ราคา 199 ดอลลาร์ของ Kindle Fire อาจทำให้หลายคนฉงนสงสัยว่าทำได้อย่างไรกัน (ซึ่ง Amazon ก็คงไม่ยอมบอก) ก่อนหน้านี้มีนักวิเคราะห์ออกมาประเมินแล้วว่า Amazon ขายขาดทุนเครื่องละ 50 ดอลลาร์
ล่าสุดเป็นคิวของ iSuppli จอมแกะเครื่องเพื่อหาต้นทุนฮาร์ดแวร์ ออกมาประเมินแล้วว่าต้นทุนฮาร์ดแวร์ของ Kindle Fire อยู่ที่ 191.65 ดอลลาร์ต่อเครื่อง เมื่อรวมกับค่าประกอบเครื่องแล้วจะอยู่ที่ 209.63 ดอลลาร์ต่อเครื่อง
ชิ้นส่วนที่แพงที่สุดของ Kindle Fire คือจอสัมผัสชิ้นละ 87 ดอลลาร์ ตามด้วยตัวเมนบอร์ดรวมอุปกรณ์บนบอร์ด 70.40 ดอลลาร์
แต่เมื่อรวมต้นทุนด้านอื่นๆ และรายได้ที่ Amazon จะได้จากการขายเนื้อหาดิจิทัล iSuppli คาดว่า Amazon จะได้กำไรเฉลี่ยประมาณ 10 ดอลลาร์ต่อเครื่อง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจต้องดูเทียบกับยุทธศาสตร์ระยะยาวของ Amazon ในการครองตลาดเนื้อหาดิจิทัลด้วย
ที่มา - iSuppli
Comments
ยังงี้ต้องไปเหมา มาขายต่อหลังร้าน amazom :P
O_0
iPad ต้นทุน $260 ขาย $499
ต่างกันลิบ
อาณาจักร content provider ในต่างประเทศมันช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน
twitter.com/djnoly
razor-blade model
ไม่โดนข้อหาพวกทุ่มตลาด?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เออนั่นสิครับรู้สึกแทบจะไม่เคยได้ยินข้อหานี้ในอุตสาหกรรมไอทีเลยแฮะ
อย่าเลย เดี๋ยวอดใช้ของดีราคาถูก
ผมไม่เข้าใจข้อกำหนดเรื่องการทุ่มตลาดเหมือนกันครับ ว่าเงื่อนไขเป็นอย่างไร เด๋วต้องไปหาอ่าน
แต่สมมุติว่ามันผิด ก็ไม่ควรค้านว่าผลเสียตกที่ผู้บริโภคนะครับ เพราะไม่งั้นโลกนี้คงไม่มีพื้นที่ให้รายเล็กกว่าเงินน้อยกว่าแข่งขันนะครับ เพราะรายใหญ่ทุ่มตลาดไม่ผิดคงแย่อ่ะครับ
ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นดารทุ่มตลาดที่ผิดกฏหมายคือมันจะต้องก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตลาดเดิมด้วยครับ ดังนั้นการลดราคาเพื่อแข่งขันจึงยังไม่ครบองค์ประกอบ
ลักษณะการทุ่มตลาดมันซับซ้อนมากครับ การทุ่มตลาดบางประเภทไม่ผิดกฏหมายก็มี อย่างการลดราคา Touch Pad ก็เป็นลักษณะหนึ่งของการทุ่มตลาดเช่นกัน
แต่ถ้า Apple ลดราคา iPad ลงสัก 100$ นี่ไม่รอดแน่นอน :D
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
แต่ปัจจุบันแอปเปิลก็ยังขายในราคาสูงกว่าทุนอยู่มากนะครับ ถ้าลดราคาลงมาก็ไม่น่าจะโดนนะครับ กลไกมันเป็นยังไงกันแน่ครับเนี่ย :p
ไม่สามารถระบุเงื่อนไขเป็นข้อๆได้ครับ ข้อเท็จจริงต้องดูเป็นกรณีไปครับการจะเป็นการทุ่มตลาดได้โดยหลักจะดูทั้งเจตนาประกอบกับผลกระทบต่อตลาดเมื่อทำการทุ่มตลาดไปแล้วว่าเสียหายมั้ย และยังไปเกี่ยวพันกับการผูกขาดทางการค้าอีกด้วยว่าส่งผลกระทบต่อคู่แข่งทำให้ไม่มีการแข่งขันหรือไม่ และอย่างที่ผมบอกคือลักษณะของการทุ่มตลาดมีหลายแบบ บางแบบก็ไม่เป็นความผิดครับ
แต่ปกติคำว่าการทุ่มตลาดมักจะใช้กับการนำเข้า/ส่งออก แต่ลักษณะ Apple นี้จริงๆผมมองว่าจะเป็นการผูดขาดทางการค้ามากกว่าแต่ก็เทียบเคียงกับการทุ่มตลาดได้เพราะมันกลืนๆกันอยู๋ส่วนนึง
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ยังงงๆเดี๋ยวผมคงต้องไปหาอ่านและแฮะ ขอบคุณๆ Not Available a... ครับ ^^
t this moment.
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เติมชื่อให้ด้วย ซึ้ง T^T
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
แค่ประเมินก็ไช่ว่าจะเป็นราคาจริง ถ้าสั่งมาจำนวนมากพอแล้ว ราคาต้นทุนคงไม่เกิน 199 แน่ถ้าใครเคยสั่งสินค้าชิ้นส่วน elec จะรู้ว่ายิ่งมากยิ่งถูกถ้าสั่ง 100 500 1000 5000 ราคาครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว และถ้าจำนวนมากจริงๆสามาต่อรองราคาได้อีก
เขาก็น่าจะประเมินราคาที่อเมซอนซื้อได้นะครับ เพราะไม่งั้นสัดส่วนกำไรไอแพดไม่พุ่งไป 50-60% เลยหรอครับ
หรือนี่เป็นอีกเหตุผลที่ไม่ส่งนอก USA เพราะมั่นใจว่าอาตี๋อาหมวยแถวนี้คงซื้อไปแต่เครื่องแล้วไม่คิดซื้อ Content ด้วยแน่นอน (บิทกันโลด)
ผมว่ามันติดตรงที่ อเมซอนแอพสโตร์ตอนนี้สำหรับเฉพาะลูกค้าในอเมริกาเท่านั้นครับ (แม้ว่าจะมีรายงานว่าบางคนนอกอเมริกาก็ซื้อแอพผ่านอเมซอนแอพสโตร์ได้ ที่ข้อความอย่างเป็นทางการก็ยัง US อย่างเดียวอยู่)
ซึ่งถ้าเมื่อไรที่เปิดอเมซอนแอพสโตร์กับลูกค้าทั่วโลก คินเดิลไฟร์ตัวนี้ที่ใช้ได้แก่ WiFi อย่างเดียว น่าจะไม่ติดเรื่องเทคนิคใดๆ แทบจะขายได้ทั่วโลกทันทีครับ
ผมคิดว่า Amazon คงเตรียมพร้อมขยายไปทั่วโลกมากกว่าครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
อ้างอิงมาจากตรงนี้นะครับ http://thumbsup.in.th/2011/09/kindle-fire-thailand/
เป็นคนนึงที่เห็นแล้วอยากจะได้มาครอบครองเลย
ไม่เอามาขายเมืองไทยก็ไม่เป็นไร ฝากคนรู้จักหิ้วมาจาก US ก็ได้ ไม่ติดสัญญาอยู่แล้ว ไม่เสียค่าส่ง แถมเนียนเข้าศุลกากร
ไม่มี local content ก็ไม่เป็นไร แค่ web browser เปิดภาษาไทยได้ และตัวมันจับลง .apk เพิ่มเองได้ เพิ่มคึย์บอร์ดไทยได้ ลง pdf เองได้ แค่นี้ก็เป็น tablet ที่คุ้มสุดๆ แล้ว :P
(เพราะแบบนี้เถอะน้าา เขาถึงไม่สนใจจะขายเมืองไทยไง)
iSuppli คิดราคาต้นทุนถูกป่าวครับ เพราะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ซื้อตัวเดียว กับ ซื้อแสนตัวราคาต่างกันโขอยู่นะ แถมบางโรงงานยังไม่คิดค่าประกอบให้กับสินค้า volume สูงๆอีก เพราะได้กำไรส่วนต่างจากการซื้อชิ้นส่วนพวกนี้มากอยู่แล้ว