จากบทความที่แล้วที่ลงไว้ที่เว็บ Thailand GTUG ผมได้พาทุกคนไปรู้จักกับงาน Google Developer Day กันแล้ว สำหรับบทความนี้ เราจะมาต่อกันที่บรรยากาศภายในงาน Google Developer Day 2011 Tokyo ที่ผมได้มีโอกาสไปเข้าร่วมมาในฐานะตัวแทนจาก Thailand GTUG ครับ ในบทความนี้จะไม่เน้นลงรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ Google นำมาเสนอ เพราะสามารถหาอ่านได้ตามข่าวเก่าๆ และเว็บไซต์อื่นๆ ทั่วไป ไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก แต่จะเน้นในส่วนของบรรยากาศภายในงาน เพื่อเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ แทนครับ
งาน Google Developer Day 2011 ในรอบของประเทศญี่ปุ่นนั้นจัดขึ้น ณ วันที่ 1 พ.ย. 2011 ที่ผ่านมานี่เองครับ เนื่องจากมีผู้สนใจเข้ามร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทาก Google ประเทศญี่ปุ่นจึงจำเป็นที่จะต้องคัดกรองผู้เข้าร่วมงาน โดยทุกคนจะต้องทำ DevQuiz ซึ่งเป็นชุดโจทย์ปัญหาคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้เทคโนโลยีของ Google เช่น Google Chrome, Google Go, Google Apps รวมถึงความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Google ในการหาคำตอบ และจะต้องได้คะแนนผ่านเกณฑ์ จึงจะได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมงานครับ ซึ่งเจ้า DevQuiz นี่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ชาวต่างชาติที่สนใจก็ต้องใช้กำลังภายในกันหน่อย (หรือ Google อาจจะจงใจให้เราใช้ Google Translate ก็เป็นได้!) สำหรับตัวผมเองนั้นโชคดีหน่อยที่ได้รับเชิญในฐานะที่เป็นสมาชิก Thailand GTUG เลยไม่ต้องทำ Quiz ชุดนี้ครับ
แม้ว่าชื่อเต็มๆ ของงานนี้คือ Google Developer Day 2011 Tokyo แต่เอาเข้าจริงงานจัดขึ้นที่ Pacifico Yokohama ในเมือง Yokohama จังหวัด Kanagawa ซึ่งอยู่ติดกับโตเกียวครับ ใช้เวลาเดินทางจากที่พักของผมซึ่งอยู่แถวๆ Akihabara ไปถึงสถานที่จัดงานประมาณ 40-50 นาที กำหนดการของงานนั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.30 น. โดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 9.00 น. สำหรับตัวผมเองเดินทางไปถึงงานเวลาประมาณ 9.30 น. ครับ
มาถึงสถานที่จัดงาน เริ่มต้นด้วยการเข้าคิวลงทะเบียน โดยใช้ QR Code จากบัตรเชิญที่ได้รับมา ตรงนี้ (จริงๆ ก็ทั้งงานนั่นแหละ) ชาวต่างชาติอาจจะรู้สึกเป็นชนชั้น 2 เล็กน้อย เพราะทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นครับ แต่ก็ไม่ได้ยากมากมายอะไร ก็คุยกล้อมแกล้มผ่านเข้ามาได้ นอกจากนี้ในบริเวณนั้นยังมีเจ้า Android คอยยืนทักทายผู้ร่วมงานอีกด้วยครับ ถัดมาก็เป็นการเข้าคิวรับเสื้อยืด, ของแจกต่างๆ และอาหารเช้า (ภาพเสื้อยืดและของที่ได้รับแจกผมถ่ายที่หอพักหลังจากกลับมาแล้วนะครับ) โดยรายการของที่ได้รับมา ก็มีสติ๊กเกอร์ +1, แว่นตาสามมิติ (แดง-น้ำเงิน), Agenda ของงาน, เข็มกลัด 10 ชิ้น และ Zeemote JS1 ซึ่งเป็นเกม Controller สำหรับโทรศัพท์มือถือครับ (ผมก็เพิ่งรู้จักนี่แหละ) จากนั้นก็เข้าสู่ห้องประชุม รอฟัง Keynote เปิดงานครับ
สำหรับเข็มกลัดที่แจกมานั้นพิเศษหน่อยครับ คือเป็นมินิเกม โดยแต่ละคนจะได้เข็มกลัด 10 ซึ่งเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด จากทั้งหมด 15 แบบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเทคโนโลยีคือ Google+, HTML5 และ Android จากนั้นผู้ร่วมงานแต่ละคนจะต้องเอาเข็มกลัดที่ตัวเองมีไปแลกกับคนอื่นๆ และหากใครสะสมเข็มกลัดนี้ครบทุกแบบใน 2 เทคโนโลยีขึ้นไป จะได้รับหมวก GTUG อีกด้วย ซึ่งน่าเสียดายที่ผมเก็บได้ไม่ครบ เลยชวดไปครับ
สำหรับ Keynote ของงานนี้ ส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษจะมีการแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น และส่วนที่เป็นภาษาญี่ปุ่นก็จะมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ฟังกันสดๆ ผ่านทางเครื่องรับสัญญาณที่ได้รับมาก่อนเข้าห้องประชุมครับ ซึ่งเป็นระบบที่ผมชอบมาก ในส่วนของเนื้อหานั้นไม่มีข่าวอะไรใหม่ครับ นอกจากอัพเดทตัวเลขสถิติต่างๆ และเกริ่นนำเกี่ยวกับ Session ต่างๆ ในตอนบ่ายเป็นการเรียกน้ำย่อย ที่น่าสนใจหน่อยก็คงเป็น Preview Icecream Sandwich, Google Prediction API ที่เอาไว้สร้าง Machine Learning บน Cloud, Google Cloud SQL และ Google+ Hangouts App ซึ่งเป็น App สำหรับใช้ร่วมกันระหว่าง Hangout อธิบายเป็นคำพูดอาจจะไม่ค่อยเห็นภาพ ลองดูวีดีโอด้านบนน่าจะเข้าใจมากขึ้นครับ และที่สำคัญคือ Google+ Hangouts API นั้นเปิดให้นักพัฒนาได้ลองเล่นกันแล้วด้วยครับ
หลังจากจบ Keynote แล้วก็เป็นการเข้าแถวรับอาหารกลางวันซึ่งเป็นข้าวกล่องครับ ช่วงนี้ผมได้พบกับคุณเม่น (คนในรูปที่ถือข่าวกล่อง ส่วนคนที่เกาะ Location Pin อยู่นั่นผมเองครับ) ซึ่งเป็นนักเรียนไทยที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว (เทพ!) ด้วยครับ หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมก็เดินไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ งาน ระหว่างรอเข้า Session ช่วงบ่าย
รอบบริเวณงานนั้น เป็นบูธจัดแสดงเทคโนโลยีต่างๆ ของญี่ปุ่นที่อิงกับเทคโนโลยีของ Google ครับ ซึ่งส่วนใหญ่พูดกันแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ผมเลยไม่ได้เก็บรายละเอียดมามากนัก นอกจากนั้นยังมีโซนของ GTUG และโซนแสดงของเล่นต่างๆ จาก Google เช่น Google TV, Chromebook และ Icecream Sandwich ครับ
สำหรับในช่วงบ่ายเป็น Session เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ของ Google โดยแบ่งเป็น 5 หัวข้อหลักๆ คือ Android, HTML5 + Google Chrome, Google +, Cloud + App Engine และหัวข้ออื่นๆ ครับ โดย Session ที่บรรยายเป็นภาษาอังกฤษโดยวิศวกรจาก Google จะมีการแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นให้เช่นเคย แต่สำหรับ Session ที่พูดโดยชาวญี่ปุ่นอยู่แล้วนั้นจะไม่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ ทำให้ผมที่ภาษาญี่ปุ่นยังไม่ค่อยแก่กล้าเท่าไหร่ มีตัวเลือกในการเข้าฟังน้อยลงพอสมควรครับ และเนื่องจากผมมาสาย Web Developer และ Cloud เป็นหลัก จึงเลือกเข้าฟังแต่ Session ทางด้านนี้ และไม่ได้ฟัง Session เกี่ยวกับ Android เลย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หลังจากจบแต่ละ Session จะมีเวลา Office Hour ให้เราได้พูดคุยซักถามกับผู้บรรยาย ซึ่งผมคิดว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ และเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของงานในลักษณะนี้เลยครับ สรุป Session ที่ผมเข้าฟัง พร้อมทั้งเนื้อหาคร่าวๆ ได้ดังนี้
สุดท้ายก่อนจบงาน เป็นช่วง Closing ซึ่งช่วงนี้พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด แถมไม่มีแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วด้วย ผมก็อึ้งไปเกือบตลอดครับ เท่าที่จับใจความได้ก็ช่วงที่เฉลย DevQuiz และกล่าวขอบคุณผู้เกี่ยวข้องต่างๆ แล้วก็ถ่ายรูปรวม Staff ปิดงาน ช่วงนี้จริงๆ ถ้าฟังออกคงจะเป็นช่วงที่น่าประทับใจมาก เพราะเห็นชาวบ้านหัวเราะและมีส่วนร่วมกับกิจกรรมตลอด
สุดท้ายนี้ โดยรวมสรุปได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับผมครับ เทียบกับ DevFest ที่เคยมาจัดในประเทศไทยแล้ว เรียกได้ว่าคนละ Scale เลยทีเดียว อยากให้มีงานลักษณะนี้ที่บ้านเราบ้าง จะได้ไม่ต้องบินมาไกลถึงประเทศญี่ปุ่น คงต้องฝากทาง Google ประเทศไทยและทีม GTUG Thailand ของเราช่วยกันผลักดันครับ สำหรับภาพจากงานทั้งหมดสามารถดูได้ที่ Google+ ของผมนะครับ
Comments
สนุกไปด้วยเลยครับ เจ๋งมาก! ..
อ้อ เลยอยากรู้เลยว่า key visual ของงาน ที่เป็นสามเหลี่ยมๆ เหมือนโพลิกอนหน้างานนั่น จะมาจากหรือหมายถึงอะไร? ^^
my blog
+1 อยากทราบเช่นกัน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เป็นแผนที่โลกครับ สามารถถอดออกมาประกอบเป็นลูกโลกได้
อ่านเพิ่มเติมดูได้ที่
http://fukubaya.blogspot.com/2011/11/google-developer-day-2011_04.html
ขอบคุณมากคร๊าบ~*
my blog
โอ้คิดไปได้
นึกว่ามีเราคนไทยคนเดียวทีอยู่ในงาน ไหนเลยไม่ทักกัน จะได้แปลให้ (ซะงั้น :p )
เห็นมี สไลน์ ของ Stive jobs ด้วย ผมว่า ทาง Google เขา น่าจะให้เกียรติ Stive Jobs หน่อยนะครับ
เพิ่ง เสีย ชีวิต ไปแท้ๆ
Google ใช้ Mac ผมก็โอเคแล้วครับ
โอ้โหงานใหญ่มากเลย เขียนได้ละเอียดมากเลยครับ น่าสนใจ ขอบคุณครับ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
รู้สึกว่า slide บางอันเคยเห็นที่ DevFest 2011 ที่ ม.ช.
ไม่มีสาวอ่ะ ผิดหวังT^T
ในภาพไม่เห็นหน้า แต่ขอบอกว่าน่ารักมาก!
ไม่เห็นหน้าก็ไม่รู้สิครับว่าน่ารัก +___+
ปล. เค้าเป็นผู้ร่วมงานหรอครับ ?
twitter.com/exfictz
เป็น Staff ของ NFC QUEST ครับ
ดูจากการแต่งตัวแล้วไม่ธรรมดา!
ธรรมดาของที่นี่ครับ -3-
ที่บอกไม่ธรรมดาคือ Dev ที่แต่งตัวแบบนี้เนี่ยแหละ .... >,.< .... ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ^^
อยากไปเก็บภาพสินะฮะ >0</
สาวไทยสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก เพียงแต่เราก็อยากหาอะไรแปลกใหม่บ้าง ;P
รู้สึกอยากไปงานขึ้นมาทันที
ลงชื่อว่าไม่พลาด -
บอกได้คำเดียว "Oh! Wow!" ><
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
งานใหญ่มากครับ ชอบที่มีแปลภาษาญี่ปุ่นให้ด้วย แสดงว่า Google ให้ความสำคัญค่อนข้างมากเลย
ถ้าจัดในญี่ปุ่นแล้วมีแต่ภาษาอังกฤษผมเชื่อว่างานจะกร่อยนะครับ ถึงหลาย ๆ คนจะบอกคนญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษดีขึ้นแล้วก็เถอะ
avatar บนบัตรกับในเว็บนี่... - -"
รบกวนเรียนถามนิดนึงแล้วกันครับว่าเป็นใครมาจาก(เรื่อง)ไหน ผมไม่เชี่ยวชาญแต่อยากรู้ XD
Marisa Kirisame จาก Touhou Project ครับ
twitter.com/exfictz
ขอบคุณครับ ไม่รู้จักทั้งตัวละครทั้งเกมเลย - -" แฮะ ๆ
ต้องลองเล่นดูฮะ ประสาทสัมผัสจะเฉียบคมขึ้น 10 เท่า!!
ปล.ผมชอบโยวมุมากกว่า
เป็น avatar ที่บ่งบอกรสนิยมและความชอบส่วนตัวอย่างเห็นได้ชัดยิ่ง
โอ๊ะ อาโนะฮิโตะวะไทยคาระโอตาคุเดสึก๊ะ
ให้ โซ่เดสึ
คำว่า "โอตาคุ" ถ้าพูดในภาษาไทยก็อาจจะไม่อะไรมาก แต่ถ้าพูดในภาษาญี่ปุ่นนี่ดูแย่เลยนะครับ คำเดียวกันแท้ ๆ แต่บริบททางสังคมทำให้ความหมายของคำไม่เหมือนกันนัก
twitter.com/exfictz
นั่นสิครับ ถ้ายังไม่กล้าถือพาสาว 2D ไปออกเดทก็ยังไม่ควรเรียกว่าโอตาคุนะ ฮ่า ฮ่า
ปล. โอตาคุชายบางคนดัน cos เป็นตัวละครสาวที่ตัวเองชอบซะงั้น -_-