จากที่มีความสับสนใน Windows Phone Tango กันพอสมควร (ข่าวเก่า) ไมโครซอฟท์ก็ออกมาชี้แจงแล้ว
Greg Sullivan ผู้บริหารของไมโครซอฟท์บอกว่า Tango ไม่ได้หมายถึง "เวอร์ชันใดเวอร์ชันหนึ่ง" ของระบบปฏิบัติการ Windows Phone แต่จะเป็น "โครงการทางวิศวกรรม" ที่ประกอบด้วยโครงการย่อยๆ หลายอย่าง แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือผลักดันให้ Windows Phone มีราคาถูกลง
องค์ประกอบหลักของ Tango คือดัดแปลงให้ Windows Phone ใช้กับมือถือสเปกต่ำที่มีแรม 256MB ได้ แต่ก็มีงานอื่นๆ เช่น แก้ับ๊ก SMS/MMS ด้วย ซึ่งตัวซอฟต์แวร์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ต้องรอทดสอบกับโอเปอเรเตอร์เสียก่อน และน่าจะออกได้ภายในไตรมาสที่สองของปีนี้
ที่น่าสนใจที่สุดคือ โนเกียเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการพัฒนา Tango สำหรับตลาดจีน โดยโนเกียเข้ามาพัฒนาฟีเจอร์บางส่วนของระบบปฏิบัติการเองด้วยซ้ำ เพียงแต่ Sullivan ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าเป็นฟีเจอร์อะไรบ้าง (ข่าวเก่า)
ที่มา - The Verge
Comments
ประมาณว่า Windows Phone Home Basic???
แทงโก้ แมงโก้ โกโก้ จะอะไรโก้ก็เถอะ ไม่สน ตอนนี้รอ window 8 tablet only!!
+1 ใจเดียวกัน
ความเห็นส่วนตัว โครงการนี้ เฉพาะ "ใช้กับมือถือสเปกต่ำที่มีแรม 256MB ได้" ขาดวิศัยทรรศครับ โลกมันไปดาวอังคารแล้วครับ แรมเขา 1G กันจะหมดอยู่แล้วคุณยังออกแบบให้ใช้กับแรม 256MB อยู่ จบข่าวครับงานนี้ (แนวโน้มราคา hardware ถูกลงเรื่อย ๆ ครับ เสียเวลามาทำแบบนี้ ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ)
เป็นวิะีเดียวกับที่ Apple ใช้กับ iPhone 3GS ไงครับ
+1
ซึ่งผมรู้สึกว่ามันลื่นมาก
แม้จะรันบน OS เวอร์ชั่นล่าสุด กับ H/W ที่มีแค่ CPU : 600 RAM : 256 ก็ตาม
เขาเล็งมือถือตลาดล่างอยู่น่ะครับ
ประมาณมือถือราคาไม่ถึงสองพัน
อืม แนวโน้มราคาถูกลงเรื่อยๆ ก็จริง แต่ผมยังว่ามันมีประโยชน์อยู่นะ ไม่งั้น Nokia คงขาย Asha ไม่ได้เป็นสิบๆ ล้านเครื่อง
ผมว่าทำให้มันรันได้ลื่นบนแรม 256MB เนี่ยแหละครับ เป็นวิสัยทัศน์ที่ดีเลย
ต้องเข้าใจอย่างนึงว่าคนที่มีกำลังซื้อแค่เจ็ดพันบาท มีเยอะกว่าคนที่มีกำลังซื้อถึงหมื่นห้า อยู่มากนะครับ
แล้วก็ไม่ดีแน่ ถ้าจะยอมให้มือถือรันไปอืดบน แบบที่เป็นบนแอนดรอยด์สเป็คต่ำๆ
โลกนี้ไม่ได้มีคนอยากใช้มือถือแรงๆ กันทุกคนนะครับ แค่ "ใช้ได้" ก็พอครับ
และมีอีกหลายคนที่อยากได้มือถือที่ทั้ง "ใช้ได้" และก็ "ถูก" เพราะเขาแค่ "ใช้" เฉยๆครับ
+1 ผมเป็นหนึ่งในนั้น
ปล. ปัจจุบันราคามือถือผม 699 บาทมา เกิน 8 ปีละ samsung แต่คิดจะเปลี่ยนไปเป็นรุ่นกลางๆ สัก 7000-10000 ในอนาคตอันใกล้นี้
แรมต่ำ CPU ต่ำ แต่หากสามารถทำงานได้เทียบเท่า แรม 1GB CPU 4 COre นั่นหมายถึง มือถือที่ทำงานได้นานกว่า ร้อนน้อยกว่า
กินสเปกต่ำ แต่คุณภาพเท่ากับที่กินสเปกสูง ไม่มีประโยนช์เหรอ?
แล้วถ้าสเปกต่ำแล้วลื่น ไปใช้สเปกสูง ไม่เหอะได้เลยเหรอ?
เครื่องราคา5000 แต่ทำงานได้เหมือนเครื่อง 15000 (ถึงจะไม่ร้อบ%ก็เถอะ) ไม่ดีกว่าเหรอ?
เค้าไว้ตีตลาดระดับล่างด้วยครับ ต่อให้มีแรมน้อยแต่ os ลื่นไหล ผมว่านันเป็นสิ่งที่พัฒนาวงการนะครับ คือการทำระบบออกมาดี อย่ามองด้านเดียวครับ แรมเยอะกินแบตอีกด้วยนะเออ
เครื่อง Wii Ram 64 MB ทำไมเล่นเกมสนุกกว่า PC Ram 1 GB ล่ะครับ
กลับดาวโลก แทบไม่ทัน
คุณ leonoinoi โดนชุดใหญ่
Ooh
Super Combo
555+ กลับมาดูอีกทีโดนชุดใหญ่จริง ๆ แน่นอนครับ การ optimize code สำคัญ แต่แนวโน้มที่กำลังจะเกิดที่ผมเห็นคือ โทรศัพท์เครื่องละ 2000 คงจะไม่มี ram แค่ 256MB แน่ครับ ลองดู android รุ่นประมาณ 4000-6000 ram อยู่ที่ 512MB และกำลังจะตกรุ่นและลดราคาเร็วมาก และน่าจะลงไปที่ระดับ 2000 ได้ (เรื่องนี้เป็นการเดาอนาคตครับ แต่ละคนเห็นไม่ตรงกัน แต่สิ่งที่จะบอกว่าวิศัยทรรศใครถูกหรือผิด คือผลที่จะเกิดขึ้นครับ ในเรื่องนี้คือ WP จะสามารถตีตลาดล่างได้จริงหรือ) แทนทีจะเอาเวลามา optimize code เอาเวลาไปทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า
ผมงง ถ้าเป็นอย่างที่คุณคิดจริงๆ เริ่มจากให้ OS รันได้ดีที่ 256MB มันเสียหาย
ตรงไหนครับ ต่อให้แรม 512MB ราคาสองพันจริง ก็เอา 256MB ไปทำรุ่นเล็ก
ราคาไม่กี่ร้อย แบบที่เห็นกันดาษดื่น ก็ได้ไม่ใช่หรอครับ หรือผมเข้าใจอะไรผิด
ข่าวเค้าก็บอกอยู่ว่าตลาดล่าง
ขอตอบนะครับ คุณคิดว่า ram น้อยแล้วจะมี feature เท่ากับ ram เยอะหรือเปล่าละ ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงมันก็ดีสิครับ แต่ในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ลองดูอีกข่าวข้างล่าง "Tango ไม่รองรับ Background Task" หมายความว่า การที่จะให้ โทรศัพท์ใช้ ram แค่ 256MB ต้องตัด feature บางอย่างออก และตอนนี้ คงกำลังตัด feature ไม่จำเป็นต่าง ๆ ออกไปอยู่ (ซึ่งจริง ๆ แล้วมันต้องทำถึงขนาดนี้ เพื่อทำโทรศัพท์ราคาถูกใช้ ram 256MB เลยหรือ แล้วในตลาดนี้จริง ๆ มี symbian อยู่นะครับ) ปวดตับกับ วิศัยทรรศ ของทีมงาน windows phone มากครับ ลองดูละกันว่า สุดท้ายแล้วจะสร้างยอดขายได้ตามที่วางแผนไว้หรือเปล่า (สำหรับผม ทายตั้งแต่แรกแล้วว่า แป๊ก เพราะในราคาระดับใกล้เคียงกัน ไปใช้ android ที่ไม่กั๊ก RAM ไม่ดีกว่าหรือครับ)
คุณ leonoinoi ลองคิดดูสิครับ ถ้า Ram256 ลื่น แล้วถ้าเอา os ตัวเดียวกันไปใส่ใน ram 1gb มันไม่ลื่นหัวแตกเลยหรอครับ เค้ามาถูกทางแล้ว ผู้ผลิตในอนาคตก็คงมองไว้แล้วล่ะ ว่าราคาต้นทุนต่อเครื่อง window phone ถูกกว่า os อื่นๆแน่นอน
แนวทางน่าจะประมาณ netbook ถูกๆ ไปจนถึง notebook แพงๆ ใช้ os เดียวกัน แถมได้ update ทุกตัวด้วย
ราคาตั้งแต่ หลักร้อยถึงหลักหมื่นใช้ os เวอชั่นเดียวกัน มันไม่ดีกว่าหรอครับ ระดับล่างก็ได้อัพเกรด แอพก็ใช้ได้ลื่นๆถึง 95% ใน marketplace แถมไม่ถูกรอยแพเหมือนแอนดรอย ใช้ปีเดียวก็เปลี่ยนเครื่องอัพเสปกเพื่อให้มันรันเวอชั่นใหม่ หรือไม่ก็รอรุ่นปีก่อนราคาตก บางแอพก็รันกับเครื่องรุ่นต่ำก็ไม่ไหว ไม่ต้องกังวลว่าซื้อตัวถูกๆแล้วจะช้าหรือรันแอพโน้นนี่นั้นไม่ไหว
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ยิ่งมี RAM เยอะ ยิ่งใช้ไฟไปเลี้ยง RAM เยอะตามหรือเปล่าครับ ซึ่งปัญหาที่ตามมาสำหรับโลกมือถือคือต้องเพิ่มความจุแบตเตอรี่เข้าไปแทนอีก ดังนั้นการ optimize ให้ใช้ RAM ยิ่งน้อยเท่าไหร่น่าจะดีมากกว่า
สิ่งนึงที่ไมโครซอฟท์คงลงมือทำอยู่คือเร่งออกเครื่องระดับล่างมาช่วยทำให้ส่วนแบ่ง Windows Phone ในตลาดมือถือมันโตอย่างรวดเร็ว มันเลยคงเป็นแรงกดดันให้ microsoft ต้อง optimize Windows Phone ให้มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการทำเครื่องระดับล่างที่มีสเป็คต่ำ ซึ่งต้นทุนพวกนี้มันเป็นเรื่องสำคัญในการแข่งขันด้านราคาสำหรับเครื่องตลาดล่างซะด้วย (และโนเกียก็แข็งแกร่งในเรื่องนี้จริงๆ เรื่องลดสเป็คก็น่าจะมาจากการเรียกร้องของโนเกียด้วย)
ส่วน Android เห็นชัดว่ารุ่นหลังๆ เริ่มออกแนวบวมๆ แล้ว แต่ Android ก็ติดลมบนไปเรียบร้อย Google เลยคงมุ่งไปข้างหน้ามากกว่า เครื่องตลาดล่างๆ ก็ต้องพยายามอัพสเป็คตามๆ มา มันมีผลต่อต้นทุนเครื่องแน่นอน แต่ด้วยความที่เป็นผู้นำตลาดไปแล้วก็เลยไม่มีแรงกดดันเท่ากับฝั่ง windows phone ที่ต้องลดราคามาเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน
ต้องรอดูครับว่าพลังโนเกีย จะพลิกกระดานได้แค่ไหน หรือจะพาล่มไปทั้งคู่ อันนี้ก็ต้องติดตามต่อไป :)
ถ้าสมมุติว่ามือถือแรม 512 มันลงไปได้ถึงสองพันจริง มือถือแรม 256 ก็ลงไปถึงระพับไม่ถึงพันหรือพันต้นๆได้ครับ ทีนี้แทนที่คนจะซื้อพวกมือถือฟีเจอร์โฟนถูกๆ ทำไรไม่ค่อยได้ (พวกที่กองขายอยู่ในบิ๊กซี เครื่องละ 799 นั่นน่ะ) ก็เพิ่มเงินอีกไม่กี่ร้อย มาสอย WP7 ที่เป็นสมาร์ทโฟน เล่นอะไรได้เยอะแยะพอกับเครื่องละหมื่นห้า
ถ้าไมโครซอฟท์ทำได้จริง มันน่าจะไปได้ส่วนแบ่งจากพวก S40 ฟีเจอร์โฟน มือถือจีนราคาถูก และแอนดรอยด์ระดับล่างๆ (ซึ่งมือถือพวกนี้เป็นประเภทที่ใช้ไปเดี๋ยวก็อืด หรือไม่ก็ทำไรแทบไม่ได้เลย) ซึ่งมือถือพวกนี้มีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างมากครับ (ถ้าผมจำไม่ผิด โนเกียครองตรงนี้อยู่ด้วยฟีเจอร์โฟน S40)
อย่าเอา android เป็นบรรทัดฐานสิครับ การทำงานแตกต่างกันจริงๆ ลองไปเล่น WP7 ดูก่อนก็ดีครับ ป.ล. แรมเยอะกินไฟ :P
ผมว่า จริงๆๆก็น่าจะให้ ram 512 MB ยื่นพื้นต่อไปอีกซัก 1-2ปีเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าตอนนี้ควรจะรีบเข๊น dual core ram 1 GB ออกมาแข่งกะ ฝั่ง anidroid ก่อนจะดีกว่านะครับ เพราะเป็นที่รู้กันว่า ตลาดกลางค่อยสูงขึ้นไป ทำกำไรได้ีกว่าตลาดล่างมาก
การที่จะทำให้มันฮิต จำเป็นต้องมีตลาดล่างมาช่วยด้วยหล่ะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมเห็นด้วยกับคุณ the mee ครับ คุณเป็นคนมีวิศัยทรรศ นะ 555+
ถ้า os ที่รันได้ใน 256 mb แล้วไหลลื่น เอาไปรันใน Dual-core ram 1 gb มันจะไม่ลื่นจนหัวแตกเลยหรอ แล้วแบบนี้ไม่วิสัยทัศน์กว่าหรอ? สเป็ค Hardware อัดมาแรงๆมันไม่ยากหรอกครับ
คำตอบคือ ลื่นครับ หัวแตกด้วย แต่เอ๋ เครื่องคอมที่บ้านคุณ RAM 2G ถ้าเอามารัน windows 3.1 มันไม่ลื่นจนหัวแตกเลยละครับ แล้วลง windows 7 ทำไมอะ ถ้าคุณตอบคำถามนี้ได้ คำตอบของคำถามคุณก็อันเดียวกันครับ ลองตอบตัวเองดู (ผมไม่ได้กวนนะ แต่ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ จะได้เข้าใจง่าย) แล้ว windows 3.1 มันก็ทำงานได้แล้วที่ RAM 512M ทำไมเราต้องซื้อเครื่อง RAM 2G ด้วยละ ? แล้วทำไมเขาไม่ทำเครื่องคอม RAM512M ขายสัก 2000 เราจะได้มีเครื่องคอมราคาถูกใช้ ? แล้วทำไม RAM 2G สมัยนี้ ถึงถูกกว่า RAM512 สมัยก่อน ? ลองหาคำตอบดูครับ
ถ้าว Win3.1 ในแรม 512MB สามารถทำงานได้และใช้แอพได้พอๆ กับ Win7 แรม2GB คงมีคนทำขายครับ
การที่คุณเอา OS เก่าระดับ Win3.1 มาเทียบ Win7 เนี้ยมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ Tango ที่เป็น WP รุ่นเดียวกับ Mango ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ให้สามารถใช้กับเครื่องแรมน้อยๆ ได้
เอามั่วๆเลย win98 ทำงานพื้นฐานได้ไม่ต่างจาก win7
ใช้ cpu Pentium3 ram กระปิ๋วเดียว
คุณเปรียบเทียบไม่ถูกครับ ถ้ามีงบจำกัด ใน os ที่เหมือนกัน การที่มี version ใหม่มา แล้วใช้ ram ที่น้อยกว่า version เดิม แต่ run ได้เสถียร และผู้ใช้ไม่ต้องการใช้อะไรมากมาย คุณจะต้องการ ram ที่มากกว่าเพื่ออะไรครับ เอามาให้รก + กินไฟ?? ทั้งๆที่มันก็ทำงานได้ดีอยู่แล้ว
เอาชัด ๆ นะครับ เพราะความต้องการไม่มีที่สิ้นสุดไงครับ (ถ้าราคามันลงมาให้ซื้อได้ คนก็อยากได้ของที่มากกว่า) สมมุติ wp ใช้ ram 256 ได้มีความสุข แล้วไงครับ มีใครการันตีว่า app ที่มาลงเพิ่มจะรันได้ด้วย (ไม่ต้องเอาเกม ไฮเอนนะครับเพราะรันไม่ได้อยู่แล้ว แค่ facebook tweeter หรือรับ e-mail ที่ attach พวก pdf) แน่นอนหลัก ๆ microsoft ต้อง optimize ให้รันได้อยู่แล้ว (หมายถึงต้องทำ app facebook pdf เอง) สิ่งที่ microsoft ต้องแข่งคือเวลา ว่านานเท่าไร เครื่อง spec สูงจะถูกลงจนเครื่อง spec ต่ำ ขายไม่ได้ (ถึงวันนั้น ก็ต้องเพิ่ม ram ให้เท่ากับคู่แข่งอยู่ดี)
ถ้าถึงตอนที่ RAM 256 เลิกผลิตไปหรือเลิกใช้ ก็ไม่เป็นไรครับเราก็ใส่แรมความจุที่สูงแทน ขายต่อไป ซึ่ง OS หรือ App ต่างๆ ที่พัฒนาให้ support RAM น้อยๆ ก็สามารถทำงานได้บนเครื่องที่แรมเยอะๆ อย่างสบายเลย ทีนี้เราก็มีแรมเยอะขึ้นเอาไปทำอย่างอื่นแทนได้
คู่แข่งอาจเป็นเป็น 2 GB หรืออะไรก็แล้วแต่ มีผลลัพธ์คือกินไฟกว่า ต้นทุนสูงขึ้น
ถ้าเป็นผม ผมจะหยุดตอบ comment ครับ เพราะมันดุเดือดไปนะ ผมว่า
Ooh
เราต้องยอมรับฟังความคิดที่แตกต่างครับ ถึงมันจะดุเดือด แต่ไม่มีการด่าทอ มีแต่การแสดงความคิดเห็น ผมว่าโอเคนะครับ มัวแต่กลัว ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ก็จะไม่ได้รับความรู้ครับ และถ้าไม่กล้าคุยกันอย่างอารยะชน เรื่องก็ไม่จบครับ (ใช้ได้กับเรื่องอื่นด้วยนะครับ) แต่ถ้าเมื่อไรมีการด่ากัน ผมก็จะหยุด comment เองครับ ไม่ต้องห่วง ^^
แบบนี้นึกถึงข้อความนึงเกี่ยวกับจาวาเร็วส์เลยครับ
"แต่เนื่องจากสมัยนี้ คอมพัฒนาขึ้น แรงขึ้น เราจึงสามารถทำอย่างนี้ได้"
แล้วสุดท้าย จาวาก็...
"สมมุติ wp ใช้ ram 256 ได้มีความสุข แล้วไงครับ มีใครการันตีว่า app ที่มาลงเพิ่มจะรันได้ด้วย (ไม่ต้องเอาเกม ไฮเอนนะครับเพราะรันไม่ได้อยู่แล้ว แค่ facebook tweeter หรือรับ e-mail ที่ attach พวก pdf)"
ตามข่าวก็บอกอยู่แล้วว่า แอปปัจจุบัน 95% รันได้ แล้วที่เหลืออีก 5% พยายามให้รันได้อยู่
"สิ่งที่ microsoft ต้องแข่งคือเวลา ว่านานเท่าไร เครื่อง spec สูงจะถูกลงจนเครื่อง spec ต่ำ ขายไม่ได้ (ถึงวันนั้น ก็ต้องเพิ่ม ram ให้เท่ากับคู่แข่งอยู่ดี)"
จากคำพูดคุณ ผมว่าคุณสับสนอะไรในตัวเองหรือเปล่าครับ เพราะดูเหมือนคุณก็รู้อยู่แล้วนี่ ว่าราคาเครื่องระดับที่คุณว่ามันยังลงมาไม่ถึง แล้วคุณจะโชว์พาวเรื่องอะไรครับ ???
ผมว่าคุณลองคิดดีๆอีกทีดีกว่า
การที่ OS นึงจะสามารถรันได้ในแรม 256 ก็แปลว่าถ้าเอาไปรันในแรม 1GB ก็จะมีเนื้อที่ในแรมเหลืออย่างน้อย 738 ให้เปิดโปรแกรมรันทาสค์อะไรก็ได้
แบบนี้มันไม่ดีตรงไหนล่ะ?
เรื่องกินไฟก็เป็นปัญหาใหญ่เหมือนกัน คุณพูดว่า "ความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด" ความต้องการในการให้แบตมันใช้ได้นานๆก็ไม่เคยสิ้นสุดเหมือนกันครับ
ชีวิตผมอยากให้มือถือมันชาร์จแค่อาทิตย์ละครั้ง ผ่านไปอาทิตย์นึงแบตลดไป 50% อะไรงั้นนะ
แก้ับ๊ก => แก้บั๊ก
ผมจะบอกให้นะว่าการที่ผู้ผลิต HW และผู้พัฒนา SW ของแอนดรอยกำลังมีปัญหาก็เพราะเรื่อง Fragmentation เพราะฉะนั้นการที่ MC บอกว่าแอพใน market ประมาณ 95% สามารถรันได้ใน HW ราคานับเป็นความสำเร็จแล้วละครับ ผมก็ไม่รู้ว่าคุณจะเถียงไปทำไมเยอะแยะ การที่ ram น้อยๆหนึ่งเลยละ กินไฟน้อยลง ถ้ามือถือที่อัด 1900 mah ในแอนดรอย และ วินโดวส์โฟน แต่แรมต่างกันคุณว่าเครื่องไหนแบตจะหมดก่อนกัน?
รอภาษาไทยแค่อย่างเดียว
+1
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ยิ่งอ่านยิ่งมันส์
ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างจากคอมเม้นเลยแห่ะ