หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 อ้างข้อมูลจาก น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ว่ากระทรวงได้กำหนดเนื้อหาหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับเด็ก ป.1 เพื่อบรรจุในแท็บเล็ตเรียบร้อย และจะมอบให้สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) ไปดำเนินการ
เนื้อหาในแท็บเล็ตจะมี
ใช้พื้นที่ทั้งหมด 4GB จาก 8GB ดังนั้นจะเหลือพื้นที่เหลือให้บรรจุหลักสูตรอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ในวันที่ 6 ก.พ. นี้จะเชิญสำนักพิมพ์มานำเสนอหนังสือเรียนและหารือเรื่องการทำเนื้อหาต่อไป
ส่วนประเด็น Wi-Fi จะจับมือกับกระทรวงไอซีทีสำเร็จข้อมูลของโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และแบ่งกลุ่มโรงเรียนตามความพร้อม โดยจะส่งแท็บเล็ตไปยังโรงเรียนกลุ่มที่พร้อมที่สุด (มีอินเทอร์เน็ตพร้อมใช้งาน) ก่อน
ที่มา - กรุงเทพธุรกิจ 3 ก.พ. 2555 หน้า 15 (เข้าใจว่าไม่มีให้อ่านบนเว็บ)
Comments
อยากให้เป็น epub มากกว่า pdf
+1 ทำ text reflow ดูได้จากหลาย device
+1 ePub คุณสมบัติน่าจะเหมาะกว่าครับ เวลาเด็กๆ มองเห็นตัวหนังสือเล็กไป ก็ขยายได้ตัดคำขึ้นบรรทัดใหม่ แต่PDFนี่ยัง ไม่supportเลย
ถ้าทำเป็น web app offline ได้ยิ่งดี
+1 ผมว่า ePub รู้สึกมันจะมี Feature ต่าง ๆ มากกว่า PDF
สงสัย pdf แบบเรียนอันนี้คงสแกนเอา
ไม่งั้นก็น่าจะเป็น epub ไปแล้ว
PDF แล้วมันจะขีดเขียนจดอะไร ได้ปะเนี่ย -*-
ได้สิครับ
แสดงว่าไม่เคยใช้ Acrobat Reader Pro
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
อันนี้มันรันบน Android/Tablet OS ไม่รู้ว่าจะมีฟีเจอร์นี้มั้ยอ่ะครับ
บน iOS ก็มีหลาย app ที่อนุญาตให้ อ่าน/เขียน และทำ Marker บน PDF ได้ครับ
ได้อ่านข่าวหรือเปล่าครับ
ใช่ครับ รันบน Android ไง ผมแทบไม่เคยเห้นเลย นอกจาก Galaxy Note
ezPDF ทำได้ครับ
แต่ไม่ฟรี
คงต้องให้รัฐบาล ซื้อมาลงแบบ Pre-install ในเครื่องเลยครับ...
PDF เองสามารถแปะ annotation/note ได้ครับ หรือจะใส่ drawing เป็นอีก layer ก็ย่อมได้ครับ
โอวแม่เจ้า ผมก็พึ่งรู้ แล้วเด็กมันจะใช้เป็นมั้ยเนี่ย - -*
ก่อนถามเด็ก ...ถามครูก่อนไหม
+1 คุณครู ปวดหัวกว่าเก่า โดยเฉพาะครูสูงอายุที่ไม่ค่อยได้จับ คอม
ที่ผมพูดคือตัวข้อกำหนด PDF แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับว่าโปรแกรมที่เรามี สามารถโน็ตข้อความ, ใส่ลายเส้นไปได้รึเปล่าครับ เพราะถ้ามีซอฟท์แวร์ที่ความสามารถแบบนี้ พรีโหลด และสาธิตให้ดูก็ได้แล้วครับ
มันยากตรงไหนครับ
เด็ก ป.1 จะเข้าใจภาษาไทยในเมนู android ได้ทั้งหมดแล้วหรือยัง อันนี้น่าจะปัญหามากกว่า แต่ถ้าใช้อังกฤษนี้ สำหรับ รรรัฐ ป.1 น่าจะกำลัง ABCD อยู่เลย
ความรู้สึกเหมือนกำลังเอาเฟอรารีไปไถนา
ผมว่าที่เราไม่เข้าใจภาษาไทยบน Software กันเพราะเราไม่ได้ใช้กันอย่างจริงจังมากกว่าครับ
ส่วนเด็กที่ไม่ได้เริ่มจากภาษาอังกฤษแบบพวกเราน่าจะไปได้ไวกว่านะ ผมถือว่าเป็นโอกาสอันดีของการ localization เลยล่ะครับ
สำหรับเด็กที่กำลัง ท่องศัพท์ Cat แมว Dog หมา อยู่เลย ต้องมาจำคำจำพวก Setting Location อะไรพวกนี้แล้ว แค่จะอธิบายคำพวกนี้ให้เด็ก ป.1 เข้าใจยังยากเลย สงสารเด็ก
ไม่ยากครับ ถ้าคุณสอนเด็กใช้ Tablet ให้เหมือนจับ Controller GAME เด็กไปไวกว่า คนสอนเสียอีก
เผลอ ครูนะแหล่ะที่จะมีปัญหามากกว่าเด็ก
เคยได้ยินคำว่า ไม่อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก มั้ยครับ
เด็กสมัยนี้ก็ไม่ได้โง่นะครับ เรื่องอย่างงี้บางทีสอนผู้ใหญ่ยังยากกว่าเลย เทคโนโลยีมันไปถึงไหนแล้ว
จะมาใช้หลักสูตรเก่าเริ่มสอนต้องแต่ให้เด็กหัดจับเมาส์ สอนจัดหน้า word เด็กที่ไหนมันจะไปอยากเรียน
เด็กสมัยนี้โดยเฉพาะโรงเรียนในเมือง เรียนคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่ อ.1 แล้วครับ (ย้ำ..อนุบาล 1) หัดจับ Paint จับ Word มาตั้งแต่วัยนี้แล้ว (เสียดายที่ไม่ได้เรียน Opensource software กันแค่นั้น ชีวิตเลยผูกกับ MS หมดเลย) อ.2-อ.3 เริ่มให้หัดเข้า Web browser ท่องเว็บหาข้อมูลกันแล้ว
พอประถมต้น ป.1-2-3 เริ่มเรียนอะไรที่มัน complex ขึ้นอย่างพวก Powerpoint, Excel ไปจนถึง Movie Maker กันแล้ว
จริงหรือไม่ ไปดูหลักสูตรโรงเรียนอนุบาล-ประถม ตามโรงเรียนใหญ่ๆ ในเมืองเลยครับ :)
แล้วคุณคิดว่า การที่เด็กๆ ถูกปลูกฝังทักษะการใช้คอมพิวเตอร์มาตั้งแต่แรก แล้วเด็กเหล่านี้ จะมีปัญหาเมนูภาษาไทย หรือแม้แต่เมนูภาษาอังกฤษใน Android Tablet ไหมครับ?
ต้องยอมรับว่าสมัยนี้เด็กไปไวมากจริงๆ เอาไปเทียบกับรุ่นเราไม่ได้เลยครับ เอารุ่นเราเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ อย่างสมัยผมเรียน รุ่นผมเรียนภาษาอังกฤษครั้งแรกตอน ป.4 (แย่มาก) และจับคอมพิวเตอร์ครั้งแรกตอน ป.4 สมัย Windows 3.11 (โชคดีที่ยังมีให้จับ) ขนาดโรงเรียนประถมประจำจังหวัด และจังหวัดนี้ใหญ่ที่สุดของภาคนะเอ้า ..แต่ดีที่พ่อผมมีคอมให้ฝึกมือตั้งแต่เด็กๆ และปลูกฝังภาษาอังกฤษให้ตั้งแต่เด็กๆ ไม่รอให้โรงเรียนสอน เลยดีไป
แต่เด็กสมัยนี้ ถูกจับให้ ABC ตั้งแต่ก่อนอนุบาลแล้วด้วยซ้ำไปมั้ง
สมัยนี้เด็กเก่งจริงๆครับ ผมก็เพิ่งทราบไม่นาน มันใช้เป็นชัวร์ๆครับ
เด็ก 2-3 ขวบนะครับ มันยังเล่นเป็นหลายอย่างเลยครับ
ป 1 นี่มัน 7 ขวบไปแล้วไม่ใช่เหรอ?
+1 เห็นด้วยครับ งานนี้ครูมีปัญหามากกว่าเด็กแน่นอน ผมยืนยันว่า เด็กปรับตัวเร็วมากว่าที่หลายคนคิดถึง
จะมีโครงการทำให้โหลด หรืออ่านบนหน้าเว็บไหมน้า
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ไหงทำเป็น pdf - -'
ทำเป็น Tablet ไม่ต้องทำแบ่งหน้าแบบหนังสือก็ได้ = ='
จะทำทั้งที
ตั้งงบพัฒนา content ด้วยก็ดีเนาะ
ผมว่า จากต้นฉบับหนังสือเรียนไป pdf มันง่ายก็จริงนะ (แค่สั่ง print ก็เสร็จละ) แต่มันใช้ไม่สะดวก ต้องเลื่อนไปเลื่อนมาน่ะครับ
ทางสำนักพิมพ์ก็น่าจะออก html เวอร์ชั่น เก็บเอาไว้บน http server สักตัว แล้วใช้ร่วมกันไปเลยดีกว่า (เวลาแก้ไขเนื้อหามันจะง่ายกว่า) แต่ทีนี้จะจดไงเนี่ย
คิดไปคิดมา ... ผมคิดว่านร.ต้องพกสมุดอยู่ดีแฮะ แย่จัง
หนังสือจริงๆ ก็ต้องเปิดหน้าไปมาเหมือนกันนะครับ พวก PDF ยัง Search คำได้เผื่อต้องหา สิ่งที่สนใจ ไม่ต้องเปิดดัชนี(ถูกเปล่าหว่า) ก่อน แล้วค่อยไปเปิดหน้าที่มีคำนั้นอีกที
ถ้าคุณหนูๆรู้วิธีใช้ search ก็คงไม่ยากครับ แต่ใช้กันเป็นหรือเปล่า ผมว่าเด็ก ป.1 อ่านหนังสือยังไม่คล่องเลยครับ
ผมหมายถึง การทำ pdf จากต้นฉบับหนังสือมันง่ายครับ แค่สั่งพิมพ์ก็เสร็จละ
ผมสังหรณ์ว่าด้วยรูปแบบของราชการไทย
ไฟล์ต้นฉบับหนังสือจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว แล้วสาเหตุที่ต้องเป็น PDF ก็เพราะต้องสแกนมาจากหนังสือจริง
ป.ล. ผมเดานะครับ
ผมว่าอนาคตต้องมีแน่ครับ อันนี้แค่พึ่งเริ่มต้น คงตั้งทีมพัฒนา content ไม่ทัน ไอ้จะหา content จากเอกชนก็คงไม่ค่อยมี E-book ที่เป็นหลักสูตรสำหรับเด็กไทยเท่าไหร่ แต่รู้สึกเค้าก็คิดอะไรกันง่ายๆดีนะครับ หรือเพราะอยากจะลองทดลองก่อนก็ไม่รู้
มองในแง่ดี มีงานใหม่ให้นักพัฒนา content เพิ่มขึ้นแน่นอนครับ
เห็นด้วยมากครับ หนังสือพวกนี้ควรยกเลิกการแบ่งหน้า Page เป็นหน้ากระดาษเท่าๆกันได้แล้ว
นักเรียนทุกคน เปิดหน้า 52 แล้วอ่านย่อหน้าที่สองพร้อมกันนะ
อ้าว หน้า 52 ไม่เหมือนกันหรอ...
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
บอกให้เปิดไปบทที่ 6 หัวข้อ 4.2 สอครับ = ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เด็กส่วนใหญ่ก็จะนิ่ง... มองซ้ายมองขวา
พอมีเพื่อนคนนึง (ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กขยัน) เปิดเจอ
"นายๆ มันหน้าเท่าไรเหรอ"
"80"... และเริ่มลือไปทั้งห้อง
"... หน้า 80 ... หน้า 80 ... หน้า 80 ..."
"ทำไมหน้า 80 เราไม่เห็นเหมือนนายเลย"
มาลงชื่อไว้ก่อน กระทู้ใดเกี่ยวกับแท็ปเล็ตนี่ยาวตลอด แถมมีทุกรสชาติ
ผมว่า pdf ก็ดีนะครับ เำพราะทุกคนก็คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ใชกับ tablet zoom in zoom out พลิกหน้าไปมาได้ ไม่น่าจะใช้งานยาก
ลอง load Life On Earth บน iBook 2.0 มาลองดูละกันครับ
แล้วจะรู้ว่า หนังสือแบบ interactive มันควรมีหน้าตาเป็นอย่างไร และความน่าสนใจ มันมากกว่า pdf มากมายขนาดไหน
แล้วจะบอกอีกว่าหนังสือแบบนี้สามารถสร้างได้โดยง่าย โดยใช้ solution ของ apple เองด้วย
จริงๆไม่ต้องถึงกับใช้ apple ยังทำได้เลยครับ แค่ epub นี่ลูกเล่นก็มากกว่า pdf มากโข โดยเฉพาะเรื่องการจัดหน้า
อันนี้ยังไม่เริ่มก็ติกันขนาดนี้ จะให้เขาเอาเวลาไหนไปทำ? รถที่เห็นสวย ๆ ทุกวันนี้ ตอนเค้าเริ่มทำคันแรก ๆ ก็คงสภาพไม่น่านั่งเท่าไหร่หรอกครับ
pdf สามารถทำเสร็จได้ภายใน 5-10 นาทีครับ โดยอาศัยต้นฉบับเดิมที่มีอยู่แล้ว (ไม่ชื่อลองลง CutePDF แล้วสั่งพิมพ์ดูได้)
ไม่ได้บอกว่าเพราะว่ามันมีต้นฉบับเดิมอยู่เราจึงไม่ควรปรับไปใช้ของใหม่ แต่ มันต้องค่อย ๆ เปลี่ยนครับ จะให้มาถึงปรับหมดทุกอย่างเลย สำนักพิมพ์ช๊อคตายกันหมดครับ จะเอางบจากไหนไปทำ จะเอาเวลาที่ไหนไปพัฒนา ??
+1 ครับ ผมว่า pdf มันเรียบง่ายดี ทำให้มีสมาธิในการอ่าน แต่ถ้าเป็นเด็กก็คงต้องหาอะไรดึงดูด pdf คงเบื่อกันก่อนพอดี
อิอิผมว่าโครงการนี้มันดีนะ
เห็นด้วยนะ...ถ้ามันไม่ FAIL ไปซะก่อน ><"
คิดได้ไงทำเป็น PDF ทำเป็น app เป็นตัวๆแบบทาง Apple ไม่ได้หรอ ให้ Third-Party เค้าเข้ามาทำหนังสือดีๆให้ก้อได้ ถ้าเป็น PDF แล้วจะต่างอะไรกับหนังสือเรียน ถ้าเรายังไม่สามารถinteract อะไรกับมันได้
เขาชูว่ามันไม่ต้องแบกไปโรงเรียนครับ เขาไม่ได้ชูว่ามัน interact
PDF ไม่ได้ดึงดูดให้เด็กสนุกกับการเรียนเรียน มากกว่าหนังสือธรรมดา เลยนะครับ
pdf ทำให้มีสีสันได้นะ
pdf ก็ทำให้ไม่น่าเบื่อได้นะครับด้วยภาพ,กราฟิก แถมใส่เป็นโมเดล 3d ก็ได้(ถ้าโปรแกรมที่อ่านในแท็บเล็ตสามารถอ่านได้นะ)
กะไว้แล้วเชียว คิดจะแจกท่าเดียว ไม่คิดถึงเนื้อหาที่จะนำมาพัฒนาเป็นบทเรียน การเรียนรู้เด็ก ป1 มันต้องมีการเคลื่นไหวบ้าง มีลุกเล่นที่น่าสนใจ จะทำให้จดจำง่าย ถ้าบรรจุ pdf มาเอาหนังสือไม่ดีกว่าหรอครับ ง่ายดีไม่ต้องเปลืองไฟ อย่างน้อย wep ที่เป็นคลังข้อมูล เหมือนคลักการเรียนรูของแต่ละชั้นไปเลยครับ แล้วก็พัฒนาเนื้อหาให้น่าสนใจ ไม่ใช่ PDF เฉย ๆ นะผมว่า แต่อย่างว่าครับ เขาจะแจก แต่เขาไม่ได้คิดว่าเด็กจะเอามาใช้ยังไง ครูจะเอามาใช้อย่างไร เนื้อหาจะพัฒนาในรูป แบบไหน เอาที่มีอยู่นี้แหละเป็น PDF ซะเลย จบข่าว
มอง PDF มีแต่ตัวหนังสือ หรือเปล่าครับ
ลองนึกถึง หนังสือ นิทาน ที่เป็น PDF สิครับ
...
ผมเข้าใจว่านี่คือการเริ่มต้น.... content เริ่มต้น มันก็ต้องซัพพอทอะไรที่มัน simple ก่อน
ลูกเล่นเยอะๆ มันจะตามมาอีกมาก
คนรุ่นใหม่ไฟแรงที่พร้อมจะทำยังมีอีกเยอะ รอการพัฒนา... ส่วนที่เขาเสนอนี้ เป็น ฟีเจอร์พื้นฐาน
ทำก่อนคิดทีหลังซินะ เหมือนกู้น้ำท้วม แต่ยังไม่มีแผนอะไรเลย
จะแจกเค้าก็ต้องคิดบ้างแหละครับ
รู้สึกว่าตอนนี้รัฐแจกเงินห้องเรียนล่ะ 8000-10000 ซื้ออุปกรณ์การเรียนให้นร.นะ
ผมได้ flash drive 4gb กับอุปกรณ์ขีดเขียน
ใจเย็นๆ ครับ อันนี้เป็นของ กระทวงการศึกษา รอดูผลงานของ สสวท ก่อนก็ดีครับ
สิ่งที่ สสวทกำลังทำ ไม่ใช้ PDF แน่นอนครับ
แน่ใจนะครับ
เป็น flash หรือเปล่าครับ ;-)
เป็น flash ครับ มี video การทดลอง ด้วย
มีระบบ ebook link เนื้อทั้งหมด
พยายาม convert flash to HTML5 แล้วแต่ไม่รอด แต่ดู spec แล้ว flash น่าจะrun ได้อยู่นะครับ
เวลาแปปเดียวจะไปพัฒนา content ทันได้ไงละ รีบไปเปล่า
จบข่าว สรุปเอาเงินไปซื้อ kindle อ่านดีกว่าไหม มันไม่เหมาะเอาไว้สอนเด็กเลย มันน่าจะ Interactive กับเด็กมากกว่านี้
ปล.อย่างน้อยก็มี Learning object มาให้
จะใช้ Kindle ก็ยังต้องมีหนังสืออยู่ดีครับ
และเด็ก ป.1 ก็คงจะไม่สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ครับ
ดังนั้น ยังไงเราก็ต้องพัฒนา Content อยู่ดี
kindle อ่านไทยได้ครับ
จริงๆทำเป็น e-book reader ที่อ่านหนังสือ เปิดfileเฉพาะสำหรับการเรียนรู้ และเข้าเว็บที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ แค่นี้น่าจะพอสำหรับ ป.1 แล้วแหละจะเอาอะไรมากทั้งๆที่ไม่ได้ใช้
ปล เด็กไทยเจนหน้าอาจจะต้องใส่แว่นตากันหมด อายุ6ควบ ม่านตาน่าจะยังพัฒนาไม่สุดเลยมั้ง ต้องมานั้งจ้องจอทั้งวันละ
kindle นอกจากจะขาวดำและปิดทางทำอย่างอื่นในอนาคตแล้ว ยังต้องซื้อหนังสือกับ amazon นะครับถึงจะยอมขายเครื่องในราคา $79 (ประมาณ 3000)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
หนังสือครับหนังสือ ผมหมายถึงภาษาในหนังสือ ผมไม่ได้หมายถึงเครื่องอ่าน
อ่าวแล้ว tablet ไม่ต้องมีหนังสือหลอครับ . . . .
ใน Kindle ครับ กรุณาย้อนกลับไปอ่านตังแต่ต้น Reply เลยครับ
ถ้าซื้อ Kindle วันนี้ วันหน้าก็ไม่มีโอกาสพัฒนาให้เป็น Interactive นะครับ
ตรงข้าม ถ้าซื้อของที่ Interactive ได้ ในวันนี้ ยัดของที่ไม่ Interactive ไว้ก่อน วันหน้ามีของ Interactive มา ก็ใส่เข้าไปได้เลย
อยากรู้ว่าจะห้ามลง Simsimi ด้วยไหม? เห็นเป็นกระแสซะเหลือเกิน
ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ที่ต้องเป็น pdf เพราะต้องการเข็นโครงการให้ออกมาให้ได้ละครับ เป็นไปได้คงอยากได้
แบบ apple ทำนั้นละครับ แต่ต้นทุนในการพัฒนาสือแบบนั้นผมว่ามันแพงกว่า pdf อยู่โขนะครับ เครื่องมือ ความชำนาญ ต้นทุนของการปรับเปลี่ยนอื่นๆอีก pdf มันสร้างง่ายกว่าเยอะ เราท่านๆก็ทำได้ ไม่ใช้ว่าคนที่เขียนเนื้อหาจะเก่งไอทีกันทุกคน
นะครับ บางคนมีความชำนาญ ในด้านทางการแพทย์ การเกษตร ๆลๆ สามารถทำเนื้อหา โดยใช้แค่ word libre office ได้เลย
เอากำลังทรัพยากร ไปทุ่มในการพัฒนาเนื้อหาแทน แต่อนาคตผมว่าต้องมีแน่ไอ้แบบที่เราอยากได้กันแน่ๆ เมื่อมีเครื่องมือที่มันง่ายเหมือนสร้าง pdf ตอนนี้ หรือไครเก่งไอทีแถวนี้ทำมาขาย ผมว่าคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเป็นแน่ๆ แต่นั้นและครับมันต้องรอไง คิดสะว่าประเดิม มันไม่มีอะไรดีตั่งแต่เกิดหรอกครับ ค่อยๆปรับกันไป พัฒมนากันไปครับ
ประกาศวันที่ 3 กพ.(ศุกร์) เรียกมาวันที่ 6 กพ.(จันทร์) คงเรียกได้แค่ สนพ.ที่ล็อคสเป็กไว้แล้ว เลยต้องใช้ pdf เพื่อลดต้นทุนครับ
-ผมว่า PDF มันก็มีข้อดีตรงที่มีเลขหน้าตายตัว เวลาครูบอกให้นักเรียนเปิดไปหน้าไหนจะได้เปิดเหมือนกันไม่งง ส่วน epub อาจทำตรงนี้ได้ยากซักหน่อย
-แต่ถ้ารัฐบาลต้องการแปลง PDF เป็น epub ผมแนะนำ http://ebook.online-convert.com/convert-to-epub เว็บนี้ผมใช้บ่อย ตัดคำไทยได้ดีมาก 555
E-pub ผมว่าง่ายกว่ามั้ย ทำเป็น link จิ้มทีเดียวกระโดดไปสิ่งที่ต้องการสอนเลย มันขึ้นอยู่กับแผนการสอนประกอบกับการสร้างสื่อนะครับ ส่วน PDF ถ้าเด็กไม่รู้วิธีเปิดหน้าเร็วๆ ด้วยการ search หรือใส่เลขหน้า มันก็คงไม่ต่างจากหนังสือธรรมดาครับ
คอยดูนะครับ ว่ามันจะกลายเป็นการเอาตำราเรียนเล่มเก่า มา scan เป็น PDF หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น tablet ก็ไม่ได้ช่วยการศึกษาเลย เพราะสุดท้าย ก็มีค่าเท่าเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงให้น่าสนใจ มันก็เป็นแค่ฉากบังหน้าที่บอกว่าเป็นการพัฒนา
ถ้าเป้นแบบนั้นจริงก็จบ สู่เอาเงินไปซื้อหนังสือแจก รร รอบนอกให้เด็กมีหนังสือใช้จะดีกว่า ด้วยงบเท่านี้น่าจะทำให้เด็กทั้งประเทศมีหนังสือใช้ได้เลยมั้ง แทนทีจะมีเด็กไม่ถึง 1% มีtabletใช้ กับเด็กอีกเกือบครึ่งที่ยังต้องใช้หนังสือมือสอง
ถึงจะเป็นการเอาตำราเรียนเล่มเก่า มา scan เป็น PDF "ในช่วงแรก"
แต่ก็มีความจริงที่ว่า ค่าหนังสือกระดาษภาคละ 600 ใช้สักสามปี 3600
Tablet ราคา 2400 ใช้สามปีเท่ากันถูกกว่าเห็นๆ ได้ภาพสีด้วย
ช่วงหลังที่จะมี interactive เป็นของแถม
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
นอกจากความคุ้มค่าของกระดาษในระยะยาวแล้ว ที่หาเสียงไว้คือ เด็กจะไม่ต้องแบกกระเป๋าใบใหญ่ น้ำหนักเยอะ และ ถ้าเด็กไม่ลืมเอา Tablet มา ก็แปลว่าเด็กจะเอาหนังสือมาครบทุกเล่มแน่นอน
นี่คือโอกาสทองของคนแต่งตำรารุ่นใหม่ที่จะทำตำราแบบ interactive มาขายในปีต่อๆ ไปครับ
เรื่อง wifi นี่ ผมกำลังยุยงให้ UniNET/NEdNET นำ eduroam (education roaming) มาลองใช้กัน