Tags:
Node Thumbnail

ที่งาน Bangkok Fintech Fair ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Michael Moon หัวหน้าฝ่ายตลาด payment ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของบริษัท SWIFT (SWIFT’s Head of Payments Markets, Asia Pacific) ถึงประเด็นต่างๆ ของอนาคตของการจ่ายเงินข้ามประเทศ

การโอนเงินข้ามประเทศเป็นบริการหนึ่งที่ทุกวันนี้ค่าบริการยังสูงมาก การใช้บริการยังทำได้ลำบาก และกระบวนการใช้เวลานานอาจจะหลายวัน การพัฒนาธุรกิจฟินเทคจำนวนมากจึงมุ่งเป้าแก้ปัญหานี้ ทางฝั่ง SWIFT ที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่าย messaging ระหว่างธนาคารเองก็พยายามปรับปรุงกระบวนการให้การโอนเงินทำได้เร็วขึ้นด้วยบริการ SWIFT gpi

No Description

สถานะของบริการ SWIFT gpi เป็นอย่างไรบ้างแล้ว

ตอนนี้มีสถาบันทางการเงินสมัครเข้าโครงการแล้ว 150 หน่วยงาน และธนาคารเชื่อมต่อระบบจริงแล้ว 42 สถาบัน เชื่อมต่อการโอนเงินข้าม 220 เส้นแบ่งเขตทางการเงิน มูลค่าการโอนวันละกว่าแสนล้านดอลลาร์

ในแง่ของความเร็ว เราพบว่ารายการโอนมากกว่าครึ่ง เสร็จสิ้นภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และต้นทุนของการจัดการโอนลดลงถึงครึ่งนึง

ความแตกต่างของ SWIFT gpi และ SWIFT ดั้งเดิมต่างกันอย่างไร จึงทำให้บริการโอนเงินทำได้ร็วขึ้น

การปรับปรุงมีหลายส่วน แต่ส่วนที่สำคัญคือเรากำหนดให้ธนาคารที่จะเชื่อมต่อกับ SWIFT gpi ต้องประมวลผลการโอนให้เสร็จภายใน 1 วัน ธนาคารสมาชิกจึงต้องปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบต่างๆ ของตัวเองให้รวดเร็วขึ้น โดยรวมทำให้ทั้งเครือข่ายสามารถโอนเงินกันไปมาได้รวดเร็วขึ้น

ในแง่ของเทคโนโลยี SWIFT gpi มีฐานข้อมูลกลางให้ติดตามสถานะการโอนเงินได้ว่าอยู่ในสถานะใดแล้วและไปติดอยู่ที่ไหน

No Description

ความเร็วของ SWIFT gpi จะทำให้ค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับลูกค้าธนาคารลดลงด้วยไหม

ทาง SWIFT เองไม่ได้ไปกำหนดค่าบริการที่ธนาคารจะเก็บจากลูกค้าโดยตรง แต่โดยโปรโตคอลของ gpi จะทำให้ค่าธรรมเนียมในขั้นตอนต่างๆ มีความโปร่งใสมากขึ้น และกระบวนการโอนที่เร็วขึ้นจะช่วยลดต้นทุนของธนาคารได้

ปีที่ผ่านมามีประเด็นการแฮกระบบที่เชื่อมต่อกับ SWIFT อยู่เนืองๆ ตอนนี้มีการปรับปรุงอย่างไรบ้าง

ก่อนหน้านี้เรามีคำแนะนำให้ธนาคารปรับปรุงความปลอดภัยของตัวเอง และให้ธนาคารตรวจสอบว่าได้ทำตามคำแนะนำของเราแล้วหรือยัง หลังจากนี้เราจะเริ่มมาตรการกำหนดให้ธนาคารต้องเปิดเผยข้อมูลว่าทำตามคำแนะนำใดไปแล้วบ้าง ภายในปีนี้เราจะเริ่มให้ธนาคารสามารถขอข้อมูลหน่วยงานในเครือข่ายได้ ถึงตอนนั้นหากธนาคารใดยังไม่ทำตามแม้จะอยู่บนเครือข่ายแต่ธนาคารอื่นก็อาจจะไม่ยอมเชื่อมต่อด้วยอีกต่อไป

SWIFT gpi มีฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมไหม

โดยตัว gpi เองคงไม่ได้เพิ่มความปลอดภัยจากเดิมโดยตรงนัก ก็มีฟีเจอร์บางอย่าง เช่นคำสั่งหยุดการโอน เพราะ gpi สามารถติดตามสถานะการทำรายงานได้ตลอด จากเดิมที่ธนาคารสมาชิกต้องไล่หาเองว่ากระบวนการโอนอยู่ตรงไหนแล้ว หากเกิดเหตุระบบรั่วไหลจนมีคำสั่งไปแล้ว ก็ยังติดตามและยกเลิกรายการได้เร็วขึ้น

Get latest news from Blognone

Comments

By: benwrk
Windows PhoneWindows
on 20 March 2018 - 14:48 #1039394
benwrk's picture

Micheal › Michael

By: whitebigbird
Contributor
on 20 March 2018 - 16:12 #1039410 Reply to:1039394
whitebigbird's picture

ที่หัวข่าว ควรบอกชื่อองค์กรด้วยครับ ไม่ใช่แค่แผนกหรือหน่วยที่สังกัดอย่างเดียว

By: nest3d
iPhoneAndroid
on 20 March 2018 - 17:58 #1039420

ส่วนตัวมองว่า SWIFT ถ้าเทียบกับ fintech ยุคนี้ค่อนข้างถือว่าล้าสมัยมาก ข้อดีคือธนาคารให้ความเชื่อถือ นอกนั้นแพงกว่าทุกอย่าง ถ้าระดับ micro แนะนำวิธีอื่น เช่น TransferWise