Ask.com ล้มเลิกความพยายามที่จะแข่งกับ Google ในการเป็นผู้นำด้าน Search Engine และจะมุ่งไปยังตลาดที่แคบกว่า เช่น ผู้หญิงที่มีครอบครัว โดยจะปลดพนักงานออกประมาณ 40 คน หรือ 8 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด บริษัทจะกลับไปยังจุดเริ่มต้น โดยมุ่งเน้นเรื่องการหาคำตอบให้กับคำถามทั่วไป เกี่ยวกับเคล็ดลับ ตำราอาหาร งานอดิเรก และการบ้านของเด็กๆ
Ask เป็น search engine อันดับ 5 ในอเมริกา ซึ่งมีส่วนแบ่งเพียง 4.5 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ Google ซึ่งครองอยู่ 58.5 เปอร์เซนต์ "ไม่ว่า Ask จะทำยังไงก็ตาม มันไม่มีทางเพียงพอ ที่จะทำให้คนเปลี่ยนใจจาก Google" Chris Winfield ที่ปรึกษาทางด้าน search engine กล่าว
Ask ตั้งขึ้นในปีคศ. 1996 โดยมีเป้าหมายจะเป็น search engine ที่สามารถค้นหาคำตอบได้จากประโยคคำถาม แทนที่จะค้นหาออกเป็นคำศัพท์ในประโยค แต่ผลลัพธ์ในภายหลัง Ask ถูกเรียกว่า AskJeeves เพราะการแปลคำถามผิดๆ และให้แต่คำตอบไร้สาระออกมา ทำให้ Ask ถูกเยาะเย้ยไปในวงกว้าง
หลังจากการลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ซับซ้อนขึ้น Ask พยายามเปลี่ยนตัวเอง ให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้ Google แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
ที่มา - New York Times
Comments
เคยลองใช้ ask ควบคู่กับ google อยู่พักนึง
คำค้นเดียวกัน ask ไม่สามารถให้ผลคำตอบที่ใช้งานได้ แต่ขยะน้อยกว่า google มาก
“ไม่ว่า Ask จะทำยังไงก็ตาม มันไม่มีทางเพียงพอ ที่จะทำให้คนเปลี่ยนใจจาก Google” Chris Winfield ที่ปรึกษาทางด้าน search engine กล่าว
ขึ้นบรรทัดใหม่มั้ยครับ น่าจะอ่านง่ายขึ้น
ทุนไม่หนาพอที่จะวิจัยต่อ?
PoomK
ณ เวลานี้ ผมยอมรับว่าไม่มีอะไรมาสู้ google ได้เลยครับ
อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของผมคนนึง :)
ระบบ qa เสี่ยงกับการแปลคำถามผิดคงต้องรอระบบ semantic ให้ดีขึ้น และการที่ให้ผลลัพธ์ว่าไม่มี น่าจะดีกว่าให้คำตอบที่ผิด
ขอ Jeeves กลับมา
เป็นอีกหนึ่ง case study ของการพยายามแหวกแนวจากตลาด แต่ใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่มีประสิทธิภาพพอ
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
นึกถึง อับดุล ของเนคเทค
Kohsija
เมื่อก่อนเคยแค่ใช้เล่นสนุกๆ แค่นั้น มันเอามาใช้งานจริงๆ จังๆ ไม่ได้ ไม่ตายไม่เลิก