ก่อนหน้านี้ผู้ใช้รถ Tesla ทุกคนได้รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีจากสถานี Supercharger ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกประเทศที่ Tesla เข้าไปทำตลาด ต่อมาได้ยกเลิกโครงการชาร์จฟรีกับผู้ที่ซื้อรถตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2017 โดยให้เครดิตชาร์จไฟฟรีปีละ 400 กิโลวัตต์ชั่วโมงแทน (คิดเป็นระยะทางที่วิ่งได้จากไฟฟรีประมาณ 1,600 กิโลเมตร) หากชาร์จเกินกว่านั้นต้องเสียค่าไฟเล็กน้อย ซึ่งต่างกันไปในแต่ละเมือง แต่หากเราซื้อรถ Tesla Model S และ X ผ่านโค้ดของเพื่อนก็ยังได้รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีตลอดชีพอยู่
ล่าสุด Tesla ได้ปรับราคาค่าชาร์จไฟจากสถานี Supercharger ในสหรัฐอเมริกาขึ้นอีก 20-40% เช่นในรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มจาก 20 เป็น 26 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือในนิวยอร์คเพิ่มจาก 19 เป็น 24 เซ็นต์ แต่ในรัฐโอเรกอนเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 12 เป็น 24 เซ็นต์
ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าของรถ Tesla Model 3 เพราะนอกจากจะไม่ได้รับสิทธิ์ชาร์จฟรีจากโค้ดของเพื่อนแล้ว ยังไม่ได้เครดิตชาร์จฟรีในแต่ละปีอีกด้วย การใช้บริการสถานี Supercharger จึงต้องเสียเงินมากขึ้นชัดเจน อย่างไรก็ตาม Tesla ระบุว่าการชาร์จไฟจะถูกกว่าน้ำมันอย่างมากไปตลอด และเหตุผลที่ขึ้นราคาก็เพราะต้องการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทเท่านั้น พร้อมย้ำว่าการชาร์จไฟจะไม่มีทางเป็นจุดสร้างกำไรของ Tesla อย่างแน่นอน
ที่มา – Engadget
Comments
ไม่ได้บอก แต่ก็คงเอาไว้ลดพวกมีบ้าน แต่กะมาชาร์จที่สถานีแถวบ้านด้วย แทนที่จะถูกเก็บไว้ให้คนที่เดินทางไกล
ต่อไปก็จะไม่เพิ่มค่าไฟ
เพิ่มค่า ft