By: nismod 
on 2 April 2018 - 10:20
Tags:
Topics:
BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีน (ทำความรู้จักกับ BYD เพิ่มเติมได้ที่บทความนี้) ได้เยือนไทยอย่างเป็นทางการด้วยการนำรถยนต์ BYD มาให้บริการรถแท็กซี่จากการนำเข้าของบริษัท Rizen Energy ในฐานะผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
รถยนต์ที่ถูกนำเข้ามาให้บริการแท็กซี่คือ BYD e6 รถไฟฟ้าซีดาน 5 ประตูแบบ Full Electric และถูกวางตัวเป็นแท็กซี่พรีเมียม ทำให้อาจมีการคิดราคาสูงกว่าปกติ โดยรถยนต์ไฟฟ้าชุดแรกจะเริ่มวิ่งให้บริการเร็วๆ นี้ ขณะที่ BYD มีแผนจะนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในไทยอีกราว 1,000 คันภายใน 2019
BYD e6 และรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ของ BYD ถูกนำมาจัดแสดงที่งานมอเตอร์โชว์ที่กำลังจัดอยู่ตอนนี้ด้วย
ที่มา - BYD, CleanTechnica
รถ BYD e6
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
แล้วผู้ใช้ตามบ้านเมื่อไหร่จะมีสถานีชาร์จ?
อีก 1 สหัสวรรษ?
อาทิตย์หน้าก็มีได้ครับ สั่งมาติดสิ
ตามข้างบน สั่งมาติดตามบ้านเลย ไม่ต้องรอชาติหน้า
หรือถ้าหมายถึง ตามที่สาธารณะลองโหลดแอพ Plugshare ไม่ก็ EA Anywhere มาดู อันหลังกำลังไล่ติดตามปั๊ม Susco
เห็นที่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่งมีวิ่งเยอะ เป็น Uber Eletric ราคาประหยัดดีนะครับ
มาเมืองไทยไม่รู้ราคาจะเป็นยังไง
ราคาเกือบ2ล้าน ตกลงนี่ภาษีบ้านเราไม่ได้ช่วยอะไรรถไฟฟ้าเลยว่างั้น ขนาดของจีนยังราคาขนาดนี้
รุ่นนี้ราคาขายที่จีน เริ่มที่ 369.800 หยวน ไม่รวมส่วนลดจากรัฐบาลจีนเรื่องรภไฟฟ้า ก็ร่วม ๆ 1.83 ล้านบาทไทย ถ้าไทยเปิดมาราคาไม่ถึง 2 ล้าน ผมว่าก็ลดภาษีเยอะอยู่นะครับ
ถ้าวันใดวันหนึ่ง รถ ไฟฟ้าราคา สัก สี่ห้าแสน... คอ่ยน่าคบหา
ตอนที่แบรนด์ไทยเปิดตัวคิดว่ารุ่น 2 ที่นั่งน่าจะราคาประมาณนั้นด้วยซ้ำ เนื่องจากระยะวิ่งก็ไม่ได้เยอะ
จริงๆ แล้ว Taxi มันมีผลดีกับแบรนด์ประการนึง คือ การแสดงความทรหดของรถ ใครซื้อรถโตโยต้า สิ่งที่คิดถึงสิ่งแรกคือ อะไร ผมเนี่ย เครื่องยนต์ กับเกียร์เลย มันต้องทนมากแน่ๆ ถึงไม่เคยได้ใช้ก็จะคิดแบบนี้ เพราะเห็น Taxi วิ่งเกลื่อน แต่ถ้ามาแล้ว เสียบ่อยๆ วิ่งอยู่แล้วเจ๊ง ก็เตรียมพับเสื่อกลับบ้านเลย ความ VIP ของ Taxi ของจีนไม่มีอยู่จริงในเมืองไทย คนไทยฝังใจกับแบรนด์ยุโรปไปแล้วในความ VIP ดังนั้นวางตลาดอย่างนี้บอกคำเดียวว่า "เตรียมตัวพับเสื่อกลับบ้าน" แต่ถ้ามาเพื่อวางหมากญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงความทนทานของรถยนต์จีน และความก้าวหน้าของรถไฟฟ้าของจีน วิ่งธรรมดาก็ได้ ถ้ารถเสียบ่อยจะได้ไม่หน้าแหกมาก ความ VIP มันต้องใช้เวลาสร้าง คิดว่า 1-2 ปีจะสร้างความ VIP ได้ก็คงต้องใช้เงินมหาศาล ทุ่มทุนมากกว่านี้
นั่นสิ ผมยังไม่เคยไปดูตัวจริงนะ แต่ที่ดูจากคลิปรีวิว ภายในภายนอก มันคือรถICEเกรดประมาณล้านต้นๆเท่านั้นเอง ซึ่งก็น่าสงสัยว่าเท่านี้นับเป็น VIP แล้วเหรอ? (รูปลักษณ์ภายนอกส่วนตัวไม่ชอบหน้าแบบนี้เลยด้วย)
แต่มันได้เปรียบตรงที่ให้แบตมาเยอะมากกก 60kWh เอามาวิ่งจริงนี่หายห่วงเลย ไม่เหมือนเจ้าอื่นๆที่งกแบตเหลือเกิน ก็เข้าใจว่าเพราะแบตมันแพงนะ แต่ระยะวิ่งไม่ถึง 250km นี่มันก็ยังให้ความรู้สึกวิตกกังวลอยู่เวลาต้องขับนานๆ
เรื่องความทนก็ต้องให้เวลาพิสูจน์ แต่รถ ev ปกติพังยากนะ ถ้าเจ้านี้พังง่ายอีกก็ขนเสื่อกลับบ้านได้เลย ผมว่าเขารีบเข้ามาเสี่ยงเผื่อว่าคนไทยจะได้จำฝังใจ ev=byd อะไรทำนองนี้
อยากรู้ว่าวันนึงรถแท็กซี่นี่วิ่งกันกี่กิโลเมตร
แล้ว BYD นี่ต้องชาร์จระหว่างวันไหม ถ้าต้องคนเช่าแท็กซี่จะต้องมาเสียเวลาชาร์จระหว่างวัน? หรือว่าใช้ระบบลูกจ้างเหมือน All thai taxi?
A smooth sea never made a skillful sailor.
ถ้าแทกซี่ส่วนบุคคล เท่าที่รู้จักนี่ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องทุกเดือน ก็ตกประมาณ เดือนละ 10000 กิโล วันละก็น่าจะประมาณ 300 กิโลครับ แต่ถ้าเป็นแทกซี่สหกรณ์ก็น่าจะ 6-700 กิโลต่อวันต่อคัน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
งั้นถ้าเป็นรถบริษัท วิ่งกะนึงแล้วเอากลับมาชาร์จที่บริษัท ปล่อยกะต่อไป ก็น่าจะพอไหว
A smooth sea never made a skillful sailor.
ชาร์จทันหรือเปล่านี่สิครับ ขนาดชาร์จด้วยไฟ 120,000 วัตต์ครึ่งชั่วโมงแล้วยังวิ่งได้ไม่ถึง 300 กิโลเมตรเลย
สงสัยเรื่องราคาค่าโดยสาร ที่บอกว่าอาจจะแพงกว่าปกติ ไม่ใช่ต้องคิดตามมิเตอร์ตามมาตรฐานกรมการขนส่งทางบกรึครับ คิดตามใจแบบนี้ได้เหรอ หรือ จะเข้ามาเป็นแกรป? E-Grab?
ไม่ก็แท็กซี่สนามบินกับโรงแรม
จากที่เคยนั่งTAXIจีนมา ความรู้สึกขณะโดยสารดีมากครับ คือมันนิ่ง มันเงียบภายในมันดูไฮเทค เทียบกับรถ "TAXI ทั่วๆไป" มันพรีเมี่ยมกว่าแน่นอนครับ แต่นั่งที่จีน ค่ามิเตอร์ถูกกว่าแทกซี่ธรรมดาอีกนะ
ตกลง บ้านเรากฎหมายอนุญาติให้จดทะเบียนรถไฟฟ้าออกมาวิ่งได้แล้วรึ?