Samsung เปิดตัว Galaxy S9 และ S9+ มีฟีเจอร์ Animoji ย้ายแป้นสแกนนิ้วไว้ใต้กล้อง มาพร้อมสี ดำ เทา น้ำเงิน ม่วงไลแลค, กล้องคู่ Dual Aperture ที่ทำหน้าที่คล้ายตาคนคือเปิดตากว้างเมื่ออยู่ในที่มืดและตาดำหดเล็กเมื่ออยู่ในที่สว่าง ค่ารูรับแสง f/2.4 และ f/1.5
เพิ่มโหมดภาพถ่าย Super Slow-mo จับภาพได้ 960 เฟรมต่อวินาที สร้างลูกเล่นให้วิดีโอได้เช่น ให้เล่นถอยหลัง เป็นไฟล์ GIF พร้อมใส่เพลงแบคกราวด์ให้อัตโนมัติ และใช้วิดีโอ slow-mo ตั้งเป็นแบคกราวด์โทรศัพท์ได้ ซึ่ง Sony ก็มีฟีเจอร์นี้ใน Xperia เช่นกัน
อีกฟีเจอร์ที่มีข่าวหลุดมาก่อนหน้านี้ และเป็นฟีเจอร์เด่นของ Galxy S9 คือ Animoji กดโหมด Animoji ที่กล้องถ่ายรูปสร้างคาแรกเตอร์อวตาร จัดการเสื้อผ้าหน้าผม ทำให้ขยับตามหน้าผู้ใช้ได้ สามารถแชร์ไฟล์ไปให้เพื่อนๆ ได้
Bixby Vision Live Translation แปลภาษาโดยใช้กล้องจ่อที่ข้อความภาษาต้นทาง และแสดงผลแปลเป็นรูปภาพ
ลำโพงคู่ จูนโดย AKG
เชื่อมต่อ Samsung DeX และเป็นทัชแพดในตัวได้
ราคา Samsung Galaxy S9 719.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 23,000 บาท)ส่วน Galaxy S9+ ราคา 839.99 (ประมาณ 26,500 บาท)
Samsung พยายามผลักดันเทคโนโลยี AR มาก ซึ่งในงานเปิดตัวทางผู้จัดได้กำชับให้ผู้เข้าร่วมติดตั้งแอพ Unpacked เพื่อใช้กล้องจ่อไปที่ภาพเครื่องหมายสัญญาณ Wi-Fi ขนาดใหญ่ในห้องประชุม เพื่อเข้าใช้งาน Wi-Fi โดยไม่ต้องกดพิมพ์รหัสผ่าน ผู้เข้าร่วมยังใช้แอพจ่อที่บัตรเข้าร่วมงาน เปลี่ยนบัตรเป็น Galaxy S9 ในระยะใกล้ได้ด้วย
Comments
อยาก Comment แค่ว่า ตั้งชื่อ S เถอะ ถ้าจะไม่มีอะไรเลยขนาดนี้
Galxy => Galaxy
ราคาแบบนี้ s8 คงร่วงอีก เพราะไม่ต่างกับราคาปัจจุบัน s8 เลย แต่ได้ฟีเจอร์เพิ่มมานิดนึง
เห็นจากทวิตเตอร์
S9 64GB 27,900
S9+ 64GB 31,900
128GB 33,900
256GB 37,900
สงสัยว่าทำกล้อง Aperture คู่มันจะมีประโยชน์อะไรพิเศษหรือเปล่าครับ
เพราะค่า Aperture กว้างๆ มันก็หรี่ให้แคบได้
เท่าที่อ่านตามเว็บมันเป็นการเปลี่ยนรูรับแสงที่เลนส์ระดับฮาร์ดแวร์น่ะครับ สภาพแสงน้อยๆ ก็ F/1.5 แสงปกติก็ F/2.4
ตัวอย่างรูป
https://www.gsmarena.com/the_official_samsung_galaxy_s9_camera_and_video_samples_are_here-news-29814.php
ถ้าผมเข้าใจผิดหรือพูดงงยังไงแย้งได้นะครับ
ผมหมายถึง ถ้ากล้อง S9 เป็น F/1.5 จริงๆแต่ปรับเป็น F/2.4 ได้
กล้อง S9+ เป็น F/1.5 กับ F/2.4 คู่กัน
มันก็ดูซ้ำซ้อนแปลกๆหรือเปล่าครับ
เพราะว่ากล้องที่ Hardware ได้รูรับแสงกว้างสุด F/1.5 มันหรี่เป็น F/2.4 ได้อยู่แล้ว แล้ว S9+ จะใส่มาคู่กันทำไม
อีกเลนส์เป็น tele ซูม 2 เท่าจากเดิน
ส่วน เลนส์ wide ก็ปรับ F ได้สองค่า
ขอบคุณครับ ไปเช็คมาแล้ว เป็นเลนส์เทเลจริงๆ
ปกติกล้องมือถือมักจะ fix ค่ารูรับแสงครับ แต่ก่อนเคยเข้าใจผิดว่ามันปรับได้ ซึ่งเทคนิคที่ SS เอามาใช้ก็คงจะเป็นเรื่องใหม่ของวงการนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะมีประโยชน์สักขนาดไหน การหรี่รูรับแสงน่าจะช่วยได้ในสภาพแวดล้อมที่แสงจ้ามากๆ เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพที่ดีที่สุด อาจจะทำให้ได้ dynamic range ที่ดีกว่าเดิม ส่วนกล้องคู่ ถ้าเป็นการแยกกล้องกันตามค่า F ไปเลย ตามทฤษฏีก็จะช่วยในเรื่อง optical ซึ่งทำให้ได้คุณภาพของภาพที่ดีขึ้น เพราะเลนส์ที่ฟิกซ์ค่าใดค่าหนึ่งไปเลยมักจะมีคุณภาพดีกว่าเลนส์ที่ F ไหล เช่นเลนส์ซูม
ตามความคิดผม การทำให้ F ปรับค่าได้ ก็คือการทำให้ไดอะเฟรมมันขยับได้ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่อง optical ของเลนส์
สิ่งที่ทำให้ optical ของเลนส์แย่ลงคือการทำให้เลนส์ซูมได้มากกว่า เพราะต้องไปออกแบบ optical ภายในเลนส์ใหม่ทั้งหมดเพื่อทำให้สามารถปรับทางยาวของเลนส์ได้
ถ้าแบบนั้นผมว่ามันก็น่าจะยังเกี่ยวอยู่ครับ เป็นเรื่องของการกระเจิงของแสง อย่างเลนส์ฟิกซ์เกรดทั่วไปเมื่อปรับ F (ไดอะแฟรม) ก็มักจะมีความคมชัดมากที่สุดที่ค่า F ใดค่าหนึ่งเท่านั้น
ปกติเวลา F เยอะ รูรับแสงจะเล็กลงมากๆ ทำให้แสงแต่ละสีที่ผ่านมีการเลี้ยวเบนไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลให้ภาพไม่คมชัด
ดังนั้น F ที่ให้ภาพที่คมชัดที่สุดจะเป็น F เลขน้อยเกือบจะที่สุด (ลดลงมาประมาณ 1 stop จาก F น้อยสุด)
เหตุผลที่ F ที่ให้ภาพที่คมชัดที่สุดไม่ใช้ F น้อยที่สุด อันนี้ผมจำไม่ได้
ดังนั้นถ้าอยากได้ภาพที่คม ก็แค่ใช้ F ที่กว้างๆหน่อยก็เท่านั้นเอง ไดอะแฟรมจะปรับได้หรือไม่ได้ ไม่น่าจะมีผลนะครับ
ผมอาจจะใช้คำผิดไปความหายเลยเพี้ยน จริงๆ ควรจะเป็นคำว่า คุณภาพของภาพแทนคำว่า Optical ครับ
ตัวที่เป็น 2.4 มันเป็นเลนส์ tele ครับ มันเลนส์คนละตัวหน้าที่คนละแบบ
ส่วนอีกตัวที่เป็น 1.5 ที่ทำให้ปรับ f ได้ มันมีประโยชน์ของมันอยู่ อย่างเช่นถ่ายตอนกลางคืนอยากถ่ายด้วย speed shutter นานๆ ก็ปรับ F ให้แคบลง เพื่อไม่ให้ภาพที่ได้มันจ้าเกินไป อย่างเช่น s8+ ของผมนี่อยากถ่ายลาก speed shutter ไม่ได้เลยถ้าไม่มืดจริง เพราะเลนส์มันค่อนข้างสว่าง
อีกประโยชน์นึงคือ DOF เวลาถ่ายใกล้ๆ เราอาจอยากให้ภาพมันชัดทั้งหมดก็ปรับ F ให้แคบลงครับ เพื่อไม่ให้มีส่วนทีเบลอ
ประโยชน์ของการที่หรี่ F
ผมก็ไม่เห็นประโยชน์เหมือนกัน F2.4 มันไม่ได้ต่างจาก F1.5 มากขนาดนั้น หลายๆอย่างมันใช้ Software จัดการได้จนไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มต้นทุนด้าน Hardware เท่าที่อ่านดู SS จะหรี่ F ตอนกลางวันแสงมากๆ งั้นก็คงเป็นข้อแรกนั่นแหละ แต่ 1/32000 ผมว่าน่าจะพอแล้วนาแม้จะเป็น F1.5 ก็เถอะ
เห็นด้วยว่า F2.4 กับ F1.5 มันไม่น่าจะต่างขนาดต้องผลิต HW มา
รอดูรีวิวภาพละกัน
อืมมมม ไม่มีอะไรจริงๆ
ส่องกล้องเข้าใช้งาน Wi-Fi โดยไม่ต้องกดพิมพ์รหัส อย่างแจ่มเลย
มันเคยมีมานานแล้วหรือเปล่าครับ หรือเพิ่งจะมา
ถ้าที่ผมเคยเจอ ไอโฟนทำได้มาสักพักแล้ว ไม่แน่ใจระบบนี้มีมานานยังนะครับ มาตรฐานแบบไหนก็ไม่รุ้
อ้าวเหรอครับ แปลกจัง ทำไมร้านค้าไม่ทำมาหว่า
ทั้ง ๆ ที่มันสะดวกมาก แปะรูปมากับใบเสร็จให้ส่องเพื่อต่อ wifi แบบไม่ต้อง Login เลย
อีกที่หนึ่งที่สมควรใช้ solution นี้เพื่อแก้ปัญหาคือการแจ้ง tracking number ของไปรษณีย์ครับ มันควรที่จะส่องกล้องแล้วก็เด้งไปหน้า tracking ให้เลย ถ้าทำได้จะถือว่าเป็นการปฏิวัติก้าวเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่อีกก้าวหนึ่งของไปรษณีย์ไทยเลยทีเดียว
เคอรี่ทำได้ แต่ปณไม่ยอมทำครับ
เว็บไปรณีย์จะเช็คเลขพัสดุใช้มือถือยังไม่ได้เลยครับ ติดตรงกรุณาเลื่อนล็อคเพื่อค้นหา ทำเป็นปุ่มตกลงก็จบไปแล้วจะให้เลื่อนทำไม แล้วก็ไม่ยอมแก้ด้วยมีคนบ่นให้เพียบ ต้องมาแก้ไขกันเองบนมือถือให้ใช้ firefox หรือ โหลดแอปเอา
ยังไงเหรอครับ หาไม่เจอ แต่ iOS ใหม่ สามารถกดแชร์พาสเวิร์ดให้เพื่อนได้
แบบนี้นะครับ
https://www.iphonemod.net/wifi-qr-code-generator.html
เห็น Apple ใข้กล้องกับการ Pair หลายอย่างเหมือนกันครับ
เอากล้องส่อง Apple Watch เพื่อต่อกับ iPhone
เอากล้องส่อง หลอดไฟ HomeKit เพื่อต่อกับ iPhone
แต่จริงๆ ตอนเริ่มหลังเริ่มไม่ใช้กล้องแล้วเพราะ W1 chip เช่น เปิดฝา AirPod ก็เชื่อมกับ iPhone ได้เลย
เอา iPhone 2 ตัวมาอยู่ใกล้กันเพื่อโอนการตั้งค่ากรณีซื้อเครื่องใหม่
เอา iPhone ไปไว้ใกล้ HomePod เพื่อ Setup
พวกกล้องถ่ายรูปที่มี wifi เวลาเปิด wifi ในกล้องมันจะขึ้น QR Code มาให้ เอาแอปของกล้องนั้นส่องมันก็ต่อไวไฟให้เลยไม่ต้องใส่รหัสนะครับ
เข้าใจว่า Android เปิด api ให้ทำได้มาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีแอปกล้องที่ติดมากับเครื่องเจ้าไหนทำซักที (เอาแอปกล้องธรรมดาไปส่องก็ได้แค่ text ธรรมดา ต้องใช้แอปเฉพาะของกล้องยี่ห้อนั้น)
อืม...ดีนะที่หลับเมื่อคืน ตื่นมาอ่านยังอยากจะหลับต่อ
+1
อารมณ์เดียวกับเปิดตัว iPX เลย ตรงกับหลุดทุกอย่าง
จืดสนิทจริงๆ รอบนี้
รุ่นนี้ไม่เน้น CPU หรือไงเนี่ย ไม่ค่อยโปรโมทอะไรเท่าไรเลย
แค่เพิ่ม Clock เองครับไม่มีอะไรใหม่เลย ผมว่า CPU GPU มันตอบสนองความต้องการตั้งแต่ซีรี่ 6 แล้วแหละครับที่เหลือก็เป็นแค่ลูกเล่นและซอฟแวร์ที่ใครจะทำได้ดีกว่ากัน
อย่างที่มีคนถาม ที่จริงส่วน CPU มีการปรับครั้งใหญ่เลยครับสำหรับ M3 Core ใน Exynos 9810 ความเร็วส่วน single-thread เพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่กลับไม่มีโฆษณาในส่วนนี้เลย
series 6 นี่ S6 หรือตัว Exynos นะครับ
CPU โทรศัพท์ทุกวันนี้ มันก็แรงมากแล้วนะผมว่า ถ้าเทียบกับตัวซอฟท์แวร์ที่ใช้
จะแรงก็เห็นเฉพาะตัวท็อปนะครับ
หรือถ้าเข้าใจไม่ผิดที่ไม่เน้นขาย CPU เพราะใช้สองยี่ห้อแล้วประสิทธิภาพมันต่างกันเลยไม่โปรโมทจุดนี้
ปีนี้เงียบๆ นะ คนรอบตัวไม่มีใครพูดถึงเหมือนปีที่แล้วๆ มา