บริษัทวิจัย Forrester สำรวจข้อมูลการใช้ไอทีของบริษัทขนาดใหญ่ (พนักงานมากกว่า 1,000 คน) ใน 17 ประเทศ รวมกลุ่มตัวอย่างเกือบ 10,000 ราย พบว่ามีการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแอปเปิลในการทำงานมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
- ผู้ตอบข้อมูล 21% บอกว่าใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลอย่างน้อย 1 อย่างในการทำงานประจำวัน
- ผู้ตอบข้อมูล 11% ใช้ iPhone, 9% ใช้ iPad, 8% ใช้แมค (บางคนอาจใช้มากกว่า 1 อย่าง)
- ยิ่งพนักงานมีรายได้มาก มีตำแหน่งสูง ยิ่งมีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมากขึ้น
- ถ้าคิดเฉพาะกลุ่มผู้บริหารระดับสูง (director ขึ้นไป) จำนวน 41% ตอบว่าใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในการทำงาน
- ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสิทธิตัดสินใจวางนโยบายไอทีขององค์กร (ประมาณ 3,300 ราย) พยากรณ์ว่าคอมพิวเตอร์ที่จะซื้อให้พนักงานในปีนี้ ถ้าคิดส่วนของเครื่องแมค จะมีจำนวนมากขึ้นกว่าปีก่อน 52%
รายงานฉบับเต็มต้องซื้อจาก Forrester นะครับ
ที่มา - Forrester Blog, VentureBeat
Comments
ตอนนี้ Mac เปิดไฟล์เอกสารจาก Microsoft office ได้แล้วใช่ไหม แล้วมีปัญหาเรื่องตำแหน่งที่จัดไว้เพี้ยนหรือเปล่า หรือว่าเปลี่ยนไปใช้บริการ online กันมากขึ้น ไฟล์เอกสารก็เปิดอ่านกัน online เลยไม่มีปัญหากันตรงนี้
สำหรับผม ภาษาอังกฤษไม่ค่อยเพี้ยนแล้วครับ นานๆครั้ง
ภาษาไทย MS Office for Mac ยังมีปัญหาบ้าง ใช้ Preview/iWork อ่านได้ แต่ไม่งาม
twitter.com/djnoly
อ่อ มิน่า ถ้าเรื่องเอกสารมันไม่มีปัญหาแล้วต่อไปคนคงจะย้ายไป OS อื่นกันมากขึ้น เพราะตอนนี้เข้าใจว่าติดแค่เรื่องเอกสารเรื่องเดียว ส่วนพวกแอป เดี๋ยวนี้ถ้ามันเป็น web app กันเยอะแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องยึดกับ OS กันมาก
ใช้ iWork ไปเลยครับ ^^
สำหรับองค์กรยังมีอีกหลายประเด็นที่กระตุ้นให้หันไปใช้อุปกรณ์ทดแทนพีซีมากขึ้น เช่น พลังงานและงบประมาณ
ผมเทียบในมุมมององค์กรที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์ด้วยนะครับ สำหรับองค์กรที่ไม่เดือดร้อนความต่างของงบก็จะไม่ต่างกันมาก
เสนอ Transfomer Prime เลย มีคียบอร์ดอยู่แล้ว (เพราะมันไม่ยอมแยกขาย 5 5 5) ถ้าเป็นเวปแอปอยู่แล้ว มีบราวเซอร์ให้เลือกเยอะเลย โปรแกรมฟรีก็เยอะมาก กระทั่งโปรแกรม office มักจะแถมมากับเครืองเลย
แล้วน่าจะใช้ง่าย เข้าถึงระบบไฟล์ได้ง่ายกว่า เสียบอุปกรณ์พ่วงง่ายกว่า USB thumb Drive, mouse หมูๆ barcode reader ยังไหว (เผื่อเอาไปเป็น POS ขายของเลย)
ไม่ว่าใครต่อให้ไม่ทำอะไรมากเครื่องหลักก็ควรเป็นโน๊ตบุ๊คนะครับ(จะแมคหรือวินโดวก็ตามแต่) ส่วนพวกแทบเล็ตนี่น่าจะมาในรูปอุปกรณ์เสริมที่ทรงพลังมากกว่า แต่ถ้าเป็นผู้บริหารปกติเขาคงไม่อยากพกอะไรมาก ถ้ามีโน๊ตบุคแล้ว เขาคงไม่แบกแทบเล็ตอีกตัวหรอกครับ
ปล.คงมีนิดหน่อยที่แบก แต่ก็คงเป็นไอแพดซะมาก เพราะเขาเชื่อว่ามันดี ยกเว้นผู้บริหารที่ geek ระดับนึง หรือไม่ก็โดน geek ในบริษัทกล่อมมาถึงจะซื้ออะครับ
ผมใช้word for mac แล้วไปกอบfrontจากwindowมาลงใช้เวลาอ่าน fileใช้ได้เกือบจะสมบูรณ์เลยครับมีเพี้ยนบ้างนานๆที
BB โดนแย่งตลาด Enterprise RIM ดูแววจะลำบากหนัก
ส่วนใหญ่ผู้บริหารจะใช้ mac เพราะไม่ค่อยต้องทำอะไร
เปล่าครับ พนง ระดับปฏิบัติก็อยากขอ Macbook Air เช่นกัน
แต่ขอไปแล้วโดน Sale ด่ากลับ พร้อมทั้งปาเห็ดผี Probook ใส่หัว..
ต้องใช้ Mac ครับ เพราะทำให้ดูดี
MD เคยเล่าให้ฟังว่าไปพรีเซ้นที่ ตปท
แล้วเอา netbook ขึ้น พอลงมา
มีคนถามว่าทำไมไม่ใช้ Mac
เพราะ ผม รัก vaio ครับ อิอิ (เกรียนซะอย่างนีั้น)
ขนาดนั้น 0_o!!!
ซื้อ Notebook + ค่า OS + โปรแกรม = Macbook ใน spec ที่ใกล้เคียงกันน้าา แถมดูดีกว่า (ความเห็นส่วนตัว)
เห็นด้วยครับ
จริงๆแล้วมันน่ากลับกันนะ Notebook + Notebook = Macbook + OS + Software รึเปล่า?
Notebook ไม่ต้องซื้อวินโดวส์??? (OEM?)
Notebook ไม่ต้องมีค่าโปรแกรม??? (OEM+?)
Macbook ต้องซื้อ OS ต่างหาก???
ผมว่า Macbook = Notebook + OS(OSX) + iLife (ต้องซื้อ iWork เพิ่มอีก 2000 บาท)
มันมองได้หลายแง่ครับ ความจริงแล้ว Notebook บางยี่ห้อก็มี Software ให้เกือบพร้อมแล้ว เหลือแค่ใส่ License แค่นั้น
บางที Notebook ก็สามารถลง Office หรือโปรแกรมที่เป็น Freeware ได้ไม่ผิดกฎหมาย
ค่าใช้จ่าย มันขึ้นอยู่กับคนครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
BIOS + BIOS = LINUX + LINUX = FREE + FREE Lifetime
อีกอย่างนึงที่เป็นปัจจัยในการเลือกของผมคือ คุณภาพและความเที่ยงตรงของสีครับ ซึ่งเหนื่อยใจมากที่เอา Notebook หลายๆ รุ่นมาเทียบกัน
สีจอหรอครับ สำหรับฝั่งวินโดส์ ต้องตัวแพงๆ กับคาริเบทจอคู่กันไป
คนสาย Photo เหมือนกันแหงเลย
Notebook ฝั่ง Windows นี่หายากจริงๆครับ ต้องเป็นรุ่นแพงๆถึงจะได้ IPS panel
ผู้บริหารจะใช้ Macbook Air แต่ลง windows ครับ
ผมว่า MacOSX เดี๋ยวนี้มันใช้งาน คล้ายๆ iPad นะครับ จากที่เห็นเขาใช้ OSX ทำ Keynote กัน
ความจริงใช้ OS X ก็ได้นะครับ มันก็เหมือน Windows นั้นแหละครับ แต่แค่ กราฟิกดีกว่า แค่นั้นเองครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
หรอครับ :p
Ultrabook ยังไม่ เลยจัดไปก่อนซินะ ^_^
สาเหตุหลักมาจาก Apps ที่ออกมา For Mac จนสามารถเปลี่ยนมาใช้ Mac โดยไม่เกิดปัญหา อีกสาเหตุคือ WebApps
มีการแข่งขันยังงี้ก็ดี วินโดว์จะได้ลดราคาเยอะๆหน่อย เอาใจผู้ใช้ให้มากขึ้น ไม่ใช่กรูซื้อแผ่นแท้มาลง ตอนเครื่องมีปัญหากลับเอามาลงไม่ได้ ต้องไปหาแผ่นเถื่อนมาลง
ยิ่งพวก Windows OEM ที่แถมกับโน๊ตบุ๊ก เหมือนใช้ได้รอบเดียว ถามคนขายว่าจะลงวินโดวยังไง คนขายตอบว่า ต้อง back up แล้ว restore เอา (ghost) ไม่สะดวกเอาเลย
ไม่แน่ใจว่าวิธีนี้ยังทำได้ใน Windows 7 อยู่รึเปล่า เพราะล่าสุดผมทำกับเครื่องผมที่ติด OEM Vista มาน่ะครับ
คือเราสามารถลง Windows ใหม่แบบ Clean ได้เลย โดยไม่ต้อง ghost เอาของเดิมหรือใช้แผ่น backup ที่ผู้ผลิตคอมเตรียมไว้ให้ เพียงแต่ต้องเลือกลง Edition ให้ถูกกับ License OEM ที่ติดมากับเครื่องเราเท่านั้น
เช่น เครื่องที่ซื้อมาติด Windows Vista Home Premium OEM มา เวลาลง Windows เราก็หาแผ่น Vista Home premium แบบ retail มาลง (จะเป็น x86 หรือ x64 ก็ได้) และนำ Serial Number ใน Sticker COA ที่อยู่ใต้เครื่องมากรอกลงไป เราก็จะสามารถลงได้ พร้อมทั้ง Activate ได้ปกติทุกประการครับ และถูกต้องด้วย (แน่นอนว่าเราต้องลงกับเครื่องเดิมเท่านั้น คาดว่าตัว activate คงมีวิธีเช็คอยู่)
บางคนชอบวิธีนี้ เพราะจะได้ลง Windows แบบ Clean ไม่ต้องมีพวกอะไรจุกจิกแบบที่ติดมากับ Windows จากโรงงานผู้ผลิตน่ะครับ
Windows 7 OEM Brander ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าเป็น Windows 7 เอาแผ่นมาสักแผ่น หาตามบิทเอาก็ได้ แล้วก็แก้ sources/ei.cfg
แก้ Edition ID ให้ตรงรุ่นที่มากับเครื่องเรา แล้วก็แก้ Channel เป็น OEM
เสร็จแล้วก็ใช้แผ่นนั้นลง แล้วเอา CD-KEY ที่แปะไว้หลังเครื่อง Activate เอาได้เลยครับ
รวบตึง
น่าจะทำให้ appple หันกลับมา สนใจตลาดองค์กรมากขึ้นะครับ
จะแม๊คบุ๊ค แม๊คแอร์ หรือจะอะไร ก็ intel inside
ต่างกันตรงหนาย
องค์กรไหนหว่า ถ้าใช้ในงาน present เช่นผู้บริหารหรือเซลล์ก็เห็นด้วย มีใช้ mac ipad iphone กันมากขึ้น เพราะภาพลักษณ์เป็นหลักด้วย เพราะไ้อ้ที่ไป present มันก็เหมือนๆกับ ppt หรือ report บนเวบทั่วไปนั่นแหละ(เผลอๆต้นฉบับทำบน windows เสียอีก) แต่งานเอกสาร + งานที่ต้องเกี่ยวกับระบบ office ทั่วไปหรือส่วนที่เป็น core businessก็ยังต้องอิง microsoft อยู่ดี
อ้อ business laptop แบบ dell ตัวบนๆ ราคาพร้อม LC win7 pro ก็ไม่แพงเท่าไร(เมื่อเทียบกับ mac) ส่วนพวก ms office เขานิยมซื้อเป็น volume license หรือ site license กันมากกว่า หารต่อเครื่องแล้วไม่แพงเลย
โดยส่วนตัวยังคิดว่าอีกไกลลิบ ที่mac จะมาแทนในส่วน core business
Apple เริ่มต้นที่ 15000 สำหรับ iPad
30000 สำหรับ Macbook Air i7 + OSX + iLife
iWork ราคา 800 บาท
แค่นี้ก็พอทราบแล้วว่าใครถูกกว่า
ลูกเล่น KeyNote แตกต่างจาก PPT อยู่เยอะ ไม่งั้นเขาคงใช้ PPT For Mac กันไปนานแล้ว
MS office มันละเอียดกว่า iWork เยอะครับ อย่าง Number นี่ไม่เห็นฝุ่น Excel
Keynote คนชอบ มากกว่า PPT เยอะนะครับ Page ก็เช่นเดียวกัน
ส่วนNumber ก็สามารถทำงานระดับ Pro ได้ แต่อาจจะมีการใช้งานแตกต่างจาก MS บ้าง
http://www.apple.com/iwork/numbers/
Keynote ผมเคยชอบ เพราะเรนเดอร์เอฟเฟกต์และทรานซิชั่นได้สวยงาม ซึ่งสมัยนั้น Powerpoint 2007 ลงไปก็ยังเรนเดอร์แบบ 2D ธรรมดา ทำ presentation ได้ไม่สวยเท่า
แม้ว่าฟีเจอร์ Keynote เรียกได้ว่าน้อยห่างชั้นจาก Powerpoint มากมาย แต่เพราะทำงานออกมาสวยและดูเป็นมืออาชีพนี่ล่ะ หลายคนเลยติดใจ
แต่พอเจอ Powerpoint 2010 เข้าไป จบเลยครับ เรนเดอร์ effect และ transition ได้สวยทัดเทียม Keynote แล้ว แถมสารพัดฟีเจอร์ที่ทำให้ทำงานง่ายขึ้นมาก ตกแต่งสไลด์ง่ายขึ้นมาก ใช้ง่ายขึ้นด้วยสำหรับคนที่ชินกับ Ribbon แล้ว และไม่มีปัญหากับการเปิดข้ามแพลตฟอร์ม (โดยเฉพาะเครื่องตามหน่วยงานที่ต่อกับโปรเจกเตอร์ส่วนใหญ่เป็น Windows แทบทั้งนั้น) ทำให้ Keynote ดูธรรมดาในยุคนี้ไปเลยครับ
Keynote มีปัญหามากเรื่องการเปิดข้ามแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะงานนำเสนอที่ต้องใช้นอกสถานที่เสมอ ทำออกมาแล้วต้องเปิดกับเครื่องตัวเองถึงจะดีที่สุด (แถมต้องซื้อหัวแปลง DVI/DisplayPort -> VGA) แม้จะ convert ได้แต่ก็ยุ่งยากและไม่ได้ดีเท่ากับเปิดด้วยตัว Keynote เอง
สมัยก่อน Office 2007 ผมก็คิดแบบนั้น แต่พอมี MS Ofiice 2007 - 2010 มันดีขึ้นมากๆครับ ยืดหยุ่น สวยงาม และง่าย
Keynote คือความรุ่งเรืองที่เป็นอดีตของ Apple ครับ ตอนนี้ผมว่าไม่แล้ว
ผมเข้าใจว่า iWork = Keynote มาตั้งนาน
ส่วน Pages กับ Numbers นั่นมันของแถม
onedd.net
สำหรับผม ราคาเป็นสิ่งสำคัญ แม้ MS Office จะสามารถมี PTT ที่ให้ความรู้สึกดูเหมือน OSX กับ Windows7 โดยภาพรวมแล้ว คนก็สนใจใน Keynote มากกว่า มันเหมือน Open Office ที่มีความสามารถเทียบเท่า MS Office ถ้ามองไปที่ราคา
ส่วน Page เชื่อว่า มันมาแทน PageMaker ได้ดีกว่า indesign ซะอีก อีกทั้งยังสามารถสร้างงานระดับ illustrator ได้อีกด้วย
ตัว Number แล้ว พอศึกษาในเรื่อง Function
http://www.apple.com/iwork/numbers/functions.html
พอพิจารณาจากราคาทำให้รู้สึกว่ามันคือ Open Office ที่สามารถทำงานได้เทียบเท่า MS Office นั่นเอง
ไม่ขอมองเรื่องของ app นะครับ แต่มองในมุมมองการทำงานและการจัดการระบบ it ในองค์กร
ผมว่าในองค์กรใหญ่ๆ ยังคงใช้ MS เป็นหลักไปอีกนานเพราะระบบ AD ของ MS เค้าเจ๋งจริง
แต่ถ้า mac OSX ปรับให้ตัวเองสามารถ integrate กับ AD ของ MS ได้อย่างสมบรูณ์แบบ ผมว่าอาจจะมีลุ้นครับ (แต่ MS คงไม่อยู่เฉยเช่นกัน)
เห็นด้วยเรื่อง AD ครับ มีปัญหามากในการจับ Mac ใส่ AD
แต่จริงๆ AD ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้ PC เหนือ Mac ต่อไปนะ
เห็นด้วยครับที่ AD ไม่ใช้ปัจจัยที่จะทำให้ PC เหนือกว่า Mac
ต่อไปเราอาจจะเปิดเครื่องแล้ว boot OS ผ่านระบบ network แล้ว login ไปใช้งาน application ที่ server หรือ application เป็น web base ทั้งหมด
ก็สามารถทำได้แล้วใน iCloud ถึงแม้ระบบiCloud จะเป็นอนาคตที่ดี แต่ OSX ก็ ยังคงเป็นพื้นฐานสำหรับ Apps ที่ใช้งานระดับ workstation อยู่
iCloud มันเกี่ยวอะไรกับ AD ครับ
--'
iCloud คือ อนาคตของ Web Apps และ Web Apps เป็นอนาคต ของระบบ Server ครับ แต่ผมไม่ได้หมายถึงว่า ระบบ server จะหมดไปนะครับ แต่แค่บอกว่า Cloud คืออนาคตเท่านั้นครับ
สับสน iCloud กับระบบ Cloud ของเจ้าอื่นรึเปล่าครับ ผมว่ามันไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยนะ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
iCloud สามารถใช้งานร่วมกันกับซอปแวร์จากผู้ผลิตอื่นๆนอกเหนือจาก Apple นะครับ ซอฟแวร์ทั่วไปใช้เป็น webApps ส่วน Apps ระดับเพื่อการทำงานและใช้งาน ก็ทำงานบน iOS แต่ก็ยังใช้ฐานข้อมูลของระบบ Cloud ก็ไม่ได้ต่างจากค่ายอื่นมากนะครับ แต่มีรายละเอียดแตกต่างกันเท่านั้น ส่วนงานระดับ workstation ระดับมืออาชีพ ระดับภายในองค์กรก็ใช้ ระบบ server ตามเดิม แต่มีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น ถึงได้บอกว่าไม่ใช่ว่า server จะหมดไป ด้วยการแทนที่ของระบบ Cloud ไงครับ
คือผมจะบอกว่าไอ้ที่เค้าบอกกันว่า Cloud คืออนาคตน่ะ เค้าไม่ได้พูดถึงแค่ iCloud กันครับ
ใช้ร่วมกันกับซอฟต์แวร์กับแอพจากผู้ผลิตอื่นๆผ่าน API เฉพาะทางได้น่ะใช่ครับ แต่ผมว่ามันเป็นแค่ระบบเฉพาะที่ช่วยสนับสนุนประสบการณ์การใช้งานแอพบน Mac OS กับ iOS เท่านั้น และมันไม่ได้โฮสต์ WebApp ครับอ้างอิงจาก iCloud ในมุมมองนักพัฒนาโปรแกรม ลองอ่านบรรทัดท้ายๆดูนะ
สรุปแล้ว iCloud เป็นการใช้ Cloud Computing เพื่อจุดประสงค์นึงๆครับ ซึ่งไม่ใช่การทำอะไรแบบ
ครับ
ส่วนนิยามว่า Cloud คืออะไรลองอ่านนะดูครับ Cloud Computing
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ครับขอบคุณครับ ผมมองว่า iCloud ก็เป็น ระบบปฏิบัติการหนึ่งที่รันผ่าน Safari ด้วยระบบ Cloud เพื่อการใช้งาน Web Apps ที่เหมาะสมกับระบบ Cloud
อนาคตของ iCloud ย่อมเป็นไปเพื่อประสบการณ์การใช้งานของผลิตภัณทืของ Apple อย่างแน่นอนครับ เพราะเป็นแนวทางของ Apple อยู่แล้ว
Native Application ยังคงสำคัญในอนาคตอย่างแน่นอน และระบบ Server สำหรับงานระดับ Workstation งานสำคัญภายในองค์กร งานระดับมืออาชีพ อาทิ งานภาพยนต์เชิงการค้า ระบบข้อมูลพนักงานภายในบริษัท เป็นต้น ก็ยังต้องใช้เครื่องจากภายในองค์กร ดังนั้นระบบ Server ก็ยังคงมีความต้องการอยู่ดี
ผมเชื่อในระบบ Cloud ที่เน้น Native Application ครับ เพราะใช้งานได้สะดวก ส่วน Apps ที่เหมาะสมกับ ระบบปฏิบัติการ Cloud แบบ100% (WebApps)ก็เชื่อเช่นเดียวกัน อาทิ Address Book iCal Mail Etc.
ส่วนอนาคต เครื่อง PC จะมีราคาที่ถูกลง ผู้คนสนใจที่จะใช้งานระบบ Server ที่ง่ายต่อการวางระบบและทรงประสิทธิภาพ พร้อมประหยัดพลังงาน มากยิ่งขึ้นครับ ดังนั้นงานระดับสูง อาทิ ภาพยนต์ เพลงในเชิงการค้า งานออกแบบอาคาร ระบบฐานข้อมูลสำหรับใช้ภายในบริษัท Ect. สามารถทำได้แม้ใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างน้อยก็ตาม อีกทั้งยังใช้พลังงานที่ไม่สิ้นเปลืองอีกด้วยครับ
แสดงว่าไม่รู้จัก AD
ระบบ server ส่วนใหญ่ ใช้Linux เป็นหลัก หาใช่ MS ไม่
ถ้าชอบความสเถียร ความลงตัวในระบบserver และความปลอดภัยแบบ Linux เหล่านั้นแล้ว
Mac มีทุกอย่างที่อยู่ในนั้น แต่ใช้งานง่ายกว่ามากนัก
ราคาถือว่าพอๆกัน
แต่ถ้าเทียบ RedHat แล้ว OSX ถูกลงไปถนัด
นี่ยังไม่พูดถึงราคา Windows
ผมหมายถึงระบบการจัดการ it ภายในองค์กรครับ ไม่ได้หมายถึงระบบ server
ซึ่งระบบ server ที่เป็น core business จริงๆ ก็ยังคงเป็น unix(linux/AIX/solaris)ซะส่วนมากครับ
และส่วนใหญ่ระบบ core server พวกนี้ไม่ต้องการ interface ที่สวยงาม
แต่ต้องการความเสถียรในการทำงาน ความสะดวกยืดหยุ่นในการ config และการปรับแต่ง
แต่การจัดการและการควบคุมเครื่องลูกข่ายระบบ AD ของ MS ทำได้ดีมากครับ
ถ้าในองค์กรมีเครื่องลูกข่ายหลักร้อยหลักพันเครื่องระบบ AD ช่วยจัดการได้เยอะ
เช่นเรื่อง policy ในการใช้งานของพนักงานแต่ละคนแต่ละแผนก,
การ deploy software, การแบ่ง site ฯลฯ
และยัง integrate กับระบบอื่นๆ ของ MS เองได้ดีอีกด้วยเช่น exchange,sharepoint,forefont,...
ซึ่งถ้า apple จะบุกตลาดองค์กรจริงต้องทำการบ้านหนักพอสมควร
OSX รองรับ X11และมีการรองรับคำสั่ง แบบ Unix ระบบที่สวยงามและใช้งานง่ายจะทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการดูแลและบริหารจัดการรักษาระบบ
Apps ที่สร้างด้วย X11 สามารถใช้กับ OSX ได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับ OSX Server Lion มีระบบการจัดการที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว http://www.apple.com/macosx/server/servers-made-easy.html
รู้เลยว่าคุณไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสาย server จริงๆ
ผมรับสินค้า Apple มาจัดจำหน่ายครับ
อืมมมมมมม
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เป๊ะ แอปเปิ้ล เลิศส์ส์ส์
ถามจริงๆ คุณรู้จัก AD มั้ยครับ??? หรือเถียงทั้งๆที่คุณไม่รู้เรื่องเลยว่าคุยที่คุยด้วยพูดเรื่องอะไร
ปล. ผมอ่านคอมเม้นท์นี้แล้วสงสัยขึ้นมาทันที คุณเป็นเซลล์ Apple ใช่มั้ยครับ :P
AD = Absolutely dumb ครับ Authentication ขององค์กรหลุดลุ่ยมาก
ที่จริงผมทำเป็นแค่ Hardening ครับ มาปล่อยไก่เฉยๆ :P
Active Directory (AD) เป็นไดเรกทอรี่เซอร์วิสในระดับองค์กร ที่ถูกออกแบบบนมาตรฐานของ Internet Technology เอาไว้รองรับการค้นหาทรัพยากรต่าง ๆ บนเครือข่ายขนาดใหญ่ และยังช่วย Admin จัดการบริหารเครือข่ายที่ซับซ้อนจากศูนย์กลางได้อย่างสะดวก AD เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง DNS (Domain Naming System) และ LDAP (Lightweight Diretory Access Protocol) ทำให้สามารถจะติดต่อเชื่อมโยง (interoperability) กับไดเรกทอรี่เซอร์วิสอื่นๆ ได้อีกด้วย และมีการพัฒนา DCOM (Distributed Component Object Model) ให้มีประสิทธิภาพในการกระจายแอพพลิเคชั่นได้ดียิ่งขึ้น AD จะมีโครงสร้างอยู่ 2 แบบคือ ทางกายภาพ (Physical Structure) และทางลอจิคอล (Logical Structure)
ไดเรกทอรี่ตัวอย่างที่เห็นอยู่ทั่วไป เช่นสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง ที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเกีย่วกับชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร.. เมื่อเราต้องการจะค้นหาเบอร์โทรศัพท์ก็เพียงแต่เปิดไปยังหน้าที่มีชื่อ-สกุลนั้นๆสมุดโทรศัพท์จึงเป็นดั่งที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้ใช้โทรศัพท์เอาไว้ AD ก็คล้ายกับสมุดโทรศัพท์แต่จะเก็บรวบรวมอ๊อบเจ๊กต์และทรัพยากรต่างๆ บนระบบเน็ตเวิร์กเอาไว้ (อ๊อบเจ็กต์เหล่านี้คือ ยูสเซอร์ เครื่องพิมพ์ ไฟล์เอกสาร อีเมลแอดเดรส) นอกจากนี้ AD ยังจัดเก็บคุณสมบัติ (Attributes) ของอ๊อบเจ็กต์และทรัพยากรนั้นๆไว้ เพื่อให้ user สามารถเข้ามาค้นหาอ๊อบเจ็กต์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว AD ประกอบด้วยการทำงาน 2 ส่วนด้วยกันคือ Active Directory Service และ Active Directory Database
Active Directory Service
เป็นการให้บริการแก่ Admin เช่น การสร้างหรือลบรายชื่อผู้ใช้ การเปลี่ยนรหัสผ่าน การกำหนดนโยบายของกลุ่ม (Group Policy) การสร้างแชร์โพลเดอร์ การสร้างรายชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ การติดตั้งพริ้นเซิร์ฟเวอร์...
ให้บริการในการค้นหาอ๊อบเจ๊กต์หรือทรัพยากรต่างๆ บนระบบเน็ตเวิร์ก Active Directory Service จะสนับสนุนทั้งโปรโตคอล DNS และ LDAP
Active Directory Database
เป็นฐานข้อมูลในการจัดเก็บไดเรกทอรี่ (อ๊อบเจ็กต์) บนระบบเน็ตเวิร์กไว้ เช่น บัญชีรายชื่อและคุณลักษณะของผู้ใช้-กลุ้มผู้ใช้ รายชื่อ และคุณสมบัติของทรัพยากรต่างๆ (คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ แชร์โพลเดอร์) ในการจัดเก็บรายชื่อและคุณสมบัติของทรัพยากรบนระบบเน็ตเวิร์กไว้ในฐานข้อมูล Active Directory จะช่วยให้ User สามารถค้นหาและเรียกใช้ทรัพยากรนั้นได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
คัดลอกมาจากหนังสือ คู่มือ Windows 2003 server ภาคปฏิบัติเล่ม 1 ของ อ. บัณฑิต จามรภูติ
OSX รองรับ X11และมีการรองรับคำสั่ง แบบ Unix
ระบบที่สวยงามและใช้งานง่ายจะทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการดูแลและบริหารจัดการรักษาระบบ
Apps ที่สร้างด้วย X11 สามารถใช้กับ OSX ได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับ OSX Server Lion มีระบบการจัดการที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
http://www.apple.com/macosx/server/servers-made-easy.html
รู้รึยังครับว่า X11 คือไรน่ะ?
ฮา
X Window System
เป็นระบบ GUI มาตรฐานของระบบปฏิบัติการในตระกูลยูนิกซ์
สำหรับ Mac แยกกันกับ Cocoa
5555555555555555555555555555555555555555555
คุณไม่ทราบหรือว่าเวลาจะ cross platform วงการ Unix ใช้ X11 เป็นหลัก
ผมรับสินค้า Apple มาจัดจำหน่ายครับ
ขายอยู่ไหนครับ ชักสนใจ :P
ของผมทำร่วมกับ SPVi ในการเสนอโปรเจ็คให้กับภาครัฐและเอกชน
โดยของผมไม่ได้ทำการเปิด iStudio แบบ SPVi
แต่จะมีการร่วมโปรเจ็คกันในการยื่นซองประมูลในโปรเจ็คต่างๆ
โดยในทางราชการ น้าผม เป็น สจ. นครศรีฯ และคาดว่าจะนำโซลูชั่นของ Apple ไปนำเสนอครับ
แต่มีสถานที่สำหรับเปิดใช้ในการ ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอยู่ที่ห้าง iPlace อยู่ในย่านสนามบินสุวรรณภูมิครับ
http://msps4u.wordpress.com/
ลูกค้าล่าสุดที่ยอมรับในโซลูชั่นที่นำเสนอคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร คณะ IST ครับ
ผมจำหน่ายทั้งราคาค้าปลีกและค้าส่งครับ
I see troll people.
ผมมองว่า OSX lion server เหมาะกับ home office ถึง office ระดับกลาง ที่ใช้ mac เป็นหลักในการทำงานเท่านั้นครับ เช่นพวก studio งานกราฟฟิค
ใน server ระดับที่ให้บริการ osx lion server ยังห่างไกลครับ ผมไม่เคยใช้ osx lion server นะครับ
แต่อย่างแนว apple นี่คงจะ integrate กับ hardware/software หรือ solution ระดับ enterprise ได้ยากแน่ ๆ ครับ (ไม่เคยใช้ lion server นะครับ แค่ความเห็นส่วนตัว)
ระบบใหญ่ผมเชื่อว่า OSX lion server ทำได้นะครับ อย่างน้อยๆ บริษัท Apple ก็ต้องใช้
อีกอย่าง ถ้า FreeBSD สามารถทำได้ ก็คงไม่มีเหตุผลว่า OSX ที่มีพื้นฐานมาโดยตรงจากFreeBSD จะไม่สามารถทำได้อย่าง FreeBSD ทำได้ครับ
ส่วนเรื่องราคา ณ เวลานี้ CIO คงตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะราคาไม่ใช่อุปสรรค์ในการทำงานอีกต่อไป เพราะราคา 49$ เท่านั้น
shell script และ X11 คือ developing cross-platform applications ที่ดีเยี่ยมครับ ระบบ Server ของ Unix และ Linux ใช้ Apps จากสองตัวนี้เป็นหลักอยู่แล้ว อันนี้ไม่นับรวม Java ดังนั้นแล้วถ้าจะสร้าง Apps เฉพาะหน่วยงานภายใน Apple ก็ไม่ใช่อุปสรรค์
การทำงานร่วมกับ Windows และ OS อื่นๆ ในระดับ clients และ server ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี
ผมมั่นใจว่าการโปรโมทสินค้า Apple ของคุณจะใช้ไม่ได้กับเว็บนี้นะครับ
เพราะคนส่วนมากที่เล่นเว็บนี้ ไม่ใช่คนไม่รู้อะไรหรือสามารถชักจูงได้ง่ายโดยการอวดอ้างสรรพคุณต่างๆนาๆ
คนในเว็บนี้หลายๆคน(ไม่รวมถึงผม) มีความรู้ความเข้าใจในระบบเหล่านั้นมากกว่าคุณมากครับ โดยเฉพาะในระดับ Server ด้วยแล้ว และเค้าเหล่านั้นสามารถตัดสินใจเลือกระบบที่เหมาะกับเค้าในสถาณการณ์ต่างๆด้วยตัวของเค้าเองได้ครับ ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเป็น Apple ไปหมด
Apple หรือ Lion/Lion Server มันก็มีดีของมัน แต่มันไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกอย่างครับ
ผมจึงคิดว่าถ้าคุณต้องการจะ PR สินค้าต่างๆ เขียนมันเข้ามาเป็นข่าวหรือรีวิว จะเหมาะสมกว่าครับ เพราะวิธีการของคุณในปัจจุบัน มันอาจสร้างภาพลักษณ์ด้านลบแทนที่จะเป็นด้านบวกหน่ะคับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
ผมเองก็เป็น ผู้ดูแลระบบ server คนนึง
แม้จะอยู่ในฐานะผู้บริหารระดับ CEO แต่ผมก็แนะนำ โซลูชั่นให้กับ CIO ของหน่วยงานต่างๆเหล่านั้น
ที่เข้ามาตอบไม่ใช่อะไรครับ ต้องการสื่อสารให้เข้าใจถึงระบบของApple จากการตอบคำถามบางท่านยังไม่เข้าใจระบบของ Apple มากเพียงพอครับ
ส่วนตัวผมมีความเข้าใจในระบบอื่นๆนอกจาก Apple เพราะผมเคยดูระบบ windows มาก่อน สมัย windows 98 Windows2000 windows XP Linux Unixในสมัยนั้น
แต่ ณ เวลานี้ค่อนข้างสนับสนุนไปทาง Apple ครับ
ในยุคปัจจุบัน
ถ้าให้เลือก ระหว่าง windows กับ Unix/Linux ก็เลือก Unix/Linux ครับ แต่ถ้าให้เลือก Unix/Linux กับ OSX ก็เลือก OSX ครับ
ผมขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยนะครับ
ดูจากที่คุณตอบมาหลายสิบคอมเม้น ผมเชื่อแล้วครับว่าคุณเป็น CEO
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีที่รู้จักครับ
คุณคิดเหมือนผมไหม B1
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ฉันว่าคงอีกไม่นานหรอก B2
ปกติแล้วไม่มี B3 แต่ผมขอแจมด้วยได้ไหม
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ผมชอบนะ B2!
เว็บนี้ขาดอะไรแบบนี้ซักพักแล้ว:)
การบริหารงานของผมเน้น ประสบการณ์ในการใช้งานที่มอบให้กับคู่ค้า ดังนั้น ทิศทางของผมจึงไม่เป็นการทำลายตนเองครับ