Radiohead วงดนตรี Alternative Rock ระดับแนวหน้าจากประเทศอังกฤษ เดิมพันวัดศรัทธาแฟนเพลงกับผลงานอัลบั้มใหม่ "In Rainbows" ซึ่งมีกำหนดการเผยแพร่ผ่านทางช่องทางการดาวน์โหลดทางเว็บไซต์ ในวันที่ 10 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ กับมูลค่าที่แฟนเพลงสามารถเลือกซื้อหาตั้งราคา ได้ตามความต้องการของตนเอง โดยมีมูลค่าขั้นต่ำอยู่ที่ 0.01 ยูโร (ประมาณ 50 สตางค์) รวมค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิตอีก 0.45 ยูโร (ประมาณ 22 บาท)
สำหรับการซื้อขายในรูปแบบการดาวน์โหลดนั้น สิ่งที่แฟนเพลงจะได้รับก็คือแฟ้มข้อมูลผลงานเพลงใหม่ทั้ง 10 เพลง ในอัลบั้ม "In Rainbows"
สำหรับแฟนเพลงที่ต้องการซื้อในรูปแบบเดิมๆ ก็มีชุด Disc Box ราคา 40 ยูโร (ราว 1,950 บาท) ซึ่งจะมาพร้อมกับ แผ่นเสียงหนึ่งแผ่น และ CD สองแผ่น โดยใน CD แผ่นที่ 2 จะเป็นอีก 8 เพลงใหม่ ที่ไม่มีให้พร้อมกับการซื้อแบบดาวน์โหลด ชุด Disc Box จะส่งให้กับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าในวันที่ 3 ธันวาคม โดยที่ผู้ที่ซื้อแบบ Disc Box ก็จะได้รับสิทธิในการดาวน์โหลดเพลง 10 เพลงแรก เช่นเดียวกับผู้ที่ซื้อในรูปแบบการดาวน์โหลดเพียงอย่างเดียวเช่นกัน
Radiohead ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1986 มีผลงานอัลบั้มแรกออกมาในปี 1993 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีแฟนเพลงทั่วโลก เป็นแบบอย่างให้กับวงดนตรีอีกหลายวงในเวลาต่อมา วงดนตรีหัวสมัยใหม่ของไทยอย่าง Modern Dog ในยุคเพลง Alternative ครองเมือง ก็ได้รับอิทธิพลจาก Radiohead มาไม่น้อยเลยทีเดียว
Radiohead หมดสัญญากับค่าย EMI หลังจากผลงานในอัลบั้มที่ 6 จากนั้นวงก็ไม่เซ็นสัญญากับค่ายไหน และเลือกที่จะจัดจำหน่ายผลงานเองผ่านช่องทางดาวน์โหลด และเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งดูเหมือนจะไม่ใช่ก้าวย่างที่ยากเย็นอะไรนัก สำหรับวงดนตรีมากผลงานระดับลายครามอย่างเช่น Radiohead ที่มีพร้อมทั้งผลงานในอดีต แฟนเพลงหลายล้านคนทั่วโลก ที่ยังคงติดตาม และรอคอยที่จะเสพผลงานอย่างเหนียวแน่น
ทั้งนี้รูปแบบแนวคิด ของการขายผลงานเพลง โดยให้ผู้ฟังเป็นผู้กำหนดราคาที่ต้องการซื้อได้เอง ก็ไม่ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ที่พึ่งมี Radiohead ทำเป็นกลุ่มแรก มีศิลปินรายอื่นอย่างเช่น Jane Siberry ได้ทำการตลาดในรูปแบบนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ของเธอมาก่อนตั้งแต่ปี 2005 โดยเธอจะตั้งราคากลางไว้ที่ 0.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 34 บาท) ต่อเพลง แฟนเพลงสามารถเลือกที่จะซื้อที่ราคาที่เธอตั้งไว้ หรือเลือกซื้อที่ราคาที่ต้องการ โดยเลือกว่าจะจ่ายภายหลัง หรือจ่าย ณ ตอนนั้นเลย หรือแม้แต่โหลดฟรีก็ได้ โดยถือว่าเป็นของขวัญจากเธอ ภายในเว็บจะมีข้อมูลเป็นสถิติแสดงเอาไว้ ว่ามีการซื้อขายแบบใดเท่าไหร่บ้าง
ต้องดูกันต่อไป ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของ Radiohead จะส่งผลอะไรกับวงการเพลงบ้างขนาดไหน ทั้งจิตสำนึกของผู้ผลิต และจิตสำนึกของผู้เสพบ้าง หวังว่าคงจะไม่ใช่เป็นเพียงอีกข้ออ้างในการละเมิดลิขสิทธิ์กันหน้าด้านๆ ว่าถ้าทำเพลงดีคนก็ซื้อเอง เพื่ออ้างว่าเพราะเพลงมันห่วยฉันจึงไม่ซื้อของ แต่ฉันก็โหลดมาฟัง และมีมันไว้แจกจ่ายเพื่อนฝูง ... ถ้าเพลงมันห่วย ไม่เสพ ไม่ฟัง ไม่ซื้อ เท่านั้นจบ
ที่มา : Macworld
Comments
ขอตัด title ให้กระชับลงหน่อยนะครับ
ยินดีเลยครับผม ^^
http://www.theryo.com
ท้าทายกิเลสดีแท้..
เมืองไทยจะทำมั่งมั๊ยน๊า ........
ว่าแต่ยังพอใจที่ rs เอา drm ออกไปแระ งิงิ
อยากเห็นอย่างนี้ล่ะ วงดนตรีที่ทำเพลงโดยไร้ผลกระทบจากการเงิน ทุกอย่างมาจากความสร้างสรรค์ล้วน ๆ ไม่ใช่ commercial อย่างหลาย ๆ วงดังที่กลายเป็นแบบนั้นในอัลบั้ม sophomore หรือ junior
@TonsTweetings
ไม่เคยฟังเพลงของวงนี้อะครับ
แต่ว่าถ้าดัง/ดีจริง แล้วเพลงมีเอกลักษณ์เป็นลายเซ็นของตัวเอง (ไม่อ้างว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก xxx , yyy)
แฟนเพลงทั้งหลายอุดหนุนอยู่แล้วแหละครับ ไม่ว่าจะขายด้วยรูปแบบไหน
ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปหาเพลง There There, The bend, Just, 2+2=5, Paranoid Android มาฝังดูสิครับ
วงนี้แม้แต่ Roger Waters แห่ง Pink Floyd ยังบอกว่าบ้าเลย
ทีแรกมีข่าวออกมาว่าทางวงจะไม่ยอมขายเพลงบน iTunes ด้วย เนื่องจากต้องการขายทีเดียวทั้งอัลบัม ไม่แยกขายเป็นเพลงๆ
ตกลงว่าสุดท้ายก็ไม่มีเพลงของ Radiohead ขายบน iTunes เลยนอกจากพวกเพลงที่ประกอบ soundtrack ต่างๆ
Don't think, Just read
pittaya.com
ดี ดีมากๆ เหมาะสมกับยุคสมัยเป็นอย่างยิ่ง ผมคนนึงที่ download เพลงเถื่อนฟังเป็นประจำ เพราะ ไม่คิดว่าราคาเพลงทุกวันนี้เป็นราคาที่ผมจ่ายได้ แม้ว่าจะเพลงละ $1 (เหมือนน้อยสำหรับหลายคน แต่สำหรับผม ผมว่าแพง) และก็เป็นคนนึงที่เป็นแฟน radiohead เจอแบบนี้ผมจ่ายเงินให้ได้เลยทันทีอย่างไม่ต้องลังเล สำหรับ ฐานะอย่างผมแล้ว พอใจจะจ่ายที่ 100 บาทต่ออัลบั้ม
แนวคิดนี้น่าสนใจดีแฮะ เอามาใช้กับเกมจะรอดมั้ยเนี่ย...
———————
คิดๆ ขีดๆ เขียนๆ
LinkedIn
d/l มาแล้ว (ฟรี)
Oakyman.com