By: mk 
on 3 April 2018 - 22:11
Tags:
Topics:
กระแสเงินคริปโตบูมในปี 2017 ส่งผลให้เกิดกองทุนเก็งกำไร (hedge fund) ที่ลงทุนในเงินคริปโตมากถึง 167 กองในปีเดียว
แต่ราคาของเงินคริปโตที่ตกลงมากในปี 2018 โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ราคาลงมาเหลือประมาณ 7,000 ดอลลาร์ต่อ BTC (หายไปราว 50% จากจุดสูงสุด) ทำให้เกิดกองทุนใหม่ในปี 2018 น้อยลง เหลือเพียงแค่ 20 กองทุน และมีกองทุนหลายกองประกาศปิดตัวแล้ว
ข้อมูลของ Bloomberg ระบุว่ามีกองทุนอย่างน้อย 9 กองที่ปิดตัว ตัวอย่างหนึ่งคือ Alpha Protocol ที่ประกาศบนหน้าเว็บว่าด้วยความเสี่ยงเรื่องการกำกับดูแลจากรัฐ และราคาตลาดที่ผันผวน ทำให้กองทุนตัดสินใจคืนเงินให้กับผู้ลงทุนแทน ส่วนกองทุน Polychain Capital ที่น่าจะมีขนาดใหญ่ที่สุด มีทรัพย์สินประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ ก็ตัดสินใจล้มเลิกแผนที่จะขายกองทุนต่อสาธารณะเช่นกัน
ที่มา - Bloomberg
ราคา Bitcoin ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (ภาพจาก Coindesk)
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
พวกซื้อฟิวเจอร์ไปนี่ดอยเรียบ?
I need healing.
future ไม่มีดอยคับ มีแต่หมดตูดไปเลย
ว่าแต่ short หรือ long ล่ะคับถ้า short ก็กำไรกระจาย
positivity
ไม่หรอกครับเกราฟลงแบบนั้นก็จริง แต่มันมีกระชาคขึ้นไว้ตบกินพวกไม่เหลือ margin ไว้กว้างๆพอด้วย กับพวกกำหนดจุด stop loss ไว้โดนลากปิดเกือบหมดแหล่ะ มันเป็นเรื่องปกติ
เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเชียร์บิทคอยน์ก็หายไปเยอะเช่นกัน อย่างเซลล์ขายบิทคอยน์สาขา blognone ก็เหมือนจะหายไปเลย
ช่วงนี้เค้า HODL อยู่ครับ
ความผันผวนสูงขนาดนี้ ยังมีกองทุนไปลง ก็ต้องรับความเสี่ยงเองละครับ
5 5 5 สงสัยย้ายถิ่นฐานไปอยู่บนเขาหมดแล้ว
ขนาดในเพจที่มีกูรู ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เดี๋ยวนี้ก็ก็เงียบ
ตอนราคาพุ่งเห็นเต็มหน้าเฟส เราต้องคิดนอกกรอบ มองให้ไกล กล้าในตอนคนอื่นกล้ว บล้าๆๆ แล้วก็บูม! ผู้ติดตามตายเรียบ
ช่วงนี้เวลาร่วงติดๆ กันหลายวัน มักมีจุดไฟล่อเม่าอยู่เนืองๆ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นร่วงต่ออยู่ดี
สงสัยคงไกล้ได้เวลาคืนการ์ดจอกลับสู่ตลาดเกมเมอร์
รอรับการ์ดจอมือสองราคาไม่สูงอยู่เหมือนกัน
สงสังว่าการ์ดจอมือสองจสกพวกขุดบิตนี่มันน่าซื้อใช้ไหม? แบบ มันจะเสื่อมหรืออะไรมากกว่าปกติหรือเปล่าอะ
จริงๆราคาก็ควรนิ่งๆ ไม่ผันผวนมากแบบที่ผ่านมาอ่ะครับ แต่คนเข้าไม้ใหม่ๆหวังขึ้นเป็นบั้งไฟก็คงเซ็งน่าดู
ดูจากกราฟมันก็ยังขึ้นนะ แต่ช่วงที่ผ่านมาหลัง oct 17 มันขึ้นเกินไปเยอะเลย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมว่า มันคือระเบิดเวลา หาก tether ของ bitfinex โดนจับคาหนังคาเขาได้เมื่อไร มูลค่าจริงน่าจะประมาณ 2000 usd
ตอนนี้ tether ก็แทบจะเป็นขี้ที่ใครมีรีบปัดพ้นตัว
ซึ่งความโลภมันก็ทำให้คนเสี่ยงแม้จะรู้ว่ามันเกินมูลค่าจริง เหมือนคนที่เล่นแชร์ลูกโซ่ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ เพราะกะว่าจะรีบโดดออกก่อนวงล่ม
อ้าว บ่อนปิดซะก่อน แบบนี้นักลงทุนจะหาอะไรเล่นหล่ะ
เบื่อตายพอดี กะว่าจะหาอะไรวูบๆวาบๆ เล่นซะหน่อย
Zero-sum game ใช้จิตวิทยา ใช้หน้าตัก วัดกันแบบนี้แหละ กระตุ้นเลือดลมดีนักเชียว
7k. vs. 2k ยัง อีกไกลกว่าเกมเมอร์จะได้ราคาการ์ดจอปกติ(ถึงพวกนั้นจะขุดethก็เหอะ)
ผมไม่คิดว่ามันจะลงทีชันๆเหมือนช่วงที่มันขึ้นด้วยสิ ละคงไม่ต่ำ5kง่ายๆ
The Last Wizard Of Century.
นั่นสิครับ แนวรับ 5-6k แข็งมาก
แนวรับถ้าเจ้าจะดันลงเวลาไกล้ๆ ก็ยกออกได้ครับ
เหมือนตอนแรกแนวรับ 12k หนามาก มีแต่คนบอกว่าไม่ลงหรอก พอไกล้ถึงซื้อกันรัวๆ หวังว่าจะเด้ง แป๊ปเดียวแนวรับโดนยกออกแล้วเทพรวดเดียวเหลือ 9k พอคนคัดทิ้งกัน ก็จัดชุดไฟหลอกเม่าต่อจากนั้นก็ตบซ้ำอีกรอบ
อันนั้นก็เป็นบุญเป็นกรรมแล้วครับ ถถถถ
การลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนที่มีเจ้ามือในสัดส่วนใหญ่มาก
แต่บิทคอยมันขุดได้ยากขึ้นเรื่อยๆไม่ใช่เหรอ เมื่อก่อนอาจคุ้มทุนที่ 2k แต่ตอนนี้ราคาที่คุ้มทุนก็ต้องสูงขึ้นเรื่อยๆตามความยากในการขุด
ไม่ได้ขุดได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ขุดได้ที่ความยากแปรผันตรงกับพลังประมวลผลรวม (ซึ่งก็ดูเอาจากระยะเวลาในการสำเร็จแต่ละบล็อคอีกที) ถ้าไม่มีการเพิ่มกำลังการขุดเข้าไปมันก็ไม่ยากขึ้นครับ (เมื่อเทียบในแต่ละบล็อค)
แต่มีอีกอย่างนึงคือค่าตอบแทนของแต่ละบล็อคจะลดลงครึ่งนึงทุกๆ 210,000 บล็อค (แต่ก็นานอยู่นะกว่าจะลดแต่ละที)