โครงการ Moonlight เป็นโครงการย่อยของทีมงาน Mono เพื่อสร้างรันไทม์แบบโอเพนซอร์สสำหรับ Silverlight บนลินุกซ์ Blognone เคยนำเสนอเรื่องนี้ไปแล้วโดยคุณ phisite ซึ่งตามไปอ่านได้ใน ทดลองติดตั้ง Moonlight บน Ubuntu 7.04
ในบทความนั้นเป็นการทดสอบ Moonlight รุ่นระหว่างการพัฒนา โดยต้องดึงซอร์สมาจาก SVN ของ Mono โดยตรง ตอนนี้เวลาผ่านมาเกือบปี Moonlight ได้พัฒนามาถึงระดับที่เริ่มแจกจ่ายให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบแล้ว โดยเรียกเวอร์ชันเป็น 0.6
Moonlight 0.6 มีทั้งแบบที่สนับสนุน Silverlight 1.0 และ 2.0 (แยกแพกเกจกัน) สิ่งที่ยังขาดไปคือไม่มี codec สำหรับถอดรหัสวิดีโอ (นั่นคือสนับสนุนเฉพาะ Silverlight ที่เป็น WPF/E อย่างเดียว ไม่มีวิดีโอ) และมีปัญหานิดหน่อยกับ Firefox 3 ซึ่งแก้ได้ด้วย GreaseMonkey การติดตั้งนั้นทำเป็นไฟล์ .xpi มาให้เรียบร้อย ลงเหมือน Firefox Extension ทั่วไป
ที่มา - Moonlight, Miguel de Icaza's web log
ข่าวแถมอีกอันคือ นักพัฒนาของ Mono ได้สนับสนุน API ของ Win.Forms 2.0 ครบทุกเมธอดแล้ว (ทั้งหมด 12,776 เมธอด) อีกไม่นานเราคงได้เห็น Mono 2.0 ที่สนับสนุน Win.Forms 2.0 อย่างเต็มที่ และแปลว่าการพอร์ตแอพพลิเคชันที่เป็น .NET มาบน Mono จะเกิดอย่างจริงจังเสียที (Paint.NET บนลินุกซ์?)
ที่มา - Code Monkey, Mono's Winforms 2.0 is now API Complete
Comments
ต้องขอโทษสาวก Java ด้วยที่จะพูดอย่างนี้
Microsoft .NET ใกล้จะก้าวล้ำไปกว่า Java แล้วนะนี่...
แต่ผมว่าก็ดีนะ จะได้ช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนาฟีเจอร์ของฝาก Java ด้วย
อย่างนี้เราก็สามารถที่จะเอา Application ที่เขียนด้วย VB ไป Run บน Linux ได้แล้วหรอครับถ้าได้เป็นข่าวที่ดีมากๆเลยครับ
ตั้งตารอคับผม สาวกjavaอย่างผมก็อยากคับ
โอ้วอึ้งกับข่าวแถมอย่างนี้ก็ไกล้เคียงกับ Java แล้วสิ one complied to any platform และ SilverLight ก็ใช้บน Linux ได้แล้ว อือหือแฮะ คงไม่ต้องไปศึกษาตัวอื่นเพิ่มเติมแล้ว ลงลึก SilverLight ตัวเดียวก็พอแล้วดีไม่เหนื่อยด้วย โย่ว
© NgOrXz ™ ®
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เก่งที่สุดในโลก
ผมคิดว่าสมัยนี้แล้วคงไม่มีใครเป็นสาวกค่ายไหนหรอกจริงไหม
อะไรที่ดีและเหมาะกับงาน ใช้เวลาศึกษาไม่นานก็นำมาใช้
ผมเองก็เบื่อที่จะต้องลง JRE เวอร์ชั่นต่างๆเพื่อรองรับ Applet
ถ้าผู้ใช้งานเป็นคนในองค์กรณ์ก็ว่าไปอย่าง แต่สำหรับ Internet แล้ว
เราคงต้องตามใจผู้ใช้งาน แม้จะถูกเรียกว่าพวกมากลากไปก็ตาม
เพราะคนแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด
แย้งเรื่องสาวก ขอยกตัวอย่างสาวกแม็ค เป็นต้น
เรื่องความเหมาะสมกับงานนั่นก็เห็นด้วยครับ แต่ไม่ทั้งหมด
หลายองค์กรเลือก Java ไม่ใช่เพราะเหมาะสมที่สุดหรือพัฒนาได้เร็วที่สุด
แต่เค้าถือว่า ถ้าทนเรียนทนทำความเข้าใจกับมันได้ ก็เท่ากับว่าได้ผ่านการคัดกรองคุณภาพมาระดับนึงแล้ว
.NET แหล่มกว่า Java ตรงนี้ ตรงที่จะเอาแบบง่ายๆ รวดเร็วทันใจ เขียนไปไม่ต้องคิดมาก เราก็ทำได้ หรือจะเอาแบบถูกคอนเซ็ปออกแบบมีโครงสร้างมั่นคง เราก็ทำได้เช่นกัน
แถม
๋Java บอก Write Once .. (debug before) Run everywhere... โดยใช้ JVM
.NET ก็มี .NET Framework + Mono ที่รัน Almost everywhere แล้วเหมือนกัน
ถ้าคุณพูดถึงฝั่ง client ล่ะก็ Java (โดยเฉพาะ Applet) คงยากที่จะตามทันครับเพราะปัญหาอันน่ารำคาญอย่างที่ผมบอก
แต่สำหรับฝั่ง Server นั้นคุณลองถามผู้บริหารของ IBM, BEA, Oracle ดูละกันว่าทำไม
ถึงใช้ Java ผมยังไม่ได้พูดถึง SUN และ Opensource ต่างๆอีกมาก
ปล.ผมไม่ใช่สาวก Java ครับมันก็แค่ tool ที่เอาไว้เลี้ยงปากท้องแค่นั้นเอง