หลังจาก กสทช. เรียกทรูเข้าชี้แจง กรณีภาพบัตรประชาชนที่ลงทะเบียนสามารถเข้าถึงได้เป็นสาธารณะ ล่าสุด กสทช. ส่งหนังสือถือบริษัท เรียล มูฟ จำกัด (TrueMove H) ให้รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหาย ทั้งทางแพ่งและอาญา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมจัดให้มีช่องทางการตรวจสอบการได้รับผลกระทบโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
กสทช. ยังระบุให้ TrueMove H จัดมาตรการป้องกันและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางเทคนิคและการจัดการภายในองค์กร โดยระดับการรักษาความปลอดภัยต้องเหมาะสมกับความเสี่ยงที่จะเกิด ตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นอย่างน้อย และจะต้องมีการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย
TrueMove H จะต้องรายงานผลมายัง กสทช. ภายใน 7 วันและรายงานความคืบหน้าทุกๆ 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากไม่ปฏิบัติตาม TrueMove H จะถูกปรับไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อวัน
นอกจาก TrueMove H แล้ว กสทช. ยังส่งหนังสือถึงผู้ให้บริการเครือข่ายอื่นๆ ให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรด้วยเช่นกัน
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งทรูให้รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการทั้งทางแพ่งและอาญา กรณีข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุด พร้อมกำชับโอเปอเรเตอร์รายอื่นต้องจัดให้มีมาตรการป้องและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้บริการ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่สำนักงาน กสทช. ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ปรากฏข่าวผ่านสื่อสารมวลชนว่า ทรูมูฟ เอช ทำข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุดเป็นจำนวนมาก มาชี้แจงข้อเท็จจริง ณ สำนักงาน กสทช. เมื่อวานนี้ (17 เม.ย. 2561) ในวันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือถึงบริษัท เรียล มูฟ จำกัด เรื่อง ให้ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มีคำสั่งให้ บริษัทฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน แก้ไขปรับปรุง และปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสม ในเรื่องดังต่อไปนี้
1. จัดให้มีมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยอย่างน้อยต้องปรับระดับรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยี และให้มีการตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของข้อมูล
2. จัดให้มีช่องทางการตรวจสอบจากประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
3. ให้ บจ. เรียล มูฟฯ รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในทางแพ่งและทางอาญา
4. ให้รายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งตามข้อ 1. 2. และ 3. มายังสำนักงาน กสทช. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นระยะๆ ทุก 15 วัน
หากบจ. เรียล มูฟฯ ไม่ดำเนินการตามคำสั่งนี้ เลขาธิการ กสทช. จะใช้มาตรการบังคับทางปกครองกำหนดค่าปรับทางปกครองตามกฎหมายไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาทต่อวัน ตามมาตรา 66 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ทั้งนี้ บจ. เรียล มูฟฯ มีสิทธิโต้แย้งคำสั่ง ดังกล่าวได้โดยยื่นอุทธรณ์ต่อ กสทช. ภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ตามมาตรา 65 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544
นายฐากร กล่าวว่า พร้อมกันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นๆ ว่า ต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละบริการโทรคมนาคม ตามข้อ 10 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคมกำหนด โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศอย่างเคร่งครัด และหากเกิดกรณีที่ไม่เป็นไปตามที่ประกาศกำหนด ผู้รับใบอนุญาตต้องควบคุมดูแลให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติตามให้ถูกต้องเหมาะสม และผู้รับใบอนุญาตต้องผูกพันในการดำเนินการใด ๆ ของบุคคลดังกล่าวเสมือนว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง ตามข้อ 18 ของประกาศดังกล่าวกำหนดไว้
Comments
ผมไปปิดเบอร์ทรูทั้งหมดแล้วครับ อันตรายมากๆ
ปิดไปก็เท่านั้น ข้อมูลเจ้าอยู่ในมือข้าแล้ว วะฮะฮะฮ่า
ปิดเบอร์แล้วไม่ได้ทำให้ข้อมูลบัตรประชาชนของคุณหายออกไปจากระบบหรอกครับ
แก้เขิน พอหอมปากหอมคอ
แคนาดา มีกรณีคล้ายๆทรูเลย แต่องค์กรรัฐนะ
https://www.techdirt.com/articles/20180415/08121139630/19-year-old-canadian-facing-criminal-charges-downloading-publicly-accessible-documents.shtml
แล้วจะเยียวยากันแบบไหนหว่า
เยี่ยมครับ
เนตฟรีคนละ 1 gb
<small>สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลประทบ และจ่ายรายเดือนเกิน 1000 บาทขึ้นไป</small>
ฮ่าๆๆๆ
คูปองส่วนลด50% สำหรับลูกค้ารายเดือนที่package1500ขึ้นไป
โทรฟรี 100นาทีห้าทุ่มถึงตีห้า
อินเตอร์เน็ต 5 ชั่วโมง(ใช้แล้วอย่าลืมปิดนะ เหอๆๆๆ)
"สำหรับลูกค้าที่ได้ SMS นี้สามารถรับสิทธิ์ได้ผ่าน True Wallet ....."
อะไรแบบนี้มั้งครับ
และหากท่านยังไม่ผูกบัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต สามารถผูกได้ทันที...
หมดเขตรับสิทธิ์ภายในวันที่.....
ยกเลิก ให้หมดครับ ถ้าสมัครแพกเก็จไว้ เดี๋ยวงานมานะครับ หรือ เงินอาจหายจากบัญชีได้
เรารอด เพราะไม่เคยคิดใช้อะไรของค่ายนี้ 55
ผมเคยใช้ แล้วเวลาขึ้นลิฟ ลงบันไดเลื่อน สัญญาณมันตัดทุกที หงุดหงิดมาก
ทรูต้องไปเชคอีกว่า บัตรแต่ละใบ ของใครเบอร์ของใคร
และทรูควรจะโทรไปบอกด้วยตนเองทุกคน ไม่ใช่เปิดเพียงแต่ช่องทางเชคของตนเอง(ที่ทรูอาจทำเนียนไม่ค่อยประกาศ)
ที sms เถื่อนเอย โปรโมชั่นเอย แทบโทรหารายตัว เคสนี้ทรูก็ควรโทรแจ้งทุกคนเอง
ในแง่วิธีการควรจะแจ้งครบทุกช่องทาง
1-> เช็คจากบัตรไปหาเลขหมาย (ซึ่งถ้าข้ามค่ายก็ไม่ควรมีข้อมูลนี้สินะ) และแจ้งผ่านเลขหมาย
2-> เช็คจากอีเมล์ที่ใช้ในการสั่งซื้อ และแจ้งไปยังอีเมล์
3-> จัดทำ Service Portal สำหรับการตรวจสอบ (โดยอาจจะใช้ Key-Value เป็น รหัสบัตรประชาชนไม่ครบหลักอาจจะ 9 หลักแรก/+เบอร์โทรไม่ครบหลัก อาจจะ 7 หลักแรก+ชื่อไม่ครบตัว หรืออื่นๆ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสเก็บข้อมูลอีกรอบ แล้วแสดงข้อมูลว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือเปล่า)
เพราะถ้าเลือกทางใดทางนึง ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าข่าวสารจะไปถึงผู้รับ
เบอร์อาจจะปิดไปแล้ว / หรือเมล์อาจจะยกเลิกไปแล้ว
จ่ายค่าทำบัครประชาชนใหม่ให้ทุกคน ทั้งค่าต้นทุนบัตร และค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกิดขึ้น
เปลี่ยนแค่รูปถ่าย ข้อมูลยังเหมือนเดิม
ไม่เหมือนทั้งหมดจ๊ะ บัตรประชาชนมีข้อมูลมากกว่าแค่เลขบัตร วันเดือนปีเกิด กับรูป
แต่ก็เลขบัตรประชาชนเดิมอยู่ดีนะครับ
เลื่อนไปอ่านด้านล่างอีกนิดนะจ๊ะ
ไปอ่านมาแล้วครับ (หลังจากคอมเมนต์นะ) จริงๆแค่มีเลขบัตรประชาชนก็หนักหนาแล้วล่ะครับ แล้วถึงทำบัตรใหม่ก็ไม่ได้ปลอดภัย เช่นข่าวก่อนหน้านี้ที่มีคนทำบัตรประชาชนหาย ขนาดว่าแจ้งความบัตรหายแล้ว ซึ่งถ้าเลขท้ายบัตรมันมีประโยชน์จริงๆมันก็ควรจะตัดทิ้งไปจากระบบ (เพราะใบใหม่ก็ได้เลขใหม่มาแล้วด้วย) แต่ก็ยังมาพบทีหลังว่ามีคนเอาบัตรประชาชนที่ทำหายไปเปิดบัญชีธนาคารตั้งหลายบัญชี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เข้าใจและเห็นด้วยนะครับ แค่มาออกเสียงว่าระบบบ้านเรามันไม่ได้เป๊ะแบบที่ควรจะไว้ใจได้
บัตรประชาชนใช้แค่ชื่อ กับเลขบัตร
ไม่เหมือนบัตรเครดิตโทรไปอายัดได้ ขอบัตรใหม่ก็เลขใหม่ บัตรเก่าใช้งานต่อไม่ได้
บัตรประชาชน มีข้อมูลอื่นๆ มากกว่ารูป และเลขบัตรจ๊ะ
มันมีเลขที่เหมือน CVV ของบัตรเครดิต ที่อยู่หลังบัตรด้วย เขาถึงรณรงค์ให้ไม่ต้องถ่ายเอกสารหลังบัตรไงจ๊ะ แต้ก็น่าจะมีคนถ่ายไปอยู่
จ๊ะ แค่หน้าบัตรก็ทำอะไรได้เยอะแล้วครับ
ถ้าอายัดบัตรประชาชนได้แบบบัตรเครดิต บัตรหายคงไม่ต้องแจ้งความหรอกครับ
ตัวข้อมูล เลขบัตร วันเดือนปีเกิด มันหาได้นอกเหนือจากบัตรประชาชนก็มี
แต่สิ่งที่บัตรประชาชนมีคือ
รหัสออกบัตรที่อยู่ใต้รูป
วันที่ออกบัตร วันหมดอายุ
และเลขรหัสหลังบัตรที่ออกใหม่ทุกครั้งที่ทำบัตรใหม่
สิ่งเหล่านี้มัน unique key
โดยเฉพาะเลขหลังบัตร เปรียบเสมือน CVV ขอวบัตรเครดิต เป็นรหัสดึงข้อมูลจาก api กรมการปกครองได้ด้วย ทราบทั้งชื่อพ่อ ขื่อแม่ ที่อยู่พ่อแม่ ทุกอย่าง
การออกบัตรใหม่ ก็จะได้รหัสหลังบัตรใหม่ ก็จะช่วยปกป้องได้
Laser ID นี่ออกบัตรเปลี่ยนด้วยเหรอครับ ไม่เคยสังเกตเลย (ไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆนี่หน่า)
Edit:: เช็คแล้วเปลี่ยนตามล๊อตแฮะ
รู้แต่เลขใต้รูปเปลี่ยน แต่เท่าที่เจอมา เอกชนแทบไม่มีที่ไหนเอาเลขใต้รูปไปใช้เลย
(และส่วนใหญ่ผมก็เซ็นทับเลขบางหลักไว้)
แต่ความเป็นจริงที่อยู่บนบัตรที่เปลี่ยนไม่ได้ ก็มากพอทำธุรกรรมเยอะแยะมากมายแล้ว
(เอาว่า ที่หลุดจาก iTruemart บางส่วนก็ไม่ได้สแกนหลังบัตรไป - เพราะนโยบายไม่ได้ให้สแกนหลังบัตรนานแล้ว .. ก็คือสิ่งที่สำหรับบางคน อาจจะไม่ได้หลุดแต่แรกอยู่แล้ว) ส่วนหน่วยงานที่ใช้ Laser ID ยืนยันตัวที่เห็นก็มีแค่สรรพากรที่เดียว (หน่วยงานราชการอื่นๆ อาจจะมีหน่วยออกหนังสือเดินทางอีกที่ ... หรือเดี๋ยวนี้เค้าเปิด LASER ID API ให้บุคคลภายนอกราชการใช้แล้ว?)
แต่เปลี่ยนใบใหม่ก็เป็นเรื่องดีอ่ะล่ะ
Edit2:: แต่ไปหาดูเหมือนแบงก์ก็จะติดต่อขอใช้ข้อมูลหลังบัตรแล้วแฮะ (อนุมานว่าใช้ทุกที่แล้วกัน แต่ทางปฏิบัติจะใช้หรือเปล่าไม่รู้นะครับ)
มันก็มีประโยชน์ที่ว่า การทำบัตรใหม่ ได้รหัสใหม่ คือรหัสยืนยันว่าเป็นบัตรจริงๆ ของจริง พวกที่เอาสำเนาหน้าบัตรเก่าไปใช้ อย่างน้อยมันก็ช่วยเราได้ว่า บัตรเก่าที่ถูกนำไปใช้ คือ สำเนาบัตรที่ถูกขโมยไป และเราได้ทำบัตรใหม่ตั้งแต่ทราบเรืองว่าถูกขโมยแล้ว
จุดแตกต่าง ที่จะบอกว่าบัตรเก่าหรือใหม่ ก็เลขรหัสใต้รูป มันไม่มีที่ไหนเอาไปใช้ก็จริง แต่มันคือ ตัวเลขยืนยันได้ว่าบัตรที่เราถือของใหม่ คือ ของใหม่ล่าสุดของเรา
ส่วนรหัสหลังบัตร API อาจไม่ได้เปิดให้ภายนอก แต่จะบอกว่ามันมีวิธีใช้ และถ้า token ของหน่วยงานใดถูกแฮกไป ก็อาจถูกนำไปใช้ควบคู่การใช้งานพวกนี้ได้
เท่าที่เคยถามแบงก์นึง เวลา "ขอ" ดึงข้อมูล Real Time จากปกครอง พอเสียบบัตรแล้วต้องกรอกเลขหลังบัตรถึงจะดึงได้นะครับ และตอนนี้แบงก์พาณิชย์ทุกแห่งใช้ Real Time หมด ก็เดาว่าต้องกรอกหมดครับ
สำหรับใครที่บัตรหลุดรอบนี้ ไปทำบัตรใหม่ก็ช่วยลดความเสี่ยงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแบงก์ได้ครับ แต่หน่วยงานอื่นๆ ก็แล้วแต่ดวง
ทรูฯ คงจะกลัวจนตัวสั่น ปรับแค่วันล่ะ 20,000 เอง น่าจะโดนแบบกฎหมายใหม่ของ EU GDPR https://www.blognone.com/node/100324
ความเสียหายด้านข้อมูลมันอาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ทำไมเป็นจับมือเซ็นสัญญาเลยว่า ถ้า..
หาก ภายภาคหน้ามีความเสียหายเกิดขึ้นกับผู้ที่ข้อมูลหลุดในครั้งนี้ และมีการสอบสวนว่าเกิดจากการใช้ข้อมูลที่หลุดไปนั้น ให้ทรูเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายนั้นโดยตรง ให้กับทุกๆคนที่ข้อมูลหลุดจากทรู แบบนี้น่าจะการันตีให้สบายใจได้
ถ้าสมมุติว่า คนที่คิดว่าแฮ็ก เป็นคนไทยอยู่เมืองไทย คงได้เป็นแพะบูชายันปานนี้ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง
ปรับวันละ2หมื่น... เทียบกับทุนและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของบริษัทเขาผมว่ายอมโดนปรับไป 10 ปีก็คงไม่เป็นไรล่ะครับ ปีละ7ล้านนิดๆเอง
ปรับ 20,000 บาท/วัน / 45,736 บัตร (ไฟล์) = 0.43729 บาท/วัน
สรุปคือ กสทชให้ความสำคัญแค่ 43 สตางค์ ต่อคน/วัน ... เจริญพร กสทช
แอบมาหารเลขในใจเหมือนกัน แล้วรู้สึกหดหู่ว่าข้อมูลเรามีค่าแค่นี้ในสายตาเค้า T T
ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท จะมากกว่านี้ก็ได้ครับ
ถ้าปรับแพงเดี๋ยวจะเหมือนไปหักหน้าท่าน มท.1 สิครับ ๕๕๕
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เยียวยาโทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที เน็ต 1GB นาน 30 วัน
เฉพาะลูกค้าที่มีปริมาณใช้งานมากกว่า 1000 บาทขึ้นไป ตรวจสอบสิทธิ์และส่ง SMS เพื่อสมัครขอรับสิทธิ์ได้ที่ลิงค์ ....
ปรับเยอะจังครับ นึกว่าจะปรับซัก 500 บาทซะอีก แบบนี้บริษัทต้องกลัวหัวหดรีบทำตามแน่ๆ
ทรูควรโทร หรือส่งจดหมาย หาเจ้าของบัตรทุกคน ชี้แจงว่าเกิดอะไร บอกเจ้าของบัตรให้มั่นตรวจสอบว่าได้ไปสมัครอะไรแปลกบ้างหรือเปล่า
บางคนอาจไม่ได้ติดตามข่าว กว่าคนกลุ่มจะรู้ตัว คงมีใบแจ้งหนี้/หมายศาล มาถึงบ้านแล้ว
20000 ต่อวันสำหรับทรู ไม่รู้สึกหรอกครับ ลอง 20000 ต่อชั่งโมงสิ รีบแก้ไขให้แน่
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะต้องมีมาตรการลงโทษที่มากกว่าการปรับเงิน เพราะบริษัทเหล่านี้ทุนหนา แถมสามารถกู้จากที่ไหมมาใช้ก็ได้ ตราบใดที่บริษัทยังทำกำไรได้มากกว่าค่าปรับของ กสทช.
โทษของ กสทช. ไม่ได้ต่างอะไรกับเสือกระดาษที่เขียนไว้เพื่อขู่แต่ใช้จริงไม่ได้หรือทำได้แค่เสียดสีผู้กระทำความผิด ผิดหวังมากที่ก่อตั้งมาแต่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยเหมือน สคบ. แค่เคส Huawei กับ AIS ยังทำอะไรไม่ได้ เคสนี้จะเหลือเหรอ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ขอแบบ 20,000 และเพิ่มเป็นเท่าตัวในทุกๆ วันครับ 20,000..40,000..80,000..160,000...
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ไม่ถึงเดือนยื่นล้มละลายได้เลย
ทำไมรู้สึกว่าบนลงโทษมันน้อยจัง เทียบกับความเสียหายที่ก่อขึ้น
ไม่รู้ว่า ตปท มีบทลงโทษแบบนี้ไหม หรือไทยแลนด์โอนลี่
อีกอย่าง ถ้าคนมาแจ้งไม่ใช่ ฝรั่ง ป่านนี้เรื่องเงียบไปนานแล้ว
ผมว่าเบรคๆ กันนิดนึงก็ดีนะครับ
“TrueMove H จะต้องรายงานผลมายัง กสทช. ภายใน 7 วันและรายงานความคืบหน้าทุกๆ 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากไม่ปฏิบัติตาม TrueMove H จะถูกปรับไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อวัน”
จากจดหมายข้อสาม
แปลว่า ถ้าไม่รายงานความคืบหน้า จะเจอปรับเพิ่มจากค่าเยียวยา ค่าเยียวยาอยู่ในจดหมาย กสทช. ไม่ใช่เหรอครับ ?
มันเป็นภาษากฏหมายต้องตีความต่อเนื่อง อ่านแล้วหลุดได้ง่ายๆน่ะครับ ก่อนอ่านคอมเมนท์คุณผมก็แอบด่าในใจเหมือนกัน
เพราะงั้นต้องขอบคุณที่ช่วยเน้นเนื้อหาให้เข้าใจมากขึ้น
มีความรู้สึกว่าถ้าทางผู้เขียนข่าวที่มีความรู้ด้านกฏหมายจะช่วยเน้นจุดแบบนี้ก็น่าจะดี เพราะคนอ่านส่วนใหญ่(รวมผมด้วย)อ่านเงื่อนไขทางกฏหมายแบบนี้บางทีก็หลุดได้ง่ายๆ ถือว่าเป็นการช่วยให้ความรู้กับผู้อ่านไปในตัว
หรือการที่คนคอมเมนท์ช่วยจับจุดมาอธิบายแบบคุณก็น่าขอบคุณเช่นกันครับ
เยียวยา != ค่าปรับ และ!= การกระตุ้นให้บริษัทเร่งจัดการนิครับ เพราะยังไงเร่งไม่เร่งก็ต้องโดนค่าเยียวยาเหมือน ซึ่งค่าเยียวกว่าจะฟ้องได้ก็แค่ดึงเรื่องไปเรื่อยๆนัดไกเกลียไปๆมาๆค่าเสียหายที่ชดเชยแต่ละรายอาจจะน้อยมากรายหนึ่งหารเฉลยผมว่าไม่เกินหนึ่งล้านเพราะไม่ใช่ทุกคนจะมีปัญหา ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องจ่าย
ผมว่าถ้าอ่านดีๆ มานั่งตีความทีละคำเลย พบว่า แย่กว่าเก่าอีกนะครับ
ไม่มีการกำหนดข้อบังคับว่าต้องทำการชดใช้ 100% หรือแม้แต่ขั้นต่ำเท่าไร ถ้าทรูบอกว่าชดใช้แค่ 1 บาทก็ถือว่าชดใช้ complied ตามกฏข้อนี่ไหมครับ?
คำถามกลับมาจุดเดิมว่า กสทช ให้ความสำคัญในการบังคับทรูให้แก้ไขแค่ไหน ปรับแค่ 2 หมื่นต่อวัน ถ้าเทียบกับต้องรื้อ project จ้าง engineer มาแก้ มา test จ้าง security ข้างนอกมา audit เผลอๆ บางทีทรูเมินเฉยอาจจะคุ้มซะกว่า ฉะนั้นค่าปรับที่สมเหตุสมผลควรจะอยู่ในจุดที่ถ้าเมินเฉยแล้วจะไม่คุ้มทุนนะครับ จนต้องมาแก้ไข
ความคืบหน้าแค่ไหน กสทช ก็เขียนคลุมเครือ ไม่ได้มีมาตรวัดมาชี้วัดว่าอะไรคือความคืบหน้า อะไรคือ objective และ target อยู่ที่ตรงไหน การแก้ code 1 บรรทัด หรีอเปลี่ยนชื่อ bucket สัก 1 ตัวอักษร จะถือว่าเป็นความคืบหน้าไหมครับ?
จุดที่อยากจะสื่อถึงคือ สองส่วนที่ผมพูดถึงนั้นเป็นคนละส่วนกันน่ะครับ (เอาจริงๆ ผมก็คิดว่า กสทช. ห่วย 555+)
แต่ว่า การจะด่าเนี่ย ด่าให้ถูกจุด หรือด่าด้วยความจริง หรือสิ่งที่เข้าใจถูก ดีกว่าด่าด้วยความเท็จ ความเข้าใจผิดนะครับ
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า แย่กว่าเก่า น่ะ “เก่า” นี่คือที่อาจจะเข้าใจผิดรึเปล่าครับ ?
ซึ่งแน่นอน ถ้าทางนั้นชดเชยไม่เป็นธรรม การฟ้องร้องเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้วครับ
มาตรา 66 พระราชบัญญัติการประกอบการกิจการโทรคมนาคม ...ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตยังเพิกเฉยไม่ปฏิบัติการให้ถูกต้อง หรือฝ่าฝืนคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือกรณีที่มีความเสียหายร้ายแรงต่อสาธารณะ ให้คณะกรรมการมีอำนาจพักใช้หรือ “เพิกถอนใบอนุญาต” ได้...
เขาจะไม่กังวลหรอกครับถ้าผู้บัวคับใช้กฎหมายนี่ไม่ใช่กสทช.ผลงานที่ผ่านมาคุณก็รู้เสือกระดาษ ปรับไม่ต่ำกว่าสองหมื่นมันก็แสดงอีกนัยว่าสองหมื่นก็ปรับได้ครับ ถ้าจะปรับแค่สองหมื่นคุณจะทำอะไรได้? ปรับวันละสองหมื่นใต้โต๊ะคนละแสนต่อวันยังไม่สะดุ้งรายนี้เลยย ไอเพิกถอนใบอนุญาตุคุณคิดว่าทางนั้นจะไม่เอาประชาชนเป็นตัวประกันหรอครับคนใช้เป็นล้านเชื่อว่าคนกสทช.ก็ใช้ไม่มีทางและไม่มีวันที่จะพักใบอนุญาตด้วยซ้ำ
ปล.เยียวยานะบริษัทใหญ่เขามีทีมทนายไกเกลี่ยขึ้นศาลให้ถ้าเป็นคนตาดำๆแค่จ้างทนายก็เหนื่อยแล้วไหนจะต้องขึ้นศาลยังไงเยียวยาก็ไม่คุ้มแน่นอนครับ
ผมก็กังวลครับ
เพียงแต่กังวลไม่ใช่ข้ออ้างของการตีความผิดนะครับ
ตอนนี้มีการอ้างอิงกฎหมายซึ่งเกี่ยวโยงไปกับการพัก / การเพิกถอน บังคับหรือไม่บังคับมันเป็นอีกเรื่องนึง
ถ้าไม่บังคับใช้ หรือบังคับใช้ได้ไม่ดี กสทช. ก็สมควรถูกด่าครับ
ปรับแบบนี้ จ่ายตลอดชาติยังได้เลย
20000 บาท ต่อบัตร ต่อวัน ร้องไห้แน่นอน
เคยเห็นเคสแบบว่าต้องปะกาศขอโทษลงหนังสือพิมพ์เป็นเวลา1 อาทิตย์ด้วย
ศาลประเทศไหนไม่รู้