By: arjin 
on 6 September 2011 - 11:39
Tags:
Topics:
แอปเปิลเตรียมเปิดร้าน Apple Store สาขาแรกในฮ่องกง โดยมีรายงานข่าวว่าร้านมีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 24 กันยายนนี้ สาขาดังกล่าวจะตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า International Finance Centre (IFC) ซึ่งอยู่ใจกลางฮ่องกง มีพื้นที่ 2 ชั้น คาดว่าจะใช้พนักงานรวมกว่า 300 คน และน่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 40,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตามตัวแทนของแอปเปิลปฏิเสธที่จะยืนยันวันเปิดให้บริการดังกล่าว
แอปเปิลยังมีแผนจะเปิด Apple Store สาขาที่สองในฮ่องกงด้วยในปีหน้าที่ Hysan Place บริเวณอ่าว Causeway
ปลายปีคนไทยนิยมไปช้อปปิ้งกันที่ฮ่องกงอยู่แล้ว คาดว่า Apple Store ก็คงเข้ามาอยู่ในลิสท์ของปีนี้กัน
ที่มา: Apple Insider
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ทำไมผมคิดว่าหุ้นของ Low cost airway จะสูงขีืนนะ ^_^
คนที่ไปก็คงไปเหมือนเดิมครับ คนที่ไม่ไปก็คงไม่ไปเหมือนเดิม
ส่วนผมอยากไป ก็ไม่ได้ไปเหมือนเดิม แต่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าในชีวิตจะต้องขึ้นเครื่องบินสักครั้งให้ได้
ฟังแล้วอนาถเนอะ
เดี๋ยวนี้หาถูกๆก็มีนะครับ บินไปกลับวันเดียวสามพันกว่าบาท ถ้าคิดว่าบินไปซื้อคอมสักตัวที่เหลือเดินเที่ยวยังคุ้มเลยครับ
รอโปร 0 บาท แอร์เอเซียซิครับ
ผมไปกลับฮ่องกง 2 คน 46xx บาท ถูกกว่าค่ารถทัวชั้น 1 ไปภูเก็ตซะอีก
ค่ากินอยู่ที่นู่นพอๆกับไปเที่ยวภูเก็ตแหละครับ โรงแรมก็นอนพวกโฮสเทล จะเปลืองก็แต่ค่าช๊อปปิ้ง 55555
ผมไม่เคยไปต่างประเทศเลยครับ บินแต่ในประเทศ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ถามแบบไม่รู้จริง ๆ นะครับ ถ้าผมจะไปซื้อที่ Apple Store สาขาฮ่องกง มันดีกว่าผมซื้อที่ร้าน istudio ในบ้านเรายังไงครับ เพราะก็มีประกันเหมือนกัน
นอกจากระดับความ "ไฮโซ" ที่ต่างกันแล้ว ไปที่นั่นอาจจะไม่ได้เป็น "เซเลบ" เหมือนที่รู้สึกได้ในร้านสาขาในไทย อิอิ เพราะเข้าไปแล้วความสวยหรูมันหาพบไม่ได้ จะดูสินค้าอะไรต้องต่อสู้กับอีป้าแผ่นดินใหญ่ ที่หอบกระสอบจะขนข้ามฝั่งไปประเทศตัวเอง (ฮา)
(ล้อเล่นนะ ที่ IFC จริง ๆ คนจีนแผ่นดินใหญ่ยังไม่ค่อยเดินมากเหมือนกับจิมชาจุ่ย)
แต่ถ้าของอะไรเสีย จุดที่ต่างกันคือมันมี Genius Bar ครับ ซึ่งบริการ Genius Bar ของจริงของแอปเปิลต่างจากบริการของ "ตัวแทนจำหน่าย" อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การเปลี่ยนเครื่องให้ทันที การตกลงรับซ่อมที่ทันทีกว่า ฯลฯ
ตัวแทนจะซ่อมที ต้องสั่งชิ้นส่วนมาอีกต่อ ถ้าเขาไม่แน่ใจจริงว่าซ่อมได้ในประกัน เขาจะไม่ค่อยชอบรับมาซ่อมครับ
@TonsTweetings
Genius Bar ไม่ได้ดีไรขนาดนั้นนะ
ซื้อ ipad istudio check dead pixel ก่อนจ่ายเงินได้ ซื้อ Apple Store ไม่ได้นะครับจ่ายก่อนถึงแกะได้ รวมถึง imac, macbook ทั้งหลายด้วย แล้วจุดสองจุดนี้ก็เครมไม่ได้ด้วย ต้องตามกฏขั้นต่ำเค้า
ผมไม่เคยซื้อคอมจาก Apple Store ครับ เคยแต่พวก accessory กับมือถือ แต่ส่วนใหญ่เวลาผมซื้ออะไรบอกตามตรงผมไม่เคยเช็ค dead pixel นะครับ เลยไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เรื่องการเช็ค dead pixel ไม่ได้อยู่กับ Genius Bar แน่นอน (ผมชมแต่ Genius Bar นะ โดยเฉพาะเรื่องความรวดเร็วในการตัดสินใจว่าอะไรซ่อมได้ไม่ได้)
ส่วนเรื่องซื้อ ผมซื้อผ่าน Online Store ตลอดครับ เพราะใช้ราคา Education ตลอด และก็ CTO เกือบทุกครั้ง
@TonsTweetings
อาจได้แบกคอมไปเคลมที่ฮ่องกง = ='
ปกติ apple ที่ฮ่องกงถูกกว่าไทยครับ ยิ่งรุ่นราคาระดับบนแล้วถูกกวาเมืองไทยมาก คุ้มค่าตั๋วเครื่องบินที่บินไปซื้อเลย เพราะซื้อมาก็ประกันที่เมืองไทยได้ (ผมเคยซื้อ Mac book รุ่นเล็กสุด ถูกกว่าเมืองไทย 5,000 กว่าบาทได้)
* แต่ไม่แน่ใจว่าร้านของ Apple เองจะราคาถูกกว่าเมืองไทยหรือเปล่านะครับ
ลองเทียบราคาจาก Store ของทั้งสองประเทศดูก็ได้ครับ http://store.apple.com/hk http://store.apple.com/th
ผมลองคำนวณดูเล่นๆ ถ้าซื้อ Mac Pro ราคาต่างกันหมื่นนึงเลย ^ ^' แต่หิ้วเข้ามาจะโดนภาษีที่สนามบินเท่าไหร่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับเนี่ย
สงสัยเรื่องนี้ครับ ถ้าเราทิ้งกล่องทิ้งอะไรไปหมด แบบว่าเหมือนของใช้ส่วนตัวที่เอาไปเองจากบ้านล่ะครับ?
ด่านศุลฯ จะมีวิธีอย่างไรตรวจสอบได้ว่า หิ้ว/ไม่ได้หิว
เพื่อนอยู่ ออสเตียเลีย จะฝากซื้ออะไรนิดหน่อย ^^
^
^
that's just my two cents.
ปรกติเขาจะสุ่มตรวจครับ แล้วเท่าที่รู้ถ้าไม่ได้เอาอะไรเข้ามามากมายเขาก็จะไม่ว่าอะไร
อุปกรณ์ไฟฟ้า แบบติดตัว ซื้อได้เครื่องเดียวครับ
ถ้าคุณไม่มีโน๊ตบุคไปด้วย ก็ซื้อแล้วถือเดินเข้ามาได้เลย แต่... ต้องแกะแล้ว เปิดใช้งานแล้ว
แต่ถ้าคุณมีโน๊ตบุคอยู่แล้ว แล้วซื้ออีกเครื่องเข้ามา อันนี้เครื่องที่สองมีสิทธิ์โดนคิดภาษีครับ
ปกติเค้าไม่มาเรื่องมากหรอกครับ แต่ถ้าคุณใส่กล่อง ห่อมาอย่างดี อันนี้อาจจะโดนเรียก เพราะคนซื้อมาใช้จริงๆ กับคนซื้อมาขาย ลักษณะการเก็บของมันต่างกันครับ
ผมไปบ่อยครับ ต้องขอบอกครับ ว่า
แล้วแต่ดวง ดวง ดวง แล้วก็ดวงครับ
ขึ้นอยู่กับดวง เหตุผล และการวางท่าตอนเดินผ่าน ตม. ครับ
บางครั้ง เดินทำเป็นเชิด ๆ ก็โดนเรียกมาตรวจ
บางครั้ง เดินแบบง่วง ๆ มึน ๆ ก็โดนเรียกมาตรวจ (แต่ส่วนใหญ่ไม่โดน)
บางครั้งเขาจะถามครับว่าเดินทางมาจากไหน ส่วนใหญ่ถ้าจากประเทศพวกออสเตรเลีย อังกฤษ และอเมริกาและบอกเหตุผลว่าไปเรียนมาจะไม่โดนครับ แต่ถ้าบอกว่ามาจากฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน อิตาลี เตรียมตัวไว้ก่อนเลย
@TonsTweetings
ขอบคุณทุกท่านมากครับ พอดีช่วงต้นเดือนตุลาผมจะไปที่นั่นพอดี เดี๋ยวจะลองแอบแวบไปดู ipad สักหน่อย
เคยไปสาขาซานฟราน สมัย iPod บูมๆ iPhone ยังไม่เกิด ชั้นวางของก็เหมือนกับบ้านเราล่ะครับ ที่ต่างกันชัดเจนคือชั้นสองเขาเอาเก้าอี้มาวางๆ เปิด session สอนโปรแกรมต่างๆ ของ Mac เดินอยากนั่งฟังก็นั่ง ใครช็อปก็ช๊อปไป แล้วที่ต่างอีกอย่างก็ "ถุงขาวมุกแปะ logo Apple" ที่หาที่เมืองไทยไม่ได้ :p
Apple Care สำหรับ MacBookPro 15/17 inc ราคาต่ำกว่าที่ไทย 2400 บาท น่าสนเลยทีเดียว
เพราะผมเห็นคนที่หิ้วส่วนใหญ่ ซื้อ AppleCare แล้วก็แกะที่นั้นเลย เอาเฉพาะ KEY มาขายต่อ
เครื่องใช้ไฟฟ้าถ้าไม่ได้ซื้อมาเยอะๆ หรือมาขาย เขาไม่ค่อยจับครับ ส่วนใหญ่จะหาเหล้า บุหรี่
twitter.com/djnoly
ห้องน้ำจะทำด้วยกระจกใสๆแบบนั้นมั๊ยนะ 555555