Tags:
Node Thumbnail

เราทุกคนคงชินกับบัตรเครดิตหรือบัตร ATM ที่มีแถบแม่เหล็กอยู่ด้านหลังแล้วใช้ข้อมูลในบัตรนั้นเพื่อจ่ายเงิน ปัญหาสำคัญของบัตร ATM แบบเก่านั้นคือมันไม่มีกระบวนการป้องกันใดๆ ทำให้การปลอมแปลงบัตรหรือการทำสำเนาทำได้ง่ายมาก ในช่วงหลังมานี้การใช้สมาร์ตการ์ดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยถูกใช้อย่างเต็มที่แล้วในสหราชอาญาจักรและช่วยลดปัญหาธุรกรรมปลอมไปได้มาก จนถึงตอนนี้ทางมาสเตอร์การ์ดก็ออกมาประกาศแผนการเลิกใช้บัตรแม่เหล็กไปใช้บัตรสมาร์ตการ์ดทั้งหมดแล้ว

มาสเตอร์การ์ดประกาศว่าบัตรทั้งหมดจะเปลี่ยนไปใช้บัตรแบบ EMV ซึ่งเป็นมาตรฐานบัตรสำหรับการจ่ายเงินที่ใช้กันหลายธนาคาร หรือบัตร M/Chip ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของทางมาสเตอร์การ์ดเอง

กำหนดการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มด้วยการเปลี่ยนเครื่องอ่านทั้งหมดให้เป็นเครื่องอ่านสมาร์ตการ์ดในเดือนเมษายน 2013 ส่วนกระบวนการเปลี่ยนตัวบัตรนั้นยังไม่มีช่วงเวลาชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนอย่างไร แต่ธนาคารจำนวนมากก็ออกบัตรเป็นแบบแถบแม่เหล็กและสมาร์ตการ์ดไปพร้อมๆ กันอยู่แล้วทำให้หลังจากเครื่องอ่านทั้งหมดถูกเปลี่ยนแล้วการใช้งานจริงคงเป็นสมาร์ตการ์ดทั้งหมดไปเอง

บัตร EMV มีกระบวนการป้องกันต่อการปลอมแปลงด้วยการยืนยันบัตรแบบ public-key infrastructure (PKI) ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ และการรายงานบัตรหายจะทำให้การยกเลิกบัตรได้รวดเร็ว รวมถึงมีกระบวนการจ่ายเงินจากในตัวบัตรที่ไม่ต้องการการออนไลน์หากความเสี่ยงอยู่ในระดับยอมรับได้

ที่มา - MasterCard

Get latest news from Blognone

Comments

By: qubity
Windows
on 1 February 2012 - 12:33 #379092

แบบนี้น่าจะดีกว่าน่ะครับ อย่างน้อยก็ไม่มีปัญหา แถบแม่เหล็กเสีย

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 1 February 2012 - 13:04 #379107

ผมใช้บัตร ATM แบบ chip EMV มานานแล้วครับ บัตร be1st ของ แบ้งกรุงเทพ

อยากบอกว่ามันค่อนข้างปลอดภัย เพราะ
1 แอบอ่านข้อมมูลจากแถบแม่เหล็กไม่ได้ ข้อมูลอยู่บนชิพ
2 การเข้ารหัสของมันเวลาใช้ ต้องเสียเวลาเล็กน้อยในการอ่านบัตร...ทำให้พวกที่แอบอ่านจากแถบแม่เหล็กทำไม่ได้

ทั้งสองอย่างทำให้ค่อนข้างปลอดภัยว่าจะไม่โดนแอบอ่านแถบข้อมูลแล้วไป write กับบัตรเปล่าได้

แต่ ปัญหา อย่างเดียวที่ผมเจอคือ

ต้องใช้ตู้กด ของ กรุงเทพเท่านั้น และต้องมีตรา smart ด้วย (ส่วนใหญ่ก็มี) ลำบากเวลาจะกดตัง ... แต่ถ้าจ่ายบัตร เดบิตก็ยังสะดวกเพราะเครื่องอ่านอ่านได้จากชิพ

ตอนถูกบังคับทำบัตร จนท บอกว่า ธ เริ่มจะเปลี่ยน มาใช้เทคโนโลยีนี้กันแล้ว ใครใช้เราก็สามารถกดต่างตู้ได้...(แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมีธ ใหนมาทำระบบนี้กันเลย งือๆ)

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 1 February 2012 - 13:25 #379112 Reply to:379107
hisoft's picture

ผมกำลังสงสัยเลยว่าทำไมบัตร ATM ไม่เอาบ้าง ถือเป็นข่าวดีนิด ๆ ที่ในไทยมีเริ่มใช้ และเป็นข่าวร้ายอีกนิดที่ในไทยเพิ่งใช้เจ้าเดียวครับ

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 1 February 2012 - 14:21 #379130 Reply to:379112
Perl's picture

ปัญหาคือต้องอัพเกรดหรือเปลี่ยนตู้ ATM ทั้งหมดครับ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่

By: doctorking
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 1 February 2012 - 15:10 #379146 Reply to:379130

ไหนๆหลายตู้โดนน้ำท่วมไป น่าจะเป็นเวลาดีในการเปลี่ยนนะครับ

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 1 February 2012 - 15:29 #379159 Reply to:379146
Perl's picture

ผมอยู่ที่แจ้งวัฒนะ ช่วงก่อนน้ำจะมาเขาเอาอุปกรณ์ที่อยู่ในตู้ออกไปหมดครับ + ปิดเทปไว้ที่หน้าตู้ด้วย

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 1 February 2012 - 15:47 #379171 Reply to:379146
hisoft's picture

เค้าเปลี่ยนกันเกือบหมดแล้วน่ะสิครับ

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 1 February 2012 - 15:22 #379157 Reply to:379112

1 ต้องเปลี่ยนตู้ ....มีค่าใช้จ่าย Hardware Software System License
2 ต้องเปลี่ยนบัตร ... มีค่าใช้จ่าย
3 ถ้ายังไม่แพร่หลาย ลูกค้าบ่นแน่ๆ (แต่ผมชินแล้ว)

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 1 February 2012 - 23:10 #379361 Reply to:379107
TeamKiller's picture

ผมเกือบเปลี่ยนเป็นแบบติดชิปละ พอพนักงานบอกกด ATM ได้เฉพาะตู้กรุงเทพ ไม่เอาทันทีเลย เอา be1st ธรรมดาๆ ดีกว่า สถานที่ๆ ที่ผมชอบไปๆ มามันไม่มีตู้กรุงเทพสักตู้เลย

By: LolliezPop
iPhone
on 1 February 2012 - 23:42 #379374 Reply to:379107

เพื่อนผมก็ใช้ เวลาตังหมดทีต้องยืมคนอื่นตลอด เพราะหาตู้กดไม่ได้

By: revolz
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 1 February 2012 - 13:33 #379118
revolz's picture

บัตร Mastercard ผมชิปเสียตลอด เป็นบัตรที่มีปัญหาในการรูดมากสุด

By: pizzicato
ContributoriPhoneUbuntu
on 1 February 2012 - 14:40 #379133
pizzicato's picture

เมื่อไหร่ในไทยจะบูมบ้างครับบัตร สมาร์ตการ์ด!


positivity

By: นักโทษประหาร
Windows PhoneAndroidRed HatSUSE
on 1 February 2012 - 18:01 #379236
นักโทษประหาร's picture

เข้าสู่การพัฒนาครั้งใหม่คงในไม่ช้าจะหมดยุคแทบแม่เหล็กแน่ๆ

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 1 February 2012 - 18:19 #379248

เดี๋ยวนี้เวลาซื้อของ ผมเห็นเสียบชิปกันทุกที่ละนะ ไม่ค่อยเห็น edc แบบที่มีรูดอย่างเดียวแล้วด้วย


iPAtS

By: chankx on 1 February 2012 - 22:32 #379350

ตอนทำ cer EMV ของ VISA เจอบัตรแต่ 47 ใบ แต่ของ Mastercard นี่แทบหมดสติเลยเจอบัตร test เป็นร้อยใบ ผ่านยากจีิงๆถ้าเขียนโปรแกรมไม่ดี

By: chalee
iPhoneAndroid
on 1 February 2012 - 22:51 #379353

ขนาดบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด

ไปติดต่อราชการหรือที่ไหน ๆ

ผมก็ยังต้องถ่ายเอกสารอยู่เลยครับ

555+

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 2 February 2012 - 00:40 #379391 Reply to:379353
lew's picture

ของพวกนี้พูดให้แฟร์ บัตรมันต้องไปก่อนครับเครื่องอ่านถึงจะตามไป และบัตรช่วงแรกก็เป็นบัตรที่มีแถบแม่เหล็กพ่วงไปด้วยอย่างที่ผมบอก มันมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของมันจะบอกว่าอยากเลิก xerox แล้วพรุ่งนี้ให้ทุกคนเอาบัตรไปเปลี่ยน ทุกหน่วยราชการซื้อเครื่องอ่าน, พัฒนา app ใหม่ ฯลฯ ในไม่กี่วันมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ตัว Mastercard เองก็ปล่อย EMV ออกมานานมากกว่าจะประกาศแผนการนี้ออกมาได้

คือเล่าเอาขำก็เรื่องนึง แต่ในแง่ของ "ความรู้" ผมมองว่าอ่านข่าวนี้แล้วควรกระตุ้นให้คนไปศึกษาว่ากว่าเขาจะเปลี่ยนเขาเตรียมตัวกันอย่างไร มันใช้เวลานานแค่ไหน และสร้างค่าใช้จ่ายอย่างไร ไม่ใช่ว่าอยากเลิก xerox แล้วก็บ่นไปเรื่อยๆ แบบนั้นมันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกครับ


lewcpe.com, @wasonliw

By: kritapas.t
iPhoneAndroidBlackberry
on 2 February 2012 - 16:20 #379478 Reply to:379353
kritapas.t's picture

เข้าใจครับ แต่การใช้งานเรื่องนี้มันต้องมี cost มากมายและตัวแปรในการเปลี่ยนอีกมากครับ อย่างเช่น ความเห็นบนๆ ของธนาคารกรุงเทพ ก็ยังมี M/Chip มาให้ใช้กันนานมากแล้ว หรือแม้แต่บัตรเครดิตก็ยังถูกผลิตให้ใช้ได้ทั้ง 2 ระบบ ซึ่งก่อนๆ เครื่องอ่านก็ยังมีแต่แบบรูดอย่างเดียว แต่พอเวลาผ่านไปจะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้การรูดแถบแม่เหล็กเริ่มหมดไปแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับปรุง พัฒนา เปลี่ยนแปลงกันไปครับ

ปล. ที่ทำงานผมมีโปรเจคของรัฐบาลที่ใช้การอ่านข้อมูลจากบัตร Smart Card อยู่ในสายการทำงานมาสักพักแล้ว