ปัญหาโน้ตบุ๊กสูญหายหรือถูกขโมยเริ่มเป็นเรื่องที่บริษัทต่างๆ วิตกกังวลกันมากขึ้น สมัยก่อนเป็นประเด็นที่ว่าโน้ตบุ๊กนั้นราคาแพง แต่สมัยนี้ความน่ากลัวคือข้อมูลที่มีมูลค่ามากกว่าตัวโน้ตบุ๊กเองหลายเท่าตัวนั้นถูกพาไปกับตัวโน้ตบุ๊กด้วย ทางแก้ปัญหาในทุกวันนี้ที่มีใช้กันคือการเข้ารหัสที่ตัว File System เช่น NTFS แต่กรณีเช่นนี้ถ้าผู้ใช้เผลอเอาไฟล์สำคัญไปวางไว้นอกส่วนที่เข้ารหัส ข้อมูลนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่ดี แถมการเข้ารหัสที่ระบบปฏิบัิิติการนั้นช้าอย่างไม่น่าให้อภัยกันทีเดียว
งานนี้ซีเกทเลยเปิดตัวฮาร์ดิสก์รุ่นใหม่ในแพลฟอร์ม DriveTrust ที่จะสามารถเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดได้ตลอดเวลา ด้วยการเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ด้วยอัลกอลิธึ่ม AES-128 โดยการถอดรหัสจะทำได้ด้วยการพิมพ์ รหัสหรือการใช้ Biometric เช่นลายนิ้วมือ หรือทั้งสองอย่างพร้อมกัน
ซีเกทเตรียมวางขายฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้ตอนสิ้นปี แต่ต่อให้เข้ารหัส เกิดทำหายๆ จริงๆ คนทำหายคงซีดอยู่ดี...
ที่มา - ArsTechnica
Comments
คงต้องใช้การปรับคนที่ทำหายแล้วกระมังครับ ----- http://www.peetai.com | เว๊ปบล็อกที่โม้แต่เรื่อง Software as a Service.
น่าสนใจ harddisk ผมเพิ่งเสีย ส่งไปซ่อม สิ่งที่น่ากลัวคือข้างในมีข้อมูลจำพวกรหัสผ่านอยู่ด้วย ถ้าหากเขาซ่อมได้ เขาก็สามารถทำอะไรกับรหัสของเราได้
ภาวนาให้มันเสียไปเลยแบบไม่สามารถซ่อมได้ซะยังจะดีกว่า
softganz - ก่อนเอาไปเคลมก็เอาแม่เหล็กมาดูดซะหน่อยก่อน จะได้พังไปเลย เหอๆ
iPAtS
ipats - อืมห์ น่าสน แต่ผมส่งไปเคลมเสียแล้ว คงต้องใช้วิธีเปลี่ยนรหัสใหม่แล้วหล่ะ
ไมโครซอฟท์เคยมาเดโมฟีเจอร์ BitLocker ของ Vista ให้ดู ก็ไอเดียเดียวกัน แต่มันต้องมีชิป Trusted Platform Module ซึ่งผมก็ยังนึกไม่ออกว่าจะไปหามาจากไหน
Trusted Platform Module ผมเจอใน notebook ของ IBM มานานแล้วนะ ยังสงสัยอยู่เลยว่ามันมีเอาไว้ทำอะไร
จริง ๆ ผมคิดว่าใช้ software ประเภท On-The-Fly Disk Encryption Software อย่าง TrueCrypt http://www.truecrypt.org ก็น่าจะเพียงพอในระดับหนึ่ง การที่ seagate ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาแบบนี้ ก็อาจจะช่วยให้คนสนใจในความปลอดภัยของข้อมูลกันมากขึ้น แทนที่จะสนใจแต่ขนาดที่มากขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว
อยากได้ harddisk เพิ่มจัง :P
Seagate ภาษาไทยเขียนว่า ซีเกท ครับไม่ใช่ ซีเกตต์
อ่า คน Seagate มาเองเลย แก้ให้แล้วครับ
--OHM แล้วตัวนี่จะ made in thailand ป่ะ