หลังจากที่ Facebook เปิดตัวหน้า Profile แบบใหม่ Timeline และ API ใหม่ Open Graph ตามข่าวก่อนหน้านี้ โดยตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองสำหรับนักพัฒนา (แต่คนแถวนี้คงไปลองกันเยอะแล้วตามรีวิว) ก็เกิดข้อกังวลว่า Facebook แบบใหม่นี้ดูเหมือนจะ "เปิดโปง" ผู้ใช้งานมากเกินไปแทบทุกฝีก้าว โดย Timeline มีกำหนดเปิดตัวสำหรับผู้ใช้งานทุกคนในวันพรุ่งนี้แล้ว หลายคนคงไม่ชอบแต่ในเมื่อถ้าเราเลือกจะอยู่กับ Facebook ต่อไป เราก็ควรรู้เท่าทันและควบคุมความเป็นส่วนตัวตามต้องการเช่นกัน ซึ่ง Mashable ได้สรุปแนวทางเบื้องต้นในการควบคุมการเป็นส่วนตัวไว้ดังนี้ครับ
ตรวจตราให้แน่ใจก่อน Publish
Facebook ไม่โหดกับเราเสียทีเดียวที่จะเปลี่ยนหน้า Profile เป็น Timeline ออกไปทันที แต่เปิดโอกาสให้เราตรวจดูหน้า Timeline ของเราในขั้นแรกก่อนที่จะเลือก Publish ออกไป (ซึ่งไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่านานแค่ไหน) ในจุดนี้หน้าที่ของเราคือตรวจดูให้ทั่วตั้งแต่ปัจจุบันย้อนไปอดีตว่ามีเนื้อหาส่วนไหนที่ Facebook "ขุด" ออกมาแสดง แต่เราไม่ต้องการมัน ก็เลือก "edit or remove" เพื่อซ่อน ลบ หรือปรับระดับการแสดงผลด้วย Lists โดยเราสามารถดูเนื้อหาในอดีตทั้งหมดที่สามารถแสดงใน Timeline ของเราได้ที่ปุ่ม "View Activity" ซึ่งอยู่ด้านบน
ถ้าหากคุณรู้สึกว่าการต้องมาตรวจดูทีละโพสต์เป็นกิจกรรมใช้แรงงานเกินไป คุณอาจเลือกควบคุมการแสดงผลเนื้อหาทั้งหมดในอดีตไปเลยทีเดียวก็ได้ โดยไปที่ Privacy Setting Page แล้วเลือก "Limit the Audience for Past Posts"
นอกจากนี้กรณีที่คุณเป็นผู้ใช้งานที่มักปรับระดับการแสดงผลในแต่ละโพสต์ มีคำแนะนำเพิ่มเติมให้ใช้ "View As" (ปุ่มอยู่ติดกับ View Activity) เพื่อตรวจให้แน่ใจซ้ำอีกครั้งว่าคนที่พิเศษสำหรับคุณ จะไม่เจอเนื้อหาที่คุณไม่ประสงค์ให้เขาเห็น เช่น แฟนปัจจุบันอาจเห็นรูปแฟนเก่า เจ้านายอาจเห็น status ที่คุณไม่อยากให้เขาเห็น เป็นต้น
ระวังแอพ อ่าน ฟัง ดู และอื่นๆ
Open Graph ทำให้แอพต่างๆ มีความสามารถในการล้วงลับข้อมูลการใช้งานของเราได้มากขึ้น แอพเหล่านี้จะแสดงผลทันทีบน Ticker ให้เพื่อนเราเห็นเมื่อเรากำลังทำอะไรต่อมิอะไรอยู่ นอกจากนี้มันยังมีสามารถแสดงเนื้อหาลงใน Timeline ของเราได้ทันทีโดยไม่มีการร้องขอก่อนแบบที่ผ่านมา ซึ่งตัวอย่างที่ Mashable ยกมาคือมีเพื่อนคนหนึ่งเพิ่มแอพ Washington Post Social Reader ลงไปใน Timeline และมันก็แสดงเนื้อหาว่าเพื่อนคนนี้อ่านข่าวอะไรไปบ้างทันทีโดยไม่มีการร้องขอ ทำให้เขาพบว่าข่าวที่เพื่อนอ่านเป็นข่าวจำพวกสาวเซ็กซี่ หรือข่าวทะลึ่งทั้งหลาย ... บางทีคุณคงไม่อยากให้ใครรู้อะไรแบบนี้แน่
คำแนะนำคือก่อนเพิ่มแอพใดๆ เข้าไปใน Timeline ให้เลือกระดับการแสดงผลที่ผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วเท่านั้น กรณีแอพอ่านข่าวแบบนี้ เพื่อป้องกันปัญหาการแสดงผลที่ไม่เหมาะสมของเราเองก็ควรตั้ง Only Me ไปเลยเสีย
แอพอื่นๆ ที่จะมีลักษณะคล้ายกันแบบนี้ก็ได้แก่แอพอ่านข่าว ดูทีวี ฟังเพลง อ่านหนังสือ (เช่น Kobo) หรือแม้กระทั่งแอพรายงานผลการวิ่งวันนี้อย่าง Nike+ ก็เช่นกัน ถ้าหากจำไม่ได้แล้วว่าเคยเพิ่มแอพอะไรไปบ้าง ก็เข้าไปจัดการได้เลยที่ App Setting
ขอให้สนุกกับชีวิตใน Facebook รูปแบบใหม่ นับจากนี้ครับ
Comments
อาทิเช่น -> อาทิ หรือ เช่น คำเดียวก็พอครับ :D
อาทิ กับ เช่น มีความหมายเดียวกันแต่เป็นคำที่คนส่วนมากมักจะใช้กันผิด โดยใช้ร่วมกัน
ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นครับ
ถูกต้องครับ
อาทิ ความหมายเดียวกับ เช่น
อาทิเช่น = เช่นเช่น
ด้วยความเคารพครับ
คำแนะนำอีกข้อ ไปเล่น G+ แทน แล้วลากเพื่อนๆ ไปด้วย โฮ่ๆๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
Facebook เริ่มวุ่นวายขึ้นทุกวัน
เริ่มเยอะขึ้นจนบางทีก็รู้สึกว่า ทำไมเราต้องใช้มันด้วยเนี่ย ?
โดนมาแล้วครับ แฟนปัจจุบัน เห็นรูปแฟนเก่าอันนี้ไม่เท่าไร แต่เห็น note ที่เราเขียนไว้ง้อแฟนเก่าตั้งแต่ปีที่แล้วโผล่มาใน timeline TT^TT งานเข้าเลยทีเดียว
facebook timeline ทำให้ชีวิตเสมือนจริง มีจริง ชีวิตจริงเป็นไง facebook ก็มีอย่างนนั้น
ก็ดีนะครับ ต่อไปจะคิดจะพิมพ์อะไร จะได้ระมัดระวังใจตัวเรา (โดยเฉพาะคนที่กิ๊กเยอะ)
FB ผมไม่กล้าแอดแฟนคนปัจจุบันไว้เลย บางทีทักทายหรือแซวกันเล่นประสาเพื่อน คนเป็นแฟนเราเค้าอดคิดมากไม่ได้อยู่แล้ว..... เจ็บมาเยอะ 555+
โอย ยากอ่ะ ขนาดผมว่าผมรู้เรื่องอะไรพวกนี้พอสมควรนะ แต่เจออันใหม่ไปนี่ ผมมึนส์เลย