ก่อนหน้านี้เราเพิ่งมีข่าววาทะเด็ดของสตีฟ จ็อบส์ "ผมจะทำลายแอนดรอยด์ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม" เพราะเขามองว่า Android ลอกแนวคิดของ iPhone มาเต็มๆ
หลังจากที่ฝั่งกูเกิลเงียบมาหลายสัปดาห์ ล่าสุด Eric Schmidt ยอมตอบคำถามเรื่องนี้แล้ว
Schmidt ไปพูดที่เกาหลีใต้ เขาบอกว่าไม่อยากให้ความเห็นกับสิ่งที่อยู่ในหนังสือชีวประวัติของจ็อบส์ หลังจากที่จ็อบส์ตายไปแล้ว เพราะตัวเขาก็เคารพและคิดถึงสตีฟ จ็อบส์เช่นกัน เขาตอบประเด็นนี้สั้นๆ เพียงแค่ "Android ถูกสร้างขึ้นมาก่อน iPhone"
ในการเยือนเกาหลีใต้ของ Schmidt รอบนี้ เขาได้พบผู้บริหารจากบริษัทฮาร์ดแวร์และโอเปอเรเตอร์หลายราย รวมถึงประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ด้วย Schmidt ยังยืนยันแนวทางของกูเกิลที่ว่า "จะไม่รัก Motorola เพียงคนเดียว"
Comments
เอาตรงๆนะ ไม่มีใครรู้หรอกว่าอะไรมันเกิดก่อนกัน ในเมื่อมันอยู่ใน lab -,- แค่พูดใครๆก็พูดได้
กรณีของ Android นี้เป็นบริษัทของ Andy Rubin ที่กูเกิลซื้อมาตอนหลังครับ คือไม่มีผลิตภัณฑ์ออกมา แต่มีบริษัทให้เห็นเป็นหลักฐานชัดเจน
ส่วน iPhone อันนั้นอยู่ในแล็บจริง แต่ออกเป็นผลิตภัณฑ์ได้ก่อน (ซึ่งก็ควรได้เครดิตไป)
ถูกที่ทำมาก่อนครับ แต่ก็ยอมรับเหอะว่าก็ชำเลืองมองแล้วมาพัฒนาด้วย อิอิ ผมว่าการลอกกะการพัฒนาขึ้นมันใกล้เคียงกันมากจนบ้างครั้งตัดสินมาจากอคติของแต่ละบุคคล เช่นผมสั่งการด้วยเสียงได้จดสิทธิบัตรไว้ แล้วเจ้าอื่นในโลกมันทำฟีเจอร์นี้ไม่ได้มันก็แปลกๆ ทั้งที่เค้าก็ใช้นวัตกรรมของตัวเองในการสร้าง
แล้วทำไม Iphone ถึงมี ผลิตภัณท์ ออกมาก่อน Android หว่า
สร้างก่อนไม่ได้หมายความว่าต้องเสร็จก่อนนี่ครับ
ต้องบอกว่า กูเกิ้ลมีโปรเจ็คเยอะมาก แต่ตอนนั้นอาจจะไม่อยากเสี่ยงเต็มตัว แต่พอ iphone เกิดได้เลยหันมาดันโปรเจ็คแอนดรอยเต็มตัว
หรือถ้าแอนดรอย ออกมาก่อนมันก็อาจจะแป๊ก ก้ได้น่ะครับ
+500
ยอมรับเลยว่า apple และ steve เก่งตรงนี้จริงๆสามารถทำให้ สิ้นค้าไอที ชิ้นหนึ่งกลายเป็น Fashion Brand แนวหน้า เทียบชั้น Louis Viton ไปแล้ว
+1 ครับ
เชื่อว่า Android ที่ออกมาทีหลัง iOS ต้องมีแอบๆ ลอกการบ้านบ้างล่ะครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ผมว่าส่วนหนึ่งเพราะ iOS มีความซับซ้อนน้อยกว่าครับ (ดูจากความยืดหยุ่นของระบบปฎิบัติการณ์)
อยู่ที่ใครดังก่อนกัน
ถ้าจะขยายความอีกนิดคือ Android ถูกสร้างขึ้นมาโดยบริษัท Android, inc. ก่อนจะถูกซื้อกิจการเข้ามาโดย Google ในปี 2005
้ข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทที่ว่านี้ :Business Week
หมายถึงแอนดรอย์สไตล์บีบี ตัวนั้นป่าวหว่า
ฮาเลย คอมเม้นนี้
คาดว่าคงใช่ครับ Android สมัยนั้นหน้าตาไม่เหมือนไอโฟน แต่คล้ายไปทาง BB ที่นิยมในตลาดช่วงนั้นมากกว่า มันพึ่งมาแปลงร่างเป็นแบบปัจจุบันหลังจากไอโฟนออกมา
ฮาาาาา
Home screen + icon bar นี่ถอดมาจาก BB เป๊ะๆเลย
Android ที่สร้างก่อน iPhone หน้าตาเหมือนกับ Android ที่ออกมาหลัง iPhone หรือเปล่า?!?
ไม่เหมือนครับ แต่เทรนมันมาทางนี้ BB ยังทำทัชเลย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
app รูปทรงมันเเหมือน เลยนะทำก่อนทำไหมมันเหมือนกัน iphone เขาปิดข่าวด้วยหนิ แล้วกว่าเอนจะออกได้หลัง iphone ตั้งนาน
ไม่ได้จะชี้นำเรื่องลอกไม่ลอกนะครับ แค่จะชี้ว่า ถ้ามันต่างจากเดิมมากๆ น่าจะพิจารณาเป็นคนละตัวกัน ไม่ใช่ทำ prototype อะไรขึ้นมาแล้วตั้งชื่อ android ก็บอกว่า ทำก่อนได้ ต้องพิจาณาถึงการพัฒนาและเปลี่้ยนแปลงของมันด้วย แต่ถ้ามันเหมือนเดิมหรือต่างกันไม่มาก ก็สมควรแล้วครับ
ลองดูใน ลิ้งนี้ว่า เหมือนหรือไม่เหมือน
http://linuxrants.com/?cat=17
ใครดูแล้วใครว่าเหมือน ios อยากรู้ว่าเหมือนตรงใหน
เพราะก่อน Ios ออก และหลัก Android ก็มีการพัฒนาในแบบ Android
อ่านดีๆ ก่อนครับ ไม่ได้จะชี้บอกว่า อะไรลอกอะไรเลย แต่แค่จะบอกว่า ถ้าตัวที่บอกว่า ทำก่อน iPhone มันต่างจากตัว Android ยุคหลัง iPhone มากๆ ก็ควรพิจาณาเป็นคนละตัวแล้วล่ะ ไม่น่าอ้างได้ว่า ทำก่อนเพราะไอ้ตัวที่ทำก่อน มันหน้าตาคนละเรื่องเลย
ตัว Prototype นี่ Home Screen + icon bar แทบจะถอดมาจาก BB เลยครับ
ส่วนเริ่มมาเป็นสไตล์ปัจจุบันเมื่อไรนี่ผมไม่แน่ใจ ช่วงนั้นไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของน้องแอนเลย
พอดีไปเกาหลี เลยต้องเข้าเมืองตาหลิ่วคับ
ต่อไปอาจจะมีข่าว "Samsung ฟ้องกลับ iPhone มีต้นกำเนิดมาจากเกาหลี" ก็ได้ ;P
เหมือนเมาส์ในแล๊บ xerox
Eric Schmidt เป็นคนเกาหลีหรือเปล่าครับ?
??
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ใช่ครับ หน้าตา + ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเกาหลี...
ดูที่รูปสิครับ หน้าแดงเพราะก่อนถ่ายรูปเพิ่งกินกิมจิมา
ผมว่าหน้าเขาเหมือนโดนกดกับกะทะเนื้อย่างมามากกว่านะ
@TonsTweetings
ฮ่า ฮ่า งั้นก็แสดงว่า Assembly in Korea
ถึงว่า ตาหยีเชียว!
ฮาเลย
"จะไม่รัก Motorola เพียงคนเดียว" <-- คือเฉพาะตอนนี้หรือเปล่าครับ
มีอะไรที่เป็นหลักประกันว่า พอ Android ติดลมบนแบบจริง ๆ จัง ๆ
แล้วจะไม่สลัดพันธมิตรผู้ผลิตทิ้ง ผลประโยชน์ยังไงก็ไม่เข้าใครออกใคร
ใช่ครับ Android สร้างมาก่อน แต่เมื่อก่อนเป็น Android แบบที่เห็นในปัจจุบันหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบ
ผมคิดว่าการทำ OS ให้รองรับ Hardwore จำนวนน้อยๆ มันง่ายกว่าการทำ OS ตัวหนึ่งให้รองรับ Hardware จำนวนมากๆ นะ จะเห็นได้ว่า iPhone (รวมทั้ง iPad iPod) แต่ละรุ่นมีสเปกเดียวทั่วโลกถึงแม้จะนับรวมทุกรุ่น มันก็มีไม่สเปกเอง ต่างจาก Android จนถึงวันนี้มีแล้วไม่รู้กี่รุ่นกี่สเปก
Andriod รุ่นแรก ๆ ไม่มี Multitouch
ฟิ้ววววว แล้วก้หายตัวไปอย่างไว
จำได้ว่าทำได้ตอน G1 นี่นา
ซึ่ง apple ไม่ได้คิดเองแต่พยายามจดสิทธิบัตร์
google เลยปิดเอาไว้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ซึ่ง หลังจาก 1.6 ก็เพิ่มขึ้นมา?? คือจริง ๆ อยากให้มี Multitouch ตั้งแต่แรกใช่ไหม แต่กลัวหาว่าลอกเลียนแบบ เลยปิดเอาไว้ไม่ให้ใช้ แต่ไปไปมา ๆ มันไม่ไหวจริง ๆ เลยเอาวะ เหมือนก็เหมือน (เกรงใจไม่อยากใช้คำว่าลอก)ทั้งที่ในใจลึก ๆ ก็รู้ว่ามันเป็น Feature เด่น ของโทรศัพท์คนอื่นเขา
ใครจะว่าไงผมไม่รู้นะ แต่ผมเชื่อของผมว่า ถ้าไม่มี iPhone ในวันนั้น Android ในปัจจุบัน จะไม่ใช่เหมือนในปัจจุบันนี้แน่นอน สมควรแล้วที่ลุงจ๊อปส์จะโกรธ
แต่อย่างว่า สมัยนี้ เรามองว่าการลอกเลียนแบบกันกลายเป็นเรื่องยอมรับได้ไปเสียแล้วเพราะตัวเองก็ได้รับผลประโยชน์ เลยทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แล้วพอโดนว่าหน่อยก็โกรธแทน เถียงแทน ยกเหตุผลอื่นมาอ้าง
ป.ล. ผมไม่ได้เกลียด Android นะ แค่สงสารลุง
บางทีผมก็สงสารคนวิจัยไว้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ได้จดสิทธิบัตร
lewcpe.com, @wasonliw
ด้วยความเคารพ ผมคิดว่าอันนี้มัน Microsoft Surface นะครับ
คือผมคิดว่ามันค่อนข้างจะไม่ใกล้เคียงกับ iPhone น่ะครับ หรือไม่ใกล้กับ product ตัวใหนของ Apple เลย
แต่ผมเชื่อนะครับว่า Apple ไม่ได้คิด Multitouch เค้าแค่เอามาบอกให้โลกนี้รู้ว่า Multitouch มันทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นยังไง และมันทำให้ใครหลาย ๆ คนก็นึกออกว่าโทรศัพท์แบบ Touch มันก็ควรจะเป็นแบบนี้ ถึงมียุค post iPhone ขึ้นมา อนาคต iOS ก็คงจะดับไปคล้ายกับ MAC OS เหมือน Model Microsoft-Apple
ผมไม่สนับสนุน, ไม่เห็นด้วย, และต่อต้าน สิทธิบัตรที่เป็นสิทธิบัตร "ข้อบ่งใช้" ครับ ถ้าคุณได้ศึกษาสิทธิบัตรพวกนี้ มันมีอยู่มากในวงการแพทย์ ยาจำนวนมากไม่เคยหลุดจากวงจรสิทธิบัตรสักทีทั้งที่เป็นยาตัวเดิม (อ่านเพิ่มเติม Wikipedia:Evergreening) สิทธิบัตรเหล่านี้ "น่ารังเกียจ" ในสายตาของผม
สิทธิบัตรมีขึ้นเพื่อทำให้โลกเจริญขึ้น ด้วยการเชิญชวนให้คนที่คิดค้นเทคโนโลยี "เปิดเผย" กระบวนการทำงาน และแนวคิดของเทคโนโลยี เพื่อให้คนนำไปต่อยอดได้ "หลังจาก" หมดอายุของสิทธิบัตรลง โดยกฏหมายจะคุ้มครองให้มีการผูกขาดในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อเชิญชวนให้คนเปิดเผยแนวคิดของตัวเองกันมากขึ้น
แต่การจดสิทธิบัตรแบบข้อบ่งใช้ "เทคโนโลยี X ใช้รูปแบบ Y" กลับไม่ได้สร้างเทคโนโลยีอะไรใหม่ แต่ได้รับความคุ้มครอง ในมุมมองของผมมันคือการอาศัยช่องโหว่กฏหมาย (ที่ต้องแก้ไข)
การที่คุณบอกว่า "เค้าแค่เอามาบอกให้โลกนี้รู้ว่า Multitouch มันทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นยังไง" อาจจะเป็นสิ่งที่ควรได้รับการยกย่องครับ แต่ในมุมมองของผม มันไม่ควรได้รับการคุ้มครองตามกฏหมาย
lewcpe.com, @wasonliw
+1 ครับ
Evergreening ผมก็ต่อต้านมานานแล้ว เพราะหลานผมเป็นเอดส์แต่เกิด และเกือบไม่รอดมาจนตอนนี้เพราะไอ้ราคายามหาโหดเนี่ยแหละ
แล้วยิ่งได้ศึกษาวิธีก็ยิ่งเกลียด ไม่ผิดกฎหมายหรอก แต่มองยังไงก็คือโกง
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เรียนตามตรง ผมไม่มีความรู้ทางด้านสิทธิบัตรในเชิงลึก เป็นคนธรรมดาคนนึงครับ
และผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับ ถ้ามันเป็นยา หรือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่จะยึดสิทธิบัตรกัน แต่ผมสื่อในประเด็นทางด้านโทรศัพท์มือถือ
อันนี้ตั้งแต่ต้นได้พยายามที่จะสื่อถึงประเด็น Android และ iPhone ครับ แต่ถ้ามีประเด็นนอกเหนือจากนี้ผมไม่ได้ศึกษาจริง ๆ และคงจะเห็นด้วยกับคุณ lew ครับในประเด็นที่นอกเหนือจากนี้
ผมไม่ได้พูดถึงประเด็นทางกฏหมาย ไม่ได้อยากให้ใครมาห้าม Android หรือคนอื่น ๆ ทำอะไร แต่ผมแค่ไม่อยากให้ทุกคนปฏิเสธว่า Android มาจากไหน หรือแม้แต่เพียงแรงบันดาลใจ
ใน Blognone การหยิบยืมที่มาของข่าวจากที่อื่น ก็ยังต้องมีการให้เครดิตแก่เจ้าของ ชาว Blognone จะรุ้สึกอย่างไรครับ ถ้ามีเวบอื่นใช้รูปภาพหรือข้อมูลอ้างอิงจากที่นี่ โดยปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนเองคิดได้เองมานานแล้ว?
นี่คือประเด็นที่ผมอยากจะเสนอครับ ส่วนเรื่องประเด็นอื่น ๆ หรือข้อมูลของท่านอื่น ส่วนใหญ่ผมจะเห็นด้วยนะครับ :)
Apple ไม่ได้เป็นผู้คิดค้นสิทธิบัตรเองทั้งหมด แต่เป็นผู้นำเทคโนโลยีเหล่านั้นที่มีคนคิดไว้ ทำให้มันใช้งานได้จริง Multitouch นั้นมีมานานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยมีใครทำออกมาให้คนอื่นรู้ว่ามันจะใช้งานในชีวิตจริงได้อย่างไร เรื่องนี้เราสมควรให้เครดิตครับในความคิดผม แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเลียนแบบไม่ได้ แต่ในแง่มารยาทเราก็ควรให้เครดิตแก่เจ้าของ แต่ในความเป็นจริง ไม่สามารถทำได้ครับเพราะมันจะเกิดการฟ้องร้องกัน เลยอุบเงียบไว้ ผมว่าตัว Eric เองก็คงยอมรับ แต่เป็นสาวกต่างหากที่ไม่ยอมรับกัน
สิทธิบัตรจะมีค่าก็ต่อเมื่อมันไม่ได้อยู่ในเศษกระดาษครับ แต่มันก็ไม่ได้ออกมาง่าย ๆ โดยปราศจากความคิดสร้างสรรค์ และการลงมือทำงานอย่างหนัก
ป.ล. ผมเห็นด้วยกับประโยคนี้อย่างมากครับ
"สิทธิบัตรมีขึ้นเพื่อทำให้โลกเจริญขึ้น ด้วยการเชิญชวนให้คนที่คิดค้นเทคโนโลยี "เปิดเผย" กระบวนการทำงาน และแนวคิดของเทคโนโลยี เพื่อให้คนนำไปต่อยอดได้ "หลังจาก" หมดอายุของสิทธิบัตรลง โดยกฏหมายจะคุ้มครองให้มีการผูกขาดในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อเชิญชวนให้คนเปิดเผยแนวคิดของตัวเองกันมากขึ้น"
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าสตีฟไม่ได้อ่อนแอขนาดที่ใครจะต้องมาสงสารนะครับ ถ้าเคยศึกษาประวัติของแกมา เรื่องโดนลอกหรือลอกคนอื่นอะไรพรรนี้เป็นเรื่องที่แกน่าจะชินชามากแล้ว
สตีฟไม่ใช่เด็กอ่อนหัดขนาดที่จะมางอแงหรือไม่วางแผนรับมือการโดนลอกเลียนแบบ ผมเชื่อว่าแกน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า iPhone จะต้องประสบความสำเร็จและถูกลอกเลียนแบบอย่างที่เห็นกัน การแสดงความโกรธ การออกมาวิจารณ์และให้สัมภาษณ์ มันก็แค่ส่วนนึงของสิ่งที่คิดไว้ครับ...
สงครามครั้งสุดท้ายในชีวิตของสตีฟ จ๊อบส์ แกชนะไปแล้วครับ...
ผมมั่นใจมากว่าคุณหลิวไม่ได้สงสารจอบส์.....ไม่น่าจะหมายถึงจอบส์ด้วยซ้ำไป
ถ้าเคยศึกษาประวัติของแกน่าจะรู้ว่าจอบส์นี่แหละนักลอกตัวยงเลย แต่เป็นคนที่มองทะลุแก่นของการทำให้เป็น"เครื่องอุปโภค"มากกว่าคนคิดค้นซะเกือบทุกครั้ง เลยดูเหมือนเป็นคนคิดเองไปซะงั้น
ผม reply คุณ nessuchan น่ะครับ :)
อ้างอิงจาก By: Sxton on 09/11/11 22:47 #352246 Reply to:352237 <<
ขอบคุณครับ เป็นแนวคิดที่ผมไม่เคยคิดเลย :)
บางทีผมอาจจะมองโลกแค่ด้านเดียวหรืออาจจะแคบไปหน่อย
แต่อย่างที่ผมเกริ่นไว้แต่ต้นน่ะครับ คนเราสมัยนี้มองเรื่องการลอกเลียนแบบเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำไปเสียแล้ว (สมัยนี้การไม่ลุกให้เด็กนั่งบนรถเมถือเป็นเรื่องปกติ การเอาเปรียบกัน ถือเป็นเรื่องยอมรับได้ การโกงกิน....อุปปปส์ ไม่เอ่ยดีกว่า...) และคนที่ถูกลอกก็ควรจะชินชา ซึ่งผมก็ยังคิดว่ามันไม่แฟร์น่ะครับ แต่ผมก็ยอมรับนะครับว่าสิ่งนี้ทำให้โลกนี้หมุนไปเร็วขึ้น และทำให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ
อุ้ย ดูผิดตำแหน่ง ขอโทษครับ -/-
ผมมองว่า Jobs คือคนที่เอาสิ่งที่คนอื่นคิดมาทำให้ใช้ประโยชน์ได้จริงครับ ส่วนเรื่องลอกนี่ผมว่าไม่มีใครเก่งเกิน Android ครับ ลอก iPhone ได้ทุกอย่างแต่ไม่ดีเท่าสักอย่าง
ผมขอใช้คาถาทองคำอีกสักรอบ
"Konfabulator"
เดี๋ยวนี้ถ้าจะอินเทรนด์ผมว่าน่าจะใช้คำว่า "notification" นะครับ ^^
ลอกเต็มๆ เห็น iphone ดังเลยทำตาม
เอาหนะ ไอโฟนยังมี notification bar, siri, icloud ได้เลย
คนขาย โต๊ะเก้า ทีวี วิทยุ ตู้เย็น พัดลม ยังไม่ได้มีเจ้าเดียวในโลกเลย
+1
ขอเม้นเต็มๆที "ผมลอกแบล็คเบอรี่ ก่อนจะมาลอกไอโฟน" เอาจริงๆ จากประสบการ การใช้งาน ต้องยอมรับว่าไอโฟนเหนือกว่าอยู่นิดหน่อย
เห็นด้วยกับอันนี้แหละ
ทำให้ผมนึกถึง หนังประวัติ Microsoft & Apple จำไม่ได้ชื่อเรื่องว่าอะไร ก็ไม่รู้ว่าใครลอกใคร ใครพัฒนาก่อนกัน สุดท้ายก็แยกย้ายกัน ดังไปคนละทาง ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลแล้ว
Pirate of silicon valley หรือเปล่าครับ
ถ้า MS กับ Apple ก็ตอบง่าย ๆ ครับว่า ลอกทั้งคู่