จอภาพ LCD ในปัจจุบันนั้นทั้งโซนี่และซัมซุงร่วมลงทุนกันในบริษัทชื่อ S-LCD ที่มีมูลค่าบริษัทประมาณแสนล้านบาท แต่ล่าสุดทางโซนี่ก็ประกาศขายหุ้นทั้งหมดคิดเป็น 50% ลบออก 1 หุ้น โดยทางซัมซุงจะจ่ายเงินสดมูลค่าสามหมื่นล้านบาทให้กับทางโซนี่ และทางโซนี่จะยังได้รับประกันจำนวนสินค้าที่จะส่งมอบให้ในราคาตลาดต่อไป โดยไม่ต้องรับภาระการดูแลโรงงานหรือต้นทุนการผลิตอื่นๆ
โซนี่ให้เหตุผลของการถอนตัวว่าอุตสาหกรรมจอภาพ LCD กำลังเปลี่ยนไป ซึ่งคงหมายถึงตลาดทีวี LCD ที่ไม่เติบโตนักในช่วงหลัง โดยทางโซนี่คาดว่าจะประหยัดเงินค่าจัดซื้อจอภาพไปได้ถึงห้าหมื่นล้านเยนในปีหน้า
ยุคนี้สงสัยต้องตลาด AMOLED
ที่มา - Sony
Comments
LCD TV Sony ยังไม่เคยได้มาตั้งในบ้านเลย อย่าพึ่งไป
รอซื้อ LED อยู่ แต่ต้องรอให้ตัวที่ใช้อยู่พังก่อน :P
I will change the world, to the better day.
LED มาแรงกว่าครับส่วน LCD ก็กำลังจะตาย
LED มันก็ LCD ที่ใช้ LED เป็นแหล่งกำเนิดแสงไม่ใช่หรือครับ?
เป็นผลจากการโฆษณานี่แหละครับ
เปลี่ยนแค่ backlight ให้เป็น LED แล้วก็มาบอกว่าเป็น LED TV ซะงั้น
+1 โดนโฆษณาและการตลาดลวงกันเป็นแถบ :P
LED TV ของแท้น่าจะอีกพักนึงเลยล่ะ ว่าแต่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรในเมื่อเอา LCD (LED backlit) มาเรียกเป็น LED TV ไปแล้ว (หรือจะเรียก OLED TV, AMOLED TV ?? คนซื้องงกันไปใหญ่)
เรียก Super AMOLED Plus TV ครับ
แนวเดียวกับ HSPA+ และ LTE = 4G ในสหรัฐ
@TonsTweetings
ผมเข้าในว่า LED ของแท้ คือจอที่ไม่ต้องใช้แหล่งกำเนิดแสงครับ
แต่ละเม็ดสี แปล่งแสงได้ด้วยตัวของมันเอง ส่วน LCD แล้วเปลี่ยนหลอดไฟด้านหลังเป็น LED มันเป็นการหลอดลวงผู้บริโภคแบบหน้าด้านๆ เลยครับ
นั่นสิ ของจอคอมยังบอกกันตรง ๆ
เอ เท่าที่จำได้ผมว่ามันติดเหมือนกันเลยนะ ทั้งจอคอมทั้งทีวี แล้วแต่ยี่ห้อน่ะครับ
เค้าหมายถึงเลิกผลิต panel ของ LCD แต่ยังไม่ได้เลิกขายโทรทัศน์ LCD ใช่ไหมครับ ??
ยังครับ ก็ซื้อ Panel ไปผลิตทีวีต่อได้ (ทำสัญญาซื้อแบบรับประกันกำลังผลิตกันไปแล้วด้วยในข่าว)
lewcpe.com, @wasonliw
LED มาแรงแต่ในมือถือครับ ตลาดทีวีตั้งโต๊ะยังคงไม่มีปัญญาซื้อกัน เพราะราคาเถื่อนมาก
ที่บ้านซื้อตัวถูกสุดมา ไม่ถึง สองหมื่นเลยครับ
เข้าใจว่าที่ราคาเถื่อนมาก คือจอแบบ OLED ที่เม็ด pixel เรืองแสงได้เองแบบแท้จริง
ไม่ใช่ LED backlit ที่เป็นจอ LCD เดิมๆ แค่เปลี่ยนชื่อเพื่อผลทางการตลาดในปัจจุบันเท่านั้นมั้งครับ
+1 ที่ราคาเถื่อนคือ OLED TV ที่จอแบบนี้แต่ละ pixel เปล่งแสงได้ด้วยตัวมันเองอยู่บนแผ่นฟิล์ม หลักการคล้ายกับ LED Display ที่เห็นบนป้ายโฆษณา ตอนนี้นิยมแล้วบนมือถือ แต่ในทีวีคงยังต้องพัฒนาไปอีกซักพักกว่าจะเข้าที่เข้าทาง
ส่วน LED-backlit LCD TV มันราคาถูกมาได้พักใหญ่ๆ แล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดมันเริ่มต้นที่ราคาหมื่นต้นๆ มาได้สองสามปีแล้ว เพราะโดยเทคโนโลยีก็ไม่มีอะไรมาก แค่เปลี่ยน backlight ที่ให้แสงด้านหลังตัว LCD จากการใช้หลอด fluorescent มาเป็นหลอด LED เท่านั้นเอง (ข้อดีคือ กินไฟน้อยลง บางขึ้น ภาพสีสดขึ้น และลดการใช้สารปรอทในหลอด fluorescent)
ก็ยังคงไม่เข้าใจว่าแล้ว LED-backlit มันแพงกว่า fluorescent-backlit ได้ยังไง XD
เดี่ยวรุ่นเก่าขายไม่ออกครับ อิอิ
ถูกแพงของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ
ดูเหมือนหลายคนจะยังเข้าใจจอ LED ผิดไป - -'
อันนี้ผมว่าคนขายเค้าพยายามทำให้คนซื้อเข้าใจผิดมากกว่าครับ
เพราะการโฆษณาแบบบอกไม่หมด/บอกคลุมเครือแหละครับ
ติดป้าย LED หราหน้าเครื่อง เป็นใครใครก็ต้องคิดครับว่ามันเป็น LED TV จริงๆ
มีน้อยคนนัก (โดยเฉพาะคนที่ใช้ internet + google ไม่คล่อง) ที่จะสามารถสืบเสาะข้อมูลจนรู้จัก LED TV ของจริงว่าเป็นยังไง
LED TV ของจริงเป็นยังไง
LED ก็แค่ไฟส่อง ไม่ใช่เหรอ
ใช้ LED แบบพิเศษ ที่เรียกว่า Organic Light Emitting Diode หรือย่อว่า OLED ซึ่งจะทำให้ขนาดมันเล็กลงมาก สามารถเอาไปวางบนตารางแล้วให้แต่ละหลอดแสดงผลเป็น 1 subpixel ได้เลย (ไม่ต้องมีแผง LCD มากั้นแล้วเอา LED ฉายจากด้านหลังเหมือนจอ LED ในปัจจุบัน)
แน่นอนว่า OLED ตอนนี้ราคายังสูง ส่วนใหญ๋ใช้อยู่ในมือถือ แต่จอโทรทัศน์ที่ใช้ OLED ก็มี (ใหญ่สุดตอนนี้น่าจะเป็นของ LG ขนาด 55")
OLED ให้สีสด และดำสนิท เนื่องจากไม่มีแผง LCD มากั้นครับ
LED กับ OLED นี่คนละเรื่องครับ
lewcpe.com, @wasonliw
Wikipedia :-
ผมว่า OLED เป็น LED ประเภทนึงน่ะครับ ก็เลยยกมาบอกว่า ถ้าจะเอา LED มาสร้างเป็นหน้าจอ ก็ต้องใช้ OLED มาทำเนื่องจากสามารถทำให้เล็กมากพอ
แต่เราอาจจะมองคนละมุมก็ได้
LED TV ตัวจริงก็ป้ายโฆษณา Hello Bangkok ไง นั่นเทคโนโลยีแท้ๆ เลย
ถ้าจะหาจอ LED Display จริงๆ ที่ไม่ใช่แค่เอา LED มาเป็น backlight
นอกจากป้ายโฆษณาที่เป็น LED Display แท้ๆ เลยแล้ว ของใกล้ๆ ตัวที่หาได้น่าจะเป็น Samsung Galaxy S II ที่จอภาพเป็น LED ในลักษณะที่อยู่บนแผ่นฟิล์มที่เปล่งแสงได้ หรือที่เรียกว่า OLED ครับ จะเห็นว่าภาพที่ได้มันต่างไปจากจอ LCD ทั่วไปมากเลยทีเดียว ดำก็ดำสนิท สีก็จัด บาง และในส่วนที่ดำมิดก็ไม่กินไฟด้วย
LED ที่เห็นกันทุกวันนี้เปลี่ยนแค่ไฟส่องหลัง ส่วนตัวแสดงภาพมันยังเป็น LCD อยู่ครับ
มันก็ต้องอยู่ใน Category LCD TV ครับ แต่นักการตลาดก็พยายามสร้าง Product Differentiation แบบบอกความจริงไม่หมด ก็เลยออกมาเป็น LED TV ตามที่โฆษณากันอยู่ในปัจจุบันครับ
LED แบบจริงทั้งชุดก็คือแต่ละจุดเปล่งทั้งสี/แสงด้วยตัวเอง ไม่ต้องเอาไฟส่องหลังครับ
อย่างป้ายโฆษณาที่ข้างบนยกมานั่นแหละครับ
บางคนอ่านแล้วอาจงงๆ กับสกุลเงินทั้งบาทและเยน...
น่าจะใช้เป็นสกุลเดียว หรือใส่วงเล็บเอาดีไหมครับ?
OLED บน PS Vita ใช้ของซัมซุงด้วยนิ
ผมว่าคนซื้อส่วนใหญ่ซื้อจอใหญ่สุดเท่าที่ตังค์มี
ก่อนนี้โซนี่ทิ้งตลาด plasma tv ที่บอกว่าหมดอนาคตปล่อยให้ panasonic ฟันกำไรเละ
ผมค้านคุณพ่อแล้วซื้อจอเท่าที่อยากได้ครับ จอใหญ่กวาดตาไม่ทัน (T_T)
ก็sony เป็น 1 ใน บริษัทืั้ไปรวมลงทุนกะ japan display แล้วก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรที่จะถอนหุ้นที่เคยไปรวมกะ แซมซั่งเสีย
http://techcrunch.com/2011/11/15/japan-display-inc-sony-toshiba-hitachi-finalize-deal-to-merge-display-units/
แปะ ข่าวข้างๆ http://www.blognone.com/news/28690/lg-เผยทีวี-oled-ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มึนเลยทีนี้ จากยุครุ่งเรือง WEGA, Bravia แล้วต่อไป Sony จะชูจุดขายทีวีตรงไหนเนี่ย
จอ LCD กับจอ LED (backlit)
ถ้าเอามาวางคู่กันจะแยกออกรึเปล่าคะ?
ว่าอันไหนเป็นอันไหน ^^
ตอนที่หลอดเย็นๆ แบบหลอดแบบเก่า จะสว่างช้ากว่า ถ้าเปิดนานแล้วหรือพึ่งปิดแล้วเปิดความสว่างๆ พอกันผมว่าแยกยากนะ ตัวท๊อปๆ รุ่นแบบเก่าก็ดีไม่แพ้กันเลย
แยกออกครับถ้าไม่ติดกาวอย่างดีไว้
เอ้ยไม่ใช่ XD ผมว่าถ้ามองแต่ภาพแยกยากพอสมควรนะถ้าไม่นับพวกลูกเล่นปรับแสงภาพแยกส่วนของ LED
แต่ถ้า plasma นี่แยกง่ายเลยครับ มองจอแล้วจะเห็นภาพมันกระพริบความถี่สูง มองนาน ๆ แล้วตาลายเลย ผมไม่แน่ใจว่าคนอื่นเป็นแบบผมหรือเปล่า (ถามคนอื่นเค้าว่าไม่เห็นนะ) อาจจะเกี่ยวกับที่ผมแยกความถี่จอภาพ 60/70/75/80/100 Hz ออกได้ก็ได้
แยก 100 ออกนี่เจ๋งนะเนี่ย ผม ซัก 85 ก็เริ่มไม่เห็นละ ^^"
ถ้าเป็น LED แบบที่วางที่ขอบนี่จะชัดครับ เพราะหน้าจอจะบางมาก ๆ ยังไง CCFL ก็หนากว่าเห็น ๆ
แต่ถ้าเป็น LED ที่วางไว้ด้านหลังจอเนี่ยบอกตามตรงว่าแยกไม่ออกครับ ตาผมเริ่มแย่แล้ว อายุเยอะ
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ^^