เรียกได้ว่าเป็นความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกก็ว่าได้ หลังจากที่มีคนพบว่า Facebook แอบเก็บบันทึกการโทรและข้อความจากสมาร์ทโฟน Android ปรากฏว่ามีคนไปเจอไฟล์วิดีโอที่ Facebook เก็บบันทึกไว้ ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่เคยโพสต์คลิปวิดีโอนั้นลงบน Facebook มาก่อนเลย
Madison Malone Kircher นักเขียนของเว็บ Select/All เล่าว่าน้องสาวของเธอตรวจสอบเรื่องการเก็บข้อมูลของ Facebook หลังทราบข่าวเรื่องการเก็บบันทึกการโทรและข้อความจากสมาร์ทโฟน โดยน้องสาวเธอได้ทำการดาวน์โหลดไฟล์เหล่านั้น แต่กลับพบว่าในบรรดาไฟล์ข้อมูลที่โหลดมา ดันมีไฟล์คลิปวิดีโอที่น้องของเธอเคยถ่ายเอาไว้ด้วย ทั้งที่ไม่เคยมีการโพสต์ไฟล์วิดีโอนั้นลงบน Facebook มาก่อน
คลิปวิดีโอเหล่านั้นเป็นคลิปที่ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ Facebook ยังไม่มีฟีเจอร์ถ่ายทอดสด หนึ่งในวิธีที่ผู้ใช้ Facebook ใช้สื่อสารกันในตอนนั้นคือการอัดคลิปวิดีโอเพื่อเอาไปโพสต์บนหน้าเพจของเพื่อน การอัดคลิปลักษณะนี้สำหรับผู้ใช้ Facebook ผ่านเครื่องเดสก์ท็อปสามารถทำได้โดยใช้กล้องเว็บแคมของคอมพิวเตอร์ โดยกดอัดคลิปได้จากในเว็บ Facebook โดยตรง ไม่จำเป็นต้องออกจากเว็บเพื่อไปเปิดโปรแกรมบันทึกวิดีโอ
การอัดคลิปวิดีโอแบบนี้ย่อมทำได้หลาย "เทค" แล้วค่อยเลือกเอาคลิปเวอร์ชั่นที่ถูกใจที่สุดไปโพสต์ ปัญหาที่ว่ามาอยู่ตรงคลิปที่ถูกถ่ายไว้หลายเทคเหล่านี้
น้องสาวของ Kircher อัดคลิปวิดีโอตอนเล่นฟลุต แต่อัดแล้วไม่พอใจจึงทำการอัดคลิปใหม่หลายครั้ง จนได้วิดีโอที่ถูกใจในท้ายที่สุดจึงค่อยนำไปโพสต์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ สิ่งที่พวกเราหลายคนรวมทั้งตัว Kircher และน้องสาวของเธอเข้าใจกันมาก่อนหน้านี้ก็คือ Facebook ควรจะทำการจัดเก็บไฟล์วิดีโอเฉพาะคลิปสุดท้ายที่ถูกนำไปโพสต์ แต่ในความเป็นจริงกลายเป็นว่า Facebook จัดแจงเก็บไฟล์วิดีโอที่ถูกถ่ายเอาไว้ทั้งหมดทุกรอบ โดยเก็บเป็นไฟล์ .FLV
ตัว Kircher ตรวจสอบเรื่องนี้โดยดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลจากบัญชี Facebook ของตัวเอง รวมทั้งสอบถามเพื่อนนักเขียนด้วย และทุกคนก็พบว่าเจอไฟล์วิดีโอลักษณะนี้เช่นเดียวกันหมด
การที่ Facebook จัดเก็บไฟล์วิดีโอทั้งที่ผู้ใช้ซึ่งเป็นคนถ่ายมันเองมองว่าเป็นคลิปเสีย ก่อให้เกิดคำถามว่า Facebook มีเหตุผลอะไรถึงเลือกที่จะไม่ลบไฟล์เหล่านั้นทิ้งไปทันที เพราะคลิปเสียที่ผู้ใช้ไม่ต้องการโพสต์ย่อมหมายความว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ผู้ใช้ไม่ต้องการให้คนอื่นเห็น สิ่งนั้นอาจเป็นแค่เหตุผิดพลาดเล็กน้อยทั่วไป หรืออาจเป็นบางสิ่งที่น่าอายเกินไป หรืออาจเป็นบางอย่างที่จะเกิดปัญหาหรือก่ออันตรายหากคนอื่นได้เห็นมันก็เป็นได้
อาจเรียกได้ว่านี่เป็นช่วงเวลา 2 อาทิตย์ที่หฤโหดที่สุดในชีวิตของ Mark Zuckerberg และคงเป็นเหตุการณ์มรสุมลูกใหญ่สุดที่เคยซัดเข้าใส่ Facebook เพราะนับตั้งแต่ข่าวฉาวโฉ่ประเด็น Cambridge Analytica ถูกตีแผ่ออกมา ก็เกิดแรงต้านจากหลายฝ่ายกลายเป็นกระแส #DeleteFacebook ซ้ำซีอีโอหนุ่มยังต้องเจอกับคำถามจากสภาคองเกรส เกี่ยวกับวิธีที่ Facebook ดูแลข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน
ที่มา - Select/All via Engadget
Comments
มันเก็บรูปในแชท ทั้งที่ลบแชททั้งสองฝั่งไว้ด้วย น่ากลัวมาก
อันนี้น่ากลัวจริงๆครับ เจอมากับตัว มันลบยังไงยังหาวิธีไม่เจอ
สรุปว่า ที่สมัยก่อนเคยระแวง แอปจีน โปรแกรมจีน จะล้วงนั่นล้วงนี่เราไป กลับเป็นแอพฝรั่งนี่เองที่ทำมานานแล้ว แค่ทำมาก่อนเลยทำเก่งกว่า ทำเนียนกว่า กว่าจะโป๊ะแตกก็นานหน่อย
สมัยก่อน(?)หรือสมัยนี้ ระแวงจีน+ระแวงฝรั่ง+ระแวงไทย เหมิอนกันหมดครับ ระแวงใครน้อยกว่ามากกว่าก็แล้วแต่ แต่ไม่ควรเลิกระแวงไม่ว่าเวลาใดก็ตาม
มันเป็นบั๊ค(โดยตั้งใจ)ไม่ใช่ฟีเจอร์
บั๊คตรงที่เผลอให้ผู้ใช้โหลดกลับมาได้ จริงๆกะจะแอบเก็บไว้ไม่ให้ผู้ใช้รู้ ฮา
นึกถึงภาพเก่าใน office ของ Mark ที่เป็นภาพเอาเทปกาวปิด webcam ของ Laptop ตัวเอง
สงสัยจะกลัวว่า สินค้าตัวเอง เก็บข้อมูลตัวเอง มากกว่าโดนคนอื่นเก็บ ซะละมั้ง
+1024 เห็นด้วยเลย
ถ้าเฟสบุ๊คเป็นของรัสเซีย เป็นของจีน
อเมริกาคงแบน
คงถูกคนดังๆมาถล่มจมดิน
เป็นปัญหามาก ๆ เลยสำหรับเฟซบุค ส่วนวิธีการแก้ปัญหาถ้าเป็นที่ไทยง่ายมาก ปิดระบบดาวโหลดไฟล์ซะ แค่นี้ก็เรียบร้อย 555
ใครใช้ Android แนะนำใช้แอป Island แยก Facebook ไปไว้ใน work profile ครับ อยากดึงข้อมูลเหรอ ดึงไปสิ แต่ไม่มีข้อมูลให้ดึงเท่าไหร่หรอกนะ
สำคัญคือเวลาอยากประหยัดแบต กดผ่าน Greenify (ที่ทำงานร่วมกับ Island เพราะนักพัฒนาเดียวกัน) ทีเดียว Facebook ดับไม่ตื่นแน่นอนยิ่งกว่า kill process เสียอีก ดับระดับที่ว่า Play Store ไม่อัปเดตแอปให้ด้วยซ้ำ แบบ Uber ผมก็ใช้แบบนี้ ชอบแอบดึง location เหรอ? งั้นไม่ต้องผุดต้องเกิดนอกเวลาเลยนะ เปิดแค่ตอนเรียกรถ ถึงปลายทางก็ปลิวไปซะ
น่าสนใจมาก
notification ยังเข้าอยู่เปล่าครับแบบนี้ หรือดับทุกอย่างเลย
ดับเหมือนไม่มีแอปอยู่ในเครื่องเลยครับ แต่พอมีทางซิกแซกได้คือไปสั่งให้เว็บ Facebook มันส่งโนติเข้าเบราว์เซอร์เรา พอเรารู้ว่ามีแจ้งเตือนเราค่อยไปกดเปิดแอปมาดูก็ได้ครับ (มันทำช็อตคัตแบบกดแล้วปลดล็อคแอปเข้าแอปเลยได้) ตัว Island มันใช้การติดตั้ง work profile แล้วก็ disable แอปแบบเวลา admin ระบบไม่ให้เราใช้แอปน่ะครับ
กลายว่า ?
รู้สึกดีมากที่ไม่มี FB