Charlie Kindel อดีตผู้บริหารฝ่าย Windows Phone ของไมโครซอฟท์ เขียนบล็อกอธิบายเหตุผล (ในมุมของเขา) ว่าทำไม Windows Phone ถึงจุดไม่ติด ถึงแม้จะได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพของผลิตภัณฑ์เหนือกว่า Android
Kindel อธิบายว่าในการทำตลาดโทรศัพท์มือถือ (โดยเฉพาะในสหรัฐ) มีผู้เกี่ยวข้อง 4 ฝ่าย คือ ผู้สร้างระบบปฏิบัติการ, ผู้สร้างฮาร์ดแวร์มือถือ, เครือข่ายมือถือ และผู้ใช้ ซึ่งแต่ละฝ่ายมีความต้องการที่แตกต่างกัน และมีปัญหาขัดแย้งกันในหลายจุด
ยุทธศาสตร์ของแอปเปิลคือ รวมผู้สร้างระบบปฏิบัติการและผู้สร้างฮาร์ดแวร์เข้าด้วยกัน และใช้อำนาจตรงนี้ต่อรองกับเครือข่ายเพื่อให้เครือข่ายทำหน้าที่เป็น "ท่อส่งข้อมูล" เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ Kindel ก็มองว่ายุทธศาสตร์นี้จะมีปัญหาในระยะยาว
ส่วนยุทธศาสตร์ของกูเกิลคือยอมให้ผู้สร้างฮาร์ดแวร์มือถือ และเครือข่ายมือถือ ทำอะไรก็ได้กับ Android ผลคือมีอุปกรณ์ออกวางขายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ข้อเสียจะมาตกอยู่กับผู้ใช้ที่เจอปัญหา fragmentation อย่างมาก
ไมโครซอฟท์ใช้ยุทธศาสตร์ที่ต่างออกไป โดยจำกัดไม่ให้ผู้สร้างฮาร์ดแวร์มือถือ และเครือข่ายมือถือ แก้ไขหรือปรับแต่งระบบปฏิบัติการและสเปกของฮาร์ดแวร์ได้ตามต้องการ วิธีการนี้ช่วยให้ไมโครซอฟท์และผู้ใช้ได้ประโยชน์ แต่ก็ทำให้สองฝ่ายข้างต้นไม่พอใจนัก
ดังนั้นในตอนที่ผู้สร้างฮาร์ดแวร์มือถือ-เครือข่ายมือถือทำการตลาด-ประชาสัมพันธ์เพื่อขายมือถือ และอบรมพนักงานขายว่าควรเน้นผลิตภัณฑ์ตัวไหน งบประมาณส่วนนี้จึงไปลงที่ Android แทนเพราะเครือข่ายมือถือได้ประโยชน์สูงสุด ในขณะที่ Windows Phone ไม่ได้รับความสนใจมากนัก
Kindel บอกว่าไมโครซอฟท์ต้องใช้ความพยายามมากเป็นพิเศษเพื่อกดดันให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์-เครือข่ายมือถือทำตลาดให้ Windows Phone และต้องสร้างแรงจูงใจพนักงานขายหน้าร้านให้เชียร์ Windows Phone ด้วย
เขาเชื่อว่าการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้เป็นยุทธศาสตร์ที่เหมาะในระยะยาว แต่เขายังไม่แน่ใจว่ายุทธศาสตร์ของไมโครซอฟท์ที่จะผลักดัน Windows Phone ต่อไป และการจับมือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับโนเกีย จะสามารถฝ่ากำแพง Android ไปได้หรือไม่
ตราบใดที่ไมโครซอฟท์ยังทำไม่สำเร็จ Android จะขายดีต่อไป และปัญหา fragmentation ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา - Charlie Kindel
Comments
นานมาแล้ว ได้ยินข่าวจากไหนไม่รู้ว่า hTC กับ Samsung จะเพิ่มจำนวน WP ลดจำนวน Android
แต่ไม่เห็นได้ทำเลย ???
สุดท้ายคนที่เลือกคือ คนซื้อ ไม่ใช่ผู้ผลิต microsoft ต้องหาสาเหตุเองว่า ทำไมคนไม่ซื้อ (คำตอบที่ว่า เพราะ ผู้ผลิตกับ operator ไม่โปรโมทให้ มันจริงหรือ ตามความเห็นผม ถ้าคนใช้เรียกร้องที่จะซื้อจริง มันก็จะรีบทำออกมาขายเอง) สุดท้ายผมมองว่า แค่ ios กับ android ก็เพียงพอกับตลาด smartphone ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องหา os ที่ 3 อีกต่อไป
ใช่แล้วครับ สุดท้ายคือ คนซื้อ เป็นผู้เลือก ไม่ใช่ผู้ผลิตเป็นตัวกำหนดให้ผู้ใช้ต้องเลือกของเขา
อีกหน่อยถ้า WP มันมาแรงมากๆ คนก็อาจเปลี่ยนไปใช้ WP แทน Android หรือ iPhone ก็ได้ อันเนื่องมาจากหลายๆ อย่าง iPhone มันผู้ผลิตเดียว กำหนด hardware spec เองทุกอย่าง คุมตลาดเอง ต่างจาก android ที่ไม่ได้กำหนด hardware ปัญหาความไม่เข้ากันจึงเกิดขึ้นมากมาย
ถ้า WP ของ MS คุณจับจุดที่มันลงตัวได้ สุดท้ายผู้ซื้อจะเป็นผู้เลือก เอง (ถ้ามันดีจริงดังคำคุย) ไม่ใช่มันจุดไม่ติดเพราะผู้ผลิตไม่ชอบใจ
อยากซื้อ แต่เค้าไม่เอามาขาย จะได้ซื้อเหรอครับ
เอาง่ายว่า ผมอยากได้ SAMSUNG Focus S แต่ SAMSUNG ไทยไม่เอาเข้ามาขาย แล้วจะให้ซื้อจากไหนครับ
แค่ยกตัวอย่างนะครับ
แต่ผู้ผลิตไม่ใส่ภาษาไทยมา ใครจะซื้อครับ
ผมซื้อมาแล้วครับ ;)
ผมครับ และผมก็เห็นคนอื่นก็ซื้อเยอะแยะ
ปัจจุบันแม่ยึดไปใช้แล้ว และชอบมากด้วย
เท่าที่ผมอยู่เยอรมันมาเจ็ดปีกว่า (ให้ความเห็นเฉพาะในเยอรมัน) Operator นั้นสำคัญมากครับ ถ้าจะขายรุ่นไหนยี่ห้อไหน ก็จะมีแต่รุ่นนั้นที่ทำตลาด คนซื้อก็นิยมเพราะเวลาต่อสัญญาก็จะได้เครื่องใหม่ที่ถูกเหมือนได้ฟรี จะใช้เอง หรือขายอีเบย์ ก็อีกเรื่อง
เห็นด้วยครับ
เห็นด้วย ถึงผู้ซื้อจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะซื้อหรือไม่ แต่ก็มีกลยุทธิ์ทางการตลาด การควบคุมการส่งสินค้าด้วยวิธีการต่าง ๆ ก็อาจจะกำหนดขอบเขตการซื้อของผู้ใช้ได้ และการโฆษณาก็ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อไม่มากก็น้อย (การโฆษณาที่ประสบผลสำเร็จก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมากถึงมากที่สุด นั้นทำให้สิ่งที่บทความนี้บอกก็เป็นจริงในหลาย ๆ พื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วโลก)
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ตลาด "สหรัฐ" นั้น Operator สำคัญ มาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รุ่นไหนจะเกิดจะดับอยู่ที่ไอ้นี่แหละ สำคัญมาก อย่าเอาบริบทตลาดบ้านเราไปเทียบเด็ดขาด อีกอย่างบทความก็บอกอยู่ว่า "สหรัฐอเมริกานะจ๊ะ" มิใช่ "ไทยแลนด์แดนการเมืองดราม่า" แต่อย่างใด
เท่าที่จำได้ ในอเมริกามี operator เจ้าหนึ่ง ไม่ยอมขาย iphone จนในที่สุดก็ต้องยอมขาย นี่คือข้อมูลยืนยันครับว่าสิ่งที่เขาพูดมา ไม่จริง การที่จะเข้าตลาดแน่นอน operator มีส่วนสำคัญ ถ้าผมเป็น operator จะเอาของเข้ามาขาย คงจะไม่มองว่า microsoft มีนโยบายต่อ operator ยังไง แต่ผมจะมองว่า WP มันขายได้จริงหรือเปล่า (สรุปคือ operator ก็ต้องประเมินครับว่า ทำตลาดให้ WP คุ้มหรือ ถ้าเอาเงินจำนวนเดียวกันไปทำตลาด ios หรือ android ที่ WP แป๊กในอเมริการ เพราะ operator คงประเมินแล้วว่ามันไม่คุ้มครับ คงไม่ได้เกิดเพราะมีการกีดกัน microsoft แต่อย่างใด)
ผมว่าคนละ case นะครับ กรณีที่ operator เจ้านั้นสุดท้ายก็ยอดเอา iPhone เข้ามาขาย อันนี้เป็นกรณีที่ iPhone ตีตลาดจนกระจุยแล้ว แต่เรื่องของ WP นี่คือกรณีที่ WP เริ่มทำตลาดครับ
ผมว่าที่มันจุดไม่ติดเพราะไม่รู้จักทำตามข้อเรียกร้องของผู้ใช้มากกว่า แค่การสนับสนุนภาษากับตลาดที่ขายได้ครอบคลุมกว่าที่จะขายใน US ยังทำไม่ได้ สุดท้ายแล้วยอดขายมันจะต่างอะไรจาก Zune?
โดน !!!
โดน
ตลาด US ยังจุดไม่ติดครับ
ถ้าตลาด US ยังจุดไม่ติด ประเทศโลกที่สามจะมีกำลังซื้อพอให้ MS ชนะเหรอครับ
ผมว่าไม่ใช่นะ ผมว่าเค้าไม่ค่อย "สนใจ" ตลาดอื่นมากกว่า จะเอา US ก่อน เหมือน Apple ไง อย่าประเมินตลาดบ้านเราสูงจนมี Momentum เยอะขนาดนั้นสิครับ
มันก็ห่วงแต่จะขาย US แหละครับ บั๊ก SMS มันยังใส่ใจด้วยหรือครับเนี่ย เห็นมันทำหูทวนลม users แถมยังยัดฟีเจอร์ที่ไม่มีประโยชน์มาให้ผู้ใช้งานเลย -*-
ผมเห็นมันทำตัวแบบนี้เหมือนตอน WM มันก็ได้สถานภาพแบบเดิมแหละครับ (ยังมีหน้ามาออก Kin ได้อีก)
อ่าน..ข้ออ้างแล้วเคลิ้ม จำได้ว่าตอน iPhone 1-2 ออก Microsoft ยังหลับอยู่กับ Windows Mobile 6 อยู่เลย พอตื่นงัวเงียก็เอาหน้ากากมาใส่เป็น Windows Mobile 6.5 ตอนนั้น Android ก็ออกมาแล้ว สรุปคือ ตัวเองทำตลาดช้า (แล้วเราอาจได้เห็นข้ออ้างอีกครั้ง หลัง Windows 8 ออก ว่าทำไม MS ไม่สำเร็จในตลาด Tablet)
อันนี้เห็นต่างนะครับ
ผมว่า Windows 8 บน Tablet จะทำให้ Android ไม่ได้ผุดได้เกิด
อาจจะได้ผุดได้เกิดก็ได้เพราะว่าลง 2 OS
ใช่ครับ ยักษ์หลับไม่มีนวัตกรรมเอง ปล่อยให้เขาแซง
ครั้งนี้ไม่เหมือน Xbox นะครับ สายป่านยาวอาจจะแพ้ได้เพราะ มือถือเปลี่ยนเร็วกว่าเกมส์
ก็เข้าซื้อ Nokia ซะสิ 555+
จุดไม่ติดเพราะ MS ช้าครับ
ขนาดมีบั๊กเร่งด่วน อาทิ SMS, Certificate, Battery ยังแก้ไขช้าเลย บางทีอาจเป็นเพราะมีหลายส่วนเลยงุ่มง่าม
แต่สำหรับคนในอย่างผม ที่เล่นทะลุจนรู้ไส้พุงและฮาร์ดแวร์ (ทำรอมเอง+แกะโมมาทั้งเครื่อง) ขอบอกเลยว่า เครื่องของผมต่อไปไม่ใช่ WP แน่นอนครับ (รวมไปถึงยี่ห้อ HTC ด้วย)
ps.นอกจากนี้แล้ว ผมเองก็มองว่าความตั้งใจของ MS ยังแสดงออกมาไม่มากพอ การสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้ที่ถึงแม้อยากจะควบคุมเองแต่ก็ยังหนีไม่พ้นการกั๊กอะไรบางอย่างอยู่เหมือนเดิม อีกทั้งการที่ไม่มีจุดยืนที่แน่นอนในการสร้างความแตกต่างให้แก่คอนเทนท์ของตัวเอง เช่น Xbox Live, Office ซึ่งเกมส์ที่มีบน Xbox Live คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกือบทั้งหมดใน Marketplace บนแพลตฟอร์มอื่นก็มี.. ไม่เว้นแม้กระทั่งเกมส์ Halo Atlus และ Kinectimal ที่มีบน IOS ดังนั้นด้วยราคาเครื่องที่ผมสามารถซื้อ iPhone ได้ ประกอบกับการอดทนรออัพเดทที่มีระยะเวลานานนับปี (ล่าสุด Update Apollo ก็มีข่าวว่าจะออก Q3 ปีหน้าอีก)ผมตัดสินใจที่จะพูดได้เต็มปากว่า "ไม่ประทับใจ" ครับ
T^T เพิ่งสังเกตว่าโลโก้ WP ของท่านหายไป
แปลกใจกับ comment ของท่านมาก รู้สึกว่าท่านจะเป็น สาวก MS
MS ไม่ติดเพราะช้า android ติด เพราะเร็วมากนี้คือความจริง
แต่ผมยังมีความเชื่อว่า WP7 พื้นฐานที่ดี แค่ตอนนี้ ยังทำอะไรไม่ลงตัว
มันคือความรู้สึกในใจหน่ะครับ แต่ผมก็ยังคงใช้มันอยู่ต่อไปครับ ไม่ได้เกลียดชนิดที่อยากจะขายทิ้งทันทีแต่อย่างใด
ก็.. ใช้ต่อไปให้ได้ประโยชน์มากที่สุดครับ เมื่อถึงเวลาก็ค่อยเปลี่ยน -_-
ส่วนตัวผมนั้นผมเองก็ยอมรับว่าเอนมาทาง MS แต่ก็ไม่ถึงขึ้นที่จะเป็น Fanboy ครับ อะไรดีไม่ดีผมก็ว่าไปตามนั้น สามารถใช้ได้หมดทุกค่ายครับ ขอให้ใช้แล้วปลายทาง Happy ก็พอ ^^
geek จะไม่ชอบก็ไม่แปลกหรอกครับ
แต่ user ทั่วไปก็เอนจอยดีนะครับ
พอดีผมซื้อให้แฟนใช้เครื่องนึง ซึ่งเธอไม่เคยใช้ SmartPhone มาก่อน เคยใช้ก็แค่ iPod Touch
พอมาใช้ Mozart เธอก็เอนจอยดี
ผมมองว่า WP ยังไม่มี HW แบบสุดยอดออกมา ไม่เหมือน Android ที่มี S2 เป็น Flagship ทุกปี
แล้วก็มีรุ่นหมู หมา กา ไก่ ออกมาให้เลือกเยอะแยะ
ขณะที่คู่แข่งมีมือถือรุ่นใหม่ออกมาทุกเดือน แต่ WP มีรุ่นใหม่ออกมาปีละครั้ง มันจะขายสู้ใครได้ล่ะครับ
ถูกใจครับ ผมแค่เป็น User ธรรมดาๆ แค่ Flash Rom เป็นแก้ Registry ได้ที่อ่านตามเว็บ
ผมรู้สึกได้ประมาณท่านเลย
ผมว่าความเป็นโทรศัพท์หลายๆ อย่างมันหายยังไงๆ ชอบกล (หรือผมเล่นพวก Feature Phone เก่าๆ และ Symbian มากเกินไปหว่า )
+10 ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
โอ้ว เจอกูรู wp อย่างคุณ perl บอกจะเลิกใช้นี่ผมถึงกับสะอึกเลย ผมเองก็ใช้มาตั้งแต่ wm5 พอมาเป็นwp ตอนแรกก็ประทับใจว่ามันไม่แฮงแต่ต่อมาเริ่มขัดใจที่มันทำอย่างที่เคยทำไม่ได้แถมยังอัพเดทช้าโคดๆ
ว่าแล้วก็เอา HD2 ไปลง ICS ดีกว่า :p
+99 เรื่อง User ก็เป็นไปตามที่ท่านบอกเลยครับ, ส่วน Developer ถึงจะมี Visual Tools มาให้ก็ไม่ต่างอะไรจากหัวล้านได้หวี (ที่จริงมีบ่นยาวกว่านี้อีกเยอะมาก)
อยู่ในตลาดมาก่อนใครเพื่อน ตอนนี้เข้าสู่ยุคเสื่อมแล้วสินะ เหมือน hp ที่กำลังดับ
อีกหน่อยคงเรียกตาบิลเกตมากอบกู้ เหมือนแอ้ปเปิ้ลเรียกสตีฟจ้อบกลับมา ศรัทธามันจะเกิด
เดี๋ยวนี้ใช้ windows 7 รู้สึกดีมาก แต่ถ้า google ทำอีก os มาสู้อีก น่าจะมันสุดๆ
ฮาตรง ศรัทธามันจะเกิดนี่หละ ฮ่าๆ
รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
เห็นแก่ผู้บริโภคจริงเหรอครับ?
I need healing.
"Windows Phone ถึงจุดไม่ติด ถึงแม้จะได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพของผลิตภัณฑ์เหนือกว่า Android"
ใครยกย่องเหรอครับ? แล้ว อะไรบ้างที่มีคุณภาพเหนือกว่า Android?
ถ้าดีกว่าจริงๆ กลุ่มผู้บริโภคจะเป็นคนไปเสาะแสวงหามาใช้เองมากกว่า
ดีเกินไปมั้งครับ :P
ของดีไม่จำเป็นต้่องชนะเสมอไปครับ
ก่อนนั้น Mac OS X ก็ดีกว่า Windows XP เยอะมาก แต่คนก็ใช้ Windows ไม่ลดลงครับ
เป็นความรู้ใหม่ว่า OS X ดีกว่า XP
OS ที่ merge folder ไม่ได้นั่น..
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ป้จจุบันยัง cut-paste folder ไม่ได้เลย, finder ก็สุดห่วย.... แล้วถ้ามีปัญหาขึ้นมามันก็เหมือนๆกันทุก os นั่นแหละ ต้องไปปรับๆแก้ๆใน text จะโม้ user experiance ไว้อลังกาลขนาดไหนสุดท้ายก็ต้องไปแก้แบบ text
finder กากได้ใจ
ดีใจจังเลย ผมไม่ได้บ้าคนเดียว 555
ดีกว่าตรงไหนมากมาย ก็แค่ UI ละมั้ง
น่าจะหมายถึงในส่วนของ ฮาร์ดแวร์ ด้วยน่ะครับ
ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงตอนนี้มือถือ HTC MOZART ที่เพื่อนผมซื้อมา 6950 ที่ซื้อมาเกือบปีแล้ว
ก็ยังดีมีคุณภาพของ ฮาร์ดแวร์ ดีกว่ามือถือละดับ 10000+ ของหลายค่ายอยู่
แม้ MOZART จะลดกระหน่ำก็ตาม ฮ่าๆๆ
reviewer ในต่างประเทศ ยกให้ตัวระบบปฏิบัติการ (ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์) ของ WP เหนือกว่าเกือบทุกรายครับ
เห็นแก่ผู้บริโภค แล้ว WiFi Tethering ที่ท่านปิดแล้ว (รวมถึงอีกหลายๆอย่าง ที่ต้องไปแก้ไข Registry เอาเอง) คืออะไร ออกต่างจังหวัดหนีน้ำท่วม ไม่มี Internet ใช้ หงุดหงิดมากนะครับ
การทำตลาด Global หล่ะ ก็ไม่มี เน้นแต่ USA สุดท้ายชะตากรรม อาจจะเหมือน ZUNE ทั้งๆที่ ดีกว่า iPod แท้ๆ
ว่าไปงั้นแหล่ะ สงความยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร โดยเฉพาะ ฝ่ายที่มี ทรัพยากร มากมายมหาศาล ทัง Know How ด้าน OS ทั้ง เงิน
เรื่องไม่มีWiFi Tetheringนิเป็นสิ่งสิ่งที่เครือข่ายในสหรัฐไม่อยากให้มีแกเลยไม่ใส่ครับ:p
Mozart เครื่องศูนย์ไทย อัพเดตตัวล่าสุดแล้ว ยืนยันว่ามี Internet Sharing นะครับ
ถ้าเป็น Mozart แสดงว่า น่าจะเครื่องนอก ไม่ก็รอมศูนย์นอกมากกว่า เว้นแต่ว่าเป็น HD7 อันนี้ไม่แน่ใจว่าอัพเดตใหม่มีรึยัง
WP ก็น่าสนดีครับ
แต่ ios มัน จำกัด เกินไปเดี๋ยวต่อไปก็เจ๊ง ^^
แต่ Android มันก็เยอะเกินไปจริงๆนะแหละ -*-
เอาใจช่วยครับ
หลายๆ คนมีความรู้สึกเหมือนกับผมไหมครับว่าแวบแรกที่เห็น Windows Phone แล้วรู้สึก เฮ้ย มันน่าใช้มากๆ iPhoneก็รู้สึกงั้นๆ Andriodก็UIไม่ค่อยสวย มันออกมาเมื่อไหร่นี่มีเสียตังค์ แต่แล้วก็อีกนานเหมือนกันกว่าจะขายจริง ซึ่งกว่าจะเข้าไทยก็นานจริงๆ พอได้เล่นกับดูรีวิวหลายๆ อย่างก็รู้สึก เอ มันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นนะแอพก็มีไม่เยอะ ภาษาไทยก็ไม่รองรับ User Experience ก็ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ hardware ก็เรื่อยๆ ราคาก็ไม่ได้ถูก คำตอบสุดท้าย iPhone
ตอนนี้รวมๆ แล้วผมให้ iPhone ดีสุดครับ แต่ถ้าถึงวาระเปลี่ยนมือถือใหม่ อันไหนดีสุดก็เลือกอันนั้นแม้ว่าจะเป็น Android ก็ตาม ฮา
สำหรับผมที่ไม่ใช้เพราะความไม่ประทับใจ MICROSOFT ตั้งแต่เป็น windows มันตามมาหลอนอยู่ คิดว่าทุกคนยังจำได้ที่ต้องลง windows ใหม่ทุก 3 เดือนเพื่อให้มันไม่มีปัญหา บอกตามตรงไม่มีความมั่นใจในค่ายนี้เลย เหมือนเอาของทำไม่เสร็จมาหลอกขายตั้งแต่ windows95 แล้ว แต่ที่ต้องใช้เพราะไม่มีตัวเลือก แต่คราวนี้มีตัวเลือกทั้ง iOS และ Android ผมคงไม่แลหรอกคับ windows phone
ผมก็เอียน Windows ครับเลยเปลี่ยนมาเป็น Mac
ผมก็อึดอัดกะไอโฟนเลยเลือก Android
ถ้าเบื่อทุกอย่างแล้วตอนนี้กำลังมอง Linux ครับ
ด้วยเหตุนี้ Windows phone เลย...
บางอย่างที่ควรจะมีในระบบโทรศัพท์ก็ยังไม่มี และยังไม่รีบอัพเดท = =
เห็นด้วยกับการอัพเดทที่ทิ้งระยะห่างของแต่ละครั้งนานเกินไป น่าจะ Minor Update สัก 3 เดือนต่อ 1 ครั้งกำลังดี ผมว่า OS เกิดใหม่นี่ถ้าอัพบ่อย ๆ มันทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกประทับใจไม่น้อยนะครับ
ถ้ายอมปล่อยให้ fragment บ้าง ก็คงไม่ดับแบบนี้
คนขายไม่อยากขายของที่เหมือนกับเจ้าอื่น มันไม่โดดเด่น มันดูโหล ๆ ไม่น่าสนใจ (สำหรับคนขาย/คนผลิต)
ผมกำลังพยายามนึกภาพว่า ถ้าโน๊ตบุ๊คทุกยี่ห้อต้องมีหน้าจอขนาดเท่ากัน ความละเอียดเท่ากัน ลง bloatware ไม่ได้ (ฮา) คีย์บอร์ดก็ต้องเหมือนกัน ทัชแพดก็เหมือนกัน ต้องหนัก 2 โลเท่ากัน ... โลกนี้คงน่าเบื่ออ่ะครับ (อันนี้นอกประเด็นนะ)
+1 เห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นมีแต่คนบ่นปัญหา android fragment (คือข้อเสีย) แต่ในความเป็นจริงมันเป็นจุดเด่นต่างหาก (ถ้า android สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ ซึ่งผมก็ว่าทำได้นะ) ตัวอย่างในกรณ๊นี้ที่ประสบความสำเร็จคงไม่พ้น windows ที่สุดแสนจะ fragment แต่ก็สามารถจัดการปัญหาได้เป็นอย่างดี (หน้าจอ cpu ฮาร์ดแวร์ ของ pc มีไม่รู้กี่แบบ นับไม่ถ้วน ไม่เห็นมีคนออกมาบ่นว่า ปัญหาของ windows คือ fragment สักคน) โปรแกรมที่เขียนบน windows ก็รันไม่ได้ทุกเครื่อง เช่นเกมโหด ๆ ผู้ใช้ก็ต้อง up ฮาร์ดแวร์ตามไง !! สรุปคือ ที่ว่าปัญหา android คือ fragment เนี่ยมันเป็นปัญหาจริงหรือ ? (หรือแค่เพราะมันไม่เหมือน ios ที่มีน้อยรุ่น ก็เลยดูเป็นปัญหาใหญ่ ?)
+100 ผมเองก็มองว่า fragmentation ไม่ใช่ปัญหาหนักสักเท่าไหร่ แต่มองว่าคุณภาพของเครื่องที่ราคาถูกเกินไปต่างหากที่เป็นปัญหา