ประเด็นเรื่องมาตรฐานการดูแลคนงานของ Foxconn ยังไม่จบง่ายๆ ล่าสุดทางกลุ่ม SumOfUs ซึ่งเป็นองค์กรที่เรียกร้องให้แอปเปิลผลิต iPhone อย่างมีจริยธรรม เผยแพร่ "จดหมาย" จากอดีตพนักงานของ Foxconn สองคน ที่ "อ้างว่า" ได้รับสารพิษจากการผลิตหน้าจอ iPhone
พนักงานสองคนนี้ชื่อว่า Guo Rui-qiang และ Jia Jing-chuan ให้ข้อมูลว่าเคยทำงานในโรงงานผลิตหน้าจอ iPhone ที่เมืองซูโจว และระบุว่าข้อมูลเมื่อต้นปี 2010 มีพนักงานของ Foxconn จำนวน 137 คน (ซึ่งรวมสองคนนี้ด้วย) ได้รับพิษจากสารเคมี n-hexane ซึ่งใช้ทำความสะอาดหน้าจอของ iPhone มีผลต่อนัยน์ตา ผิวหนัง ทำให้ระคายเคือง และอาจมีผลต่อระบบประสาท
พนักงานสองคนนี้บอกว่าแอปเปิลปล่อยให้สถานการณ์เกิดขึ้นนานกว่า 1 ปี ถึงค่อยมายอมรับว่าละเมิดสิทธิของพนักงานตามมาตรฐานแรงงาน
พนักงานสองคนนี้บอกว่าป่วยถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล ในตอนนี้ Guo Rui-qiang ไม่มีงานทำเพราะร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถทำงานเป็นเวลานานได้ ส่วน Jia Jing-chuan มีค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยมากกว่า 100 ดอลลาร์ต่อเดือน
ทั้งสองคนเชิญชวนให้ผู้อ่านเผยแพร่จดหมายนี้ เพื่อสร้างแรงกดดันต่อ Tim Cook และแอปเปิล ในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 23 ก.พ. นี้ (วันนี้) ตามเวลาสหรัฐ จดหมายฉบับเต็มอ่านได้จากที่มา
ที่มา - BGR
Comments
ขอโทษนะครับ สงสัยว่า เรื่องแบบนี้น่าจะเป็นความรับผิดชอบของโรงงานหรือคนสั่งผลิตครับ ไม่รู้ว่าที่เกิดเหตุแบบนี้เพราะ apple ตั้งใจให้โรงงานเป็นแบบนี้ หรือเพราะโรงงานดูแลไม่ดี
ตามคอมมอนเซนส์(ของผม) คิดว่ามันน่าจะเป็นธุระของโรงงานที่ต้องบังคับให้โรงงานของตัวเองได้มาตรฐานอยู่แล้วหรือเปล่า ลูกค้าโรงงานที่ดีก็ควรควบคุมโรงงานอีกที แต่ตรงๆกรณีนี้น่าจะเป็นเรื่องของโรงงานมากกว่าหรือไม่ครับ ?
twitter.com/djnoly
ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้นะครับ เพราะว่าโรงงานก็เป็นของ foxconn เพียงแต่ผลิตสินค้าให้กับ Apple เท่านั้น แต่ทำไม ถึงทำซะยังกับว่า Apple เป็นคนผิดอ่ะครับ
ถ้า apple ไม่มีำอำนาจขนาดลงไปสั่งอะไร foxconn ได้โดยตรงอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็คงไม่มีปัญหาครับ
ฟ้องผู้ใช้. Iphone โทษฐานควบคุม. Apple ไม่ดี อีกแง่คุณจ้างให้Apple ผลิต iphone ให้.
ผมว่าถึง Apple. มีอำนาจควบคุม. Supplier. ก็แค่บ้างเรื่องเท่านั้น. หลักๆ คงเป็น design กับคุณภาพ logistic
เรื่องอื่น ผมว่าคงไม่ลงไปคุ้มถึงอยากลง. เขาก็ไม่ยอม. หรอกนะผมว่า
ผมไม่เคยเห็นว่า ผู้ใช้ iPhone จะไปมีอำนาจควบคุมอะไร Apple นะครับ (แต่ถ้ากลับกันนี่เห็นอยู่บ่อย ๆ)
+5555555
ลงไปสั่งอะไรครับ สั้งว่าควรใช้น้ำยานี้เพื่อลดต้นทุน? สั้งว่าพนักงานไม่ต้องใส่แว่นตาตอนเช็ดเพื่อลดต้นทุน? สั่งว่าไม่ต้องใส่ชุดกันสารเคมีเพื่อลดต้นทุน?
ผมว่าเค้าก็สั่งแค่ผลิต สินค้า ในราคาที่เค้ากำหนด(ไม่ใช่โรงงานกำหนด)ก็เท่านั้นเอง แล้วถ้าผมเป็นหนึ่งในแรงงานของเค้าที่ทำใน Line ของ iPhone วันรุ่งขึ้นผมโชคช่วยได้ย้ายไปทำใน Line ของ Sony Ericsson ผมจะมีแว่น มีหน้ากาก มีชุดกันสารเคมี และเปลี่ยนสารเช็ดที่ตัวมาตรฐานไหมครับ?
สุดท้ายโรงงานไม่รับ Order ก็ได้นี่ครับ(ถ้าเค้าไม่โลภเอง?)
(0.o)
ผมสามารถกำหนดเสปคว่า "เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ เราไม่ยอมให้ใช้สารกลุ่ม n-Hexen ในการทำความสะอาดหน้าจอของผลิตภัณฑ์" ได้มั้ยครับ ? แล้วถ้า Foxconn ไม่ยอมก็แค่ย้ายโรงงานหนี ... แต่จะหนีไปไหน ? มีที่ไหนที่มีกำลังการผลิตสูงพอ แล้วถ้า Foxconn ขาด Apple จะต้องปลดพนักงานออกมากขนาดไหน (เดาว่า 3/4) ในระดับนึงสองบ.นี้ก็พึ่งพากันอยู่มากล่ะครับ
แน่นอนว่ามันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ใช้หรอก กว่าจะได้ขายมันก็ระเหยไปหมดแล้ว แต่ก็สามารถเอามาอ้างได้ จะบอกว่าเป็น CSR อย่างหนึ่งก็ได้ (ผมเป็นพวกเชื่อว่า CSR ไม่ใช่การสนับสนุนให้ตัวเองไปปลูกป่าที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบริษัท แต่เป็นการตอบสนองต่อสังคมที่รายล้อมองค์กรณ์น่ะนะ)
ผมมองว่าที่ Apple กลายเป็นจำเลย เพราะว่า Apple อยู่ในฐานะที่สามารถลงมาบีบ Supplier ได้ (และก็ดันบีบเองจริง ๆ ซะด้วย อย่างกรณีล่าสุดก็ไอ้โรงงานโน๊ตบุ๊คที่ลงมาบีบระดับที่ว่าขอให้หยุดผลิตโน๊ตบุ๊คให้คู่แข่ง) ถ้าเกิด Apple ไม่ได้อยู่ในฐานะที่ว่า (หรือไม่เคยทำ) ก็คงไม่มีคนบ่นแหละครัีบ
อุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็มีกรณีแบบนี้เหมือนกัน อย่างเช่น ที่เกาหลีก็มีคนประท้วงไม่ให้คนซื้อกีตาร์จากบ.ใหญ่ ๆ เพราะว่าเป็นกีตาร์ที่ผลิตโดย Cort ซึ่งมีการใช้แรงงานอย่างไม่เหมาะสมเหมือนกัน (แถมเอาคนออกแบบผิดกฎหมายพ่วงด้วย) เขาว่ากีตาร์ที่ผลิตที่นั่น แค่เอามือกดก็มีจะมีน้ำตาของพนักงานโรงงานไหลออกมาแล้ว ...
ที่ต่างกันคือ ที่เกาหลี เขารณรงค์กับทุกยี่ห้อที่ผลิตที่โรงงานนั้น (Gibson (Epiphone), Fender, Washburn, และอื่น ๆ) แต่กรณีของ Apple เนี่ยเนื่องจากว่าเป็นที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงแบบนำเจ้าอื่นลิบ ๆ ก็เลยเล่นที่บ.นี้ก่อนดีกว่า (ถ้าได้ผลอาจจะลามไปยี่ห้ออื่นได้)
ถ้ามองในอีกแง่นึงก็คือการที่มีเรื่องเหล่านี้มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อแอปเปิ้ล ดังนั้นก็เป็นสิทธิ์ของแอปเปิ้ลที่จะเปลี่ยนไปว่าจ้างบริษัทอื่นที่มีการดูแลพนักงานดีกว่านี้เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีกว่า
แต่แอปเปิ้ลเลือกที่จะจ้างบริษัทนี้ ทำให้แอปเปิ้ลมีทางเลือกสองทางคือ 1.ปล่อยให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้แล้วก็เตรียมใจรับเสียงวิจารณ์ กับ 2.กดดันให้บริษัทมีการดูแลพนักงานที่ดีขึ้น (แต่ถ้ากดดันแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นสิทธิ์ของแอปเปิ้ลที่จะเปลี่ยนเจ้าอีกน่ะแหล่ะ :P )
ยี่ห้ออื่นที่ผลิต foxcon อ่ะครับ เยอะแยะ -.-
ผมเห็นด้วยกับการที่ร้องให้ apple จัดการให้เรียบร้อย แต่การเอาผิดผมคิดว่าควรเอาผิดที่โรงงานมากกว่า
twitter.com/djnoly
Foxconn ผลิตให้ apple มากกว่า70% ส่วนอีก30%เป็นหลายเจ้ารวมๆกัน ถ้ากดดันผ่านapple น่าจะได้ผลมากกว่าไปกดดันเจ้าอื่นๆ ตัวFoxconn สื่อกดดันโดยตรงไม่ได้นี้ครับ สื่อทำได้แค่บอกผู้บริโภคว่าสินค้ายี่ห้อไหนผลิตจากโรงงานนรก ให้ผู้บริโภคตัดสินใจไม่สนับสนุนสินค้ายี่ห้อนั้นเอง
กำไรมันน้อยงานมันหนัก แถมผู้ผลิตที่สามารถทำได้ก็มีรายเจ้า เขาไม่อยากจะเสียฐานลูกค้าให้ใครอีกอย่างก็มีชื่อเสียงมากขึ้นด้วยจากที่ไม่มีอะไรจนตอนนี้ ดังใหญ่ล่ะ เรื่องชื่อเสียงและชื่อเสีย มาพอๆกันเลย งานเนี้ย คงต้องยอมและบอกว่า ได้ครับท่าน ดีครับ ผม เห็นด้วย ครับ นาย อิอิ
ราชาแห่งมาร
คือถ้า apple ไม่ได้มีอำนาจดูรายละเอียด ต้นทุน วัตถุดิบ กำหนดกำไร และควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็ไม่มีใครว่า apple ได้หรอกครับ
จากประสบการณ์
กรณีลูกค้าที่สั่งบิ๊กล๊อตแบบ Apple
จะมีอำนาจต่อรองสูง สามารถเข้าไปยุ่งเรื่องมาตรฐานการผลิตได้ครับ
พวกนี้ส่วนมากก็จะเน้นเรื่องคุณภาพสินค้าที่ตนซื้อ
แต่ก็จะมีบางส่วนให้ความเห็นเรื่องคุณภาพชีวืตของพนักงานในไลน์การผลิตด้วยครับ
ถูกครับจริงๆเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของโรงงาน แต่ในกรณีอดีตพนักงานสองคนนี้ถ้าลำพังคงไม่สามารถกดดันเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับโรงงานโดยตรงได้ จึงต้องอาศัยกดดันนายจ้างโรงงานซึ่งมีอำนาจมากกว่า ตรงจุดนี้แยกแยะได้ประมาณนี้ครับ
ถ้า Apple ว่าจ้าง Foxconn เหมือนบริษัทอื่น
ปัญหาก็จะเป็นของ Foxconn แต่เพียงผู้เดียว
แต่ Apple เข้าไปควบคุมต้นทุน กำไร ของ Foxconn ด้วย
จึงยากจะสลัดตัวเองพ้น
โดยปรกติแล้วทางโรงงานจะใช้แอลกอฮอล่์เพื่อทำความสะอาดหน้าจอแต่มาเปลี่ยนใช้เฮกเซนแทนเพื่อลดต้นทุนการผลิต ก็สืบเนื่องมาจาก apple กดราคามาอีกต่อ
แต่ที่เคยได้ยินข่าวมามันอีกโรงงานนึง เพิ่งรู้ว่า Foxconn ก็ใช้วิธีนี้ด้วย
ถ้ายังมีปัญหามากผมว่าอีกหน่อย Apple คงลงทุนเอาเครื่องจักรมาผลิตแทนคนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ไม่รู้จะทำได้ขนาดอุตสาหกรรมรถยนต์รึปล่าว
งานนี้ Apple & Foxconn เจ็บ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รอดูต่อไปถ้าถึงจุดๆหนึ่งที่ปัญหามันส่งผลมากจนบริษัทลงทุนใช้เครื่องจักรเป็นส่วนใหญ่แทน ดูซิว่าใครจะยังยิ้มและใครจะร้องไห้กันแน่ แล้วพนักงานที่ไม่มีงานจะทำจะไปโทษใครระหว่างนายจ้างที่แก้ปัญหาที่ตนเองไม่ได้ก่อ กับคนเสี้ยมปัญหาให้เกิดมาตั้งแต่แรกโดยไม่คำนึงถึงคนที่ต้องมารับผล
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
+1
นั่นซิ แบบนี้ผมว่า apple ยิ้ม foxconn ยิ้ม
แต่รัฐบาลจีนและสหภาพคนงานคงไม่ยิ้มด้วย
ก็ให้สิทธิพิเศษกับโรงงานที่ใช้คนเอา สร้างแรงจูงใจ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Steve Jobs ถึงอายุสั้น ไม่ใช่เพราะทำงานในโรงงาน แต่เป็นเพราะกฎแห่งกรรมนั่นเอง
เกี่ยวกันยังไงครับ
เกี่ยวครับ ฝ่ายบริหารมีหรือจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงงาน Steve Jobs ก็คือพระเจ้าดีๆ นี่เองแหละครับ ที่จะสั่งให้ยกเลิกขั้นตอนอะไรต่างๆ ที่เป็นภัยต่อสุขภาพได้ หรือจะเลือกเอาหูไปนาเอานาไปไร่ก็ได้เพราะมันประหยัดต้นทุน
กรรมที่เกิดจากการเบียดเบียนชีวิตคนอื่น จะทำให้คนๆ นั้นมีโรคภัยไข้เจ็บ ยิ่งถ้าเบียดเบียนคนจำนวนมากๆ ผลของมันก็ทวีคูณ
ระวังนะครับแบบนี้ ใช้สินค้า apple เดี๋ยวกรรมมันจะถ่ายทอดตามมาด้วย เหอๆ - -!!
@mamuang
เกี่ยวกันตรงไหนไม่ทราบครับ
สตีฟ เค้าอาจไม่ค่อยได้ "แก้กรรม" มั้งครับ มัวแต่นั่งทำงาน
ขอเชิญคุณ ริว จิตสัมผัสครับ
ริว: สตีฟจ๊อปส์ อาจจะเกี่ยวข้องกับการทำแท้งแน่นอนครับ
เทียบง่ายๆ กับรับของโจรละกัน ไม่ได้ทำเองแต่รับเค้ามาอีกที
May the Force Close be with you. || @nuttyi
รับของโจร โจรมีความผิดตามกฏหมายชัดเจน ส่วนคนรับของโจรก็มีโทษชัดเจน แต่เรื่องนี้ โจรไม่เห็นโดนรัฐบาลทำอะไร ส่วนคนรับของโจรก็โดนตัดสินด้วยกฏหมายอีกประเทศ?!?
ถ้าผมเป็น Apple ผมจะระดมจัดฉากให้สวยเลย เรื่อยๆ บ่อยๆ ออกข่าวไปเรื่อยๆ เอาผู้บริหารไปเยี่ยมคนป่วยจากการทำงานบ้าง ตั้งกองทุนช่วยเหลือบ้าง คำนวนต้นทุนแบบเดิมนั้นแหละ แค่กระตุ้นจัดฉากเป็นระยะๆ แล้วก็มองหาลู่ทางแบ่งงานไปประเทศอื่นบ้าง ประเทศที่รักคนของตัวเองมากกว่านี้ซักนิดนึง เล่นด้วยสื่อมา ก็เล่นด้วยสือกลับไป ถ้าสื่อไปขุดเจออะไรก็บอกว่า เป็นความผิดเฉพาะบุคคล คณะผู้บริหารจะพยายามกวดขันอย่างเต็มที่ แล้วก็วนลูปจัดฉากต่อไป
เหมือน CSR ประเทศไหนน้อ :P
คนละเรื่องเดียวกัน !?
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
การที่ ผู้บริโภค จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อนซื้แ สินค้าราคาแพงจาก apple
ไม่ควรมีเหตุผลอะไรเลย ที่ผู้บริโภคจะต้องออกมาปกป้อง apple จากการเอาเปรียบแรงงาน
จริงๆตามมาตรฐาน การเช็ดกระจก iPhone ต้องทำด้วยแอลกอฮอล นะครับ แต่ทว่า Foxxcon ใช้ hexene เพื่อให้มันระเหยได้ไวครับ ผิดกติกา ที่ให้กับ Apple เหมือนกัน
ผิดที่ Foxconn ครับ มาตฐานโรงงานไม่ควรใช้เฮกเซนอยู่แล้ว
มันจะไม่มีปัญหาถึง Apple เลย ถ้า Apple ไม่มีอำนาจระดับที่ลงไปบีบและควบคุมทั้งในเรื่องต้นทุนและยังไปควบคุมกำไรของ Foxconn อย่างที่เป็นอยู่ เพราะงั้น งานนี้รับผิดร่วมกัน!!
ก็ในเมื่อ Foxconn ผิดกติกาโดยการใช้ Hexene Apple ก็น่าจะเข้ามาห้ามปรามได้ไม่ใช่เหรอ หรือว่ากว่าจะรู้ก็ผ่านไปปีนึงแล้ว