หลังจากกูเกิลได้เปิดตัวบริการใหม่ Google Health บริการช่วยเก็บบันทึกข้อมูลสุขภาพของตัวคุณ ไปเมื่อวานนี้ ผมได้ลองใช้แล้วคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่คิดจะเก็บข้อมูลสุขภาพไว้กับตัวเอง ผมเลยลองเขียนแนะนำการใช้งานเบื้องต้นพร้อมภาพประกอบ ให้ดูว่าการใช้งานเบื้องต้น และข้อมูลที่ต้องกรอกเบื้องต้นมีอะไรบ้างครับ
การใช้งานเริ่มจากเข้าไปที่ Google Health โดยผู้ที่มีบัญชีผู้ใช้ของกูเกิลอยู่แล้ว สามารถล็อกอินเพื่อเข้าใช้ได้เลย โดยหน้าแรกที่เข้าไปจะเป็นแบบนี้
ด้านซ้ายมือคือเมนูเพื่อเข้าถึงส่วนต่างๆ ในโปรไฟล์
ตรงกลางคือคำสั่งหลักประกอบด้วย
ด้านล่างของคำสั่งหลักจะเป็น บริการจากเว็บอื่น ที่เชื่อมอยู่กับโพรไฟล์ของเรา
และด้านขวาสุดจะเป็นสรุปข้อมูลต่างๆ ที่เรากรอกเข้าไป (จะเห็นว่าเว็บคำนวณอายุ และ BMI มาให้เลย) ซึ่งเราสามารถพิมพ์สรุปข้อมูลของเราออกมาตามรูปข้างล่าง เพื่อพกติดตัวกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน แพทย์ที่ทำการรักษาจะได้ทราบประวัติของเราได้ทันที
แต่ก่อนที่จะได้ข้อมูลแบบด้านบน เราจะต้องกรอกข้อมูลที่จำเป็นลงไปก่อน โดยเข้าไปที่ Profile details
ข้อมูลที่ต้องกรอกลงไป ประกอบด้วย
หลังจากกรอกข้อมูลส่วนตัวเสร็จ ต่อไปจะเป็นการใส่ประวัติการรักษาของเรา Add to this profile
จากหน้าจอนี้เราสามารถใส่ชื่อโรคที่เป็นอยู่ หรือเคยเป็น ประวัติการใช้ยา การแพ้ยา การทำหัตถการ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการได้รับวัคซีน โดยการเลือกแท็บที่ต้องการ
เราสามารถค้นหาชื่อโรค หรือยา จากกล่องข้อความ หรือเลือกจากรายชื่อด้านล่างก็ได้ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานด้านการแพทย์ ในการที่จะใส่ข้อมูลลงไป ในขั้นต้นผมแนะนำหน้ารวมรายชื่อโรค และยา ของวิกิพีเดียที่อาจช่วยคุณได้ ถ้ายังไม่ได้คงต้องพึ่งกูเกิล หรือปรึกษากับแพทย์ที่ให้การรักษาคุณ
โดยการใส่ข้อมูลตรงนี้เข้าไป จะเป็นแค่การใส่ชื่อเข้าไป ยังไม่ได้มีการใส่รายละเอียด เราจะต้องเลือกที่ Condition ทางด้านซ้ายมือ เพื่อเข้าไปใส่รายละเอียดเพิ่มเติม
ข้อมูลที่ต้องใส่ประกอบด้วย วันที่เริ่ม และสิ้นสุดการเป็นโรค สถานะของโรคว่าหายแล้ว หรือยังเป็นอยู่ และบันทึกเพิ่มเติม
ส่วนประวัติการใช้ยา และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ เราจะต้องเข้าไปที่ Medications และ Test results ทางด้านซ้ายมือ เพื่อเข้าไปใส่รายละเอียดเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน
ประวัติการใช้ยาที่เราต้องใส่ประกอบด้วย จำนวนเม็ดที่กินต่อมื้อ ขนาดยาต่อเม็ด จำนวนมื้อที่กินใน 1 วัน วันที่เริ่ม และสิ้นสุดการใช้ยา สถานะของยาว่ากำลังใช้อยู่ หรือไม่ได้ใช้แล้ว
ผลทางห้องปฏิบัติการ เราก็ใส่ชื่อการทดสอบ ค่าที่ได้ และวันที่ทำการทดสอบหรือตรวจวัด
ส่วนข้อมูลที่เหลือเช่น การแพ้ยา การได้รับวัคซีน ก็ใส่แค่วันที่เกิดเหตุการณ์ และบันทึกรายละเอียดเพิ่มเท่านั้น
หลังจากที่ใส่ข้อมูลครบแล้ว ก็ลองมาใช้บริการของเว็บพันธมิตรเหล่านี้ดู
โดยผมลองได้ลองใช้บริการของ ePillBox.info เพื่อสร้างตารางการใช้ยา ได้ออกมาหน้าตาแบบนี้
บริการอื่นๆ ที่มีให้ใช้อย่าง การคำนวณความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด การตรวจสอบการได้รับวัคซีนว่าครบหรือไม่ ก็มี ถ้าสนใจก็ไปลองใช้งานดูได้ครับ
จบแล้ว สำหรับแนะนำการใช้งานเบื้องต้น ใครที่อ่านแล้วคิดว่าใช้งานยาก ลองใช้ดูเอง แล้วจะเข้าใจได้ดีขึ้นครับ
รีวิว: TechCrunch
Comments
วันไหนว่างแล้วจะลองดูครับ ... แล้วเดี๋ยวจะไปขอ Record ทั้งหมดจากโรงพยาบาลมากรอกลงไปด้วยครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
:: Take minimum, Give Maximum ::
google everywhere everything
meddlesome.tech.blog
คิดว่าเรื่องแบบนี้ซักพักโรงพยาบาลไทยต้องออกมาสนับสนุน (โรงพยาบาลในที่นี้คือ Bumrungrad International)
@TonsTweetings
ถ้า BH จะสนับสนุน น่าจะเลือกใช้ HealthVault ของไมโครซอฟท์มากกว่านะ
Little RX
My Twitter
ว่าแต่เวชระเบียนผมอยู่ที่ไหนบ้างเนี่ย
ไม่ได้ไปหาหมอมาเป็นสิบปีแล้วมั้ง
ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ติดต่อกับโรงพยาบา่ลเกิน 5 ปีเค้าก็จะทำลายเวชระเบียนทิ้งครับ
ได้ Wii Fit แล้ว เย้!!
We need to learn to forgive but not forget...
ขอบคุณมากครับ ว่างๆ จะลองกรอกดู แต่จำอะไรไม่ได้เลย -_-"
ผมว่าในบ้านเรา
คนที่มีข้อมูลที่น่ากรอก .. ใช้อินเทอร์เน็ตไม่เป็น
คนที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็น .. ไม่มีข้อมูลอะไรให้กรอก อิอิ
อ่า ขอบคุณมากครับ ลองไปล่ะนิดหน่อย ไม่ค่อยมีอะไรให้กรอกเลยอ่ะครับ
แต่จะว่าไป ก็กล้าๆ กลัวๆ เหมือนกันนะนี่
---------- iPAtS
iPAtS
เรามี แต่กรอกไม่ถูก อ่านไม่ออก แถมศัพท์การแพทย์อีก -_-'
แต่ที่แกไม่มีให้กรอกนี่ เพราะไม่ยอมไปหาหมอมากกว่ามั้ง อิอิ
ให้หมอกรอกให้ได้รึเปล่าครับเนี้ย - -''
เยอะมากอ่ะ กรอกไปถูก เดี๋ยวถ้าหาแฟนเป็นหมอได้ แล้วค่อยมากรอกใหม่ละกัน...
Lastest Science News @Jusci.net
Lastest Science News @Jusci.net
ได้แฟนเป็นหมอ หมอไม่ได้มากรอกให้นะ แต่อาจจะโดนหมอสั่งให้กรอก - -"
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ยอมครับ ยังไงก็ยอม ^_^
ยอมเหมือนกัน
Lastest Science News @Jusci.net
Lastest Science News @Jusci.net
กลัวหมอฟัน