ในวารสารวิชาการ Microbial Biotechnology เล่มล่าสุด(PDF) มีรายงานถึงการใช้แบคทีเรีย E. coli ที่ เคยสร้างปัญหาด้านความปลอดภัยกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง มาใช้ในการผลิตพลังงานแหล่งใหม่ โดยทีมงานวิจัยพบว่าเชื้อ E. coli นี้สามารถนำมาใช้ในการผลิตไฮโดรเจนได้เป็นอย่างดี หลังผ่านการคัดและดัดแปลงพันธุ์มาแล้ว
เชื้อ E. coli ที่ได้รับการดัดแปลงนี้จะใช้พลังงานจากน้ำตาลมาสร้างไฮโดรเจน ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะสร้างความเรียบง่ายให้กับการผลิตไฮโดรเจนได้มาก เนื่องจากไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือความร้อนอื่นๆ ในการผลิตไฮโดรเจนตามกระบวนการแบบเดิมๆ ทำให้เราอาจจะสามารถผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนใช้งานกันเองในบ้านได้ในที่สุด
อีกหน่อยกินขนมไม่หมด ก็โยนใส่ถังน้ำมัน อาจจะวิ่งได้อีกหลายกิโล
ที่มา - PhysOrg
Comments
น่าจะเข้าใจผิดนะ เพราะการผลิตน้ำตาลใช้เชื้อเพลิงมากกว่าตอนผลิตพลังงานด้วยแบคอีก ตอนนี้ที่แลบมหิดลเค้าเล็งๆ แบคทีเรียที่คล้ายสาหร่ายชนิดหนึ่งใช้การสังเคราะห์ด้วยแสงหรือเลี้ยงด้วยน้ำเสียจากโรงงานอาหารมาผลิตเซลล์เชื้อเพลิงเอา
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
อาจใช้น้ำตาลจำนวนน้อยแล้วสร้างได้เยอะ ก็ได้ ถ้าได้จริงก็ดี
หมายถึงขั้นตอนการสร้างไฮโดรเจน ที่ปกติต้องใช้พลังงานสูงในการแยกออกมาจากน้ำ ดังนั้นการให้น้ำตาลที่ใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าไฮโดรเจนกับแบคทีเรียเพื่อผลิตไฮโดรเจน น่าจะคุ้มกว่าหรือเปล่าครับ
Little RX
My Twitter
ผมไม่ได้เทียบวิธีการใช้ไฟฟ้าแยก ไฮโดรเจนออกมาจากออกซิเจนครับ แต่พูดถึงว่ากระบวนการผลิตต้ำตาลต้องใช้พลังงานสูง เมื่อเทียบกลับในการนำน้ำตาลมาเลี้ยง E.coli แล้วอาจจะไม่คุ้มกับที่เสียไปก็ได้ ผมเคยทำโปรเจคนี้มา พบว่าหลายๆปัญหาทางเทคนิคยังแก้ไม่ได้ เช่นขนาด fermenter, hydrogen yield, rate of production และ สาร by product ที่เกิดระหว่างการให้ไฮโดรเจนซึ่งจะไปยับยั้งเอมไซม์ nitrogenase และ Hydrogenase ให้หยุดทำงาน ซึ่งยังไม่คุ้มที่จะลงทุนทำโรงงาน และยังไม่มีโมเดลซึ่งมีชีวิตไหนที่สมบูรณ์ในการผลิตไฮโดรเจน แต่ที่นักจุลชีววิทยามองกันคือการหาแบคทีเรียนที่มีอัตราการสังเคราะห์ไฮโดรเจนสูง ใช้กากของเสียจากโรงงานหรือสังเคราะห์ด้วยแสงเป็นอาหารได้ และมีอัตราการผลิตไฮโดรเจนสมำ่เสมอ
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
ผมแอบสงสัยนิดนึงครับ ว่าถ้าตัว E.Coli ในข่าวที่โดนดัดแปลง DNA โดยลบยีนออกไป 6 ตัว มันจะมีโอกาสแก้ไขปัญหาด้านเทคนิคที่คุณบอกมาได้รึเปล่าครับ?
ปัญหาไหนครับ ต้องระบุมา เพราะ ลบยีนแค่ 6 ตัวต้องรู้ว่ายีนไหนด้วยครับ ตามคำ jurassic park ชีวิตย่อมมีหนทางของมันเองครับ
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
ใช้สิ่งมีชีวิต กำเนิดพลังงานมาให้เราใช้!! ... ถ้าทำได้สำเร็จจริงๆ อีกหน่อยคงเลี้ยงเป็นฟาร์มเลย เพื่อที่จะได้พลังงานจำนวนมหาศาล
Matrix!?
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
คิดเหมือนผมเลย!
+1
หวังว่าคงไม่มีเด็กๆซน ตักทรายใส่ช่องอาหารแบคทีเรียเล่น
คงจะเป็นอย่างที่คุณ molecularck ว่า
แบบที่ใช้ได้คุ้มค่าทางเศรษฐกิจคงยังไม่เห็นในเร็วๆนี้
ว่าแต่ E. coli ทั่วไปนี่มันอันตรายตรงไหน ถ้าสายพันธ์ุปกติมีอยู่แล้วในลำไส้ของทุกๆคน (นอกจากสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรค)
ปล. ผมนึกถึง Back to the future มากกว่า
E.coli O157H7 is dangerous
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
แล้วพวกนี้มันต้องดูแลขนาดไหนครับ ... ใช้งานได้หนักจริงหรือเปล่าครับ ? แล้วก็มันตายได้หรือไม่ ? มันแปลงตัวเองให้ดูดสารอาหารมากขึ้น + น้อยลงได้หรือไม่ ?
น่ารู้ครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
:: Take minimum, Give Maximum ::
อดัมครับ พวกนี้ไม่ต้องดูแล ประคบประหงมมาก มันทรหดอดทน พอดู มันตายได้แต่ก็เกิดใหม่เร็ว เกิดแบบ 2 ยกกำลัง n เลย ส่วนแปลงตัวเองให้ดูดสารอาหารมากขึ้นหรือน้อยลงนั้นได้คงที่ครับ ส่วนใช้งานหนักนั้น ถ้าแก้ปัญหาด้าน substrate & by product inhibition ได้ก็ใช้ได้จริงเลยครับ
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
งานนี้คนเขียนข่าวขออ่านเก็บข้อมูลครับ คนรู้จริงมาแล้ว.... :D
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw