เคยบ้างไหมว่า วันหนึ่งกลับมาดูที่ชั้นหนังสือตัวเอง พบว่ามีหนังสืออยู่เยอะแยะอยู่ในชั้น มีทั้งอ่านจบไปแล้วแต่จะทิ้งไปก็เสียดายเวลาจะหามาอ่านอีกรอบ หรือ ประเภทซื้อมาตุนแต่ยังไม่ได้อ่าน เพราะขี้เกียจอ่าน เพราะไม่สะดวกที่จะพกไปไหนมาไหน และนับวันหนังสือรออยู่ในคิวก็นับวันจะยาวขึ้น
และเคยไหมที่ความฝันว่าอยากจะแปลงมันให้อยู่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์ ในราคาเอื้อมถึง แล้วเราจะอ่านด้วยอุปกรณ์ต่างๆที่ไหนก็ได้ เมื่อไรก็ได้ และจะได้เคลียร์หนังสือเหล่านี้ออกไปจากชั้นเสียที แต่พอไปดูราคาค่าบริการสแกนหนังสือเล่มแล้วลมแทบจับ ราคาเอื้อมไม่ถึง (ราคาเหมือนซื้อหนังสือใหม่ได้สองสามเล่ม)
บัดนี้ฝันนั้นเป็นจริงแล้วครับ ตอนนี้ที่อเมริกา มีเว็บไซต์ชื่อ1DollarScan ที่เปิดให้บริการรับสแกนเอกสาร, หนังสือ, ภาพถ่าย, โปสการ์ด, นามบัตร ฯลฯ ให้กลายเป็นไฟล์ PDF ในราคาอย่างถูก (หนังสือตกไม่เกินหน้าล่ะ 1 เซนต์ และทั้งเล่มรับประกันไม่เกิน 6 เหรียญ หรือ นามบัตร 10 ใบเหรียญหนึ่ง) แถมยังค้นหาข้อความใน PDF ได้ด้วย
ในอนาคตจะมีบริการเสริมอย่างสแกนปก, แปลงเป็นฟอร์แมต eBook (เช่น MobiPocket, ePub) หรือสั่งให้หนังสือจากอเมซอนไปส่งที่นั่นเพื่อดำเนินการสแกนเลย โดยไม่ต้องส่งอ้อมโลกมาที่เราก่อน
ได้ฟังแล้วอย่างเพิ่งดีใจไป อย่าเพิ่งรีบส่งหนังสือสุดที่รักในชั้นตัวเองไปตอนนี้ เพราะหนังสือที่ส่งไปจะถูกตัดสันให้กลายเป็นแผ่นๆ ก่อนสแกน ต่อให้รับหนังสือเล่มนั้นกลับมา คุณจะจำหนังสือเล่มนั้นไม่ได้ หนำซ้ำไม่มีโปรแกรมส่งซากหนังสือกลับมาด้วย เสมือนหนึ่งมันตายเพื่อไปเกิดใหม่เป็น PDF ให้คุณนั้นเอง
ที่มา: 1DollarScan via BlogKindle
Comments
ต่อไปอาจต้องซื้อหนังสือ 2 เล่ม 1 เล่มเก็บไว้สะสม 1 เล่มส่งไปพลีชีพ
ใช้หนึ่ง เก็บหนึ่ง สำรองหนึ่ง ?
ให้เพื่อนยืมอีกหนึ่ง
ขอเป็นเพื่อนตอนนี้ทันมั้ยครับ หุหุ
จริงเหรอ? กด add friend รัวๆ
ใช้หนึ่ง เก็บหนึ่ง เผยแพร่หนึ่ง
ภาษาไทยก็คงไม่ได้สินะ (T_T)
ควรจะสแกนได้ครับ สแกนเป็นรูปภาพ ซึ่งวิธีนี้จะไม่มีผลกระทบจาก layout เอกสารต้นฉบับจะใส่รูปใส่กราฟอย่างไรก็ได้ ซึ่งมันจะเป็นอย่างไรมันไม่สนใจ แล้วจับแปลงเป็น PDF ไม่มีปัญหาครับ
แต่ภาษาไทยจะมีปัญหาตอนทำ OCR นั้นทำให้การค้นหาข้อความภาษาไทยในนั้นก็จะไม่ได้ด้วยครับ
จะว่าไปก็อยากเห็น project OCR ภาษาไทยที่มัน work ซักทีแฮะ
ของ abbyy น่าจะดีที่สุดแล้วมั้งครับ แต่ต้อง scan resolution สูงๆหน่อย (400 - 600 dpi)
อยากสแกนการ์ตูนที่บ้านบ้าง เก็บไว้เต็มบ้านไปหมดเลย
ผมก็อยากแสกนนะ แต่มันเป็น โคทาโร่ ฉบับพิมพ์ครั้งแรกครบชุด ทำไม่ลงจริงๆ
สงสัยครับ ทำแบบนี้ไม่ผิดลิขสิทธ์หรอครับ
แล้วถ้าเกิดมีคนทำแบบนี้กันมากๆ ต่อไปคนเขียนหนังสือน่าจะทำออกมาเป็ E-Book ไปด้วยเลยคงจะดีกว่า
บริษัทรับแสกนไม่น่าผิด เพราะมันหนังสือที่เอาเข้ามา มันเป็นหนังสือจริงๆที่ลูกค้าไม่ซื้อมาจากข้างนอกเอง ต่อให้สั่งตรงจาก Amazon เข้าไปที่นี่ตรงๆ มันก็ถือว่าลูกค้าเป็นคนสั่งซื้อไปแล้ว
แต่ตัวลูกค้าที่พอได้หนังสือแสกนเป็น PDF แล้วเอาไปแจกต่อ อันนี้น่าจะผิดนะ
ถ้าว่ากันตามจริง ก็คงอาจจะผิดครับ
อันนี้ขึ้นกับกฏหมายแต่ละประเทศครับ
ถ้าของไทยเท่าที่ผมตามข่าว ไม่น่าผิดนะครับ ถ้าร้านสแกนระบุชัดเจนว่าขายบริการสแกน ไม่ได้ขายเนื้อหาหนังสือ และการสแกนแต่ละครั้งมีผู้ว่าจ้างชัดเจน
เท่าที่เคยอ่านข่าวเจอว่าผิดคือร้านสแกน/ซีร๊อกมีไว้เพื่อขาย อันนี้ผิดครับ ถือเป็นการทำสำเนาเพื่อการค้า
lewcpe.com, @wasonliw
ที่คุณลิ่วอธิบายมาถูกต้องแล้วครับ....ข้อยกเว้นที่จะไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ตามกฎหมายไทยก็คือ
มีสิ่งหนึ่งที่ผิดครับ สแกน/ถ่ายเอกสารธนบัตรซึ่งมันบอกได้ยากว่าทำไปเพื่ออะไร (ธนบัตรไม่เกี่ยวกับข่าว) ใน PhotoShop จะป้องกันการพิมพ์ธนบัตรแต่สามารถแก้ไขได้
ถ้ากฎหมายไทยเหมือนตอนสมัยเรียนเวลาไปสแกนหนังสืออันนี้ไม่ผิด แต่ถ้าร้านทำสำเนาไว้แล้วเอาไปขายอันนี้ผิด
ถ้าจำเป็น E-Book ได้ การเรียนน่าจะง่ายขึ้นนะ ......... กด Ctrl+F แหลก ....... 555+
ให้หนังสือสิ้นชีพไปเลย ผมขอผ่านคนนึงล่ะ ใจไม่กล้าพอ T-T
หนังสือมันมีรสสัมผัสครับมีกลิ่นด้วย ผิวสัมผัสของกระดาษ อาาาส์....
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
บางเล่มหมึกติดนิ้วด้วย
บางเล่มมีสสารบางอย่างติดหนังสือด้วย
คิดถึงตอนเช่าการตูนตอนเด็กๆ อ่านแล้วเจอ เฮ้ย นี่อะไร
ดู 191 หน้ากลางอยู่เหรอครับ :)
สำหรับผมสิ่งที่แทนหนังสือไม่ได้ตอนนี้เหลือยู่อย่างเดียว (แต่ก่อนมีสองอย่าง)
1.
ความสบายตาพอมี e-ink เข้ามาก็ดีขึ้นครับ2.ไม่มีแบตหมด ไม่ต้องคอยชาร์จ ไม่ต้องกังวล
+1 ยอมเสียโควต้าให้เลยนะครับ....
ค่าส่งคืน 5 เหรียญ
แต่...ไม่ส่งคืนหนังสือ
"Return Process Fee
Return is only available for Business Documents, Business Cards, Photos and Greeting Cards.
BOOKS WILL NOT BE RETURNED"
ขอบคุณครับ จริงๆก็ว่าเห็นข้อความนี้แล้วนะ แต่คงเช้าไปหน่อย สมองยังไม่ตื่น
เจ้าเพื่อนรัก จงไปเกิดใหม่เป็น PDF ซะ
อยากรู้ว่าโมเดลธุรกิจแบบนี้อยู่ได้อย่างไร
สู้เราซื้อ e-book มาตั้งแต่ต้นไม่ดีกว่าหรือ
และถ้าเป็นหนังสือเก่าก็น่าจะมีคนแสกนย้อนหลังไว้บ้างแล้วนะ อย่าง google book ก็มีให้อ่านฟรีๆ ถึง 3 ล้านเล่ม
บางเล่มมันก็ไม่มีเป็น e-book มั้งครับ แค่ในไทยก็ไม่รู้กี่แสนเล่มแล้ว
มันน่าสนใจจริงๆนะ ใครมาเปิดร้านในไทยหน่อยได้ไหมเนี่ย ?
การ์ตูนไงครับ รกบ้านสุด ๆ
ไม่นับการ์ตูนแสกนแจกในเน็ตนะ อันนั้นมันผิดลิขสิทธิ์
โมเดลธุรกิจนี้อยู่ได้ เพราะปัจจุบันบริษัทที่ทำอย่างนี้มีเยอะแต่ค่าบริการสูง แต่ที่สงสัยคือทำราคาให้ถูกมาก ๆ ได้อย่างไร
คิดถึงร้านถ่ายเอกสารดึงแม๊กออกแล้วเข้าเครื่องซีรอค
คนที่มีหนังสือเยอะๆ อย่างผม มันคือของสะสมอย่างนึก มีค่าทางจิตใจสูงมาก
รักษาพวกมันอย่างดี แทบจะไม่ให้เกิดความเสียหายแม้แต่น้อย (แค่เป็นรอยแทบร้องไห้)
ก็ขอเก็บมันไว้สงบๆ ที่ชั้นว่างแบบั้นล่ะดีแล้วครับ ทั้งนิยาย วิชาการ กาตูน
ว่างๆก็ไปเดินดูแล้วก็หยิบมาอ่านอีกรอบ (ความสุขเล็กๆของคนบ้าหนังสือ)
+1 ผมคนหนึ่ง บ้าหนังสืออย่างแรง....(ไม่มีเวลาอ่านแต่ก็ซื้อมาเกือบทุกเล่มที่อยากได้)
ผมก็สะสมครับ... แต่หลังจากเก็บมานาน หนังสืออ่านไม่เคยมีรอย มากกว่า 1,000 เล่ม (เมื่อ 10 ปีก่อน) มีวันนึง ไปหยิบหนังสือเก่า ขึ้นมา.. ท่านพ่อปลวก แทะ ข้างในไปกว่าครึ่งแล้ว แต่ด้านนอกๆ ยังเนียนอยู่เลย... แถมหนังสือบางเล่มยังเก็บแยกอย่างดีด้วยนะ (เช่น Quiet Storm, Generation Terrorist (GT)
ตอนนี้เลยตัดใจ ถ้าชอบก็ตัดใจฉีกมัน!!!! .... ออกมาสแกนเลย....
หน้าเว็บเค้าเห็นว่ามี บริการส่งคืนนิครับ (แต่ในสภาพที่ตัดสันขอบไปแล้ว) คิดค่าธรรมเนียม $5 -.-
ไม่ครับ ไม่คืนถ้าเป็นหนังสือ ทำนองว่ารูปถ่าย,เอกสารเป็นแผ่นๆ,นามบัตรอันนี้ สามารถขอให้ส่งกลับมาได้
แล้วถ้ามีลูกค้ามาขอสแกนเล่มเดียวกันกับลูกค้าก่อนหน้านี้ล่ะ เค้าก็จะสแกนใหม่ใช่ไหม ถ้ามีสแกนเก็บไว้ๆ เยอะๆ ล่ะ วันนึงจะเอามาขายได้ไหม? แต่อาจจะเอามาขายไม่ได้เพราะผิดลิขสิทธิ์
คงมีตัวแทนสำนักพิมพ์แอบทำตำหนิเล็กๆไว้บางหน้า แล้วส่งไปสแกน ถ้าได้ไม่ตรงกันอาจมีฟ้องร้อง
ถ้าตั้งราคาได้ถูกอย่างนี้
เข้าใจว่า คงจะใช้กลยุทธ์นี้ละมั้งครับ
แต่ถ้าเป็นอย่างนี้จริงก็อาจโดนลูกค้าฟ้องร้องได้นะ
เพราะเมื่อเราเอาหนังสือไปแสกน ก็หวังจะได้รอยขีดเขียนหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เราเคยเน้นไว้ด้วยตัวเองแล้วด้วย
ดีไม่ดีเอาต้นฉบับอันหลังๆไปขายต่อมือสองเลยอีก :D
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ชอบคำว่า "เสมือนหนึ่งมันตายเพื่อไปเกิดใหม่เป็น PDF ให้คุณ" อ่านแล้วยิ้มเลย :D
ฮามากๆครับประโยคนี้ XD
จริงๆ น่าจะจับมือกับสำนักพิมพ์แฮะ หนังสือที่ส่งกลับไปก็ให้สำนักพิมพ์เอาไปขายต่อมือสอง/บริจาค ส่วนสำนักพิมพ์ก็ให้ version pdf กลับมาแทน
ความคิดดีมากเลยครับ :D
ถ้าลงทุนใช้ scaner ความเร็วสูง น่าจะทำธุรกิจนี้ได้ง่ายๆ (แต่เมื่อไหร่จะคุ้มทุนล่ะ)
scanner ความเร็วสูงที่ถูกสุดและพอใช้ก็ราคาประมาณ 20,000 (20 ppm)รองรับงานได้ 4000 หน้าต่อวัน คิดหน้าละ 20 สตางค์ ก็ได้วันละ 800 บาท ให้ค่าแรงตัดหนังสือกับป้อนหนังสือเข้าเครื่องวันละ 500 บาท เหลือกำไรวันละ 300 บาท ทำซัก 2 เดือนกว่าคงคุ้มทุนครับ (สมมุติว่ามีคอมอยู่แล้ว แล้วก็ถัวค่าไฟ ค่าเน็ตกับค่าแรงครับ และต้องมีงานเข้ามาจนเต็มลิมิตด้วย)
My Twitter
ย่อหน้าที่ 5 "ได้ฟังแล้วอย่างเพิ่งดีใจไป" -->>"ได้ฟังแล้วอย่าเพิ่งดีใจไป" (ตรง "อย่าง" กับ "อย่า")
น่าจะเป็น "อย่า" รึเปล่าครับ
ถ้าผม ผิดเองก็ ขออภัยด้วย (อาจจะมึนเอง = =!)
มา :) ผมรับสแกนให้หน้าละ 1 เซนต์ ทั้งเล่มไม่เกิน 6 เหรียญ ใครเอาบ้างแบ่งปันครับ ตัดสัน ไม่คืนรูปเล่ม ในกรณีที่ต้องการคืนรูปเล่มคิดค่าคืนเข้าเล่มต่างหากครับ ส่วนตัวผมทำเก็บไว้อ่านเองครับผมทำไปหลายร้อยเล่มละครับ PDF หนังสือส่วนตัวสแกนแล้วเก็บไว้อ่านส่วนตัว เข้าเล่มเสร็จแล้วบริจาคหนังสือต่อ ผมว่าเป็นประสบการณ์ของการแบ่งปันมากกว่าครับ :)
เห็นด้วยว่าเย็มเล่มใหม่แล้วส่งไปบริจาคในโลกที่สามก็ไม่เลวนะ CSR โดยให้ผู้ว่าจ้างจ่ายเพิ่มเอง เราจัดส่งต่อให้ อิอิ
เชื่อดิไม่ scan ทุกเล่ม แอบจัดเก็บแน่นอน เจอเล่มซ้ำ ส่ง pdf กลับเลย
สำนวนเขียนข่าวนี่ ถ้ามี จอร์จ กับ ซ่าร่า มาเป็นคนอ่านนี่ ใช่เลย 555
ซื้อมือ 1 มาเก็บไว้ หาซื้อหนังสือมือสองไปให้แสกนดีกว่า ^^