Google Street View ถือเป็นบริการของกูเกิลที่มีปัญหามากที่สุดตัวหนึ่ง นอกจากประเด็นเรื่องการถ่ายภาพที่เจ้าของสถานที่ไม่ต้องการให้ถ่ายแล้ว (ข่าวเก่า) ยังมีประเด็นเรื่องรถถ่ายภาพของกูเกิลสแกน Wi-Fi access point ในบริเวณนั้นเพื่อช่วยหาพิกัดของภาพถ่าย นอกเหนือจากการใช้ GPS ที่มีปัญหาเวลาอยู่ในร่ม
Street View เคยมีปัญหาว่ากูเกิลไม่ได้เก็บเฉพาะข้อมูล access point แต่เก็บข้อมูลอื่นๆ ของผู้ใช้ด้วย จนเป็นคดีในยุโรปหลายประเทศ โดยเฉพาะเยอรมนีและฝรั่งเศส
ล่าสุดกูเกิลออกมาแถลงนโยบายด้านการเก็บข้อมูลของ Wi-Fi access point ว่าจะเปิดโอกาสให้เจ้าของ access point บอกกูเกิลว่าไม่ต้องเก็บข้อมูล โดยวิธีการคือเติมคำว่า "_nomap" ต่อท้ายชื่อ SSID ของเรา (เช่น Mywifi_nomap)
คำถามที่ตามมาคือ จะมีใครไหมที่ยอมเปลี่ยน SSID ของตัวเอง ด้วยเหตุเพราะไม่อยากให้กูเกิลมาเก็บข้อมูลไป
ที่มา - Official Google Blog
Comments
personal hotspot จะโดนเก็บด้วยมั้ยเนี่ย?
(น่าจะ)โดนหมดครับ
SPICYDOG's Blog
ผมอยู่ข้างกูเกิลแฮะ ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจข้อกฏหมายจริงๆ เท่าไหร่ แต่เหมือนกับว่าเรามี access point ชื่อนึงแล้วไม่อยากให้คนที่อยู่บ้านข้างๆ รู้ยังไงหยั่งงั้น
positivity
เอาเป็น ถ้าอยากให้เก็บก็ให้ใส่ _showmyass ต่อท้าย ssid ดีกว่า
นั้นสิ ผมคิดว่าถ้าอยากให้เก็บ ควรให้เติมท้าย มันน่าจะถูกต้องกว่า...
+1
+1 ด้วย
อย่างนี้สิพูดดูดีหน่อยพูดว่าไม่อยากให้เก็บเติมนู้นนี้เหมือนปีศาจจริงๆ ส่วน _nomap เป็นยันต์
+1
ฮาไปมั้ย มีปัญหาที่ตัวเอง แต่ให้คนอื่นแก้?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เหมือนกับบอกว่า ถ้าไม่อยากให้เข้าบ้านก็จงเขียนป้ายบอกมาซะ -..-
ลึกๆแล้ว google คือ evil ตัวจริง ...
+1
ผมว่า ตัวจริงทุกเจ้า....
ไม่ลึกนะ รายนี้ evil ตัวจริง แถมประกาศตัว + หาพวกด้วย
บิดาทุกสถาบัน
@TonsTweetings
สุด ๆ
+10 ของจริง ตัวจริง
อันนี้ผมเห็นใจฝั่งกูเกิลนะ เว้นเสียแต่ว่าคุณซ่อน SSID อันนี้ค่อยไปว่ากูเกิล
ถ้าเปรียบเทียบในด้านเทคนิคแล้ว พวกนี้ไม่มีอะไรลึกลับและเป็นส่วนตัวเลย เพราะข้อมูลพวกนี้คุณก็ broadcast ออกมาอย่างโจ่งครึ่มอยู่แล้ว ไม่ได้เก็บงำ ไม่ลึกลับอะไรเลย ใครเดินไปใกล้ๆ ใช้อุปกรณ์ไวไฟอะไรก็ได้ก็จะได้ชื่อ SSID, MAC address ครบ
เหมือนกับว่า เราห้ามไม่ให้มีการถ่ายภาพทางอากาศผ่านพื้นที่บ้านเรา แล้วข้อมูลพวกนี้ก็ไม่ได้สาวถึงตัวบุคลลได้โดยตัวมันเอง ซึ่งไม่เหมือนกับการถ่ายติดหน้าบุคคล ซึ่งอันนั้นมันบ่งชี้บุคคลได้เลย
+1024
อุปกรณ์มือถือปกติมันหาได้แต่ SSIDนิครับและอื่นๆนิดหน่อย ไม่หา MAC address ของ access point นอกจากจะเขียนโปรแกรมให้มันอ่าน MAC address อันนี้ถือว่าเป็นการระเมิดครับ อย่างแอปต่างๆที่เกี่ยวกับการหาข้อมูลสำคัญของ AP ยังถูกถอดออกจาก app storeเกือบหมดเลยครับ อีกอย่างGoogle เป็นบริษัทเอกชน ไม่ใช่จะทำไรตามใจก็ได้ ต้องขออนุญาติ ถ้าไม่ช่ายในงานของรัฐเรื่องพวกนี้ผมก็ว่าไม่ถูกต้องครับ จึงไม่มีความเห็นใจฝั่งgoogle เลย
อาจจะดูเหมือนข้อมูลพวกนี้ไม่มีความสำคัญอ่ะไร ประเทศที่เจริญเเล้ว อย่างญี่ปุ่นมีกม.เกี่ยวกับการใช้ไวไฟ เเล้วข้อมูลพวกนี้ึครับ
app พื้นฐานติดมือถือ อาจไม่บอก mac แต่ app พวกที่ไว้ scan wifi ก็โชว์ mac กันหมดนะครับ ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม ต้องไป crack ถึงจะมองเห็นอะไรเลย
ยิ่งถ้าใช้ pc/nb โปรแกรมที่แถมมากับการ์ด wifiมัน scan ได้หมดอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าคุณจะกดดูมันหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ย้ำว่าข้อมูล ssid/mac adrress เป็นข้อมูล broadcast ตามปกติ ไม่ใช่ความลับสุดยอดอะไรเลยครับ
แค่โปรแกรมสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป มักจะไม่โชว์ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีครับ
แค่เลข MAC Address เป็นข้อมูลมาตรฐานไวไฟอยู่แล้วครับ ข้อมูลทุก frame ที่ส่งออกต้องมี MAC Address แปะอยู่แล้วครับ (กลับไปอ่านเอกสารมาตรฐานการส่งข้อมูลได้)
ตลกแล้วครับ แมคมันเป็นของที่ public และ broadcast ตลอดเวลาครับ
แอพที่ดูได้ก็มีเยอะแยะไป บน iOS ก็มีนะ ผมแปะไว้แล้วในคอมเมนต์ล่าง
อย่างน้อยก็มี "ช่อง" โต้แย้งที่ดูสมเหตุในระหว่างพิจจารณาคดี ;)
my blog
นึกถึงภาพนี้ทันที
http://farm7.static.flickr.com/6114/6244099736_465fc88a4d_z.jpg
เก็บแค่พิกัด GPS ก็พอมั๊ง
WPA2
จัดไป
http://fail.in.th/2011/10/free-access-point/
ฮาแทบตกเก้าอี้เลยค่ะ สุดยอดจริง ๆ (^o^)/
+1 นึกถึงเฟลนี้ขึ้นมาเหมือนกัน
กูเกิ้ลจะแบ่งรายได้ที่ได้มาจากข้อมูลเจ้าของ Access Point ไหมอ่ะ หรือว่าเอาข้อมูลของเค้าไปใช้ฟรีๆ จริงๆมันต้องให้เจ้าของใส่ _google เพื่อยอมให้เก็บข้อมูลมากกว่านะ
ก็ถ้าไม่ซ่อน ssid ใครเปิด wifi มาก็เห็นอยู่แล้ว google แค่เก็บมันไว้ในฐานข้อมูลเท่านั้่นเอง มองในแง่นึงการที่คุณไม่ยอมซ่อน ssid ก็แสดงว่าพร้อมจะเปิดเผยชื่อ ssid นั้นๆในสาธารณะอยู่แล้ว ไม่ต่างจากคุณแปะเลขที่บ้านหน้าบ้าน แล้วมีคนจดเลขที่บ้านหน้าบ้านคุณไปทำแผนที่ GIS นั่นแหละครับ
ใช่ครับ มันคือกรณีเดียวกับที่มีแฮกเกอร์ไล่ขับรถแสกน SSID นั่นล่ะครับ เพียงแต่กรณีนั้นแสกนไว้แล้วไม่บอกใคร แต่ของกูเกิลแสกนแล้วมันเป็นข่าว เลยเป็นเรื่องด้วย
กูเกิลนิสัยเสีย เหมือนพวกชอบเด็ดดอกไม้ตามสวนสาธารณะ หรือพวกชอบแอบยกกระถางดอกไม้หน้าบ้านคนอื่น
I'M... , NOT A CLONE.
ผมว่าถ้าจะเปรียบเทียบให้ถูกจริงๆผมกลับคิดว่า แทนทีกูเกิลจะเดินดูดอกไม้ปกติ กูเกิลดันจดไปด้วย ว่าบ้านไหน สวนไหน ปลูกดอกอะไร สีอะไรบ้าง เพราะดอกไม้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม กระถางไม้ได้เคลื่อนที่ แต่กูเกิลรู้หมดว่าบ้านไหนปลูกอะไรบ้าง ...
แต่สิ่งที่น่ากลัวว่าก็คือ คนธรรมดาจดไปก็เท่านั้น แต่กูเกิลจดไปเนี่ย พอเราเล่นเน็ตจาก AP ที่เค้ามีข้อมูล เค้าสามารถระบุตำแหน่งเราได้เลย เพราะข้อมูลของเราวิ่งไปหาเค้าอยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว (ในหลายๆบริการของเค้า)
ถ้าเปรียบเทียบต่อก็คือ คุณเดินถือดอกไม้ไปแล้วกูเกิลสามารถบอกได้เลยว่าคุณอยู่บ้านไหน ...
mac ที่กูเกิลเก็บมัน mac ของ ap ครับ ผมว่าคงไม่มีใครเดินถือ ap หิ้วแบตพ่วงไปก้อนนึงเดินไปทุกๆที่นะ
ส่วนพวก personal hotspot ตามมือถือ กำลังส่งมันต่ำครับ โอกาสที่จะจับได้มันน้อยกว่k ap ตั้งโต๊ะมากๆ
ระหว่างให้ google เลิกเก็บข้อมูลเพียงรายเดียว กับ ให้คนอื่นๆนับไม่ถ้วนเปลี่ยน SSID อย่างไหนสะดวกกว่ากัน :)
ผมว่ามันล่วงเกินสิทธิส่วนบุคคลเกินไปครับ google เอ๋ย
เฉพาะในส่วน SSID นี่อันนี้เห็นด้วยกับ Google เต็มๆ แต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บหรืออาจจะเก็บนี่ต้ิงดูรายละเอียดมากกว่านี้
เพราะ SSID คุณเปิดเป็นสาธารณะเอง ทางอื่นที่จะซ่อนได้ก็มีเยอะแยะแต่เลือกที่จะไม่ทำเอง ส่วนตัวผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำกับเรื่องนี้
ถ้าทำอะไรไม่มีขอบเขตกันแบบนี้อีกหน่อยคงมีการให้เอารูปบ้านตัวเองออกจาก Google Maps กันแน่ๆ (ซึ่งผมมองว่ามันปัญญาอ่อนมากถ้ามีใครคิดจะทำจริงๆ)
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
+1
twitter.com/exfictz
+1 ครับ broadcast SSID นี่ผมว่าก็เป็นเหมือนการยอมให้ทุกคนเห็นอยู่แล้ว
ผมว่าคนส่วนใหญ่กว่าไม่รู้ว่า SSID คืออะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง และไม่รู้ว่าจะซ่อนมันยังงัย ถ้าจะบอกว่าไม่รู้เหมือนกับไม่สนใจ และเท่่ากับไม่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวก็ไม่น่าจะถูกต้อง
ที่ผมพูดแบบนั้นเพราะมันไม่ใช่ว่าแค่คุณรู้สึกไปเองว่ามันกระทบแล้วจะไปเอากฏหมายมาบังคับเค้าได้เสมอไปครับ
ข้อสำคัญข้อแรกคือ คุณต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่าผลกระทบที่คุณบอกว่ากังวลนั้นคืออะไร และต้องบอกให้ได้เป็นรูปธรรมด้วยว่ามันรุกล้ำสิทธิคุณอย่างไรกับการที่เค้าบันทึกไว้ว่าบนถนนเส้นนี้จุดนี้บริเวณนี้มี SSID, Mac Address อะไรบ้าง
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
มัน pubic หนิ Google ไม่เกี่ยว
Public ครับ Pubic นี่ไม่ค่อยดีนะ ฮ่าๆๆ
ตกตัวเดียวอันตรายเลย
ผมว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเทคโนโลยี Wi-Fi นะ
การที่คุณตั้ง access point ขึ้นมา คนแถวบ้านคุณในระยะร้อยเมตรที่เสาดีๆหน่อยเค้าก็สแกนกันได้หมดทั้งนั้น ข้อมูลพวกนี้มันไม่ใช่ข้อมูลลับอะไร ก็แค่ SSID/MAC เท่านั้นเอง
คุณไม่มีทางปลอดภัย ต่อให้ซ่อน SSID คนอื่นก็ยังมีวิธีสแกนได้อยู่ดี หรือต่อให้ lock mac บ้าบออะไร ก็เป็นวิธีป้องกันที่ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น วิธีที่ปลอดภัยจริงๆ(สำหรับตอนนี้)ยังมีแค่ WPA2-AES เท่านั้น
สรุปแล้วกับอีแค่ SSID/MAC เนี่ย เอาไปก็ทำไรไม่ได้หรอกครับ
มือถือปกติหรืออุปกรณ์ต่างไม่ได้ตั้งค่าให้สแกนได้ตั้งแต่ต้นหรือเปล่า นอกจากพวกมีความรู้เเล้วหาทางสแกนได้ ตามที่บอก
การดู mac ของ AP ที่ broadcast ตามปกติมันไม่ใช่เรื่องต้องห้าม เหมือนการทำ promicuous mode ในการ sniff ข้อมูลนะครั
โปรแกรมที่แถมมาส่วนใหญ่ เปิดดู mac ของ AP ได้เลย
โปรแกรมแจกฟรีมีเยอะแยะไปครับ
อะ ของ iOS เสิร์ชเจอกันแรกเลยครับ
ใครก็ได้บอกข้อเสียของการที่กูเกิลเก็บข้อมูล access point ที ทำไมถึงมีคนออกมาโวยวาย??
^
^
that's just my two cents.
ผมว่าโวยวาย เพราะ gg หาประโยชน์ฝ่ายเดียวมากกว่า
อิอิ
ผมไม่ซ่อน ผมไม่ปิด อยากเก็บๆ มาเลย ให้ใช้ฟรีด้วย...
ถ้ารถมันเข้ามาวิ่งซอยบ้านผมได้น่ะ ขนาดอยู่สมุทรสาครยังรู้สึกเหมือนอยู่หลังเขา!!
คือรถน่าจะวิ่งเฉพาะเขตที่เจริญแล้ว ผมคิดว่างั้น
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
จัดไปเลยจ๊ะ
ผมว่าให้เขาเก็บไปออกจะดี อย่างน้อย เครื่องคอมที่ไม่มี GPS ก็สามารถ check ตำแหน่งแบบคร่าวๆได้
ไม่ใช่หน้าที่นะครับ
คำถามคือ คนที่ต่อต้านการเก็บ WIFI AP ssid ได้ต่อต้านการทำแผนที่ธรรมดาไหม? โดยเฉพาะแผนที่ GIS ที่เขาเก็บข้อมูลละเอียดกระทั่ง เลขที่บ้าน หรือแม้แต่รูปร่างอาคาร ซึ่งแผนที่พวกนี้หาได้ไม่ยาก หน่วยงานแบบไปรษณีย์ โทรศัพท์เขามีหมด ละเอียดมากๆด้วย และขายให้เอกชนด้วยเช่นกัน?
บางทีคนเราก็ต่อต้านทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันจะมีข้อเสียอะไร หรือละเมิดอะไรจริงๆหรือไม่สักหน่อย?
น่าคิด...และค่อนข้างมันใจว่าเรื่องที่กลัวกัน น่าจะเป็นเรื่องไม่ดีจะหลุดสู่สาธารณะ
อยากถามว่าทราบมาจากไหนว่าหน่วยงานไปรษณีย์เขามีข้อมูลอย่างที่ว่าครับ แถมขายให้เอกชนด้วย?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คือผมไม่เข้าใจคนที่มาโวยวายนั้น เข้าใจกันจริงๆรึเปล่าว่าเพียงแค่ข้อมูลเพียงสองชิ้น ได้แก่ MAC Address กับ SSID ที่คุณไม่ได้ซ่อนจากอุปกรณ์ WiFi Access Point ของคุณเองนั้น จริงๆแล้วสามารถทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวคุณเองได้หรือไม่ และอย่างไร?
ผมว่าสำหรับคนไทยแล้ว ไม่ต้องไปมองถึงเรื่องไกลตัวอย่างกูเกิลจะครองโลกด้วยข้อมูลสองชิ้น อันได้แก่ MAC Address กับ SSID จากหลังคาบ้านคุณเลยครับ เอาแค่ว่าหน่วยงานต่างๆในบ้านเราทั้งรัฐและเอกชน เค้าถือครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราๆท่านๆกันดีแล้วรึยัง มีสำนึกกันรึเปล่า อย่างเช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ ก็อปปี้สำเนาทะเบียนบ้าน, ก็อปปี้บัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น ของพวกนี้ได้เก็บกันดีหรือไม่ หรือวางไว้โจ่งครึ่ม รอให้ crawler มาเก็บเกี่ยว เช่น อย่างนี้ หรือ อย่างนี้ เป็นต้น
ก็เพราะเขาไม่เข้าใจนั่นล่ะครับ เขาถึงโวยวาย
ปล.ผมก็ไม่เข้าใจ แต่ไม่อยากโวย เพราะขี้เกียจดราม่า
ไม่ใช่สองแต่เป็นสามครับ MAC, SSID แล้วก็พิกัดด้วย ผมไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องนี้ แต่ถ้าจะมีเรื่อง เอาแค่เบาะ ๆ เบา ๆ สมมติร้านขายอุปกรณ์เค้าเก็บ MAC อุปกรณ์ที่ขายไว้ มาตอนหลังก็สามารถหาได้ด้วยว่าบ้านลูกค้าอยู่ตรงไหนนะครับ
เมื่อพูดถึงข้อเสียแล้ว ผมขอแบบว่า "ข้อดี" บ้างได้มั๊ยครับ ?
เช่น เราจะได้รู้ว่าแถวนั้นๆ หากเราต้องการจะเดินทางไป .. มี Wi-fi ของผู้ให้บริการเจ้าไหนบ้าง และ คุณภาพสัญญาณของผู้ให้บริการเจ้าไหนดีที่สุด
เอ .. ไอ้การจะให้รถ Street View มาเก็บข้อมูลของสัญญาณ Wi-fi บ่อยๆ มันจะไหวเหรอ .. ผมกลัว Google เอา Street view บังหน้า แล้วให้ Android แอบส่งข้อมูล wifi ที่สแกนได้เพิ่มเข้าไปมากกว่า .. เพราะเจ้า Android ผมมันมีข้อมูลนี้อยู่พร้อมแล้วนี่นะ
ด้วยข้อมูลไวไฟจะทำให้สามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆได้ใกล้เคียงความจริงในระยะไม่เกินยี่สิบเมตร, กำหนดตำแหน่งได้เร็วกว่า GPS เพียงอย่างเดียว, รวมถึงสามารถระบุตำแหน่งได้แม้อยู่ใต้ชายคาอาคาร,ในอาคาร,หรืออยู่กลางหมู่ตึกสูงๆ หรืออยู่ในจุดที่ไม่เห็นท้องฟ้าได้
ผมก็พอทราบเรื่องนี้อยู่นะ .. แต่ปกติในการคำนวณหาตำแหน่งจะต้องมีจุดอ้างอิงที่แน่นอนก่อน .. หากเราได้ข้อมูลพิกัดของ AP มันจะง่ายขึ้นมาก (ยังมีเรื่องระดับความแรงของสัญญาณที่ AP แต่ละตัวอาจจะปล่อยมาไม่เท่ากัน)
แต่ในกรณีนี้จุดพิกัดของ wifi นั้น Google ก็ไม่น่าจะทราบ และมันก็มีเรื่องระดับความสูงที่วาง AP เข้ามาเกี่ยวด้วย .. ความแรงของสัญญาณก็อาจจะไม่เสถียรได้อีกเนื่องจากผลกระทบจากสิ่งที่อยู่ใกล้เคียง
ผมว่าหากมีการนำไปใช้เป็นจุดอ้างอิง น่าจะใช้ในลักษณะตำแหน่งที่ใกล้เคียงกันโดยประมาณจะง่ายกว่า คล้ายๆ กับการหาร้านค้าที่ใกล้เคียงจุดที่เราอยู่
หัวข่าวฟังดูชวนดราม่า แต่ผมว่ามันง่ายกว่าส่งชื่อไปให้ google ถอดออกเยอะเลยนะครับ แล้วก็มีผลทันทีด้วยนะเออ
มันไม่ได้มีผลทันทีน่ะสิครับ มันมีผลแค่ตอนที่รถเก็บข้อมูลวิ่งผ่านอย่างเดียว
อืม จริงด้วยแฮะ
อย่างน้อยก็มีผลตอนรถวิ่งผ่านล่ะมั้งครับ :D
แจ้งไว้ด้วยสิครับว่ารถจะมาผ่านบ้านผมตอนไหน
ไม่ใช่จะปิด AP รอนะ แต่จะไปยืนถือป้ายให้รถมันถ่ายเจ๋ง ๆ หน้าบ้าน XD
จริงๆแค่เปลี่ยน SSID ไปก็หาไม่เจอแล้วนี่ครับ เพราะมันต้องอ้างอิงตอนที่ถ่าย กับอันที่เค้าเก็บไว้ก่อนหน้า แค่เปลี่ยนไปมันก็จะรู้แล้วว่าอันนี้ห้ามเอาไปใช้อ้างอิง แม้จะยังมีข้อมูลเก็บไว้ก็ตามที
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ใช่ครับ แค่เปลี่ยนตอนที่ถ่ายหรือไม่ก็ปิดเลย (แต่พวกซ่อนก็ห้ามไม่ได้)
ผมว่า มันไม่น่าจะต้องเป็นความลำบากของเรานะ ไม่มีเหตุผลที่เราต้องเปลี่ยนชื่อ SSID
มันสร้างความเดือนร้อนให้คนอื่นเขามากไปนะผมว่า
ถ้า Google อยากจะเก็บจริง ก็ต้องมีวิธีการอะไรที่มันดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าผลักภาระให้กับคนอื่นเค้า
WIFI_nogooglemap_nobingmap_no4sq_noblalabla
Blog | Twitter
กำลังคิดอยู่เลย...
ถึงแม้ว่าบ้านข้าพเจ้าจะเปิดประตูบ้านไว้ ก็ไม่ใช่ว่า คนอื่นจะสามารถเดินเข้ามาถ่ายรูปแล้วเดินออกไปเฉยๆได้
เหมือนมีคนมาถ่ายรูปหน้าบ้านคุณ คุณชอบหรือเปล่า?
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
แก้ไขด้วยิธีการแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนฟ้องอยู่
รถกูเกิลวิ่งแค่บนถนนครับ ถ้า access point ของคุณโดนเก็บไปด้วย แสดงว่าคุณกำลังปล่อยสัญญาณออกมารุกรานพื้นที่สาธารณะ ฉะนั้นอย่าบ่นครับ
เหมือนกับคุณเปิดเพลงด้วยสเตอริโอกระหึ่มออกไปนอกบ้าน แล้วไปด่าคนที่ขับรถผ่านมาได้ยิน
ผมว่ามันไม่ใช่นะ สเตอริโอนั่นมันมีมลภาวะทางเสียง แต่นี่ไม่มีไง Wifi Pollution
Blog | Twitter
ระวังโดนคนที่แพ้สัญญาณ Wifi ฟ้องเอานะครับ 55 (ถึงจะยังไม่มีการรับรองทางวิทยาศาสตร์ก็เถอะ)
ไม่มีปัญหาถ้าจะมาใช้ระบุตำแหน่งแต่ผมมีปัญหาในการเก็บไป ส่วนตัวแล้วปรกติ broadcast ssid อยู่แล้ว แต่ประเด็นคือ คุณใช้เสร็จเพื่อระบุตำแหน่งเพื่อแก้ปัญหาของคุณแล้วก็ลบออกไป!! มาใช้ของชาวบ้านเค้าแล้วหยิบของติดไม้ติดมือกลับไปอีก แถวบ้านผมเรียก "ขโมย" ครับ
ประเด็นของผมอีกอย่าง ถึงแม้สัญญาณจะปล่อยออกมาเป็น Public แต่ข้อมูลที่ปล่อยออกมาหรือคุณไปใช้ของเค้ามันไม่ Public แม้ในทางเทคนิคจะทำได้ แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ
ในฐานะที่เคยอยู่ในวงการนึงที่สามารถละเมิดคนได้อยู่เนืองๆ คือวงการถ่ายรูป
ถ้ามีสาวสวยน่ารักยืนอยู่ parc paragon แล้วดันมีตากล้องคนนึงสนใจอยากเก็บภาพเธอไว้กลับบ้านไป แน่นอน ตัวเธอก็ไม่ได้เสียหายอะไรในตอนนั้น ก็ถ่ายๆ ไป แต่ในทางกฎหมายถือว่าผิด เพราะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล (เป็นที่มาของการใช้ model release ในวงการถ่ายภาพเวลาต้องการนำภาพไป public)
ลองเปลี่ยนประโยชน์ด้านบนจาก "สาวสวยน่ารักยืนอยู่" เป็น "AP" ของเรา แล้วไปวางในที่ Public และปล่อยสัญญาณเช่นกันหรือสัญญาณดันไปโดนรถบ้านี่จับได้ แล้วก็ดันเก็บข้อมูลบางอย่างไป
แน่นอนทั้งสองกรณี ข้อมูลที่ได้ไปอาจจะไม่สามารถระบุตัวตนได้ แต่ถ้า "คนรู้จักสาวสวยคนนั้น" เท่ากับ "คนรู้ว่า mac/ssid" นั้นว่าอยู่ที่ไหนเป็นของใครหล่ะครับ หมายถึงระบุตัวได้ว่าของนี้เป็นของใคร
อันนี้ผมนั่งๆ คิดๆ อยู่ ไม่ได้คิดอะไรมาก ฝากให้คิดๆ ดูครับ แต่พอดีว่าไอ้สิ่งที่รถนี่ได้ไปอาจจะไม่ sensitive เท่าๆ กับรูปถ่าย แต่ก็พอจะเทียบๆ ได้
พูดมาเยอะแยะ จะบอกง่ายๆ ว่าใช้แล้วก็ลบไปดิ จะเอาเก็บไปทำอะไร แล้วมาบอกให้เป็น "ภาระ" คนอื่นๆ ที่เค้าใช้กันปรกติดีอยู่แล้ว มาเปลี่ยนให้คุณเหรอ "บ้าป่ะ" แค่นั้นแหละ ><"
หลังๆ คิดถึง http://masterplanthemovie.com แฮะ ...
ฮ่า อ่านแล้วก็คิดว่าถ้าไม่ใช่ตากล้องอย่าง Ford คงเปรียบเทียบไม่ได้ขนาดนี้
อีกอย่างที่เทียบพอได้ก็คือ พอดีว่ามีแฟนสวย อยู่ๆ มีหนุ่มหล่อมาขอเบอร์ แม้เจ้าหล่อนจะให้ไป แต่คิดว่าเราอยากให้ไอ้หนุ่มนั้นได้เบอร์ไปไหมหล่ะ ดูแต่ตาก็พอ ไม่ต้องอยากทำความรู้จักจนออกนอกหน้าขนาดนั้นก็ได้ ;P
มาม่ากันมั้ย คิ_คิ
เมื่อกี้กินยำมาม่ามาแล้วครับ อิ่มแหละ ;P
เกือบทั้งหมดผมเห็นด้วยนะครับ แต่ยกเว้นอย่างนึงคือการที่คุณเอาไปเทียบเคียงกับการถ่ายรูปนี่แหละ
คือสิทธิในรูปถ่ายมันเป็นสิทธิเสรีภาพในตัวบุคคลที่กฏหมายคุ้มครอง มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญรับรองถึงความมีอยู่ไว้ซึ่งสิทธิดังกล่าวในร่างกายของคุณให้ครอบคลุมไปถึงรูปถ่าย ดังนั้นจึงมีกฏหมายชัดเจนว่าการทำแบบนั้นมันผิดกฏหมาย
แต่กลับกันสิทธิใน SSID หรือ Mac Address ยังไม่มีบัญญัติรับรองไว้ว่าห้ามนำสิ่งที่ตัวบุคคลนั้นๆตั้งใจเปิดออกสู่เป็นสาธารณะเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าในทางหากำไรหรือไม่หากำไรก็ตามแต่ เพราะทั้งนี้มันไม่ใช่สิทธิที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลโดยตรงเหมือนภาพถ่ายที่จะเอาไปยืนยันตัวบุคคลได้แน่นอนที่จะสามารถนำสิทธิเสรีภาพพื้นฐานมาปรับใช้ได้ครับ กรณีนี้ถ้าจะเทียบให้ใกล้เคียงก็น่าจะเป็นเลขที่บ้านมากกว่าที่ระบุว่าสิ่งนั้นคืออะไรอยู่ที่ไหนเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้บอกว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของทั้งคู่ ซึ่งการเดินตามถนนแล้วจดว่าบ้านเลขที่นี้อยู่ตรงไหนทุกคนย่อมทำได้จริงมั้ยครับ แต่เพียงการกระทำของ Google เป็นสเกลที่ใหญ่และมีผลทางการค้าด้วยที่ทำให้มุมมองต่างออกไปมากเสียกว่าจะเกิดจากการกระทำดังกล่าวโดยตรง
ประเด็นอีกอันก็คือต้องอย่าลืมว่าเราใช้ชีวิตกันอยู่ใต้กฏหมายเอกชน ที่อยู่บนหลักการพื้นฐาน 2 ประการที่ว่า ทุกคนมีอิสระที่จะทำได้เท่าที่ไม่มีกฏหมายบัญญัติห้ามไว้และการกระทำต้องไม่กระทบสิทธิของผู้อื่นจนเกินสมควร ดังนั้นการที่จะบอกว่าการนำ SSID ไปใช้"ช่วย"ในการระบุพิกัดมันกระทบสิทธิคุณอย่างไร เพราะตามที่ผมเข้าใจมันไม่ได้ระบุว่า SSID นี้อยู่พิกัดไหนแน่นอนไม่ได้บอกว่ามาจากบ้านหลังไหนด้วยซ้ำไปมันบอกแค่บริเวณแถวนั้นซึ่งอาจจะมีรัศมีเป็น 10-100 เมตรก็ได้
ดังนั้นคนที่ไม่ต้องการให้นำ SSID ไปใช้นั้นก็จะต้องบอกได้ว่าสิ่งที่เค้าทำมันกระทบสิทธิคุณอย่างไร และความเสียหายคืออะไร และที่ว่าเกินสมควรนั้นคือเท่าใดเสียก่อนครับไม่ใช่ว่าแค่ไม่อยากให้ใช้เฉยๆแต่ไม่มีเหตุผลที่ดีพอ
แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของความเป็นส่วนตัวของแต่ละประเทศอีกทีด้วยนะครับ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ขอเสริมความเห็นคุณนะครับ เพราะผมอ่านมาถึง Comment นี้แล้ว ก็อยากกล่าวว่า เลอะเทอะกันไปใหญ่จริงๆ เกือบทั้ง 100% ผู้ออกความเห็นไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจถึงระดับ WiFi Stack แล้วใส่ไข่กันจนเลอะเทอะไปหมด แต่เห็นคุณ "Not Available a..." พยายามแก้ไขความเข้าใจอยู่คนเดียว และเห็นว่า ประเด็นสำคัญขาดไปประเด็นหนึ่งคือ...
ขอเสริมที่คุณกล่าวไว้ว่า "ดังนั้นการที่จะบอกว่าการนำ SSID ไปใช้ 'ช่วย' ในการระบุพิกัดมันกระทบสิทธิคุณอย่างไร เพราะตามที่ผมเข้าใจมันไม่ได้ระบุว่า SSID นี้อยู่พิกัดไหน"
ขอเสริม 2 อย่างคือ..
1) สิ่งที่ Google เก็บนั้น ใช้ "ช่วย" เจ้าของ Access Point นั่นแหละครับ
Google เก็บไปคือ Mac Address ครับ SSID นั่นไม่เกี่ยวเลย เขาให้แก้ไขชื่อเพื่อใช้เป็น Index ว่าจะไม่บันทึก MAC/Addr ของ SSID ที่ลงท้ายดังกล่าว เพราะ SSID ซ้ำได้ครับ ถ้าคุณซื้อ AP ใหม่ๆ มาใช้งานทันที มันก็ SSID เดียวกันหมดครับ สิ่งที่แตกต่างกันคือ MAC/Addr ครับ
อย่างที่ 2 ที่จะเสริมคือ...
2) ผู้ที่ได้ประโยชน์คือ... ผู้ที่ใช้งาน AP นั้นๆ ได้ครับ ในขณะที่คุณอยู่บริเวณนั้น ถึงแม้มือถือคุณ Scan ได้เลข MAC/Addr คุณไป แต่ถ้าเขา Online Internet ไม่ได้ ก็ไม่ได้อะไรครับ! ย้ำว่า.. ไม่ได้อะไร!
และถ้ามือถือเครื่องนั้น เขา Online ได้ โดยไม่ได้ใช้ AP ของบ้านคุณ (จะ EDGE หรือ 3G ก็ตามที) ไอ้เลข MAC/Addr ของคุณ ก็ไม่จำเป็นมากนักแล้วครับ
แต่.. ผู้ที่มีโอกาสได้ประโยชน์มากที่สุดคือผู้ที่ใช้งาน AP ของคุณ ในบริเวณรัศมีทำการของ AP คุณเองครับ
ผมงงว่าเค้าจะไปใช้ระบุตำแหน่งอะไรหรอครับ
ภาพที่เค้าเก็บไปไงครับ
My Blog
ไม่ใช่นะครับ เอาไปไว้ช่วยระบุตำแหน่งของพวกระบบ A-GPS น่ะครับ เพราะภาพที่เค้าเก็บไปเค้าเก็บตำแหน่งด้วยอย่างอื่นอยู่แล้ว
คือยังงงอยู่ดี เค้าเอา wifi เราไปใช้ประโยชน์ยังไงอ่ะครับ เพราะถ้าเราล็อคไว้ มันก็น่าจะได้ไปแค่ Mac กะ SSID แล้วมันมีประโยชน์ตรงไหนอ่ะครับ งงๆๆ -*-
ทำไมไม่ลองใช้วีธี เลือกเก็บ SSID เฉพาะที่ลงท้ายด้วย "_public" แทนหละครับ ?
บางทีคนเปิดร้านกาแฟก็อยากจะประกาศให้คนเค้ารู้ว่าที่ร้านมีบริการ wifi ก็ได้ .. เค้าก็น่าจะยินดีจะเปลี่ยนโดยสมัครใจ
ผมเลยสงสัยมาอีกเรื่องนึง แล้วพวก 3G router พกพา หรือ Internet tethering จากโทรศัพท์ล่ะครับเนี่ย หรือ Google เค้าเช็ค lot MAC Addr ว่าเป็นพวกนี้แล้วตัดทิ้งหมด?
จริงๆผมไม่ซีเรียสเรื่องเก็บ MAC หรือ ssid หรอกครับ
แต่ผมก็รู้สึกว่ามันก็เป็นของส่วนตัวนะ
และยิ่งรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามันถูกเอาไปผูกกับพิกัดดาวเทียม
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เฉพาะอุปกรณ์ในบ้านผมเห็น ssid โดยที่คนอื่นไม่สามารถเห็นได้
แต่ผมไม่อยากจะ hidden ssid ไว้ เพราะผมก็ขี้เกียจพิมพ์ ssid ใหม่
เวลามีอุปกรณ์ใหม่ๆหรือเพื่อนมาบ้านจะได้คลิกเลือก ssid ได้เลย
แต่ความต้องการ 2 อย่างมันสวนทางกันผมก็ต้องเลือกทางที่มันง่ายๆไว้ก่อน
เพราะผมก็ไม่ซีเรียสเรื่องโดนเก็บข้อมูลพวกนั้นด้วย
แต่ลึกๆผมก็ไม่อยาก brodcast ssid ออกไปหรอกครับ
หรือผมต้องกลับไปใช้สายแลนถึงจะตอบโจทย์ของผมได้ T_T
บางทีคนเราก็มักจะทำอะไรแปลกๆ แบบนี้หละครับ
ผมเชื่อว่าที่บ้าน เกือบทุกคนต้องเซต pwd ให้กับ WiFi-Access point ของตนอยู่แล้ว ... แม้ว่าเดียวนี้ computer, notebook และ มือถือ จะสามารถจำค่า SSID, User, Pwd ได้ ซึ่งทำให้เราแค่ใส่ค่าลงทะเบียนเพียงครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น ..
หากเราปิด broadcast SSID เราก็แค่พิมพ์เพิ่ม SSID เข้าไปอีกหนึ่งอย่างนอกจาก user, pwd แต่เรากลับรู้สึกยุ่งยาก, ขี้เกียจ และรู้สึกว่าไม่สะดวก ... แต่ที่ต้องพิมพ์ user, pwd เรากลับไม่รู้สึกคิดแบบนั้นเท่าไร ! แปลกมั๊ยครับ