วารสารทางการแพทย์ Journal of Trauma เดือนมิถุนายน ได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับผลการใช้สารทดแทนเลือด ในระยะที่ 3 (Phase III) เป็นครั้งแรก
การทดลองนี้ นำโดย UCLA ทำการเปรียบเทียบการใช้สารทดแทนเลือด กับเลือดปกติที่ได้จากการบริจาค ในประเทศสหรัฐอเมริกา อัฟริกาใต้ และทวีปยุโรป เป็นเวลา 6 สัปดาห์ โดยมีผู้ป่วยเข้าร่วมในการวิจัยนี้เป็นจำนวน 688 คน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedic surgery) และจำเป็นต้องได้รับเลือด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับเลือดตามปกติ 358 คน และกลุ่มที่ได้รับสารทดแทนเลือดนี้ 350 คน
สารทดแทนเลือด ที่มีชื่อว่า HBOC-201 นี้ ผลิตโดยบริษัท Biopure Corporation โดยทำการสกัดจากวัว ข้อดีของ HBOC-201 นี้คือ สามารถเก็บไว้ได้ 3 ปีที่อุณหภูมิห้อง และไม่จำเป็นต้องทำการตรวจความเข้ากันได้กับเลือดของผู้ป่วย (cross-matched)
การวิจัยครั้งนี้พบว่า การใช้ HBOC-201 สามารถลดความจำเป็นในการใช้เลือดลงได้ 59% โดยที่สามารถให้ผลการรักษาที่ดีได้ ในกลุ่มคนไข้ที่มีอายุน้อยกว่า 80 ปี
ส่วนผลข้างเคียงนั้น พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ได้รับ HBOC-201 (5%) เทียบกับ ผู้ป่วยที่ได้รับเลือด (3%) ในกลุ่มที่ต้องการเลือดปริมาณมาก (ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ) ส่วนความผิดปกติอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายที่พบก็คือ สีผิวมีการเปลี่ยนแปลง ความดันเลือดสูงขึ้น และความผิดปกติของเอนไซม์ในเลือดบางชนิด
จากผลวิจัยนี้ ผู้วิจัยมีความเห็นว่า HBOC-201 นี้มีประโยชน์ในกรณีที่ไม่สามารถให้เลือดกับผู้ป่วยได้ เนื่องจากภาวะเม็ดเลือดแดงแตกจากระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ และผู้นับถือบางศาสนาที่ไม่สามารถรับเลือดจากผู้อื่นได้
ความพยายามในการคิดค้นสารทดแทนเลือด เกิดขึ้นจากความขาดแคลนเลือดในการใช้รักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่มา Journal of Trauma, Physorg
Comments
มีศาสนาที่ห้ามรับเลือดจากคนอื่นด้วยเหรอเนี่ย?
pittaya.com
pittaya.com
น่าจะมีนะ คนเราคิดอะไรแปลก ๆ ได้เยอะแยะสารพัด
au8ust.org
เท่าที่ทราบ มีศาสนา Jehovah's witnesses ครับ ที่ปฏิเสธการรับเลือดทุกชนิด
รับไปรับมากลายเป็นซอมบี้เฉยเลย -_-'
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
งี้พวก Vampires ก็มีของกินให้เลือกมากขึ้นซิ...
T Virus
เอ แต่ผมได้อ่าน paper อีกอันที่กล่าวถึงพวก blood substitute นี่พบว่าพวก blood substitute นี่กลับทำให้เพิ่มโอกาสของหัวใจขาดเลือด และเพิ่มอัตราการตาย จนมีคนมาบอกว่าให้เลิกทดลองพวก blood substitute นี่ได้แล้ว นะครับเนี่ย
ผมคิดว่าที่ยังมีการทดลองเหล่านี้อยู่ เพราะบางครั้ง การพึ่งพาการบริจาคเลือดอยู่ทำให้เราขาดแคลนเลือด หรือหมู่เลือดบางหมู่ในบางช่วงครับ การที่เรามีแผน B เอาไว้ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะครับ (ยังไงเลือดจริง ๆ ก็น่าจะดีกว่า แต่เราจะมีเตรียมพร้อมไว้เพียงพอ ในทุกกรณีหรือเปล่า?)
ถ้าการคิดค้นทำให้เราได้สิ่งใหม่ ที่สามารถใช้งานได้ดีขึ้น มีผลข้างเคียงน้อยลง ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลนเลือดเมื่อไหร่ ผมว่าก็น่าจะเป็นการดีนะครับ
--
When a distinguished but elderly scientist states that something is possible, he is almost certainly right. When he states that something is impossible, he is very probably wrong. -- Arthur C. Clarke
แต่มันกลับทำให้สิทธิของผู้ถูกทดลอง (คนไข้ที่จำเป็นต้องรับเลือดจริงๆ) ลดลงน่ะซิครับ เพราะการทดลองนี้ทำในคน ไม่ได้ทำในสัตว์
ผมคิดว่า ถ้าหลุดมาถึง Phase III ได้ คงต้องมีดีบ้างน่ะครับ
ที่มีดีมากที่สุด คือเงินไงครับ ^^
เพราะคนที่ทำ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่ได้จาก บริษัทยา
มองโลกในแง่ร้ายจังครับ...
ผมรู้สึกว่า เทคโนโลยีต่าง ๆ ในปัจจุบันแทบทั้งหมด ก็ถูกขับเคลื่อนด้วยเงินทั้งนั้น แต่ด้วยเป้าหมายที่เป็นการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของคน
ในกรณีนี้ ถ้าจะมีที่ใช้ ก็คงเป็นภาวะที่เลือดขาดแคลนหรือ โรคที่ไม่สามารถให้เลือดโดยตรงได้ครับ
แต่จะให้ดีเหมือนเลือดจริง ๆ ผมว่าก็คงยาก
แต่มีทางเลือกเอาไว้ ก็คงดีกว่าไม่มีมังครับ
โอ้ The Bicentennial man จะเป็นจริงเหรอเนี่ย
แปลกดี อีกหน่อยคงมีเนื้อสัตว์เทียม
เซลล์เม็ดเลือดแดงมีรายละเอียดเยอะ เราจะทำเซลล์เม็ดเลือดแดงเทียมทั้งแบบ ABO และแบบ RH ได้หมดเลยเหรอเนี่ย? น่าคิด
Mr. PeeTai
คือเราไม่ได้สร้างเม็ดเลือดแดงนะครับ
เราสร้างสารที่ส่งออกซิเจนได้คล้ายเม็ดเลือดแดง ต่างหากครับ
เพราะฉะนั้น มันก็จะไม่ได้มีกรุ๊ป ABO Rh แบบเม็ดเลือดแดงครับ (กรุ๊ปเลือด ก็คือ tag บนเม็ดเลือดนั่นแหละ)