromium และ IE11 ทาง Microsoft จะหยุดออกแพทซ์ความปลอดภัย Flash Player ให้ผู้ใช้เบราว์เซอร์กลุ่มนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม
Microsoft Edge ตัวใหม่พลังเอนจิน Chromium เริ่มกระจายให้ผู้ใช้ Windows ในวงกว้างผ่าน Windows Update มาสักพัก ก็ได้เวลาที่ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการหยุดซัพพอร์ตเบราว์เซอร์ตัวเก่า ทั้ง Edge Legacy และ Internet Explorer 11
กรณีของ Microsoft Edge Legacy จะหยุดอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย ในวันที่ 9 มีนาคม 2021 ซึ่งถือเป็นวัน end of life
ส่วน IE11 ที่ยังต้องใช้เปิดเว็บแอพองค์กรรุ่นเก่าๆ ไมโครซอฟท์ยังไม่กำจัดทิ้ง แต่แนะนำให้ใช้ Edge แล้วเปิด IE mode แทน เพื่อประสบการณ์และความปลอดภัยที่ดีกว่า
ไมโครซอฟท์แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2020-0674 กระทบ Internet Explorer เวอร์ชั่น 9 ถึง 11 โดยเป็นช่องโหว่ระดับวิกฤติเปิดทางให้แฮกเกอร์รันโค้ดในเครื่องของเหยื่อได้ เพียงล่อล่วงให้เหยื่อเปิดเว็บหรือส่งอีเมลเพื่อให้เบราว์เซอร์ทำงาน
ไมโครซอฟท์ระบุว่าช่องโหว่นี้มีการโจมตีอย่างเจาะจงเป้าหมายแล้ว และแพตช์กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยระหว่างนี้การใช้ Internet Explorer สามารถลดความเสี่ยงด้วยการเปิดโหมด Enhanced Security Configuration หรือบนวินโดวส์ทุกรุ่นสามารถปิดการเข้าถึงไฟล์ jscript.dll
ด้วยคำสั่ง
ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ด่วนหลังได้รับแจ้งการโจมตีช่องโหว่ Internet Explorer (IE) จาก Google Threat Analysis Group โดยเป็นแพตช์รันโค้ดบนเครื่องผู้ใช้ในระดับสิทธิ์เดียวกับผู้ใช้ที่รันเบราว์เซอร์อยู่ ซึ่งหากผู้ใช้รัน IE ด้วยสิทธิ์ผู้ดูแลระบบก็จะเท่ากับคนร้ายยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ
ช่องโหว่ CVE-2019-1367 นี้เกิดจากความผิดพลาดในการจัดการออปเจกต์ในหน่วยความจำของ IE กระทบตั้งแต่ IE 9 ถึง IE 11 ทำให้แฮกเกอร์เพียงหลอกลวงผู้ใช้ให้เข้าเว็บก็สามารถรันโค้ดได้
นอกจากการอัพเดตตรงๆ ไมโครซอฟท์ยังแนะนำทางแก้ปัญหาชั่วคราวด้วยการจำกัดการเข้าถึงไฟล์ jscript.dll แต่อาจจะกระทบต่อการใช้งาน และไมโครซอฟท์แนะนำให้ติดตั้งแพตช์โดยตรงจะดีที่สุด
ไมโครซอฟท์ประกาศปิดการทำงานของ VBScript บน Internet Explorer 11 ด้วยเหตุผลว่าเป็นฟีเจอร์ที่ล้าสมัย (deprecated) ไปนานแล้ว แต่ยังเปิดให้ใช้งานต่อมาอีกระยะหนึ่งเพื่อรักษาความเข้ากันได้ (backwards compatibility) โดยเฉพาะกับเว็บไซต์เก่าๆ ภายในองค์กร
ล่าสุดไมโครซอฟท์บอกว่าถึงเวลาอันสมควรแล้ว จึงออกอัพเดตปิดการทำงานของ VBScript ของ IE11 บน Windows 10 ไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม และ Windows 7, 8, 8.1 จะตามมาในวันที่ 13 สิงหาคมนี้
ผู้ที่ยังจำเป็นต้องใช้ VBScript จริงๆ ยังสามารถเปิดกลับมาได้ผ่านการแก้ไข Registry หรือ Group Policy ของระบบปฏิบัติการ
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Edge เวอร์ชัน Chromium ที่งาน Build 2019 ดังนี้
เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว YouTube ถือเป็นเว็บยอดนิยมแห่งแรก ๆ ที่ตัดสินใจขึ้นข้อความเตือนผู้ใช้เบราว์เซอร์ IE6 โดยแนะนำให้อัพเกรดไปใช้เบราว์เซอร์อื่นได้แล้ว การขึ้นแบนเนอร์ครั้งนั้นได้รับผลตอบรับที่ดี มีเว็บขนาดใหญ่ทำตาม จนสุดท้าย IE6 ที่เป็นเบราว์เซอร์มาตรฐานเก่าก็ได้รับความนิยมน้อยลง แต่เรื่องนี้ก็มีเบื้องหลังที่สนุกทีเดียว
Chris Jackson พนักงานของไมโครซอฟท์ เขียนลงบล็อกของบริษัท เชิญชวนให้องค์กรทั่วโลกเลิกใช้งาน IE กันอย่างจริงจัง
เขาเล่าจากประสบการณ์ที่พบกับลูกค้าจำนวนมาก และได้คำถามอยู่เสมอว่าจะใช้งานเว็บไซต์เดิมด้วย IE ได้อย่างไร ซึ่งเขามองว่าการเลือกใช้ IE ต่อไปเป็นทางเลือกที่ "ง่าย" แต่ก่อหนี้ทางเทคนิค (technical debt) ตามมามากมาย
เขาย้อนประวัติศาสตร์ของ IE ในอดีต และยอมรับว่าแนวทางของ IE ก็เลือกความง่ายที่ก่อหนี้ตามมาในระยะยาวเสมอ ตัวอย่างคือ IE6 ที่มีโหมดเรนเดอร์แบบ quirks ยอมแสดงผลเว็บที่เขียนมาสำหรับ IE5 ซึ่งในกรณีของ IE8 ก็ทำแบบเดียวกันกับโหมดรองรับการแสดงผลแบบ IE7
ไมโครซอฟท์ปล่อยแพตช์อุดช่องโหว่ CVE-2018-8653 หลังได้รับรายงานจาก Google’s Threat Analysis Group เป็นการปล่อยแพตช์นอกรอบประจำเดือนตามปกติ เนื่องจากพบการโจมตีแล้ว
ช่องโหว่อาศัยการจัดการหน่วยความจำของเอนจินสคริปต์ ทำให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดด้วยสิทธิ์ของผู้ใช้ปัจจุบัน
แฮกเกอร์ไม่ทราบกลุ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย โดยตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นเหยื่อของการโจมตี
ที่มา - Microsoft, The Register