จากข่าวเมื่อเดือนเมษายนว่า Galaxy S9/Note 9 จะได้อัพเกรดเป็น One UI 2.1 ตัวเดียวกับใน Galaxy S20 ด้วย (ได้ฟีเจอร์บางส่วนอย่างโหมดถ่ายภาพ Single Take หรือ Quick Share)

สัปดาห์ก่อน Galaxy Note 9 เริ่มทยอยได้อัพเดต One UI 2.1 กันไปแล้ว สัปดาห์นี้เริ่มมีรายงานว่า Galaxy S9/S9+ ในบางประเทศอย่างเกาหลีใต้หรือเยอรมนี เริ่มได้ One UI 2.1 แล้วเช่นกัน

Galaxy S9 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่อายุครบ 2 ปีเรียบร้อยแล้ว หมดระยะการได้อัพเกรดเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ ดังนั้นการอัพเกรดเป็น One UI 2.1 น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของ S9 แต่ก็จะยังได้อัพเดตแพตช์ความปลอดภัยรายเดือนต่อไป

เราเห็นข่าว ซัมซุงออกรอม One UI 2.1 ให้กับ Galaxy S10/Note 10 เพื่อนำฟีเจอร์บางอย่างของ Galaxy S20 เช่น Single Take ของแอพกล้อง, Clean View ของแอพ Gallery, Quick Share พอร์ตกลับมาให้เรือธงรุ่นเก่าด้วย

ล่าสุดซุมซงเกาหลีใต้ยืนยันแล้วว่า จะพอร์ต One UI 2.1 กลับมาให้ Galaxy S9/Note 9 มือถือเรือธงของปี 2018 ด้วย แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนว่าเราจะได้เห็นกันเมื่อไร

ซัมซุงน่าจะเป็นรายแรก ๆ ที่เริ่มใช้ม่านตาเป็นระบบไบโอเมตริกอื่นนอกเหนือจากลายนิ้วมือ ในการปลดล็อกเครื่องตั้งแต่ Note 7 ก่อนที่จะยกเลิกไปใน Galaxy S10 และล่าสุด Galaxy S9 และ Note 9 ที่เริ่มได้ทดสอบ One UI 2.0 เบต้าที่เป็น Android 10 ก็รองรับ Biometric API บน Android 10 ด้วย

การรองรับ Biometric API ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสแกนม่านตาเพื่อยืนยันตัวตนภายในแอปที่รองรับ API นี้ได้เหมือนใช้งานลายนิ้วมือ ขณะที่หากเปิดใช้งาน หน้าป๊อปอัพตอนยืนยันตัวตนจะมีให้เลือกว่าใช้ลายนิ้วมือ ม่านตา หรือใบหน้าร่วมกับม่านตา

อย่างไรก็ตามแอปในไทย โดยเฉพาะแอปจากธนาคารเท่าที่ผมทดลองใช้งานมาพบว่ายังไม่รองรับ Biometric API ตัวใหม่นี้ครับ

จากข่าว ซัมซุงให้ผู้ใช้ตั้งค่าปุ่ม Bixby บน Galaxy S10 ให้เปิดแอปอะไรก็ได้ มีรายละเอียดตามมาว่า การตั้งค่าปุ่ม Bixby ไม่จำกัดแค่ Galaxy S10 เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นก่อนหน้านี้ที่มีปุ่ม Bixby ด้วย ซึ่งก็หมายถึง Galaxy S8, Note 8, S9, Note 9 นั่นเอง

หลังจากซัมซุงเปิดทดสอบรอม Android 9.0 Pie บน Galaxy S9/S9+ มาสักระยะ วันนี้รอมเวอร์ชันเสถียรเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ในบางประเทศแล้ว

ประเทศที่มีรายงานว่าได้อัพเดตแล้วคือ เยอรมนี โดยใช้เลขเวอร์ชันเป็น G960FXXU2CRLI (S9) และ G965FXXU2CRLI (S9+) ไฟล์ขนาดประมาณ 1.7GB และมาพร้อมแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนธันวาคม 2018

ของใหม่ในรอมเวอร์ชันนี้ นอกจากการอัพเกรดเวอร์ชันระบบปฏิบัติการเป็น Android 9.0 ยังมีหน้าตาแบบใหม่ที่เรียกว่า One UI ซึ่งออกแบบมาให้เอื้อมนิ้วไปกดได้ง่ายขึ้นด้วย

เว็บไซต์ Android Police รายงานว่า ซัมซุงเริ่มเปิดให้ทดสอบ One UI ซึ่งเป็น UI แบบใหม่ของมือถือยุคถัดไป พร้อมกับ Android 9 Pie รุ่น Beta ให้กับ Galaxy S9 และ S9+ แล้ว โดยเริ่มต้นในสองประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา

ผู้ทดสอบจะต้องลงทะเบียนผ่านแอพ Samsung Members ถึงจะมีสิทธิร่วมทดสอบ One UI กับ Android 9 Pie รุ่น Beta

ตามรายงานข่าวไม่ได้ระบุว่าซัมซุงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หรือปรับปรุงซอฟต์แวร์อื่นๆ ใดบ้าง และยังไม่บอกวันที่แน่ชัดว่าจะออก One UI กับ Android 9 Pie ตัวจริงเมื่อไหร่

ฟีเจอร์ AR Emoji เป็นฟีเจอร์ชูโรงของ Galaxy S9 (และ Note 9 ที่ออกตามมาก็มีด้วย) ล่าสุดซัมซุงออกอัพเดตประจำเดือนกันยายน 2018 ให้กับเรือธงของปีที่แล้วอย่าง Galaxy Note 8 โดยเพิ่มฟีเจอร์ AR Emoji และการถ่ายวิดีโอแบบช้าหรือ Super Slow Motion ให้ด้วย

ตามข่าวบอกว่าอัพเดตตัวนี้เริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ Note 8 ในบางประเทศ (เช่น ฝรั่งเศส) แล้ว ส่วน Galaxy S8 ที่เป็นคู่กันกับ Note 8 ยังไม่มีข้อมูลว่าจะได้ฟีเจอร์นี้ด้วยหรือไม่

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 ต่อจากที่ออกมาให้ตัวเลขเบื้องต้นเมื่อต้นเดือน ยอดขายรวม 58.48 ล้านล้านวอน ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 14.87 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 0.8% และมีกำไรสุทธิ 11.04 ล้านล้านวอน ใกล้เคียงกับปีก่อน

รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์มือถือของซัมซุงลดลงถึง 20% มียอดขาย 24.0 ล้านล้านวอน ซึ่งซัมซุงระบุว่าเพราะยอดขาย Galaxy S9 ออกมาน้อยกว่าที่คาดไว้ และยังมีการใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น กระทบต่อกำไรอีกด้วย โดยครึ่งปีหลังซัมซุงเลือกแก้เกมโดยออก Note รุ่นใหม่เร็วขึ้น และบอกว่าราคาจะเหมาะสมขึ้น

ก่อนหน้านี้ไม่นาน Samsung ออกโฆษณาตัวใหม่ ชูจุดขาย Galaxy S9 ดาวน์โหลดได้เร็วกว่า iPhone X สร้างเสียงวิจารณ์ไม่น้อย ล่าสุดมีการเปิดเผยผลการทดสอบของ Ookla เจ้าของเว็บ Speedtest.net ว่าเป็นความจริง

Bloomberg เผยแพร่ผลการทดสอบของ Ookla ระหว่าง Galaxy S9, iPhone X, iPhone 8, Pixel 2 บนเครือข่ายมือถือของสหรัฐในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเป็นการทดสอบของผู้ใช้หลักแสนคน ได้ผลดังนี้

ซัมซุงออกโฆษณาตัวใหม่สำหรับ Galaxy S9 โดยยังคงเล่นกับผู้ใช้แอปเปิล - iPhone เหมือนเดิม ซึ่งคราวนี้เนื้อหาของโฆษณาเป็นการย้ำจุดเด่นของ Galaxy S9 ข้อหนึ่งที่เหนือกว่า iPhone X คือความเร็วในการดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายมือถือ ซึ่งผลทดสอบพบว่า Galaxy S9 เร็วกว่า

เรื่องราวในโฆษณาก็จัดกันแบบตรง ๆ โดยสมมติสถานที่หนึ่งที่เป็น Apple Store มีตัวละครคือลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้าไปดู iPhone X และมีพนักงานเดินเข้ามาสอบถาม จากนั้นลูกค้าก็ถามกันตรง ๆ ว่า ความเร็วในการดาวน์โหลดสู้ Galaxy S9 ไม่ได้

พนักงานแอปเปิลก็ได้แต่อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร จากนั้นก็โฆษณาก็ตัดจบว่า เปลี่ยนมาใช้ Galaxy ก็เป็นอันจบ

ดูโฆษณานี้ได้ท้ายข่าว

ซัมซุงรายงานผลประกอบการเบื้องต้นของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 คาดยอดขายรวม 58 ล้านล้านวอน ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 14.8 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 5%

ตัวเลขนี้เป็นการรายงานเบื้องต้น จึงยังไม่ได้ลงรายละเอียดว่าแต่ละหน่วยธุรกิจมีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร แต่ที่น่าสนใจคือยอดขายรวมซัมซุงกลับมาลดลงอีกครั้ง ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานยังคงเพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์ประเมินว่ายอดขาย Galaxy S9 อาจไม่ดีนัก ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายรวมซึ่งสมาร์ทโฟนเป็นรายได้สำคัญได้รับผลกระทบ นอกจากนี้หากข่าวลือ iPhone รุ่นจอ LCD เป็นจริง ก็น่าจะกระทบยอดสั่งผลิต OLED ในอีกทาง

ซัมซุงออกโฆษณา Galaxy S9 ตัวใหม่ โดยเน้นการสื่อสารไปยังผู้ใช้ iPhone ที่ต้องอัพเกรดโทรศัพท์ให้เปลี่ยนใจมาใช้ซัมซุงแทน ซึ่งเนื้อหาโฆษณาก็ยังคงมีการเสียดสีปัญหาของผู้ใช้ iPhone ไว้หลายอย่าง

โฆษณาเริ่มด้วยผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านที่สนามบิน เมื่อต้องผ่านจุดตรวจความปลอดภัยและต้องแสดงบอร์ดดิ้งพาส พอจะกดเรียกดูใน iPhone 6 ก็ต้องรอนานโดยขึ้นหน้าจอขาวอยู่ระยะหนึ่ง เมื่ออยู่บนเครื่องบินจะดูหนังก็ต้องรอเพราะเครื่องช้า และสร้างปัญหาตลอดการเดินทาง

อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อ Galaxy S9 และ S9+ เมื่อกระแสข่าวล่าสุดระบุว่า Samsung อาจเลื่อนการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตัวที่สองอย่าง Galaxy Note 9 รวมไปถึง Galaxy S10 ให้เร็วขึ้น

หลายปีที่ผ่านมา Samsung มีกำหนดเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ปีละ 2 รุ่น เริ่มด้วยตระกูล Galaxy S ในเดือนมีนาคม ต่อด้วยตระกูล Galaxy Note เดือนสิงหาคม ซึ่งรายงานล่าสุดจากเกาหลีใต้เปิดเผยว่า Samsung มีแผนขยับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงให้เร็วขึ้น ด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งในนั้นคือ ยอดขายของ Galaxy S9 และ S9+ ที่ไม่เป็นไปตามเป้า

SamMobile รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวท้องถิ่นของเกาหลีใต้ ที่ไปสัมภาษณ์พนักงานในร้านขายโทรศัพท์มือถือว่า คนเกาหลีไม่ค่อยสนใจ Galaxy S9 และ S9+ เท่าไหร่ เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้แตกต่างจากเรือธงรุ่นก่อนหน้าอย่าง S8 เท่าไหร่ ซึ่งค่อนข้างตรงกับโอเปอเรเตอร์ในเกาหลีใต้ที่คาดว่า Galaxy S9 ไม่น่าจะแรงกว่า Galaxy S8

สวนทางกับ Galaxy A8 (2018) ที่ร้านขายโทรศัพท์ในเกาหลีใต้ชี้ว่ามียอดขายดีที่สุดขณะนี้ ด้วยความโดดเด่นจากกล้องหน้า ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นเกาหลีใต้ที่ชอบเซลฟี่เป็นหลัก และที่สำคัญคือราคาไม่แพง

ที่มา - SamMobile

Project Treble ไม่เพียงแต่ช่วยให้การอัพเดตแอนดรอยด์ง่ายขึ้น ทว่ายังช่วยให้การโมรอมสะดวกมากขึ้นตามไปด้วยโดยที่ซอร์สโคดของเคอร์เนลไม่จำเป็นต้องมีด้วยซ้ำไป และด้วยความที่ Galaxy S9 | S9+ มาพร้อม Project Treble ก็ไม่พ้นจะถูกจับมาลงด้วยรอมแอนดรอยด์ 8.0 เวอร์ชันเพียวๆ จาก AOSP

เปิดตัวได้ค่อนข้างเงียบกับ Galaxy S9 | S9+ ที่แทบไม่มีอะไรโดดเด่นหรือเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก หลักๆ มีเพียงกล้องที่ปรับรูรับแสงได้และลูกเล่น AR Emoji ที่ไม่พ้นโดนแซะไปตามระเบียบ5

ส่วนเครื่องที่ผมจะรีวิวเป็นตัวท็อป Galaxy S9+ ที่ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ต่างๆ ไม่แตกต่างจาก Galaxy S9 นอกจากเรื่องกล้องที่เป็นกล้องคู่ ซึ่งรีวิวนี้จะเน้นไปที่ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเติมจากรุ่นเก่าเป็นหลักครับ

สมาร์ทโฟนเรือธงประจำปีจากซัมซุงอย่าง Galaxy S9+ กำลังจะวางตลาดในไม่กี่วันข้างหน้า และเว็บไซต์จอมแงะ iFixit ก็ได้เครื่องไปก่อนแล้ว พร้อมแยกชิ้นส่วนให้ดูกันเช่นเคย

การแกะเครื่องเริ่มโดยใช้ปืนความร้อนเป่าฝาหลังให้กาวละลายและใช้เครื่องมือแซะฝาหลุดออกมา จากนั้นมาถึงการแกะแบตเตอรี่ ซึ่ง iFixit ระบุว่าต้องใช้ความพยายามอย่างสูง เพราะกาวที่ติดแบตเตอรี่ไว้นั้นแน่นหนามาก โดยเริ่มที่การฉีดน้ำยาละลายกาว พร้อมใช้ปืนความร้อนเป่าเป็นเวลานานกว่าแบตเตอรี่จะหลุดออก

หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ ชิ้นส่วนต่างๆ เช่นกล้อง, แจ็คหูฟัง รวมถึงเมนบอร์ดก็สามารถนำออกมาได้อย่างไม่ยากเย็น และสุดท้ายการเอาหน้าจอออกจากเฟรมก็ยากเช่นกัน เพราะต้องใช้ปืนความร้อนเป่าและใช้เครื่องมือแงะถึงเอาออกมาได้

ซัมซุงยังไม่ได้ประกาศตัวเลขยอดจอง Galaxy S9 อย่างเป็นทางการออกมา แต่ตัวแทนของซัมซุงได้บอกกับสื่อในเกาหลีใต้ว่า ยอดจองเบื้องต้นนั้น ใกล้เคียงกับตัวเลขของ Galaxy S8

เมื่อปีที่แล้ว ยอดขาย Galaxy S8 ในช่วงแรกนั้นออกมาสูงมากกว่า Galaxy S7 มาก โดยอยู่ราว 550,000 เครื่องในช่วงสองวันแรกที่วางขาย อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ออกมาจากซัมซุงนี้ถือว่าไม่ผิดคาดนัก เพราะแม้แต่ผู้ให้บริการเครือข่ายในเกาหลีใต้ ก็มองว่า Galaxy S9 ไม่น่าจะแรงกว่า Galaxy S8

ที่มา: Phone Arena

พร้อมๆ กับที่ Galaxy S9 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ของซัมซุงครองตำแหน่งกล้องมือถือที่ดีที่สุดจาก DxOMark มันยังได้รับตำแหน่งหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน โดยผู้ทดสอบก็เป็น DisplayMate เจ้าเก่าที่มีชื่อเสียงด้านการรีวิวหน้าจอ

DisplayMate ระบุว่าหน้าจอของ Galaxy S9 ได้คะแนน A+ รับตำแหน่งหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดเท่าที่เว็บเคยทดสอบมา โดยจอ AMOLED ที่ซัมซุงใส่มาใน S9 ถือว่ามีนวัตกรรมและมีประสิทธิภาพสูงมาก ส่งผลให้ได้คะแนนเข้าข่ายสีเขียวในทุกการทดสอบ แซงหน้าจอของ iPhone X ที่ครองตำแหน่งสูงสุดมาสามเดือน

จากการเปิดตัว Galaxy S9 และ S9+ ที่แทบไม่มีความว้าว ขณะที่การเปลี่ยนแปลงหลักๆ อย่างเดียวของรุ่นนี้คือกล้อง ซึ่งผลจากการทดสอบของ DxOMark ล่าสุดออกมาแล้วว่าเรื่องกล้องของ Galaxy S9 Plus เขาไม่ได้มาเล่นๆ ด้วยคะแนนรวมที่ 99 คะแนน ชิงบัลลังก์ Pixel 2 ที่อยู่ 98 คะแนนมาหลายเดือน

ในส่วนของภาพถ่าย Galaxy S9+ ได้ไปถึง 104 คะแนน (Pixel 2 ได้ 99 ส่วน iPhone X ได้ 101) โดย DxOMark บอกว่าไม่มีข้อเสียที่เด่นชัดเลย (hasn't got any obvious weaknesses) ขณะที่จุดเด่นหลักๆ ก็คือการควบคุม Noise แม้ในที่ที่แสงน้อยมากๆ และถึงแม้จะซูมถึง 4x แล้วก็ตาม ไปจนถึงเรื่องสีที่ฉูดฉาดและมีชีวิตชีวา และออโต้โฟกัสที่เร็วและแม่นยำ

ปัญหาใหญ่ของผู้ผลิตแอนดรอยด์คือเรื่องการอัพเดตระบบปฏิบัติการณ์ที่ช้า โดยซัมซุงเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ ด้าน Google เองก็พยายามแก้ปัญหานี้ด้วย Project Treble บน Android Oreo ที่แยกชั้นฮาร์ดแวร์ออกจากชั้นแอนดรอยด์ ช่วยลดข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ในการออกซอฟต์แวร์ใหม่ลง

ล่าสุดเป็นข่าวดีกับแฟนๆ ซัมซุงแล้วเมื่อ Galaxy S9 และ S9+ ที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมรันด้วยแอนดรอยด์ Oreo ได้รับการยืนยันแล้วว่ามาพร้อมกับ Project Treble ทำให้การอัพเดตซอฟต์แวร์ในอนาคตน่าจะเร็วชึ้นมาก ทั้งแพทช์รายเดือนและอัพเกรดเวอร์ชัน อย่างไรก็ตามคงได้แต่หวังว่าทางซัมซุงจะจริงจังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

จากการลองจับเครื่องจริง Samsung Galaxy S9 และ S9+ ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ ต้องบอกว่าไม่มีอะไรผิดจากข่าวหลุด, 2 เท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่น, ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย และ Animoji เปลี่ยนหน้าเราให้เป็นตัวการ์ตูน 3D และอีโมจิตัวการ์ตูนอื่นที่ขยับตามเวลาเราพูด

Samsung เปิดตัว Galaxy S9 และ S9+ มีฟีเจอร์ Animoji ย้ายแป้นสแกนนิ้วไว้ใต้กล้อง มาพร้อมสี ดำ เทา น้ำเงิน ม่วงไลแลค, กล้องคู่ Dual Aperture ที่ทำหน้าที่คล้ายตาคนคือเปิดตากว้างเมื่ออยู่ในที่มืดและตาดำหดเล็กเมื่ออยู่ในที่สว่าง ค่ารูรับแสง f/2.4 และ f/1.5

Galaxy S9 จะเปิดตัวคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ที่งาน Mobile World Congress 2018 แต่ถึงแม้ว่ามีภาพหลุดออกมานับไม่ถ้วน ก็ดูเหมือนการหลุดรอบนี้ยังไม่จบ เพราะล่าสุดซัมซุงเผลอนำคลิปโปรโมท Galaxy S9 ขึ้นเว็บ และก็ไม่รอดโดนเว็บไซต์ต่างๆ ดูดมาเผยแพร่ซ้ำเรียบร้อย

คลิปโปรโมทของ Galaxy S9 ตัวนี้ยาวประมาณ 3 นาที มีฟีเจอร์ที่รู้ๆ กันอยู่แล้วอย่างกันน้ำ กล้องที่พัฒนาขึ้นจากเดิม และฟีเจอร์ Live Translation ของ Bixby แต่ในคลิปก็ยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง DeX ตัวใหม่ที่ใช้มือถือเป็นทัชแพดและคีย์บอร์ดได้ด้วย

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือคลิปตัวนี้ชูเรื่องการใช้งาน S9 ในองค์กร โดยจะมี Galaxy S9 รุ่น Enterprise Edition ที่การันตีการอัพเดตแพตช์ให้นานสูงสุดถึง 4 ปีด้วย

ใกล้วันเปิดตัว Galaxy S9 วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เข้ามาเรื่อยๆ ก็มีข่าวและภาพหลุดของ S9 ออกมาอีกชุดใหญ่ จนแทบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการอีกแล้ว

ภาพหลุดชุดนี้มาจากหลายแหล่ง ทั้งเว็บไซต์ WinFuture ของเยอรมนี และ @evleaks เผยให้เราเห็นข้อมูลดังนี้ (หลายอย่างก็มีภาพหลุดมาก่อนแล้ว)