ในงานเปิดตัวการ์ดเกม Artifact ของ Valve ที่ได้ผู้ก่อตั้งบริษัท Gabe Newell มาพูดด้วยตัวเอง มีประเด็นเรื่องหลักการออกแบบเกม Artifact ที่น่าสนใจหลายอย่าง
ประเด็นสำคัญคือ Gabe ย้ำว่า Artifact จะไม่เปิดให้เล่นฟรี (แบบที่ Dota 2 ทำ) แต่ผู้เล่นจะต้องซื้อชุดการ์ดเริ่มต้น (starter pack) ก่อนจึงจะเล่นได้ และสามารถซื้อการ์ดเพิ่มได้ทั้งจาก Valve หรือจากผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ครอบครองการ์ดอยู่
Gabe ให้เหตุผลว่าเขาต้องการสร้างประสบการณ์เหมือนกับเกมการ์ดจริงๆ ที่เป็นกระดาษ ต้องการทำให้การ์ดมีคุณค่า การขายต่อเปลี่ยนมือต้องทำได้จริง มีการสร้างชุมชนกันระหว่างแลกเปลี่ยนการ์ด และไม่ต้องการให้เกมกลายเป็น pay-to-win เหมือนเกมฟรีอื่นๆ
Artifact ได้ Richard Garfield ผู้สร้างเกมการ์ด Magic the Gathering มาเป็นหัวหน้านักออกแบบ โดย Garfield ระบุว่าเขาต้องการสร้าง "ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด" แบบเดียวกับ Magic เข้ามาใส่ในเกมนี้ เขาเล่าว่า Magic ออกแบบขึ้นในยุคการ์ดกระดาษ แต่พอเข้าสู่ยุคดิจิทัลแล้วมันก็ไม่ค่อยเหมาะสมกันนัก ในขณะที่ Artifact ถูกออกแบบขึ้นมาเป็นเกมการ์ดสำหรับยุคสมัยนี้ตั้งแต่ต้น
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Artifact เป็นเกมการ์ดที่นำคาแรกเตอร์และธีมจาก Dota 2 มาใช้งาน แต่ไม่ใช่เกมการ์ดของ Dota 2 โดยตรง เป้าหมายของ Valve คือสร้างเกมการ์ดที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ (โดยใช้โลกของ Dota 2 เป็นฐาน แนวทางของ Dota 2 ที่ถูกยืมมาใช้งานก็คือการมีฮีโร่ 5 คน และต่อสู้กันใน 3 เลน ) แต่ไม่ใช่การสร้างเกมการ์ด Dota 2
Gabe เล่าว่าระหว่างการพัฒนาเกม ทีมงานของ Valve หารือกันว่าควรอิงคาแรกเตอร์จากเกมไหน ชื่อที่ถูกพูดถึงก็มี Half-Life และ Team Fortress แต่ Dota 2 เหมาะสมกว่าเพราะเป็นแฟนตาซีที่มีตำนานเรื่องเล่า เขายังบอกว่าเราสามารถทำการ์ดเกม CS:GO ได้ แต่มันไม่น่าจะได้รับความสนใจมากนัก
แนวทางของ Artifact ย่อมถูกนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Hearthstone ของ Blizzard ซึ่งทีมงานของ Valve ก็ยืนยันว่ากระบวนการพัฒนา Artifact เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ก่อนที่ Hearthstone จะเปิดตัวด้วย
สุดท้าย Gabe ให้ข้อมูลว่าจะมีทัวร์นาเมนต์แข่งขัน Artifact แน่นอน งานแรกจะเป็น Valve จัดเอง มีเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ชนะ มีระบบการมีส่วนร่วมของผู้ชมลักษณะเดียวกับ Dota 2 เช่น การซื้อการ์ดจะนำไปเป็นส่วนหนึ่งของเงินรางวัลด้วย
ที่มา - Ars Technica
Comments
ถ้าเป็นเกมการ์ดมันจะไม่ pay to win ได้ยัง ในเมื่อต้องซื้อชุดการ์ดมา ใครมีการ์ดดีกว่ามันย่อมชนะคนที่มีการ์ดดีน้อยกว่า
เห็นบอกว่า ชุดการ์ดสามารถทำเควสแลกมาได้ครับ
ก็แบบนี้แหละครับ ถ้าไม่ pay ก็ต้องเสียเวลาทำเควสไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องยอม pay
คือ โปรแกรมเมอร์เค้าก็ต้องทานข้าวนะครับ แนะนำว่าถ้าไม่อยากเปย์ ก็มีทางเลือกอื่นครับ เช่นไม่เล่น
ผมว่า ประเด็นที่เถียงกันไม่ใช่เรื่องว่าโปรแกรมเมอร์เขาต้องทานข้าวหรือไม่ แต่เป็นเรื่องนี่คือ pay to win อย่างที่ gabe อ้างหรือไม่
ส่วนวิธีหาเงินโดยไม่ pay to win ก็มีทั้งเสียค่าซื้อเกมส์ subscription หรือหารายได้จากโฆษณา อะไรก็ว่าไป
ผมว่า Pay-to-Win เขาคงเจาะประเด็น ไปเรื่องการใช้เงินจริงๆ ซื้อของ นะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับการใช้เวลาเล่นเกมส์นานขึ้น และผมคิดว่าการใช้เวลาเล่นเกมส์ที่นานขึ้น ไม่ใช้เรื่องของการ Pay-to-Win แต่มันคือสิ่งที่ต้องทำสำหรับการเล่นเกมส์ มันคือการสะสมประสบการณ์ ผมชื่นชอบเกมส์แบบนี้นะ มันดูเหมือนคุณเก่งได้ เพราะตัวคุณเอง ไม่ใช่ เทพทรู ฮ่า ๆ
Pay to completed quest now. 555+
ถ้าไม่pay to win จริงquest ต้องไม่เสียเวลามาก
ถ้าเป็นเมจิกยุคก่อนเคยมีเดค Blue Sky ที่การ์ดในเดคหลายๆใบเป็นแค่ Common กับ Uncommon เลยครับ Rare มีนิดหน่อย(แถมเป็นใบแพงด้วย) แต่ที่สำคัญคือจัดเดคมา Counter Meta ในยุคนั้นครับทำให้ได้เข้ารอบไประดับสูงๆทั้งๆที่มูลค่าการ์ดในเด็คต่ำมาก
มันคงไม่ขนาด pay to win แต่อาจจะต้อง pay บ้างถ้าไม่อยากเสียเวลามาก แต่พวก pay to win สำหรับผมนี่มันจ่ายแล้วเก่งขึ้นเรื่อยๆ ได้ แบบเกมการ์ดมันมีข้อจำกัดในการจัดเด็คอยู่ มีการ์ดระดับหนึ่งมันก็สู้ได้อยู่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมไม่ได้อยู่ในวงการเล่นการ์ด แต่ผมว่าในวงการนั้น ไม่ใช่การ pay to win แน่นอน
ถ้าการ์ดที่ขายมันมีความสามารถไม่ได้โกง ก็จะว่าเป็น pay to win ไม่ได้เต็มปาก และยิ่งสามารถซื้อขายกับผู้เล่นได้อีกแบบนี้ไม่น่าเข้าข่าย pay to win
แต่หากว่าใครอยากได้การ์ดอะไรต้องซื้อจาก valve อย่างเดียวอันนี้เกมส์ออกแบบมาให้ pay to valve for your win แน่นอน
เกมการ์ดใดไม่เปย์ ทู วิน ได้ เกมการ์ดนั้นจักไม่สร้างรายได้เกิดขึ้น
เกมการ์ดนี่มันจุดเริ่มต้น pay to win กับ lootbox เลยนะ คงมีการ์ดแรร์เปิดเอามาขายเป็นหมื่นแน่นอนแล้ว Valve ก็กินส่วนแบ่งการแลกเปลื่ยนอิ่มเลยค่ายนี้
pay to win & lootbox มาตั้งแต่ก่อนยุคดิจิทัล
เกมแห่งความมืดของฟาโรห์.... //ผิดๆ ?
ສະບາຍດີ :)
มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีกว่าตรงที่ผู้เล่นสามารถซื้อการ์ดจากผู้ผลิตหรือใครก็ได้ที่ถือการ์ดหรือชุดการ์ดของจริง แถมไม่ต้องทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านช่องทางที่ผู้ผลิตจัดไว้ด้วย และต่อให้ผู้ผลิตเลิกขายการ์ดนั้นๆ หรือเลิกทั้งระบบไปเลย ผู้เล่นก็ยังสามารถเล่นและซื้อขายแลกเปลี่ยนการ์ดตามที่ยังเหลือในตลาดได้ ในขณะที่การ์ดแบบดิจิทัลนั้นกลับทำแบบที่ว่าไม่ได้ครับ
โอย อยากเล่นเพราะได้ Richard Garfield มาทำให้นี่แหละ MTG นี่สุดยอดการ์ดเกมละ
ถ้าไม่อยากให้เป็นระบบPay to Win จริงๆ
ก็ทำระบบออกมาให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้แต่ Card Sleev กับ Game Mat ซิ
พูดง่ายๆว่าเปลี่ยนได้แต่ของตกแต่ง ส่วนการ์ดนั้น ให้ผู้เล่นไปทำเควสเอาเอง ไม่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนทั้งสิ้น
ใครมีการ์ดดีกว่าก็ต้องชนะสิ ยกเว้นว่าจะทำการ์ดให้มีความเสมอภาคเท่าๆกัน แล้วอย่างนี้ไม่ pay แล้วจะ win ได้ไง แล้ว Valve จะทำการ์ดให้เสมอภาคเหมือนเกมอื่นๆได้เหรอ
การ์ดเกมที่ไม่ P2W นี่ยากนะ
MTG ผู้เล่นธรรมดาๆมีแรร์ไม่กี่ใบ จัดเก่งแค่ไหนก็สู้ Whale ยาก
สมัยมัธยมสัปดาห์นึงผมซื้อ MTG ได้ 2-3ซอง แต่เพื่อนมันซื้อสัปดาห์ละ 1-2กล่อง จัดเด๊กยังไงก็สู้ไม่ได้ ให้ตายเถอะ
เถียงขาดใจ มันมักจะมีเด็คยาจกอยู่ทุกสมัยครับ
จำได้สมัยที่ผมเล่นมียุคนึงกิ้งก่าหมาหนอน ทั้งเด็คมีแรร์แค่ Land
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
คุ้นๆว่าเดค starter ของก็เกือบๆครบแล้ว ซื้อต่ออีกไม่กี่ใบเล่นได้เลย
ถ้าเล่นเขียวขาว ก็จะมีแรร์แค่ Mystic Enforcer มั้ง
ทำการ์ดเกมให้ไม่ P2W ไม่ได้ยากขนาดนั้นนะครับ
- จัด Deck of the week ให้ 3-5 Deck ซึ่งแก้ทางกันเองในตัว (และแก้ meta การ์ดดีๆได้) โดย deck พวกนี้ก็มาจาก whale combo นี่ล่ะ
- หรือจัด Rare/Legendary Card of the week ให้ 10-30 แบบ สามารถยืมไปใส่เด็คได้ 3ใบ 5ใบ 10ใบ
แล้วพวก of the week เปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ (หรือทุก month)
ซึ่งถ้าอยากได้ถาวร ก็มีซื้อ Deck เลยยก Deck เท่าไรว่าไป หรือจะมีให้เปิด Booster ของ deck นั้นๆ สุ่มหาการ์ดจากใน Deck นั้นเลยก็ได้ (ซึ่งก็เข้าสเต็ป Rare 5%, Legendary 1% น่ั่นแหล่ะ)
แม้ whale จะมีให้เลือกเล่นได้หลากหลายกว่า แต่ไม่ whale ก็มี deck ที่ไม่แย่
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้อง balance ดีๆนั่นล่ะ (มีฟรีมากไปก็ไม่มีคนจ่าย มีฟรีน้อยไปก็กลายเป็น p2w .. สายฟรีหมุนเวียนจะเหนื่อยกับการเรียนรู้และ adapt การ์ด
(ก่อนหน้านี้มี infinity wars ก็ใช้โมเดลนี้ .. แต่มันตายเพราะคนเล่นเริ่มหายไป + มันเก่ามากล่ะ)
เกมนี้เป็นไงไม่รู้นะครับ
แต่ Magic the Gathering เนี้ยคือการ์ดที่ไม่ใช่ pay to win แน่นอน
สมัยผมล่นมีเด็คแชมป์ที่มีแรร์แค่ 2ใบก็มี
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคอนเซปต์เด็คและการวางแทคติคและดวงครับ
จริงๆ ในต้นทางมีเรื่องนี้ละเอียดมากครับ (ทั้งความเห็นของคนสร้าง Magic และ Gabe) ถ้าใครสนใจก็ไปตามอ่านกันได้
ผมไม่ได้เล่นการ์ดยุคนี้เลยไม่รู้เป็นอย่างไร แต่พวก MtG มันมี meta อยู่นี่ครับ เด็คแก้ทาง เด็คล้มเด็คแชมป์ เด็ค counter meta จัดเด็คได้ตามที่อยากเล่น
ถึงกับมีคนบอกว่าก็อบเด็คแชมป์มาแต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็ไม่ชนะ
เข้าใจครับหลักๆมันอยู่ที่การจัดคอมโบแหละ แต่ที่ผมจะสื่อคือ ตอนนั้นผมมีตังซื้อได้น้อยทำให้มีการ์ดมาเลือกจัดได้น้อยน่ะ
การ์ดคอมโบดีๆร้านมันก็ไม่เอามาลงกะบะเลหลัง หรือไม่ก็โดนขาประจำสอยไปหมดแล้ว ต้องเปิดซองหาเอา
เกมส์การ์ด นิเป็น pay to win หรอ
เราว่า การ์ดดีเล่นโง่ ก็ไม่ชนะนะ มีเรื่องดวงตอนเล่นอีก
แต่ pay แล้ว มีการ์ดมากขึ้น จัด deck ได้ดีขึ้น ชนะง่ายขึ้น
ก็ไม่ต่างกับ fps + lootbox ปืนแรงขึ้น แต่ยิงไม่โดนก็ไม่ชนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สุดท้ายแล้วก็ไปซื้อขายกันนอกเกมอยู่ดี มีเงินมากกว่าก็ชนะง่ายกว่าเหมือนเดิม