Software Freedom Day 2007

ใครว่างก็

gumara Tue, 09/11/2007 - 20:58

ใครว่างก็มาช่วยกันนะครับ

ที่หาดใหญ

Mr.JoH Tue, 09/11/2007 - 21:36

ที่หาดใหญ่จะมีป่าวน๊า

ไปเจอมาคร

ooooo Tue, 09/11/2007 - 23:36

ไปเจอมาครับ จัดวันเดียวกันเลย http://www.mozilla24.com/en-US/programs/thailand/

ชนกันเต็ม

pittaya Wed, 09/12/2007 - 01:16

ชนกันเต็มๆ เลยแฮะ ---------- Don't think, Just read

เด๋วอาจจะ

ABZee Wed, 09/12/2007 - 00:30

เด๋วอาจจะโฉบไปที่ Esplanade -- My blog: poomk.blogspot.com

กลัวเหงา,

thanakij Wed, 09/12/2007 - 09:14

กลัวเหงา,

มีบูทเกี่ยวกับซอฟต์แวร์เสรี แค่เฉพาะของ ubuntuclub.com ที่มาออกบูทหรือเปล่า
แต่งานจริงคงจะใหญ่และมีหลายบูทอยู่ ? (บูทของงานในส่วนของงานเทศกาล หนังสั้น แฟชั่น ดนตรี, See All Scences 2007)
ในวันจริงที่เป็น Software Freedom Day 2007 (SFD), ubuntuclub.com มีอะไรมาเพิ่มไหม (หรือว่าใช้ที่เคยแสดงแล้วในงาน BTD3)

รูปที่แปะ

BonBon Wed, 09/12/2007 - 09:26

รูปที่แปะมันเกิน element - div class="content" resize สักนิดนึงก็ดีนะครับ

ไปแจมด้วย

mr_tawan Wed, 09/12/2007 - 18:59

ไปแจมด้วยดีกว่า :P

openletter

thep Thu, 09/13/2007 - 15:31

openletter สำหรับสถาบันการศึกษา น่าแปลแฮะ

ส่วน สำหรับภาครัฐ ยังเป็นโครงอยู่เลย

ผมอาสาแล้

lew Thu, 09/13/2007 - 15:42

ผมอาสาแล้วกันครับ รอคืนนี้เดี่ยวมาโพสให้ ------ LewCPE

ขอบคุณครั

thep Thu, 09/13/2007 - 15:59

ขอบคุณครับ ข้อมูลบางส่วนดูเก่าไปนิด อาจต้องปรับบ้าง

นี่เป็นเว

lew Fri, 09/14/2007 - 00:42

นี่เป็นเวอร์ชั่นแรก ยังไงขอคอมเมนต์ หรือแก้แล้วโพสต่อไปได้เลยนะครับ

#จดหมายเปิดผนึกถึงสถาบันการศึกษา

จดหมายฉบับนี้เขียนขึ้นแบบกว้างๆ เพื่อให้คุณนำไปปรับตามความเหมาะสมแล้วส่งให้กับสถาบันการศึกษาในเขตของคุณ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้รับจะอ่านจดหมายของคุณจริงๆ คุณควรเขียนอย่างสุภาพ, กระชับ และมีระเบียบแบบแผน

##เรากำลังให้การศึกษาหรือเพียงฝึกการใช้งาน
ขณะที่โลกธุรกิจต้องการมาตรฐานกลางทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่การใช้งานบนระบบที่หลากหลายนั้นเป็นเรื่องที่ดีกว่าสำหรับสภาพแวดล้อมทางการศึกษา ถ้าเราต้องการให้เด็กๆ ได้เรียนรู้หลักการที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงการเรียนรู้การใช้งานผลิตภัณฑ์บางตัวในท้องตลาด เราควรสอนพวกเขาด้วยแพลตฟอร์มที่หลายหลาย เช่น วินโดวส์, แมคอินทอช, และลินุกซ์ พร้อมไปกับซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เช่น ไมโครซอฟท์ออฟฟิส, โอเพนออฟฟิศ, หรือ Abiword เป็นต้น เพราะการสอนหลักการคือการให้การศึกษาอย่างแท้จริง ขณะที่การสอนผลิตภัณฑ์จะเป็นเพียงการฝึกการใช้งานเท่านั้น

##ปัจจุบันคือความล้าสมัย
การเลือกผลิตภัณฑ์สักตัวมาใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียนนั้น เราควรเลือกโดยมองให้ไกลกว่าการครองตลาดส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพราะเราคงต้องการให้การศึกษากับเด็กๆ มากกว่าจะเป็นการฝึกธรรมดา ในปี พ.ศ. 2532, ไมโครซอฟท์ได้วางตลาดไมโครซอฟท์ออฟฟิสเวอร์ชั่นแรกๆ สู่ตลาด ในตอนนี้เองมีผู้คนนับล้านที่ไม่ได้เรียนซอฟต์แวร์ตัวนี้ในโรงเรียนแต่อย่างใดก็สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ตัวนี้ในการทำงานอยู่ทุกวัน ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะต่อต้านการใช้งานซอฟต์แวร์ที่อาจจะได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตเช่น โอเพนออฟฟิศ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยราคาที่ฟรีและสามารถประหยัดงบประมาณให้กับโรงเรียนได้อย่างมาก แม้กระทั่งหากทางโรงเรียนไม่ต้องการใช้งานโอเพนออฟฟิศในการเรียนการสอนในตอนนี้ อย่างน้อยๆ ควรลงโปรแกรมเช่นโอเพนออฟฟิศหรือ Abiword ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีซอฟต์แวร์อยู่ก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ใช้งานซอฟต์แวร์เอกสารเหล่านี้อย่างทั่วถึง

##ใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากขึ้น
ไมโครซอฟท์วินโดวส์มีความต้องการคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ ที่ความเร็วสูงตลอดเวลา ในทางกลับกันลินุกซ์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเช่นนั้น ทำให้เราสามรถใช้ลินุกซ์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ความเร็วต่ำเพื่อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยยังสามารถให้การเรียนการสอนไม่ต่างจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ แต่อย่างใด ในปัจจุบันมีหน่วยงานจำนวนมากใช้ซอฟต์แวร์จากโครงการ Linux Terminal Server Project (LTSP) เพื่อให้สามารถนำคอมพิวเตอร์เก่ามาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โครงการเหล่านี้หลายครั้งใช้เพียงคอมพิวเตอร์เก่าที่ได้รับการบริจาคมาจากภาคธุรกิจไปยังคนที่ต้องการใช้งาน การบำรุงรักษาห้องเรียนที่ใช้งานซอฟต์แวร์จากโครงการ LTSP นั้นง่ายกว่าการดูแลห้องเรียนตามปรกติมาก เนื่องจากคอมพิวเตอร์ส่วนมากไม่มีฮาร์ดดิสก์ทำให้ความเสียหายจากฮาร์ดแวร์มีต่ำ และการปรับปรุงหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ก็สามารถทำได้จากส่วนกลางเพียงครั้งเดียว ระบบทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นซอฟต์แวร์เสรีทั้งหมด

##การมีส่วนร่วมของครอบครัว
การแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งหมดที่ใช้ในโรงเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองของเด็กได้นำไปติดตั้งและใช้งานที่บ้านเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องที่เด็กจะสามารถเรียนรู้ในเวลาที่พวกเขาอยู่บ้าน และที่ดีกว่านั้นคือการที่พ่อแม่จะสามารถมีส่วนร่วมในเทคโนโลยีต่างๆ ที่ลูกๆ ของพวกเขาได้ใช้งานในโรงเรียน นักเรียนจะสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ตัวเดียวกับที่พวกเขาใช้งานที่โรงเรียนเพื่อทำงานที่บ้าน และนำกลับมาใช้งานที่โรงเรียนผ่านสื่อใดๆ เช่น อีเมล, แผ่นดิสก์, ไดร์ฟ USB, ตลอดจนแผ่นซีดี น่ายินดีที่เรามีซอฟร์แวร์เสรีจำนวนมากที่ใช้งานประเภทนี้ได้ ตัวอย่างเช่นโครงการ TheOpenCD ที่เปิดให้ดาวน์โหลดและแจกจ่ายซอฟต์แวร์ชั้นดีจำนวนมากเช่น โอเพนออฟฟิศ (ใช้งานแทนไมโครซอฟท์ออฟฟิส), GIMP (ใช้งานแทน Photoshop), และ NVU (ใช้สร้างเว็บ) ถ้าโรงเรียนเริ่มมองเทคโนโลที่กว้างขึ้น เราจะสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองพร้อมๆ กับลดความสับสนเนื่องจากความไม่เข้ากันของไฟล์เอกสารไปได้ (และผู้ปกครองคนไหนบ้างจะไม่ตื่นเต้นหากพวกเขาพบว่าไม่ต้องจ่ายเงินนับพันนับหมื่นเพื่อซื้อไมโครซอฟท์ออฟฟิสเพราะว่าโอเพนออฟฟิศนั้นแจกฟรี)

##การสอนเขียนโปรแกรม
มีภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบโอเพนซอร์สที่จะช่วยสร้างชั้นเรียนเขียนโปรแกรมชั้นเยี่ยมอยู่เป็นจำนวนมาก หากเราสอนเด็กให้พัฒนาโปรแกรมโดยใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะเช่น Visual Basic พวกเขาจะไม่สามารถนำงานกลับไปทำที่บ้านได้ แต่หากเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สแล้ว พวกเขาจะสามารถใช้งานได้ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ยิ่งกว่านั้นขั้นตอนหลักในการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ใช่การเขียนโค้ดใหม่ๆ แต่เป็นการวิเคราะห์และแก้โค้ดเดิมที่มีอยู่แล้ว มีโค้ดจากโครงการโอเพนซอร์สจำนวนมากที่ถูกเขียนขึ้นอย่างดีเยี่ยมและพร้อมใช้ศึกษาและปรับปรุงได้ตลอดเวลา เช่นครู Jeff Elkner ที่ใช้งานภาษา Python ในห้องเรียนของเขาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543

ขอบคุณครั

thep Fri, 09/14/2007 - 16:06

ขอบคุณครับ อ่านสำนวนแปลแล้ว คิดถูกแล้วที่ผมไม่แปลเอง :)

มีความเห็นนิดหน่อยครับ:

- ลิงก์หาย เช่น ลิงก์ไป LTSP, theopencd, python course คิดว่าควรจะใส่ไว้ เพื่อที่ HTML version ก็ยังลิงก์ไปได้ - "ออฟฟิส" กับ "ออฟฟิศ" ทำไมสะกดต่างกันระหว่าง "ไมโครซอฟท์ออฟฟิส" กับ "โอเพนออฟฟิศ" ครับ? ผมคิดว่าน่าจะสะกดเป็น "ออฟฟิศ" ให้เหมือนกัน - "ในปี พ.ศ. 2532, ไมโครซอฟท์ได้วางตลาดไมโครซอฟท์ออฟฟิสเวอร์ชั่นแรกๆ สู่ตลาด ในตอนนี้เองมีผู้คนนับล้านที่ไม่ได้เรียนซอฟต์แวร์ตัวนี้ในโรงเรียนแต่อย่าง ใดก็สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ตัวนี้ในการทำงานอยู่ทุกวัน" อ่านต้นฉบับผมเข้าใจว่าเขาจะยกตัวอย่างว่าปัจจุบันคือความล้าสมัย แต่เทรนด์ใหม่คืออนาคต โดยยกตัวอย่างว่าตอนปี 2532 MS Office ออก แต่ผู้ที่เรียนในโรงเรียนอยู่ตอนนั้น ตอนนี้เรียนจบกันหมดแล้ว และใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นการยกตัวอย่างเงื่อนเวลา ว่ากว่าเด็กจะจบออกมาทำงาน ซอฟต์แวร์ที่เพิ่งออกตอนนั้นก็ดังพอดี ไม่ใช่จะบอกว่า ไม่ต้องเรียนก็ใช้เป็น (ผมคนหนึ่งที่ขอยืนยันว่า การใช้เวิร์ด "เป็น" นั้น ต้องเรียนครับ ยิ่งเป็น WYSIWYG ยิ่งทำให้เด็กหลงคิดว่าตัวเองใช้ "เป็น" ทั้งที่ผิดหลักได้ง่าย ถ้าไม่เรียนภาคทฤษฎีประกอบ ผู้ใหญ่หลายคนก็เป็น) หลังจากปรับให้เป็นการพูดถึงเงื่อนเวลาแล้ว จึงจะสอดคล้องกับหัวเรื่อง และเนื้อความถัดมาที่ว่า ไม่มีเหตุผลที่จะไม่สอนโอเพนออฟฟิศที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในขณะนี้ - "ไดร์ฟ" ควรสะกดเป็น "ไดรว์" หรืออย่างน้อยก็ "ไดรฟ์" (ร ควบกล้ำกับ ด แล้วการันต์ที่ตัวท้าย)