เว็บไซต์ AppleInsider รายงานข้อมูลวงในว่าแอปเปิลกำลังพิจารณาอนาคตของ Mac Pro คอมพิวเตอร์เวิร์คสเตชันสำหรับมืออาชีพและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นสูงสุดของแอปเปิล เนื่องจากยอดขายตกลงมาก
ยอดขายแมคอินทอชในปัจจุบันมาจากโน้ตบุ๊กเสีย 74% ส่วนเดสก์ท็อปก็ยังขายได้และมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย แต่ส่วนมากมาจาก iMac ไม่ใช่ Mac Pro
ตามข่าวบอกว่าฝ่ายบริหารของแอปเปิลพิจารณาการเลิกขาย Mac Pro มาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2011 แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจ แนวทางเลือกที่เป็นไปได้อีกทางหนึ่งคือออก iMac รุ่นที่แรงขึ้นมาแทน
ถึงแม้แอปเปิลจะไปได้สวยมากในตลาดผู้ใช้ทั่วไป แต่ตลาดบนกลับถดถอยลงเรื่อยๆ เมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งประกาศเลิกขายเซิร์ฟเวอร์ตระกูล Xserve
ที่มา - AppleInsider
Comments
แอบได้ยินพวกมืออาชีพนั่งร่ำไห้ ... โดยเฉพาะคนทำกราฟิค
T____________T
ราคาโปรเกินไปสำหรับมือสมัครเล่นแบบผม
เดี๋ยวนี้ iMac เอาอยู่หมดอ่ะครับ ไม่รกด้วย
twitter.com/djnoly
ใช่ครับ ไม่รก เครื่องย้ายง่าย และก็ไม่ได้ต้องการอะไรหนักขนาดที่จะย้ายสเป็กเทพลงใน MacPro ทั้งหมด :P
อยากได้สเป็ค imac แต่อยู่ในเคส mac pro และราคาถูกกว่า imac
+1 ><'
:: DigiKin8 ::
Apple มีสินค้าที่ขายไม่ออกด้วยหรือ
หูฟัง Bluetooth
newton
AirPort
AppleTV ?
เยอะครับ 55555
iPod Hi-Fi
Pipp!n
iMac ผมอยากได้ จอ 27 มากกกก ชอบเพราะจอใหญ่ + ไม่รกนี่แหละ.....เอามาลง windows ทำงานครับ 55555555
ผมว่าเพราะ iMac สเปคแรงขึ้นมามากครับ (บางทีโปรอยากประหยัดก็สั่ง iMac CTO สเปคสูงๆ เอา)
ถ้าจะให้ขายดีขึ้นกว่านี้ คงต้องอัพเดทสเปคกันหน่อยครับ เพราะผมว่าสเปคนี้สำหรับ Mac Pro มันนานมากแล้วครับ
Mac Pro ใช้ Xeon นี่ครับ หรือว่า Intel ไม่ได้ปรับ Xeon มานานเองหรือเปล่า ?
คือผมก็เห็น Intel ออก Xeon ใหม่น่ะครับ ภายในปีนี้ล่ะครับถ้าจำไม่ผิด
ซ้ำครับ ขออภัย
imac ยังแต่งให้แรงกว่านี้ได้อีกเยอะ ยิ่งมี thunderbolt ทำเป็นโมดูล up เหมือน storage เสียบสาย ย้ายการประมวลผลไปนอกเครื่องยังได้เลย
น่าจะข่าวลือนะครับ
ไม่งั้นก็จะเหลือแค่ iOS Device, Mac Air, และ iMac สิครับ
คือมีของให้ขายน้อยรุ่นลง ก็ไม่ใช่ข้อเสียเสมอไปครับ การดูแลสต๊อกทำได้ง่ายขึ้น ลดภาระการซัพพอร์ตลงได้เยอะ ถ้าเลือกได้ขายของน้อยรุ่น แต่ว่าทุกรุ่นขายดี น่าจะดีกว่ามีเยอะรุ่นแต่ไม่ได้ขายดีทุกรุ่นครับ
ผมคิดว่าไม่ถอดออกง่ายๆ ครับ เพราะ Mac Pro ยังมีอะไรที่ iMac ไม่มีอีกมาก ทั้งความยืดหยุ่นในเรื่อง ฯลฯ เช่น
Mac Pro ใส่HDD ได้ 4 ลูก แถมเป็น Hot Swap แต่ iMac ได้แค่ 2 ลูก แถมลูกนึง เป็น SSD อีกลูกเป็น ธรรมดา
นี่ยังไม่นับรวมขนาดพื้นที่HDD หากนับรวมกัน Mac Pro 2TB ใส่ได้ 4 ลูก เป็น 8TB หรือ ถ้าต้องการความเร็ว ก็จัดเต็มได้ 512GB สำหรับ SSD ใส่ได้ 4 ลูก ก็ 2TB ส่วน iMac จัดหนักสุด ก็ได้ 2TB + 512GB SSD ครับ
การ์ดจอก็ใส่ได้หนักกว่าครับ แรมก็ใส่ได้เยอะกว่า CPU ก็แรงกว่า
และอีกอย่าง หลังจากที่แอปเปิ้ลถอด Xserve ออกไป หลายๆ บริษัทก็หันมาซื้อ Mac Pro ก็ออกจะเยอะแยะไป
ดังนั้น ผมคิดว่า การที่ Apple ถอด Mac Pro ออกเนี่ย ผมว่าแอปเปิลคิดผิดมากเลย แอปเปิลน่าจะออกสเป็คให้มันถี่กว่านี้ครับ เพราะสเป็คที่แอปเปิลออกนั้น มันเก่ามากแล้วครับ
เห็นด้วยครับ คนที่ต้องการ Mac เสปคสูงๆ และปรับได้ยืดหยุ่นยังคงมีอยู่
ขายไม่ดีเพราะมันทนเกินไปหรือเปล่า? ที่ออฟฟิส G4 gen สุดท้ายยังทำงานได้ดีไม่มีเบี้ยว
เคยเห็นคนรู้จักใช้ PowerPC กับ OS9 อยู่เลยล่ะครับ อึดมาก
สำหรับผม iMac 21 top ก็จะร้องไห้แล้วครับ (อนาคตไม่แน่ อาจต้องใช้เจ้านี้ก็ได้)
ยอดมันตกเพราะพี่ไม่อัพสเปคสักที คนที่ซื้อ MacPro ย่อมต้องการเครื่องแรงๆแต่ดันออก iMac ที่แรงกว่า MacPro มา แล้วใครมันจะโง่ซื้อ MacPro แล้วไปซื้อ ACD อีกละครับ
ราคา 80k - 170k แพงเว่อร์ซะขนาดนี้ใครอยากจะไปซื้อ?
สาเหตุที่ขายไม่ออกน่ะเหรอ ? ง่านนิดเดียว เพราะมันไม่มี i ไงล่ะ
เปลี่ยนชื่อเป็น iMac Pro ซะก็เรียบร้อย (ฮา
สงสัย Hackintosh เยอะ -0-
คิดเหมือนผมเลย จัดเปกเอง แล้วก็ Hackintosh เยอะครับ เยอะมากๆ
ถ้าถอดออกจริง แสดงว่าแอปเปิ้ลเลิกสนใจกลุ่ม professional จริง ๆ สินะ (ดูจาก Final Cut Pro X) จะมาเน้น Consumer ที่ได้เงินดีกว่า แต่ผมว่า มันทำให้ Apple ขาดเสน่ห์ลงไปอีกเยอะเลยทีเดียว
เพราะเมื่อก่อน Apple ได้ชื่อว่า Tool ของ Creativity
iMac เป็น computer ประจำบ้านครับ check mail เปิด web ฟังเพลง อะไรก็ว่าไป
ไม่พอเอามาทำงานเลยครับ
เคยวางแผนว่าถ้างบพอ mac pro เมือไหร่จะได้ย้ายไปซักที ถ้าเป็นงี้จริงสงสัยจะอยู่กับ PC จนชั่วลูกชั่วหลาน
ถ้าเลิกทำ Mac Pro นี่.. Adobe มีแนวโน้มเลิกสนใจ Mac อีกรายแน่ๆ หันมาดันฝั่ง windows เต็มตัว
เชื่อเถอะว่าชุด creative suite ของ Mac นี่มีคนใช้ Mac Pro เป็นตลาดใหญ่สุดแล้ว
ก็แหม่...ไม่ได้อัพเดตสเปคมากี่วันกี่เดือนกี่ปีแล้ว...จนลืมไปแล้วว่ามีขายอยู่
บริษัทส่วนใหญ่มักจะต้องการมี product ที่จับตลาดบน(สูงทั้งราคาและภาพลักษณ์)อย่างเช่น toyota ก็มี lexus และส่วนใหญ่สิ่งที่ทำเงินให้มากที่สุดมักเป็นสินค้าระดับล่างกว่าเพราะขายได้จำนวนมากกว่าแม้ว่ากำไรต่อหน่วยจะน้อยกว่ามาก ซึ่งมันก็เป็นธรรมชาติของตลาดบนซึ่งบางกรณีประโยชน์สูงสุดก็อาจเป็นแค่ภาพลักษณ์ของบริษัทให้ดูว่าเป็นผู้นำหรือไม่น้อยหน้าบริษัทอื่นว่าเราก็มีสินค้าตลาดบนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันผมว่า apple เองก็ได้ก้าวข้ามจุดนั้นมาแล้วและสินค้าที่ตลาดต้องการมากที่สุดไม่ใช่สินค้าตลาดบนของตัวเองต่างจากกรณี toyota/lexus ซึ่งผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ถ้าเลือกได้ก็ต้องการ lexus>toyota แต่เมื่อไม่สามารถซื้อได้ก็เลยซื้อ toyota แทน ดังนั้น lexus มีความสำคัญเพราะเป็นจุดสูงสุดให้เปรียบเทียบและผลักดันยอดขายของ toyota
อีกนัยหนึ่ง apple ประสพความสำเร็จในการสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสินค้าตลาดบนให้กับสินค้าตลาด mass ของตัวเองได้ดีจนไม่ต้องอาศัยสินค้าตลาดบนจริงๆของตัวเองเป็นตัวผลักดันยอดขาย ซึ่งเปรียบเทียบกับตลาดโดยรวมแล้วสินค้าตลาดบนของตัวเองอาจถูกมองว่าเป็นสินค้าสำหรับ ultra-rich/niche ในสายตาผู้บริโภคเลยขายไม่ดีเกินกว่าที่ควรจะเป็น แม้ว่าโดยตัวสินค้าเองนั้นอาจไม่ได้วางเป้าหมายให้เป็นอย่างนั้นและไม่อาจทดแทนกันได้ทั้งหมดก็ตาม
สำหรับ apple บริษัทที่เน้นความเป็น minimalist ทั้งการออกแบบและจำนวนรุ่นหรือชนิดของ product การหยุดขาย mac pro ก็ดูจะเข้ากันดีกับแนวทางของบริษัท และสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำ(ทางจิตวิญญาณ?)ของตลาด(ซึ่งไม่ได้ยึดตัวเลขของ market share!) และความเป็นบริษัทซึ่งยึดกำไรสูงสุดเป็นสรณะ
ขายไม่ดีเพราะ
สรุปซื้อแมคทำไมในเมื่อ App สำหรับงานแบบนั้น Windows ก็มี แถม Windows ก็เสถียรกว่าเมื่อก่อนมากแล้วด้วย
twitter.com/exfictz
อยากได้เคสมันครับ :)