By: nuntawat 
on 24 October 2011 - 20:03
Tags:
Topics:
คุณ Ben Rosen อดีตประธานกรรมการ Compaq ได้เปิดเผยผ่านเว็บบล็อกส่วนตัวว่า ช่วงกลางปี 1999 คุณ Steve Jobs เคยมีความคิดที่จะนำระบบปฏิบัติการ Mac มาติดตั้งลงเครื่องคอมพิวเตอร์ Compaq เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งแก่ผู้ใช้ นอกเหนือไปจากระบบปฏิบัติการ Windows เพียงอย่างเดียว
คุณ Rosen กล่าวต่อว่าสุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็ได้ละทิ้งไอเดียนี้ไป เนื่องจากคุณ Jobs ต้องการให้ฮาร์ดแวร์ผูกติดกับซอฟต์แวร์ ซึ่งหากนำไปลงเครื่อง Compaq ก็จะสูญเสียจุดเด่นนี้ไป ส่วน Compaq ก็ยังเป็นพันธมิตรร่วมกับ Microsoft อยู่ในขณะนั้น ซึ่ง Microsoft เองก็บังคับให้คู่ค้าที่เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทุกรายต้องจ่ายค่า royalty ต่อหนึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายออกไปไม่ว่าจะลงหรือไม่ลง Windows ก็ตาม (อ้างอิง)
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่ซีอีโอของแต่ละบริษัทจะมาพูดคุยและเกิดไอเดียโมเดลธุรกิจใหม่ๆ (ซึ่งสุดท้ายก็อาจถูกพับไปแบบกรณีนี้) แต่การพูดคุยระหว่าง Compaq และ Apple ในขณะนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมันได้ขัดแย้งกับโมเดลธุรกิจที่ได้รับการยอมรับว่าได้ช่วยบริษัท Apple เอาไว้นั่นเอง
ที่มา: เว็บบล็อกของคุณ Ben Rosen ผ่าน 9to5 Mac ผ่าน Electronista
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
Comments
"ไม่ว่าจะลงหรือไม่ลง" ครับ
twitter.com/exfictz
เพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่า Microsoft มีบังคับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ จ่ายค่า Royalty ด้วย ถึงแม้จะลง Windows ด้วยหรือไม่
DOS ก็ขายอย่างนี้
ไม่ใช่เฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ กระทั่ง Interface card บางอย่าง หรือ Chip ในหน้าที่บางอย่าง ก็ต้องจ่ายด้วยครับ แม้จะไม่ได้เอาไปใช้กับ Windows หรือ PC เลยก็ตาม ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของผู้บริโภคครับ
เพิ่งรู้ว่า Microsoft น่าเลือด
"Microsoft เองก็บังคับให้คู่ค้าที่เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทุกรายต้องจ่ายค่า royalty ต่อหนึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายออกไปไม่ว่าจะหรือไม่ลง Windows ก็ตาม"
ผมหาในต้นฉบับข่าวไม่เจอ มันอยู่ตรงไหนครับ
ขออภัยครับ พอดี
"จ่ายค่า royalty ต่อหนึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายออกไปไม่ว่าจะหรือไม่ลง Windows ก็ตาม"...
อันนี้่ส่วนตัวผมอ่านแล้วคลุมเครือไงไม่รู้ คิดว่าน่าจะหมายถึงการทำ OS OEM มากกว่านะครับ คือ ถ้า Preload เป็น MS-Dos/MS Windows มา แต่ User จะเอาไปลง Linux ทาง MS ก็ไม่ว่า เพราะ User จ่ายค่า OS OEM ตั้งแต่ตอนซื้อเครื่องแล้ว (ซึ่งหมายถึง User มีสิทธิ์ที่ะจะเอามาลง Windows ใหม่ได้เช่นกัน)
ผมก็เห็นเครื่องรุ่นใหม่บางรุ่น OEM Ubuntu มาแทน Windows เพื่อประหยัดเรื่องนี้เหมือนกันครับ
seeking for New Frontier...
ลองดูที่ผมตอบคุณ ninja741 ครับ
"ซึ่ง Microsoft เองก็บังคับให้คู่ค้าที่เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทุกรายต้องจ่ายค่า royalty ต่อหนึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายออกไปไม่ว่าจะหรือไม่ลง Windows ก็ตาม"
โคตรโหดอะ แบบนี้ไม่โดนกฏหมายผูกขาดเล่นงานหรือเนี่ย
ผมว่าข่าวเขียนคลุมเครือครับ ผมอ่านในต้นฉบับก็ไม่เจอเรื่อง royalty ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้น่าจะตรงตามที่ #347747 ได้ตอบไว้
ไม่ได้ลง แต่ใส่ license มาในกล่อง หรือแปะไว้ที่ฐาน Notebook แบบนี้หรือเปล่า
ยังไม่เคยเห็นแบบนี้นะครับ เห็นแต่ Preload Windows มาให้เลย ส่วน License มันก็แปะอยู่ใต้ตูด Notebook
เครื่องไหนไม่มีก็คงไม่ต้องจ่ายค่า License
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
+1 คิดแบบนี้เหมือนกันครับ เพราะการซื้อ windows จริงๆมันก็อยู่ที่ license นั้นแหละครับ ถึงจะยืนยันได้ว่าเป็นของแท้และไม่ซ้ำใคร
ขอออกความเห็นบ้างนะครับ เห็นสับสนกันกับเรื่อง Windows License กันหลายคน
ผมขอยกตัวอย่างข่าวนี้นะครับ http://www.blognone.com/news/27208
อ่านกันแล้วพิจารณาดูนะครับ เพราะโทรศัพท์ Android ทั้งหมด 100% ไม่มี OS หรือ Application ใดๆ ของ Microsoft อยู่เลย แล้วนั่นเขาจ่ายค่าอะไรกัน? ถ้าพิจารณาเข้าใจแล้ว ก็จะเข้าใจสิ่งที่เขาจ่ายกันในข่าวนี้ได้เองด้วยครับ
SoC Chip ตัวเล็กๆ QFN28 ยังต้องจ่ายก็มีครับ
ขอบคุณมากครับ คุณจักรนันท์ ^^
ขอเสริมอีกกรณีหนึ่งไว้ให้ทราบเพิ่มด้วยนะครับ
มีกรณีที่ ถ้านำไปใช้กับ Windows แล้ว ไม่ต้องจ่าย
แต่ถ้าใช้กับ OS อื่น จะต้องจ่าย
ก็มีด้วยครับ