One Tablet Per Child
เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำกับดูแลฝ่ายสังคมจิตวิทยา ประชุมพิจารณาโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา (OTPC) และมีมติให้ยกเลิกการจัดซื้อแท็บเล็ตตามปีงบประมาณ 2556 ที่เหลืออยู่หนึ่งโซน (1,170 ล้านบาท) และปีงบประมาณ 2557 ทั้งหมด (5,800 ล้านบาท)
พล.ร.อ.ณรงค์ ให้เหตุผลของการยกเลิกไว้ 4 ข้อดังนี้
ข่าวความคืบหน้าแท็บเล็ต OTPC ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยบริษัท เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจน คอนโทรล ซึ่งชนะการประมูลแท็บเล็ตโซน 1 (ป.1 ภาคกลางและภาคใต้) และโซน 2 (ป.1 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้นำสถานทูตจีนมาร่วมเจรจาต่อรองกับกระทรวงศึกษาธิการ แต่ที่ประชุมไม่เห็นชอบข้อเสนอ ที่จะไม่เสียค่าปรับวันละ 2.2 ล้านบาท และเลื่อนเวลาส่งมอบแท็บเล็ตออกไปอีก
ภายหลังการเจรจาไม่เป็นผล บริษัท เสิ่นเจิ้นฯ จึงได้ทำการปิดบริษัทและขายทรัพย์สินออกทั้งหมด รวมถึงแจ้งกระทรวงศึกษาธิการขอยกเลิกสัญญาซื้อขายแท็บเล็ตทั้งหมด โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ยึดเงินค้ำประกันรวม 120 ล้านบาทไว้
จากข่าว สตง.ตรวจพบ OTPC พังกว่า 30%, แท็บเล็ตแสนเครื่องเลื่อนส่งมอบไป 1 เดือน, ผู้ชนะประมูลยื่นอุทธรณ์กรณีระงับประมูลอี-ออกชัน ทางนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาแก้ข่าวแล้ว
นายจาตุรนต์อ้างตัวเลขของกระทรวงไอซีทีว่า เครื่องแท็บเล็ตได้ผ่านการเข้าศูนย์บริการเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมวัสดุที่เสียหายจากการใช้งานอยู่ในสัดส่วนเพียง 0.6% เท่านั้น และยังตั้งศูนย์บริการแล้ว 114 แห่งทั่วประเทศ มีระยะเวลาการตรวจสอบและซ่อมแซมอุปกรณ์แค่ 5 วัน
รวมมิตรข่าวแท็บเล็ต ป.1 ในช่วงนี้นะครับ
ปีการศึกษา 2557 รัฐบาลเผยแนวคิดอาจยกเลิกโครงการแจกแท็บเล็ต ป.1 และ ม.1 แต่เปลี่ยนมาเป็นการให้คูปองเงินสดมูลค่า 3,000 บาท แทน
นายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ผู้อำนวยการเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เงิน 3,000 บาท สามารถซื้อเครื่องตระกูลประเทศจีนได้ แต่หากผู้ปกครองต้องการได้ iPad, ซัมซุง หรือ Windows ก็ต้องเพิ่มเงินส่วนต่างเอง”
สาเหตุของการยกเลิกโครงการนี้ นายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ชี้แจงว่าในปี 55 งบประมาณที่จัดสรรโครงการนี้ไม่เพียงพอ ขาดอยู่ 500 ล้านบาท จนทำให้ต้องไปเอางบประมาณจากค่านม ค่าชุดนักเรียน และค่าอื่นๆ มาเพิ่มเติมในโครงการ
จากที่ สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ได้เผยความคืบหน้าการเตรียมงานประมูลราคาแท็บเล็ต ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนมิถุนายนนี้ ล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการประกวดราคาอีกครั้ง โดยตัดแอพหลายตัว รวมทั้ง Google Play ออกจากแท็บเล็ตที่จะซื้อ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
สพฐ. ให้เหตุผลที่ตัดแอพหลายรายการออกจากเงื่อนไขการประกวดราคา ว่าดำเนินการตามที่มีผู้ท้วงติงในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ โดยนับจากนี้จะเน้นเฉพาะแอพที่ส่วนราชการได้กำหนดไว้เป็นตัวอย่างให้ผู้เข้าร่วมประมูลได้นำไปทดสอบโหลดใส่เครื่องแท็บเล็ตเพื่อแนบมากับซองราคาในช่วงการประมูลงานเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายทางด้านซอฟต์แวร์ของผู้เข้าร่วมการประมูล
เลขานุการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้เผยความพร้อมด้านการจัดหาแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนตามโครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทยว่าจะสามารถดำเนินการประมูลซื้อแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนในรอบปีการศึกษา 2556 นี้ได้ภายในเดือนมิถุนายน
การจัดหาและนำส่งแท็บเล็ตแก่เด็กนักเรียนนี้จะรับผิดชอบโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งขณะนี้ได้อนุมัติร่างข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข่าวดีสองชั้น! สำหรับนักพัฒนาไทยที่กำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อเข้าประกวด OTPC App Contest นะครับ ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ขยายระยะเวลารับผลงานจากเดิมวันที่ 21 มีนาคม เป็นวันที่ 9 เมษายน 2556 และได้มีการเพิ่มรางวัลสุดยอดที่นักพัฒนาทั่วโลกต้องการมากที่สุดคือ รางวัลบัตรเข้าร่วมงาน Google I/O และตั๋วเครื่องบินไปกลับซานฟรานซิสโก ทั้งหมด 3 รางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภท
โดยรางวัลเปิดให้ทั้งผลงานในประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากผู้ได้รางวัลชนะเลิศส่งเข้าร่วมเป็นกลุ่ม เรายังมีรางวัลปลอบใจเป็นบัตรเข้าร่วมงาน Google I/O Extended อีกจำนวน 2 ใบ เพื่อชมบรรยากาศจาก Moscone Center กันแบบสดๆ ร่วมกันกับนักพัฒนาท่านอื่นได้ที่กรุงเทพฯ
รัฐบาลออกเงื่อนไขสเปกสำหรับแท็บเล็ตที่จะแจกให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1, มัธยมศึกษาปีที่ 1 และครูผู้สอนทุกท่าน โดยเพิ่มจำนวนคอร์ของซีพียู เพิ่ม clock speed และความจำภายใน
สเปกคร่าวๆ ที่ออกมามีดังนี้
โครงการแท็บเล็ตนักเรียนของไทยหรือโครงการ OTPC จัดประกวดแอพพลิเคชั่นบนแท็บเล็ตทั้งสำหรับครูนักเรียน และบุคคลทั่วไป พร้อมจัดงานเปิดโครงการวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เวลา 10.30น. ถึง 12.00น.
การแข่งขันแบ่งออกเป็นสามกลุ่มคือ
ทั้งสามหมวดมีสามรางวัล เป็นเงินสด 100,000 บาท, 70,000 บาท, และ 50,000 บาทตามลำดับ พร้อมเกียรติบัตร
เมื่อวานนี้ทางทีมงาน Advice ผู้จัดจำหน่ายสินค้าคอมพิวเตอร์รายใหญ่ได้เชิญผมไปร่วมพูดคุยในการประกาศบุกตลาดแท็บเล็ตกันนะครับ ผมพบว่ามีประเด็นน่าสนใจหลายประเด็นที่น่าจะใกล้ตัวเราเลยยกมาเล่าให้ฟัง
ทาง Advice ก่อนหน้านี้คงเป็นที่รู้จักกันในฐานะบริษัทขายส่งสินค้าไอที โดยเพิ่งก่อนหน้านี้มีฐานหลักที่ลูกค้าต่างจังหวัดเป็นหลักโดยแยกเป็นบริษัทจำนวนมากตามภูมิภาคต่างๆ เพิ่งมารวมตัวเป็นบริษัทเดียวในชื่อบริษัท ไทยร่วมค้าเดอะซิสเต็ม จำกัด ได้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยยอดขายในช่วงปีหลังๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว จากกว่า 7,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว มาเป็นมากกว่า 11,000 ล้านในปีนี้
Update lew: ข่าวนี้ผมได้รับอพเดตจากคุณ @Thepparith ที่เป็นนักข่าวและติดต่อไปยัง SAP Thailand ว่าเป็นทาง SAP จริงและข่าวของ Telecom Asia ผิดพลาดนะครับ ก่อนหน้าได้รับการติดต่อผมเองก็ตั้งข้อสังเกตุว่าไม่มี SAP อื่นอีก ที่ให้บริการสายไอที ตอนนี้ได้รับการยืนยันก็จะเอาข่าวนี้ลงจากหน้าแรก
สิ่งที่กระทรวงไอซีทีถูกถามเรื่อยมาในการแจกแท็บเล็ตคือจะทำอย่างไรหากเด็กนำไปใช้เข้าเว็บไม่เหมาะสม วันนี้ก็มีการให้ข่าวจากที่ปรึกษารัฐมนตรี ว่าได้เลือก SAP เข้ามาทำโปรแกรมควบคุมเว็บ
โครงการนี้มีมูลค่า 120 ล้านบาท จะบันทึกว่าเด็กเข้าเว็บอะไรบ้าง และจำกัดสิทธิการเข้าถึงเว็บไว้ในตัว โดยมูลค่าโครงการจะรวมถึงค่าติดตั้งเครื่องทั้งหนึ่งล้านเครื่อง (ข่าวระบุว่ามี 9 ฟีเจอร์แต่ไม่ระบุว่ามีอะไรบ้าง)
ข่าวไม่มีข้อมูลว่าค่าบำรุงรักษาปีละเท่าไหร่ กับค่าไลเซนส์ซื้อเพิ่มเติมจะคิดเครื่องละกี่บาท
ที่มา - DailyNews
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย เปิดให้บริการแล้วที่ http://www.otpc.in.th/
เนื้อหาของเว็บไซต์ยังไม่สมบูรณ์นัก หลายเซคชันที่มีในเมนูยังใช้งานไม่ได้ แต่ก็มีข้อมูลสำคัญๆ อย่างหน้า FAQ เช่น
ปัญหาของโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษายังไม่จบง่ายๆ เมื่อกระทรวงศึกษาธิการต้องประกาศเลื่อนการแจกแท็บเล็ตล็อตแรก 45,000 เครื่องออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังตัวแทนของกระทรวงไอซีทีไปสุ่มตรวจแล้วพบเครื่องเสียมากกว่าข้อตกลงที่กำหนดคือ 7 เครื่อง (จากการสุ่มตรวจ 500 เครื่อง)
ตามข่าวบอกว่าอาการที่มีปัญหามีหลายอย่าง เช่น ระบบสัมผัสทำงานช้า หน้าจอติดๆ ดับๆ
ขั้นตอนต่อไปคือต้องรอให้บริษัทเสิ่นเจิ้นสโคป ส่งแท็บเล็ตมาใหม่ให้ครบตามจำนวนที่ต้องสุ่มตรวจ เดิมทีกระทรวงศึกษาธิการเตรียมส่งแท็บเล็ตล็อตแรกให้เขตการศึกษาบางพื้นที่ในวันนี้ (16 ก.ค.)
ความคืบหน้าของโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาหรือ OTPC ครับ หลังจากบริษัทสโคปส่งแท็บเล็ตล็อตแรก 2,000 เครื่องมาตั้งแต่เดือนก่อน ทางคณะกรรมการของกระทรวงไอซีทีก็ดำเนินการตรวจรับตามระเบียบราชการ แต่เจอปัญหาเอกสารเลยล่าช้ามาเรื่อยๆ จนเสร็จเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ผลการตรวจรับของคณะกรรมการบอกว่าสเปกที่กำหนดในราคาเครื่องละ 82 ดอลลาร์ถือว่าดีมาก แต่ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์ เพราะซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษาเขียนเพื่อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็นหลัก เมื่อนำมาแปลงให้ทำงานบนแท็บเล็ตได้จึงออกมาไม่ดีนัก โดยปีหน้าจะมีโครงการให้ครูแข่งขันพัฒนาซอฟต์แวร์การเรียนการสอนต่อไป
ในที่สุดโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา (OTPC) ที่เราติดตามกันมานานก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพราะวันนี้ (7 มิ.ย.) ช่วงบ่ายที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "แท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย (OTPC)" และทำพิธีมอบแท็บเล็ตชุดแรก 1,000 เครื่องให้ตัวแทนเด็กนักเรียนไทย 4 ภาคไปเรียบร้อย
งานวันนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการนำแท็บเล็ตมาใช้กับการศึกษาของบ้านเราเท่านั้น จากนี้ไปเราต้องช่วยกันติดตามความคืบหน้าและผลลัพธ์ของโครงการในประเด็นต่างๆ เช่น ความเหมาะสม ประสิทธิภาพ ความโปร่งใส ฯลฯ กันต่อไปครับ
กลายเป็นเรื่องขึ้นมาทันที เมื่อแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กชั้น ป.1 ล็อตแรกจำนวน 2,000 เครื่อง ไม่ตรงตามสเปกที่กำหนดไว้ในสัญญา
จุดที่เป็นปัญหาคือปลั๊กของแท็บเล็ตที่กำหนดไว้ในเอกสาร TOR ว่าต้องเป็นปลั๊ก 3 ขาพร้อมสายดิน แต่ของล็อตแรกที่มากลับเป็นปลั๊ก 2 ขาไม่มีสายดิน นอกจากนี้ยังมีปัญหาว่าแท็บเล็ตล็อตนี้ไม่ผ่านการรับรองจากกูเกิล (Google Certification) ทำให้ไม่สามารถติดตั้งแอพของกูเกิลรวมถึง Google Play ได้ในอนาคต
ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้นที่อยากให้นักเรียนในประเทศตัวเองมีแท็บเล็ตใช้กัน ล่าสุดบริษัท MalTechPro ได้ปล่อยแท็บเล็ตแบรนด์ประเทศตัวเอง 1MalaysiaPad (ตามนโยบาย 1Malaysia ของประเทศ) ออกมาวางขายที่ราคาเครื่องละ 999 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณหนึ่งหมื่นบาทไทย สำหรับเครื่อง 5,000 เครื่องแรกที่จัดจำหน่าย โดยแท็บเล็ตดังกล่าวจะมาพร้อมกับหน้าจอ 7 นิ้วและรันระบบปฏิบัติการ Gingerbread
นอกจากนี้แท็บเล็ตดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G ได้ และมาพร้อมกับระบบ IM ของตัวเอง ที่ผู้ใช้สามารถจะใช้ส่งข้อความหาแท็บเล็ต 1MalaysiaPad เครื่องอื่น ๆ ได้ โดยจากในรายงานเชื่อว่าแท็บเล็ตดังกล่าวนี้จะถูกนำไปขายให้กับนักเรียนภายในประเทศภายหลังในราคาที่อาจจะต่ำกว่านี้
เมื่อวันก่อนผมได้รับอีเมลจากคุณโสรัฐฎา ภุมวิภาชน์ (นามสกุลถอดจากภาษาอังกฤษ) รายงานข่าวว่าวันนี้แท็บเล็ตเด็กประถมหนึ่งจะเข้ามาถึงเมืองไทย 2,000 เครื่องแรก
นอกจากแจ้งการส่งมอบแท็บเล็ตแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นๆ เช่น ซอฟต์แวร์ในแท็บเล็ตนั้นพัฒนาโดยคุณพิพัฒน์ วัฒนศาสตร์ มอบให้กับทางกระทรวงไอซีทีและ SIPA ฟรี ส่วนนี้น่าจะตอบคำถามหลายคนได้ว่าใช้เงินทุนในการสร้างเท่าไร
อีกส่วนหนึ่ง คือ แท็บเล็ตนี้จะมี App.Store (สะกดตามที่มา) ที่เป็นแหล่งรวมแอพพลิเคชั่นจากภายนอก โดยแอพพลิเคชั่นที่จะส่งเข้ามาได้แต่ต้องผ่านการตรวจสอบของ SIPA ก่อน
ที่มาอยู่ในเนื้ออีเมลท้ายข่าว พร้อมรูปถ่ายที่ส่งมาพร้อมกันครับ
ประเด็นสำคัญในโครงการแท็บเล็ตที่หลายคนถามกัน คือ สื่อการเรียนที่จะใส่ลงไปนั้นมีพร้อมแค่ไหน ตัวผมเองแม้ตามข่าวมาตลอดก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าในส่วนนี้นัก แต่วันนี้เว็บเพื่อนบ้านของเรา Ubuntu Club ก็มีวิดีโอพาชมซอฟต์แวร์ภายในกันแล้ว
ตัวเครื่องสาธิตเป็นเครื่อง Scopad เหมือนเครื่องจริง แต่ใช้ Android 2.3 ส่วนเนื้อหามีทั้งอนิเมชั่นและอีบุ๊ก (ดูเหมือนซอฟต์แวร์ยังไม่สมบูรณ์นัก) แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็รู้ว่าเครื่องที่จะใช้ไม่ได้ส่งเป็นแอนดรอยด์เปล่าๆ ไปให้หาทางใช้กันเองแน่ๆ
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปพูดที่งานสัมมนา "ภารกิจของคุรุสภาในคุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษา เงื่อนไขความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ" วันนี้ (27 มี.ค.) มีประเด็นเรื่องแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาดังนี้
จากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเช้านี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ออกมาให้ข้อมูลว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการซื้อแท็บเล็ตจากประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดมีดังนี้
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที แถลงข่าวว่า คณะกรรมการนโยบายแท็บเล็ตได้มีมติเลือกบริษัท Shenzhen Scope Scientific Development ให้เป็นผู้ดำเนินการในโครงการผลิตแท็บเล็ตให้เด็กป.1
คณะกรรมการให้เหตุผลที่เลือก Scope เนื่องจากคุณสมบัติเป็นไปตามที่กำหนด, มีการรับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และราคาอยู่ที่ $81 ต่อเครื่อง เอาชนะคู่แข่งอย่าง TCL, Haier และ Huawei ที่เสนอราคาที่ $89, $105 และ $135 ไปได้
น.อ.อนุดิษฐ์ยังกล่าวว่า จะนำผลสรุปนี้ไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (6) หากครม. เห็นชอบก็จะมีการร่างสัญญาและดำเนินการจัดซื้อ โดยคาดว่าจะได้รับแท็บเล็ตในล็อตแรกกลางเดือนมีนาคมนี้
นายเฉลิมพล ปุณโณทก รักษาการผู้อำนวยการ SIPA แถลงข่าวว่าหลังจากกระทรวงไอซีทีมอบหมายให้ SIPA ดูแลเรื่องคอนเทนต์ของโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ทาง SIPA จึงเปิด "เอ็ดดูแท็บเล็ต สโตร์" เป็นคลังแอพพลิเคชันที่ใช้โมเดลเดียวกับ App Store และ Android Market แต่จะไม่หักส่วนแบ่ง 30%
เอ็ดดูแท็บเล็ต สโตร์ จะเริ่มทดลองให้บริการช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ และจะเสร็จทันใช้งานวันเปิดภาคเรียน 23 พฤษภาคม ใช้งบประมาณพัฒนา 20 ล้านบาท และเชิญนักพัฒนาภายนอกเข้าร่วม โดยตั้งเป้าเฟสแรกจะมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 100 ราย