ถ้าเราจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศแห่งชาติ (NII) โครงสร้างนี้ควรมีหน้าตาอย่างไร? คนส่วนใหญ่จะเริ่มนึกถึงอินเตอร์เน็ต ไวร์เลส ไวร์ไฟร์ 3G วาง fiber optic ผมก็คิดว่าน่าจะคิดกลับกัน เหมือนเราจะสร้างบ้าน คิดกันก่อนว่าเวลาอยู่อยากให้มีห้องไหนไว้ทำอะไร แล้วค่อยดูว่ามีวัสดุและเทคนิคการสร้างบ้านอย่างไร ดังนั้นผมขอให้เราคิดถึง เจ้า NII ในเชิงขีดความสามารถ (Capability)และการประยุกต์ใช้ก่อนครับ ก่อนครับ แล้วมาดูเทคโนโลยีว่าจะใช้อะไรสร้าง มองเป็นการคิดแบบ usability driven และ top down ไม่ใช่ technology driven แบบเก่าๆที่ลงท้ายทำให้ซื้อของมาเล่นนักต่อนัก
เอาว่าผมจะมองแบบของผมอย่างนี้แล้วกัน ให้สมมุติว่า ในที่สุดเรามีรัฐบาลอุดมคติที่คนมีความสามารถครองเมือง และเขาเข้าใจว่าการลงทุนที่สำคัญ คือการสร้างปัญญาให้ประเทศ ทำให้คนจำนวนมากฉลาด เราก็ได้เงินมาทำโครงการทำนองนี้จนประเทศไทยมีระบบ NII ดีเยี่ยม คนไทยจะใช้ระบบนี้พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างไรบ้าง ระบบต้องทำให้คนไทยสามารถ รอบรู้และเรียนรู้ วิเคราะห์และสังเคราะห สื่อสารและร่วมมือ เข้าสู่สาระและสารพันบันเทิงได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นระบบนี้จึงต้องเป็นระบบที่
เกิดมาต้องมี IT space ให้เล่นแบบ facebook รัฐบริการแต่สร้าง API ให้มีบริการเสริมได้
โครงสร้างเหล่านี้จะส่งผลดีอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาประเทศเพราะจะเอื้อให้คนไทยทั้งชาติสร้างและใช้ความรู้ทั่วโลก นอกจากนั้นยังมีศักยภาพจะก่อเกิดบริการและธุรกิจใหม่ๆ
ถึงเวลาแล้วที่เราควรตะโกนดังๆว่าคนไทยต้องรุดหน้ามีระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศที่ก้าวหน้าและรองรับความคิดและจินตนาการของคนไทยเสียที
Comments
มาเกาะขอบจอ รออ่านด้วยคน
อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะครับอาจารย์ :-)
เรื่องถนน ตอนนี้มีของ Uninet ที่กำลังทำเส้นทาง 10Gbps x 2 ไปยัง ม.ต่างๆ ที่เป็น POP ตามภูมิภาค เช่น มข. มช. มก. ....
โดยมี 10Gbps 2 ท่อวิ่งอิสระต่อกัน ท่อหนึ่ง เป็น Internet อีกท่อ ใช้ในงานวิจัย
ส่วน ม.อื่นๆ ตามจังหวัดเล็กๆ ก็ลุ้นต่อไปว่าจะได้งบประมาณสำหรับ ท่อ ขนาด 1Gbps เชื่อมไปยัง POP เหล่านี้หรือไม่
สรุป - 10Gbps กำลังดำเนินการ ไปตาม POP ของ Uninet ส่วนใหญ่ผ่าน Fiber ของการไฟฟ้า และการเพิ่มควมเร็ว ทำได้โดยการเปลี่ยนอุปกรณ์หัวท้าย(เพราะ Uninet เช่ามาแต่ Fiber ส่วน DWDM ทาง Uninet ลงทุนเอง) - 1Gbps สำหรับ Access Node เช่น ม.ราชภัฏ, ม.ราชมงคง ... กำลังทำงบประมาณ/ของบประมาณ ก็ต้องลุ้นกันต่อไปสำหรับลูกเมียน้อย //wink
ครับ ผมว่าที่ทำมาเป็นจุดเริ่มที่ดีมากๆ
อย่างไรก็ตาม อยากเพิ่มเติมว่า โครงสร้างไอทีแห่งชาติ หรือ National Information Infrastructure นั้น มันมากกว่านั้นครับ ถนน ถ้าไม่มีรถ ไม่มีหมู่บ้าน ตลาด โรงเรียน มันไม่เกิดเป็นเมือง เป็นสังคม ฉันใด เครือข่ายที่ ไม่มีโครงสร้างการประมวลผล การเก็บข้อมูล บริการต่างๆ และเนื้อหา ย่อมไม่เกิดประโยชน์
ประเด็น อีกอย่าง คือ ทางฝั่งนักเครือข่ายมักจะมอง bandwidth เป็น raw band width ของสาย ทำให้ดูเร็ว แต่ความจริงแล้ว bandwidth ที่ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์ได้นั้น เป็น effective bandwidth คือต้อง คูณด้วย efficiency ของการส่งผ่านข้อมูลครับ BWeff = Eff* BWraw. ตอนนี้ เครือข่ายส่วนใหญ่ที่ตรวจวัด ยังขาดการ tune อีกมาก น่าตกใจคือส่วนใหญ่ Eff ต่ำกว่า 40% ครับ ตรงนี้ผมว่าน่าเล่นมากถ้ามีใครมาช่วยทาง uninet ที่ขาดคนมากๆ เราจะได้ส่งข่าวสารกันได้ดีขึ้นครับ
ตอนนี้เองในกลุ่มมหาวิทยาลัย ก็พยายามเอา การจัดการต่างๆ มาช่วยอยู่ครับ รวมถึงเทคโนยีเก่าๆ แต่ไม่ได้ถูก implement ในโลกของ Internet ก็มี เช่น Multicast(IPv4 and IPv6)
IP(v4/6) Multicast จะช่วยเรื่องประสิทธิภาพด้านการขนถ่ายข้อมูลได้มาก โดยเฉพาะด้านการถ่ายถอด Multimedia
อีกด้านที่ทำๆ กันก็มี - HDTV over Multicast ก็น่าตื่นใจมาก ที่ 1 รายการ ซัดไป 30Mbps up ซึ่งตอนนี้หลายๆ ม. ยังวิ่งแค่ 10-20Mbps เอง - DV over IP นี่ก็ 30Mbps(เอา DV มา encap ด้วย IP packet ก่อนส่องไปยังอุปกรณ์ DV ปลายทาง) - Telemed อันนี้ทาง รพ.แพทย์เค้าทำกันอยู่ ผ่าตัด 3D ผ่านทางไกล - เอา Cluster ของแต่ละที่ มาสร้าง GRID แล้วเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน - http://live-e.lru.ac.th/livee/globalsensorlist.php remote sensor ที่เอามาเชื่อมโยงกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมมองจากด้านการใช้ประโยชน์จากถนน
แต่มุมมอง ผู้ใช้ ผมมองว่า คำว่าแห่งชาติ ตอนนี้เราขาดมาตฐานอะไรบางอย่างหรือเปล่า?
เช่น - National CA/PKI - Electronic Data Exchange Format / การรับส่งเอกสาร มี "รูปแบบ" เหมือนกับรูปแบบหนังสือราชการที่เป็นกระดาษแล้วหรือยัง?
และถ้าให้ผมมองในมุมมองนักเครือข่ายอีกครั้ง ผมอยากให้เกิดการสร้างจุดแลกเปลี่ยนข้อมูล ในระดับจังหวัด อำเภอ ด้วย
ไม่ใช่ระหว่างหน่วยงาน แม้อยู่ใกล้ๆ กัน ต้องผ่าน ISP ไปที่ NIX ก่อน มันอ้อมเกินโลกไป
เท่าที่ผมจับความได้คือ Infra ไม่ได้หมายถึงระบบพื้นฐานจริงๆก็ได้ แต่การต่อยอดขึ้นไปก็เป็น Infra ได้ เช่น อาคารสำนักงานเปล่าๆ อาจจะดูไม่มีราคา แต่ถ้าเราตบแต่ง มีระบบ Hispeed Internet + เว็บสำเร็จรูป เลขาเก่งๆ คนแปลภาษา ระบบสื่อสาร VDO Conference เราอาจะทำเป็น Virtual Office ให้ชาวต่างชาติมาเช่าใช้ได้ราคาดี
เป็นการต่อยอดขึ้นไปอีกที แล้วเราคิดขยาย Scale ไปในระดับประเทศโดยดู Demand เป็นหลัก
ไม่ใช่ดู Supply ว่า IT เราอยากทำอะไร หรือทำอะไรได้
รออ่านตอนสามอยู่ครับผม :-)
นายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ
http://webmaster.kapook.com