Tags:

กฎของ Moore กล่าวว่า ประสิทธิภาพของวงจรรวม (IC - Integrated Circuit) จะพัฒนาขึ้นจากการเพิ่มทรานซิสเตอร์ขึ้นเท่าตัวในทุกๆ 18 เดือน หากว่ากฎของ Moore นั้นจะถึงจุดสิ้นสุดเมื่อขนาดของทรานซิสเตอร์เล็กจนเหลือเพียง 1 อะตอม (คือไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้) ซึ่งถ้าตามกฎของ Moore แล้วเวลานั้นควรจะมาถึงประมาณปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020)

เมื่อวานนี้ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐ New South Wales ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับความสำเร็จในการสร้างทรานซิสเตอร์จากอะตอมเดียวลงในวารสาร Nature Nanotechnology โดยวงจรรวมนี้สร้างจากการนำอะตอมของฟอสฟอรัสวางลงไปในจุดศูนย์กลางของผลึกซิลิคอนร่วมกับวงจรประตูสัญญาน (gate) ประกอบกันเป็นทรานซิสเตอร์ที่เล็กที่สุด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ในโครงการนี้เชื่อว่านี่จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการเข้าไปสู่ยุคของ Quantum Computing ซึ่งเป็นเครื่องประมวลผลที่มีสถานะของสัญญานแบบทวีคูณ (quantum bit หรือ qubit มีสถานะสัญญาน 0, 1 และสถานะระหว่าง 0 กับ 1 ต่างกับ binary bit ที่มีเพียง 0 กับ 1) และมีความเร็วในการประมวลผลสูงกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันอย่างเทียบกันไม่ได้

ศาสตราจารย์ Michelle Simmons ผู้นำกลุ่มนักพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่าโครงการทดลองนี้เริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างนวัตกรรมที่หลุดพ้นออกจากกฎของ Moore ให้ได้ ซึ่งเธอก็ได้ระบุว่าความสำเร็จในครั้งนี้นำหน้าเทคโนโลยีปัจจุบันไป 8-10 ปี

ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการสร้างทรานซิสเตอร์จากอะตอมเพียงอะตอมเดียว หากว่านี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการสร้างด้วยความแม่นยำอย่างสูงสุด (วางอะตอมไว้ตรงไหนก็ได้) และเป็นระบบที่สามารถทำซ้ำและพัฒนาไปเป็นระบบผลิตในโรงงานอุสาหกรรมได้

ยังไงก็ตาม เราคงยังไม่ได้เห็นตัวประมวลผลกลางที่สร้างจากอะตอมเดียวนี้ในตลาดในเร็ววันนี้ เนื่องจากผลจากการพัฒนาครั้งนี้ยังมีจุดบกพร่องคือ อะตอมจะต้องถูกเก็บอยู่ในอุณหภูมิ -235 องศา แต่ถึงกระนั้นนี่ก็ถือเป็นการพัฒนาก้าวสำคัญที่จะเป็นรากฐานของเทคโนโลยีที่เราจะใช้ไปในอีกนับ 10 ปีข้างหน้าได้

ที่มา - Physorg (พร้อมวิดิโอ), Bloomberg Businessweek, ZDNet Australia

เพิ่มเติม - รายงานการค้นพบเทคนิกในการสร้างทรานซิสเตอร์นี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วจากกลุ่มนักวิจัยเดียวกัน

Get latest news from Blognone

Comments

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 20 February 2012 - 21:29 #385929
Be1con's picture

อุณหภมู --> อุณหภูมิ


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: gangurru
Android
on 21 February 2012 - 11:36 #386067 Reply to:385929

องศา ต้องระบุด้วยครับว่าองศาอะไร
(เพิ่มเติมนะครับ)

By: canoe
Android
on 20 February 2012 - 22:18 #385939

ผมว่าอีกหน่อย Brute Force จะเป็นอัลกอริธึมที่น่ากลัวที่สุดนะ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 20 February 2012 - 23:42 #385966 Reply to:385939
hisoft's picture

ถ้ามันถอดได้เร็ว เราก็อัดอัลกอขั้นตอนเข้ารหัสให้มากกว่านี้ก็พอจะช่วยให้จำนวน brute force ต่อวินาทีร่วงลงได้บ้างล่ะครับ ดีไม่ดีใช้เวลาเท่าปัจจุบัน

By: BLiNDiNG
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 21 February 2012 - 02:12 #386002 Reply to:385966
BLiNDiNG's picture

มันไม่น่าจะเกี่ยวกันนะครับ เพราะเค้ามักจะ brute force ในส่วนที่คนต้องกรอก
ซึ่ง คนก็จำรหัสซับซ้อนมากยาวมากไม่ค่อยได้ซะด้วย...

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 21 February 2012 - 09:17 #386013 Reply to:386002
hisoft's picture

ผมคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวเพราะว่าเรา brute force ในส่วนที่คนต้องกรอกนี่แหละครับ เพราะเราจะรู้ว่ารหัสนั้นใช่หรือเปล่าก็ต้องเอาไปผ่าน algorithm ก่อน ถ้าอัลกอนั้นมันยาก ต้องใช้พลังประมวลผลสูง ก็ต้องใช้เวลามากหน่อยในการดูว่าคำตอบนั้น ๆ ใช่หรือไม่ ถ้าเราแค่สุ่มหรือรันรหัสออกมาเรื่อย ๆ แค่ CPU ปัจจุบันก็เร็วพอแหละครับ

เพราะฉะนั้นวิธี brute force จะใช้ได้ผลดีต่อเมื่อเครื่องที่ทำมีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องทั่วไปที่แพร่หลายอยู่มาก ๆ เท่านั้นเอง

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 21 February 2012 - 18:41 #386176 Reply to:386013

ถ้าผม หน่วงเวลา ห้ามป้อน login ซ้ำในกรณีที่กรอก password ผิดไปแล้วสำหรับ user นั้นๆ หรือจาก ip เดียวกัน เป็นเวลา 1 วินาทีล่ะ?

ถ้าคนปกติ ใช้เวลามากกว่า 1 วินาทีในการกรอกข้อมูลอยู่แล้ว

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 21 February 2012 - 10:02 #386023 Reply to:385939
PaPaSEK's picture

เพิ่งรู้ว่า brute force เราเรียกว่าเป็นอัลกอริธึมครับ

By: heart
ContributoriPhone
on 21 February 2012 - 11:37 #386068 Reply to:386023
heart's picture

อัลกอริทึมแปลว่ากระบวนการแก้ปัญหาครับ

อะไรก็ตามที่กระทำแล้วแก้ปัญหาได้ ก็เรียกว่าอัลกอริทึมครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 21 February 2012 - 11:54 #386075 Reply to:386068
PaPaSEK's picture

อืมนะ ... ผมก็เข้าใจนะครับ แต่ว่ามัน brute force อ่ะ ... ไม่อยากเรียกมันว่าอัลกอริธึมจริงๆ เลยพับผ่า

เหมือนกับว่ามีเงินในโหล ใครหาวิธีอันแยบยลเอาเงินออกมาได้โดยห้ามเคลื่อนย้ายก็เอาเงินไปเลย

ถ้าจู่ๆ ตาเสกมาเอาไม้ฟาดโหลแตกแล้วเอาเงินไป เราจะเรียกวิธีของตาเสกว่าแยบยลได้มั้ย ...

=_=" หงุดหงิด ไม่อยากให้มันเป็นอัลกอริธึม ทั้งๆ ที่มันเป็น ... อ๊ากกกกก

By: shevchenko
AndroidWindows
on 21 February 2012 - 10:16 #386032 Reply to:385939
shevchenko's picture

กรอกรหัสผิด 3 ครั้ง แล้ว disable ฯลฯ น่าจะช่วยได้นะ ไม่น่ากังวลเท่าไหร่

By: Soul_Master
Windows Phone
on 20 February 2012 - 23:49 #385972

แบบนี้สร้างได้ก็เหมือนสร้างไม่ได้เลย อารมณ์ประมาณว่าจะทำ Superconductor ที่อุณหภูมิห้องยังไงยังงั้น หรือไม่แน่ต่อไปอาจจะใช้ Quantum Computer พร้อมระบบหล่อเย็นด้วย Nitrogen เหลวก็เป็นไปได้

By: Invisible Force
ContributoriPhoneAndroidUbuntu
on 21 February 2012 - 14:38 #386117 Reply to:385972
Invisible Force's picture

เค้าพูดถึงความเล็กระดับอะตอม(nano) ไม่ใช่พูดถึงอิเล็กตรอนคับ .. ดังนั้นเค้าถึงพูดว่ามันจะทำงานคู่ขนานได้คับ

By: gosol
AndroidWindows
on 21 February 2012 - 00:15 #385981
gosol's picture

สรุปก็เหลวเหมือนเดิมใช่มั้ย เพราะไม่มีทางที่คอมทุกบ้านจะเปนช่องแช่แข็งถึง -235 ได้

หรือว่าต้องรอให้เนตไวกว่านี้ แล้วใช้เทคโนโลยี cloud computer ที่มีคอมแม่เปน server ตัวเดียว(หรือหลายตัว)
แล้วคอมทั่วโลกประมวณผลจากคอมตัวนี้ที่อยู่ในช่องแช่แข็ง ยิงตรงผ่านเนตสู้บ้านขึ้นจอเลย

By: cartier
iPhoneAndroid
on 21 February 2012 - 00:54 #385989 Reply to:385981
cartier's picture

มีความเป็นไปได้สูงมากครับ ผมว่าซื้อเซอวิสแบบนี้ จะทำให้ประหยัดทั้ง พลังงานและทรัพยากรไปอีกเยอะเลย
ผมจะจำคำคุณ gosol ไว้

By: takichi12
iPhone
on 21 February 2012 - 07:38 #386010 Reply to:385981

น้องไทยน่าจะรอไปก่อน ฮิฮิ

By: addib2010
iPhoneAndroid
on 21 February 2012 - 08:56 #386011 Reply to:385981

เป็นวิธีที่น่าสนใจนะครับ ทุกวันนี้ก็แชร์ข้อมูลกันอยู่แล้ว ถ้ามีหน่วยประมวลผลกลางด้วยก็น่าจะดีครับ (หรือว่าตอนนี้มีอยู่แล้วแต่เราไม่รู้ ?)

ปัญหาคือถ้าโดน Hack server แม่ได้ คอมเดี้ยงกันกระจายเลย :P

By: Ready2go
ContributoriPhoneWindowsIn Love
on 21 February 2012 - 14:43 #386119 Reply to:385981

Skynet :P


Technology is so fast!

By: kinochanon
ContributoriPhoneAndroidUbuntu
on 21 February 2012 - 18:02 #386165 Reply to:386119
kinochanon's picture

กดไลค์ให้ความเห็นนี้


“ชีวิตไม่ใช่การค้นหาตัวเอง แต่ชีวิตคือการสร้างตัวเองขึ้นมา” ~ จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์

By: j03w
ContributoriPhoneAndroid
on 21 February 2012 - 20:51 #386258 Reply to:385981
j03w's picture

เคยอ่านประวัติบิลเกต เล่าว่าสมัยเด็กต้องเช่าเวลาในการประมวลผล แล้วก็ใช้คอมได้จาก dumb terminal ที่ต่อเข้ากับเมนเฟรมของมหาวิทยาลัยอะไรประมาณนั้น... คือคอมที่ใช้อยู่เป็นเพียงแค่ terminal ตัวประมวลผลจริงอยู่ที่อื่น

เรากำลังวิ่งย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นกันครับ


The Cake is a Lie

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 21 February 2012 - 09:59 #386019
btoy's picture

จุดก้าวข้ามข้อจำกัดนี่ล่ะเนอะ ที่มันใช้เวลานานมากๆ


..: เรื่อยไป

By: polawing on 21 February 2012 - 09:59 #386020

อีกหน่อย Watson จะถูกล้ม ด้วย เวด้า อิอิ เกี่ยวกันม่ะ

By: Virusfowl
ContributorAndroidSymbianWindows
on 25 February 2012 - 07:01 #387648

สวดยวดดด โลกแห่งอนาคตเหมือนในนิยาย SI-FI ใกล้เข้ามาอีกก้าวแล้วสินะ


@ Virusfowl

I'm not a dev. not yet a user.