วันนี้มีโอกาสได้ไปร่วมงานสัมมนาฟรี ของ Adobe เกี่ยวกับสินค้าเก่าเวอร์ชั่นใหม่ คือ Adobe Acrobat 8 เลยถือโอกาสมาสรุปเนื้อหาในงาน (ที่ผมสนใจ) ให้ฟังคร่าวๆ ดังนี้

• Acrobat 8 มีการแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ Reader (ดาวน์โหลดฟรี อ่านได้อย่างเดียว), Elements (แก้ไขตัวหนังสือได้, create PDF ได้), Standard (จัดการเรื่องระบบรักษาการปลอดภัยได้), Professional (ทำได้ทุกอย่าง..), 3D (เพิ่มความสามารถในการ render ไฟล์ CAD ได้)
• Acrobat สามารถรวมเข้าไปกับการใช้งานของ Breeze ได้ รูปจาก presentation แสดงให้เห็นว่า เมื่อเราออกแบบ Breeze ให้มีการประชุมผ่าน video conference 4-5 คน เราสามารถดึงเอา PDF ขึ้นมาแสดงผลให้ชมในส่วนของ white board ได้ โดยในตัวอย่างทำการแสดงภาพของ 3D Model ที่ถูกออกแบบโดยโปรแกรม CAD แล้วเก็บเป็นไฟล์ PDF แล้วจึงเอา PDF ขึ้นมาเปิดให้ผู้ร่วมประชุมผ่าน Breeze ได้เห็น (อธิบายยืดยาว นึกภาพตามกันออกไหมเนี่ย)
• Acrobat สามารถควบคุมสิทธิ์ในการอ่านและแก้ไข รวมถึงการเขียน comment และสิทธิ์ในการอ่าน comment ของแต่ละผู้ใช้ได้ รวมถึงสามารถแจ้งได้ว่าไฟล์ PDF นี้ถูกเปิดอ่านเมื่อไหร่ โดยใคร..
• สามารถรวมไฟล์จาก format ต่างๆ เช่น word, excel, powerpoint, PDF เข้ามารวมเป็นไฟล์เดียวกันได้ และสามารถจดจำได้ว่า file PDF ที่เอามารวมนั้นไฟล์ไหนบ้างที่มี Password ป้องกันต่างๆ อยู่ รวมถึงสามารถจัดลำดับ ก่อนหลังของไฟล์ที่นำมารวม เรียก feature นี้ว่า "PDF Package"
• เพิ่มความสามารถให้กับการทำงานร่วมกับโปรแกรมชุด M$ Office มากขึ้น (ใน demo สาธิตการใช้งานร่วมกับ outlook ในการจัดการ mail หลายๆฉบับให้กลายมาอยู่ในรูปของ PDF Package โดยการ คลิกเพียง 2-3 คลิก)
• สามารถส่ง PDF ไปให้ผู้ใช้ที่ต้องการได้ทันที โดยระบุอีเมลลงใน Acrobat ได้เลยไม่ต้องไปจัดส่งผ่านเว็บเมลหรืออีเมล client ให้วุ่นวาย
• เพิ่มลูกเล่นกับตัวหนังสือใน PDF มากขึ้น เช่น การขีดเส้นใต้ ขีดฆ่า หรือ replacement คำ (ไม่รู้จะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี) และสามารถ export comment ต่างๆ ออกมาเป็นไฟล์ M$ Word ได้อย่างง่าย
• การทำเอกสารที่เป็นแบบฟอร์มในการกรอกเพื่อตอบกลับที่ดูง่ายขึ้น (ของเก่าง่ายแบบนี้ป่าวไม่รู้) และสามารถมาดูผลการตอบแบบสอบถามกลับมาได้ และสามารถ export ผลออกมาเป็น format เช่น .csv หรือ .xml ก็ได้เพื่อนำไปใช้ในระบบฐานข้อมูลต่อไป
• Adobe Acrobat 8 จะมาพร้อมกับ Adobe Creative Suit 2.3 และในชุดนี้จะแถม Dreamwever 8 ให้อีกด้วย...
• Digital Signature หลังจากที่ งง มานาน ว่ามันจะ security ได้แค่ไหน... วันนี้ก็กระจ่างซะที ทางวิทยากรยกตัวอย่างของ Singapore ว่าจะมีการเก็บข้อมูล Digital Signature ลงบน Server (แล้ว server มันใช้ software อะไรในการเก็บข้อมูลหนอ?) เพื่อไว้เปรียบเทียบ Signature โดยเมื่อใช้ biz tablet ของ Wacom ที่ใช้สำหรับ Digital Signature ตัว Server จะเก็บทั้งรายละเอียดรูปลักษณ์, ความเร็วในการเซ็นต์, แรงกดในการเซ็นต์ (biz tablet ของ wacom รองรับแรงกด 512 ระดับ) และสามารถเรียก signature ต้นฉบับจาก server มาเปรียบเทียบได้ทันที... (ที่เชื่อมต่อกับ server อยู่)
• ปิดท้ายด้วยรูปแบบเอกสาร Electronic แบบใหม่ สำหรับสิ่งพิมพ์ JDF (Job Description Format) ความสามารถของมันคือ ต่อไปนี้ดีไซน์เนอร์ไม่จำเป็นต้องออกแบบในโหมดสี CMYK อีกต่อไป ทำใน โหมด RGB ก็ได้ แ้ล้วเวลาส่งโรงพิมพ์ ตัว RIP จะอ่านค่าแล้ว convert เป็น CMYK ให้เอง (สีออกมาตรงกัน) รวมถึงรองรับรูปแบบของเลเยอร์ในตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า PDF ของหนังสือ 1 ฉบับ ต่อไปนี้จะสามารถเก็บได้หลายภาษา เช่น ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เป้นต้น โดยจะแยกแต่ละภาษาเป็นเลเยอร์เราสามารถเลือกอ่านแต่ละภาษาได้ทันที

ปล. งานนี้ได้ thumb drive ของ adobe กลับมา 1 อัน..

ปอ. มีำคำถามท้ายงานที่ผมเบื่อทุกครั้ง... ที่มีการสัมมนาฟรีๆ คือ... คำถามเปรียบเทียบเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ลิขสิทธิ์ กับเวอร์ชั่นสถาบันซอฟต์แวร์แห่งชาติ (Pantip Plaza) คนถามไม่เกรงใจวิทยากรเลยนะ...

ปฮ. ขนมอร่อยครับ.. มีทั้งของหวาน ติ่มซำ น้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม... แต่ผมไม่ชอบตอนที่ผู้คนแย่งกันตักเลย.. บางคนตักไม่เกรงใจ หรือเผื่อแผ่คนอื่นเลย...