หลังจากไมโครซอฟท์เปิดบล็อก Building Windows 8 และเผยฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Windows Explorer "Ribbon" หรืออินเทอร์เฟซ Metro ก็สร้างกระแสวิจารณ์ทั้งบวกและลบ จนหัวหน้าทีมวินโดวส์ Steven Sinofsky ต้องเขียนบล็อกอธิบายเรื่อง Metro/Desktop ไปแล้วครั้งหนึ่ง
แต่กระแสวิจารณ์ดูจะยังไม่จบ (โดยเฉพาะเรื่อง Ribbon) ทำให้ Sinofsky ต้องเขียนบล็อกอธิบายอีกครั้ง เขาแบ่งบล็อกเป็นสองตอนคือ ภาค 1 และ ภาค 2 แต่เนื้อหาต่อกัน
ใจความโดยรวมของ Sinofsky ก็คือ การเผยเฉพาะ "ภาพ" หรือ "วิดีโอ" ของ UI ใหม่ทำให้คนเข้าใจผิด เพราะบางอย่างต้องลองใช้จริงๆ จึงจะรู้เรื่อง เขาเปรียบเทียบว่าเหมือนกับเห็นภาพนิ่งของหนังแล้วตัดสินใจว่าเรื่องราวของมันเป็นอย่างไร
Sinofsky บอกว่าทีมวินโดวส์รับฟังความเห็นของผู้ใช้ในบล็อก Building Windows 8 รวมถึงทวิตเตอร์และอีเมล เขาบอกว่ามีทีมงานระดับอาวุโสกว่า 20 คนคอยตอบคำถามผ่านคอมเมนต์ในบล็อก และขอให้ทุกคนแสดงความเห็นเข้ามาเยอะๆ เพราะบล็อก Building Windows 8 เป็นที่สนใจของพนักงานไมโครซอฟท์อย่างมาก
Sinofsky อธิบายประเด็นเด่นๆ อีก 3 ประเด็น ดังนี้
เขาบอกว่า Ribbon เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของ Windows Explorer เท่านั้น เขาบอกว่าทีมงานคาดอยู่ก่อนแล้วว่า จะมีคอมเมนต์ "เกลียด Ribbon" เยอะเป็นพิเศษ ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงๆ
Sinofsky อธิบายว่าถึงแม้ Ribbon จะเป็นประเด็นถกเถียงว่าดีหรือไม่ดี เหมาะสำหรับผู้ใช้หน้าใหม่หรือผู้ใช้ระดับสูงกันแน่ แต่ผลิตภัณฑ์อื่นของไมโครซอฟท์ที่ใช้ Ribbon นั้นได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงกว่าปกติมาก และสถิติก็บอกว่าคนใช้จริงๆ เยอะ
เหตุผลของการเลือก Ribbon คือการนำคำสั่งต่างๆ ออกมาแสดงให้เห็นชัด และลดจำนวนกลไกต่างๆ ของ UI ลง (เช่น แท็บหรือเมนู) เขาอธิบายว่าไมโครซอฟท์ต้องการ "ทำให้ง่าย" (simplifying) แต่ "การทำให้ง่ายไม่ใช่การซ่อนคำสั่งไม่ให้เห็น" (hiding is not simplifying) โดยเปรียบเทียบกับเมนูแบบซ่อนรายการที่ไม่ค่อยได้ใช้ (adaptive menu) ใน Office 2000 ที่ได้รับเสียงตอบรับแย่มากจากผู้ใช้ ว่าเป็นบทเรียนที่ไมโครซอฟท์เรียนรู้
Sinofsky บอกว่าทีมวินโดวส์จะปรับปรุง Ribbon ของ Windows Explorer ต่อไป โดยจัดกลุ่มคำสั่งให้ดีขึ้น และเลือกคำสั่งให้เหมาะสมมากขึ้น และขอให้ผู้ใช้ส่งความเห็นเข้ามาเรื่อยๆ โดยยืนยันว่าเป้าหมายของไมโครซอฟท์คือ "UI แบบสะอาด" เช่นกัน
เขายอมรับว่ายังไงก็คงมีผู้ใช้บางกลุ่มที่ไม่พอใจ แต่เป็นผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ เท่านั้น และไม่ว่าไมโครซอฟท์จะทำอะไร ก็จะมีผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจอยู่ดี
Sinofsky บอกว่าวิดีโอแนะนำ Windows 8 ครั้งแรกที่ใช้สไตล์ Metro ได้รับเสียงตอบรับดี คนดูกว่า 6 ล้านครั้ง แต่นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของ Metro เท่านั้น
Sinofsky บอกว่าตอนนี้คนเริ่มเข้าใจผิดว่า Aero = ของเก่า และ Metro = ของใหม่ และควรเปลี่ยนของเก่าเป็นของใหม่ให้หมด เขาจึงขออธิบายว่า Metro เป็นแอพชนิดใหม่ ที่พัฒนาจากแอพแบบปัจจุบัน ซึ่งจะประกาศเรื่องนี้ในงาน BUILD (13-16 ก.ย. นี้)
ส่วนประเด็นเรื่องความแตกต่างของ UI แบบ desktop กับ Metro นั้น เขาอธิบายว่าแม้แต่ระบบ desktop เองก็มีความหลากหลายสูงมาก ไมโครซอฟท์รู้เรื่องนี้ดี และเคยพยายามจัดระเบียบให้ UI ของโปรแกรมต่างๆ มีหน้าตาคล้ายๆ กัน ซึ่งก็ไม่เคยสำเร็จ เพราะวินโดวส์เป็นระบบปฏิบัติการที่เปิดกว้างในเรื่อง UI เสมอมา
ดังนั้นเขาเชื่อว่าถึงแม้โปรแกรมแบบเก่าๆ กับ Metro จะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่มันสามารถใช้ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา ในแง่การใช้งาน มันสามารถทำงานร่วมกันได้เหมือนโปรแกรมปกติ ไม่ว่าจะเป็นการกด Alt+Tab เพื่อสลับโปรแกรม, การ copy/paste ข้ามกัน, หรือแม้แต่โปรแกรมเก่าๆ ที่ใส่ตัวตั้งค่าไว้ใน Control Panel จะยังใช้งานได้เหมือนเดิม
ประเด็นสุดท้ายที่ Sinofsky พูดถึงคือ Windows Media Center ซึ่งไม่มีใน Windows 8 รุ่นทดสอบ แต่เขายืนยันว่ามันจะมีใน Windows 8 บาง edition/SKU อย่างแน่นอน (เหมือนกับที่ปัจจุบัน Windows 7 ก็มีเพียงบางรุ่นที่มี Windows Media Center)
เขาบอกว่าการตัดสินใจเลือกว่าฟีเจอร์ใดหรือโปรแกรมใด จะอยู่ใน edition ไหนเป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์ตัดสินใจตอนใกล้จะพัฒนาเสร็จแล้ว สำหรับฟีเจอร์เก่าที่ไมโครซอฟท์ยังไม่ตัดสินใจเลือกใส่ ได้แก่ Media Center, เกมของ Windows 7, DVD Creator, ตัวติดตั้งการอัพเกรด, Dot Net 3.5
Sinofsky เผยสถิติการใช้ Windows Media Center ว่าผู้ใช้ Windows 7 จำนวน 6% ใช้งานฟีเจอร์นี้ โดยประเทศที่ใช้เยอะที่สุดคือรัสเซีย เม็กซิโก บราซิล และมีเพียง 25% ของ 6% ที่ใช้งานนานกว่า 10 นาทีต่อครั้ง ส่วนงานที่ใช้มากที่สุดคือการดูทีวี ในขณะที่การดูแผ่นซีดีและดีวีดีเริ่มมีการใช้งานลดลง
ที่มา - Building Windows 8 (ภาค 1) และ Building Windows 8 (ภาค 2)
Comments
"ไม่ว่าไมโครซอฟท์จะทำอะไร ก็จะมีผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจอยู่ดี" - ไม่เพียงแต่ไมโครซอฟท์หรอกครับ ทุก ๆ คนบนโลก (และนอกโลก) ก็หนีความจริงข้อนี้ไม่พ้นครับ ^^"
ป.ล. ชอบ media centre (แต่ในข่าว 2 ที่เขียนไม่เหมือนกันนะครับ) เวลาทำงานอื่นแล้วเปิดให้มันทำ slide show + ฟังเพลงไปด้วย เป็นอะไรที่ดูดีมาก
Jusci - Google Plus - Twitter
เข้าใจผู้ใช้ได้ดีจริงๆ (ผู้ใช้ก็ต้องยอมทำความเข้าใจมั่งนะ..)
รู้ใจเราจริงเรื่อง ribbon
ผมชอบ ribbon และเข้าใจความคิดของ ms เป็นอย่างดี
เพราะผมก็มีลูกค้าบางคน ที่มีความเห็นแตกต่างจากคนทั่วไป
ว่าทำไมไอ้นู่นเป็นอย่างนี้ ไอ้นี้เป็นอย่างนู้น ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเขายึดติดกับระบบอื่น ๆ ที่เขาใช้มา
ซึ่งผมก็ไม่สามารถเอาใจคนพวกนี้ได้
เพราะมันจะกระทบคนส่วนใหญ่ และ feature ในการใช้งานมันจะแย่ลง
สำหรับผม ribbon เป็น แนว interface ที่ดีที่สุดที่ microsoft เคยทำมา
+1
That is the way things are.
+1
ผมนึกไม่ออกว่า Ribbon UI ที่ผ่านการออกแบบโดยอิงจากสถิติการใช้งานจริง แล้วคัดสรรออกมาให้ใช้สะดวก มันจะแย่กว่า Menu bar แบบเดิมยังไง นอกเสียจากความเคยชินของ User ที่ยึดติดกับการใช้แบบเดิมๆ ทั้งที่ถ้าเปิดใจจะพบว่าแบบใหม่ใช้ได้คล่องตัวกว่ามาก ทั้งผู้ใช้เริ่มต้นไปถึงระดับสูงเลย
+1
ทำเอา windows 7 เราเก่าไปเลยแฮะ .... (ขอราคาพิเศษตอนเปิดตัวอีกนะ)
ชอบประโยคนี้จัง
แอบกัด 55
May the Force Close be with you. || @nuttyi
Minesweeper, Solitaire ล่ะเสะ
เหมือนกับมีความหมายว่า คนที่ชอบไม่ค่อยชม แต่คนที่ไม่ชอบมักจะเหมารวมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบไปด้วย (ก่อนจะบ่นน่ะเคยถามคนอื่นรึยัง)
เห็นด้วยกับย่อหน้าล่างมาก ๆ ครับ
เห็นด้วยกับการใช้ริบบอนในโปรแกรมที่มีฟังก์ชั่นมากมาย ผมชอบมากๆตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองใช้ PowerPoint 2010 และพอมาลองใช้ Word 2010 ก็ใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยแต่หลังจากนั้นประทับใจมากเพราะมันทำให้ผมเข้าถึงฟังก์ชั่นระดับสูงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ
แต่กับริบบอนใน Explorer นี่ผมไม่แน่ใจแฮะ เพราะฟังก์ชั่นระดับพื้นๆที่ใช้คำสั้นๆง่ายๆอย่าง CCP(CopyCutPaste) นั้นไม่น่าจะต้องย้ายไปไว้บนริบบอนเลย เพราะคีย์ลัดสำหรับคำสั่งเหล่านี้เป็นคีย์ลัดพื้นฐานสำหรับคนใช้คอมพิวเตอร์ก็ว่าได้ อีกทั้งมันยังเป็นเมนูที่เรียงอยู่เป็นอันดับต้นๆในการคลิกขวาอีกด้วย แถมสุดท้ายคือคำที่ใช้แทนฟังก์ชันมันก็เป็นคำตรงตัวง่ายๆ
ดังนั้นผมจึงไม่มั่นใจว่าจะได้ประโยชน์จากริบบอนแค่ไหนใน Explorer เพราะสำหรับผมริบบอนมันเป็นเทคนิคการจัดเรียงที่ช่วยให้เราเข้าถึงฟังก์ชันที่เคยเข้าถึงยากให้ง่ายขึ้น หรือช่วยให้เราเข้าใจความสามารถของฟังก์ชั่นอื่นๆที่ไม่ใช่ฟังก์ชั่นพื้นฐานได้ดีขึ้นโดยใช้รูปภาพเป็นสื่อ หรือเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการใช้งานฟังก์ชั่นให้ง่ายขึ้น(เช่นฟิลเตอร์ภาพใน PowerPoint)
แต่ก็แค่ความเห็นแหละครับ ตอนนี้ก็รอใช้เช่นกันครับ หวังว่าผมจะคิดผิดนะ 555
Tablet
แทบนิ้วค้างไว้วินึงก็น่าจะดีกว่าย้ายมือไปกดปุ่มอื่นนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแทปเล็ตที่ต้องถือและจิ้มหน้าจอ มันไม่สะดวกหรอกครับที่จะต้องย้ายตำแหน่งมือบ่อยๆ
คลิกขวามันไม่ได้มีทุกเมนูที่อยู่ใน Toolbar ครับ
สำหรับ Windows Explorer มันมีไม่กี่อย่างเองนะครับ จะทำให้รกไปทำไมครับ
คีย์ลัดทุกอย่างก็ยังอยู่ที่เดิมนะครับ
ครับอยู่ที่เดิม แต่อย่างที่บอกว่า ใน Windows Explorer มันมีอยู่ไม่กี่อย่างเองครับ
ช่องค้นหา, Layout, Burn, properties, folder option, share มีอยู่ข้างแท็ปข้างบนเดิม
CutCopyPaste, UndoRedo, Delete, New folder เออ Open with..., zip
มันมีอยู่ไม่กี่อย่างเองครับ แต่ในภาพที่ออกมากลายเป็นว่าเขายัดลงไปจนเหมือนเยอะไปหมด แต่พอไล่ดูมันก็เท่าเดิม การเข้าถึงก็ไม่ได้ง่ายกว่าเดิมซักเท่าไหร่(อาจง่ายขึ้นนิดๆมั้ง ในบางอย่าง แต่เปลืองที่และดูรกเกินไป เมื่อเทียบกับความสะดวกได้มา)
อุ๊ปส์ซ้ำ เหลือโคว์ต้า 2 ครั้งเลย T T
ปล.ส่วน Metro ผมชอบใน WP7 ครับ เชียร์เพื่อนซื้อไปแล้วคนนึง ส่วนแทปเล็ตรอดูอยู่ครับ
Ctrl+F คนรู้จักกี่ % (ข่าวเก่า)
ช่องค้นหาก็อยู่ด้านบนเหมือนเดิมครับ
ปล.เหลือโคว์ต้า 1 แล้ววว
ตอนนี้ผมก็นึกออกว่าการใช้ริบบอนทำให้ UI ของระบบรวมมันเป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุกส่วนของระบบ ซึ่ง...มันก็ดีนะครับ แต่อยากให้เขายุบบางอย่างออกไปมั่งนะครับเพราะริบบอนในภาพมันดูรกเกินไป อะไรไม่จำเป็นต้องใส่ในริบบอนก็ยุบไปบ้าง เพราะเยอะไปหน่อยหน่ะครับ
ส่วนถ้า minimize ไปมันก็ดูกลายเป็นไอคอนเล็กๆที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ไปเลย แถมไม่เข้ากับ theme ริบบอนในโปรแกรมอื่นๆอย่างมากด้วยครับ
อันนี้คือความคิดเห็นของเฉยๆนะครับ ราตรีสวัสดิครับพี่ๆทั้งหลาย ^^
ต้องเปลี่ยนความคิดก่อนครับ Ribbon ไม่ใช่ Toolbar ครับ
แต่มันคือ Menubar ครับ คือการเอาทุกอย่างในเมนูออกมาเป็น Icon ที่สามารถจับต้องได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องแสดงเป็น List ให้ซับซ้อน ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ Office 2003 > 2010 จากที่คุณไม่เคยแตะหรือหาเมนูที่ซับซ้อนเจอ คุณก็เข้าถึงมันได้ง่ายขึ้นด้วยการมอง หรือลากเมาส์วางทิ้งไว้บน Ribbon แล้วดู Real-Time Preview โดยที่ไม่ต้อง Apply
ซึ่งหากคุณใช้ Ribbon เป็นแล้ว คุณยังอยากกลับไปใช้ Menu แบบ List เหมือน Office 2003 อีกไหมครับ
และในเมื่อมันคือ Menubar มันก็ต้องมีเมนูทุกชนิดที่อยู่ในนั้น ที่สำคัญ มันย่อ Minimize ได้ครับ ผมแนะนำให้ลองเล่นใน Office 2010 หรือ Outlook หรือ Paint ดูก่อนครับ แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้ย่อเป็นไอคอนเล็กๆ แบบ Toolbar (ก็มันไม่ใช่ Toolbar)
ผมนั้นใช้งานทุกวันบน Outlook ผมจึงสามารถพูดได้ครับ ซึ่งปกติแล้วบน Outlook ผมก็ Minimize เอาไว้ เพื่อให้มีพื้นที่ในการอ่าน Mail มากที่สุด พอจะใช้เมนูผมก็จะคลิกที่ Ribbon (เช่นเมนู File) มันก็จะโผล่ออกมา และหลังจากที่ผมใช้มันเสร็จแล้ว มันก็จะ Auto-Minimize ตัวเองกลับไปสู่ที่เดิมของมัน.. (ตราบใดที่เรายังเซ็ตให้มัน Minimize)
Minimize แล้วก็เหลือแค่นี้ ผมว่าดูกลืนกันดีออก เหมือนเมนูธรรมดาๆ
(แต่จะมีซักกี่คนที่เคยเล่นจริงๆ..)
ผมแค่รู้สึกว่า. Windows Explorer. มันมีอะไรน้อยเกินไปจนการเปลี่ยนมาใช้ริบบอนอาจไม่มีประโยชน์ครับ ผมใช้ office2010 อยู่เช่นกันครับ
หมายความว่าแบบ List ดีกว่าหรือเปล่าครับ ?
ผมคิดว่าทีม Dev น่าจะรู้ถึงประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าท่านนะครับ..
รอบตัวผมเป็นแค่ User ธรรมดา ไม่มีใครรู้จัก shortcut keys เลยครับ อะไรที่ไม่มีปุ่มโผล่มาให้กดเห็นชัดๆ นี่ใช้งานไม่ได้เลย
ใช่ครับ เพราะหลายคนยัง "Edit > Select (All)" ไม่ก็ "[Right-Click] > Copy, delete,..."
การกดครั้งเดียวแล้วได้คำสั่งที่ต้องการ สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว มันเยี่ยมมากครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมมองว่าการ คลิกขวา(หรือแท๊ปค้าง)แล้วกดเมนูที่โผล่ขึ้นมาโดยไม่ต้องเลื่อนมือไปกดที่อื่นไกลๆมันดูโอเคกว่า(สำหรับ CutCopyPaste นะครับ )
ผมมองว่ามันลดได้อีก 1 คลิกก็น่าจะมีประโยชน์แล้วครับ
สมมติจะ copy หลายๆ ไฟล์
ถ้าไม่มี Ribbon: 1.ลากคลุมไฟล์ 2.คลิกขวา 3.เลือก Copy
ถ้ามี Ribbon: 1.ลากคลุมไฟล์ 2.เลือก copy (บน Ribbon)
ก็ไม่รู้นะ มันแล้วแต่คนจะถนัดหรือชอบครับ
Media Center ยิ่งเอามาใช้กับรุ่นที่มีรีโมทนี่ยิ่งแจ่มครับ
เสียงดี แถมผมไม่ต้องลุกจากเตียงเลย เวลาจะเปิดแต่ละที
คอนโทรลจากรีโมทอย่างเดียวเลย แจ่มเป็ด
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ผมชอบริบบอนนะครับ มันใช้ง่ายอ่ะ หาง่ายดี
ปล.ตอนแรกๆ ที่ ms เปลี่ยนจากไอคอนบนทากส์บาร์จากที่มีชื่อโปรแกรมอยู่ด้วย ใน vista มาเป็นไอคอนเดี่ยวๆ บน 7 ผมก็รับไม่ได้นะ แต่ใช่ไปใช้มาก็เวิร์คดี เปิดโปรแกรมเยอะที่สุดก็ไม่เคยเต็ม เลยเข้าใจไปเองว่าคนเราคงไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไร ฮ่าๆ
ส่วนเมโทร ผมกลับไม่ค่อยชอบสักเท่าไร แต่ต้องรอดูหน้าตา windows 8 ในส่วน aero ว่าจะเข้ากันได้รึปล่าว
และสุดท้าย WMC ผมไม่ได้ใช้เลยครับ
"ลองใช้" หรือเปล่าครับ
มี Metro มี Aero มี Media Center จับฉ่ายจริง ๆ ครบขนาดนี้ใครยังจะบ่นอะไรอีก
"ใส่อะไรมาเยอะแยะ รกเครื่อง" อาเมน
ผมว่าระยะหลังมานี้ ms ก็ทำได้ดีนะครับ เราใช้อะไรแค่ไหน เราก็เลือกอิดิทชั่นที่ตรงตามความต้องการของเรา
+1 จริงครับ ดีขึ้นเกือบทุกอย่างเลย (หวังเล็ก ๆ ว่า WLM จะดีขึ้นอีก ฟังก์ชันดีผมชอบมากแต่อืดไปหน่อย คงเพราะเวลายุบลงแล้วมันคืนแรมเลย) ผมแค่ประชดพวกบ่นไปเรื่อยน่ะครับ
ถ้าเคยดู video เกี่ยวกว่าจะมาเป็น Ribbon จะเข้าใจครับว่า control ตัวนี้เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ คนที่บ่นส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกไม่ชอบการปรับตัว เหมือนคนที่ชอบใช้ command แทน UI แต่จริงๆ Ribbon มันก็ย่อได้หรือซ่อนให้เหลือแต่ Tab Header ก็ได้ จริงๆ ตัว Ribbon ผมคิดว่า Microsoft พยายามเอามาใช้เพราะจะรองรับ Touch Input มากกว่า เพราะตัว Windows Explorer แท้ๆ มันก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร ยกเว้นจะทำไปต่อกับชาวบ้าน หรือจัดการไฟล์ตามประเภท
ส่วน Metro UI นี่ ผมดูยังๆ มันก็เหมือน Theme ที่ออกแบบไม่เสร็จอยู่ดี โดยเฉพาะหน้า Home ทั้ง Windows Phone กับ Windows 8 แต่มันอาจจะดีสำหรับ Hardware ที่ไม่แรงเช่นพวก ARM ผมว่าในแต่ละกล่องมันควรจะมีการใส่แสงเงาบ้าง ไม่ใช่สีเดียวล้วนๆ คล้ายๆ ของ Link ข้างล่าง
What's your inbox like?
พูดถึง Metro UI นี่ ผมเองแรกๆ ก็เห็นแต่ในภาพ ก็คิดว่ามันคงไม่เวิร์ค หน้าตาก็ไม่สวย ไม่มีอะไรน่าสนใจ
แต่พอได้ใช้จริงจังใน WP7 ทำให้ผมพบว่ามันเป็น UI ที่ออกแบบมาดีมาก เน้น user experience จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจาก MS เจ้าพ่อความเยอะ :P
หน้าตาเรียบๆ แต่อ่านง่าย เข้าใจง่าย ใช้ภาพอธิบายแทนข้อความ ภาพก็มีแค่สีเด่นๆ หรืออาจจะสองสี ถึงจะไม่สวยแต่ดูแล้วเข้าใจในสิ่งที่เห็นได้เร็ว เพราะไม่มีรายละเอียดอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าง texture หรือเงาเข้ามาเพิ่มความซับซ้อนของ icon ที่ทำให้เสียเวลาตีความมากขึ้น ..คนใช้ก็แค่กวาดสายตา แล้วก็จิ้มในสิ่งที่ต้องการ จะเปลี่ยนหน้าก็ปัดซ้ายขวา ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไม่งงด้วยถ้าเข้าใจแนวคิดมัน
แถมจะว่าไปทั้ง OS มี UI ที่เป็นเอกภาพดีมาก ตำแหน่งปุ่มอยู่จุดเดิมหมด (และไม่เล่นซ่อนแอบเมนูแบบหุ่นเขียว) และถึงจะหน้าตาเรียบๆ แต่ไปเน้น transition อลังการแทน
คือแนวคิดมันค่อนข้างต่างจาก UI เดิมๆ ไปบ้าง แต่บางคนแค่เห็นก็บ่นว่าใช้ยาก ซึ่งก็คงต้องลองใช้จริงจังจะพบว่าเขาออกแบบให้ง่ายกับผู้ใช้ สะดวกกว่า UI แบบดั้งเดิมในกรณีที่เป็นอุปกรณ์พกพา คล้ายๆ กับกรณี Ribbon คือเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ของผู้ใช้มันไม่ง่าย กระแสต่อต้านยังเยอะ ต้องค่อยๆ ให้เวลาช่วยเปลี่ยนผ่านไป
ว่าแต่อยากจะบอกว่าของพวกนี้อย่างที่เขาว่าจริง ก็เหมือนกับการดูภาพนิ่งจากภาพยนตร์ ยังไงก็ไม่อินไปกับเรื่องนั่นเลยครับ จนกว่าจะได้ดูตัวภาพยนตร์จริงๆ
+1
Ribbon แจ่มสุดแล้ว ตั้งแต่ Office 2007 ใช้แล้วประทับใจ ง่ายขึ้นเยอะ
สมัยใช้แล้วอืด ผมก็ยังใช้ เพราะประทับใจ
ใน Office 2007-10 อารมณ์แรกคือ มันสวย
แต่ตอนใข้งาน แอบเซ็งคำสั่งเคยใช้ ปรกติ(2003)มันต้องกดเมนูบาร์แล้วเข้า โน่น นี่ นั่น ถึงจะได้งานตามที่ต้องการ แต่ใน 2007 เข้าไปไม่เจอ บางคำสั่ง(รู้สึกเหมือนจะ)ไม่มีด้วย เดือดร้อนพี่กู(เกิล) ได้คำตอบว่า มีให้กดที่ Ribbon ตูมเดียวจบ จากนั้นเวลาหาคำสั่งอะไรจะมองจาก Ribbon ก่อนเลยครับ ถ้าไม่มี ไม่เจอ ค่อยเข้าจาก "แถบคำสั่ง"
ตัวอย่างชัดๆ การใส่ลายน้ำ ใน Word 2010 กดครั้งเดียว ได้ลายน้ำเลย
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
คงเหมือนสมัยเปลี่ยนจาก dos -> windows มั้งครับ
บางคนเช่นผม ยังชอบใช้ command line มากกว่า เพราะ (คิดเอาเองว่า) มันสะดวก ไม่ต้องมานั่งจับ mouse
แต่เอาเข้าจริง มันก็แค่ความเคยชิน ไม่อยากจะปรับตัวมากกว่า