สำหรับคนที่หวังจะได้ใช้ Android Auto ในรถโตโยต้า เห็นทีจะต้องหวังกันไปยาวๆ นะครับเพราะผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นได้บอกว่าจะไม่นำมาใช้เพราะประเด็นด้านความเป็นส่วนตัว
Mark DeJongh ผู้จัดการโครงการรถยนต์รุ่น Avalon (รถเก๋งฟูลไซส์ วางตัวสูงกว่า Camry) กล่าวถึง Android Auto ว่า "พวกเราเป็นบริษัทอนุรักษ์นิยม (conservative) เลยอยากแน่ใจว่าทุกอย่างโอเค และเราอยากปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าเรา ซึ่งเราเชื่อในจุดยืนของเราและสิ่งที่เราทำอย่างมาก"
เว็บไซต์ Motor Trend เคยเขียนกล่าวหากูเกิลว่า Android Auto เก็บข้อมูลจำนวนมาก เช่นความเร็วรถ, ตำแหน่งคันเร่ง, อุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นหม้อน้ำ (coolant), อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง รวมถึงรอบเครื่องยนต์ ในขณะที่แอปเปิลเก็บข้อมูลแค่ว่ารถยนต์เคลื่อนที่อยู่หรือไม่ในขณะที่ CarPlay ถูกใช้งานอยู่
ต่อมากูเกิลปฏิเสธการกล่าวหานี้บางส่วน โดยระบุว่าไม่ได้เก็บข้อมูลตำแหน่งคันเร่งและอุณหภูมิของเหลว โดยผู้ใช้สามารถเลือกไม่แชร์ข้อมูลได้ แต่กลับไม่ได้กล่าวถึงข้อมูลรอบเครื่องและความเร็วรถยนต์ ซึ่งกูเกิลระบุว่าการเก็บข้อมูลมีจุดประสงค์เพื่อการนำทางที่แม่นยำมากขึ้น
โตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไม่กี่เจ้าที่ปฏิเสธการใช้ระบบอินโฟเทนเมนต์อื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองมาหลายปี โดยเพิ่งประกาศนำ Apple CarPlay มาใช้กับ Avalon รุ่นปี 2019 ในขณะที่ปัจจุบันผู้ผลิตหลายเจ้าใช้แนวทางนำ Android Auto และ Apple CarPlay มาใช้ควบคู่กับระบบอินโฟเทนเมนต์ของตนเอง
ที่มา - Motor1.com
Comments
อยากรู้ว่า มันเอาข้อมูลอะไรเราไปใช้ครับ พวก car paly
📸
ผมเพิ่มในข่าวให้แล้วครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
อ๋อครับ
ผมเบื่อ car play อย่างเดียว ตอนขับรถชอบเด้งให้ใช้ apple map ผมลองใช้ดูมันกากมากๆ แผนที่ไม่อันเดทเลย ซอยแถวบ้านกับทางด่วนไม่มีในแผนที่ด้วยซ้ำ แต่เด้งเตือนทุกครั้งที่ขับรถ รู้สึกรำคาญเหมือนกัน
📸
ผมเคยใช้ Apple Map นำทางบนมือถือ มันบอกเลี้ยวซ้าย
แต่ในจอมีลูกศรซ้อนกันสองชั้น ดูไม่ชัดเจนว่าจะต้องตรงก่อนหรือซ้ายก่อน สรุป เลย...
Google Map ยังเข้าใจง่ายกว่าอีก
กลับกัน ผมละชอบApple Map มากกว่านะครับ
ใช้ Google Map ทีไร มันชอบเอาพวกร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ มาแสดงจนบังแผนที่หมดเลย
แต่ Apple Map นี่อย่างโล่ง สบายตาดี
ecu ทั้งหมด
ที่เด็ดว่านั้นคือ join user id ได้
รู้ว่ารูปใน google photo มีอะไรบ้าง
รู้ว่า search history เป็นยังไง
รู้ว่าเสียงเป็นยังไง
รู้ว่าชอบดูวิดีโออะไร ฟังเพลงอะไร
รู้ว่าอยู่ที่ไหน เดินทางลักษณะยังไงแต่ละวัน
รู้ว่าเมล์ที่ได้เนื้อหาอยู่ในประเภทหมวดไหน สมัครใช้บริการอะไรที่ต้องยืนยันเมล์ รู้หมด
รุ้ว่ารายได้ การใช้เงินเป็นยังไง
รู้ทุกอย่างที่เกิดในอาณาจักร google account
เป้าหมายเดียวเลย Advertisement Platform + Segment target ที่พร้อมให้ Agency มาดู
ไอจอกดของ toyota ปัจจุบัน มันเห่ยมากเลย รถวิ่งอยู่แล้วกดอะไรไม่ได้ซักอย่าง ทำ software ไม่คิดเผื่อคนนั่งข้างเลยฮะ
ยอมให้คนนั่งข้างกดไม่ได้ ดีกว่ายอมให้กดได้แล้วคนขับมากดนะครับ
ผมว่าแบบนี้ดีแล้วครับ
ถ้ามันกดได้ มีหรือที่คนขับจะไม่กดเอง
มันเป็น guideline ของอุตสาหกรรมรถยนต์เลยครับ ว่าตอนไหนที่จะตอบสนองคนใช้งานได้บ้าง
ออขอบคุณครับ พอจะเข้าใจฮะ แต่อีกประเด็นตามเม้นข้างล่างที่ผมไม่ได้พูดถึงคือมันหน่วงมากๆด้วยแหละ =__=
รถบางยี่ห้อยังไม่มีที่วางแก้วให้เลยครับ เหนื่อยก็พัก หิวก็พักให้เป็นกิจ
ของโตโยต้าเองอย่างหน่วง
ซื้อพวก Pioneer หรือ Alpine มาติดเพิ่ม ยังดีกว่าพวกจอสัมผัสที่ติดมากับรถเสียอีก แถมเดี๋ยวนี้รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
อยากใช้มาก แต่เห็นราคาแล้วก็เสียดายตัง มีรุ่นไหนคุ้มๆไหมครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ที่ผมเจอก็มี Alpine iLX-702D ราคา 34,000 บาท รองรับทั้ง Android Auto กับ Apple CarPlay ครับ หาซื้อได้ตามร้านเครื่องเสียงครับ
https://www.facebook.com/AlpineSociety/videos/vb.418063135288/10155904340685289/?type=2&theater
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Sony XAV-AX200 น่าจะประมาณหมื่นห้า ไม่แน่ใจขายในไทยหรือยัง
อีกวิธีงบน้อย ผมใช้ Android tablet 8.4" ตัวละหมื่น มาตั้งแทนครับ เสียงต่อออก aux กับเครื่องเสียงติดรถเดิม(หรือ BTไป)
android 7.0 เปิดสองจอได้ นำทางจอนึง(รองรับทั้ง sygic,google map) youtube อีกจอนึง(ผมใส่ซิมเนท 4M unlimit ที่ทรูพ่วงกับเนทบ้านมา) หรือเปิด file video ไรว่าไป ต่อ google map share location เป็น GPS tracking ได้อีก
แต่ยังไงคุณภาพเสียงก็สู้ front ยี่ห้อดีๆไม่ได้นั่นแหละนะ
conservative มากไประวังจะตามโลกไม่ทัน แล้วจะหายไปจากตลาดนะครับ
เห็นแววรำไร ของบริษัทที่ไม่ทันรถเที่ยวถัดไป
เป็นบริษัทที่ขายแบรนด์มากกว่าขายรถเลยครับ
ข้อมูลพวกนี้มันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เค้าเอาไปก็น่าจะได้ประโยชน์
ส่วนuserแทบจะไม่ได้เสียอะไร กูเกิ้ลอาจจะใจดีแจ้งด้วยว่าตอนนี้น้ำแห้งหม้อน้ำแล้วนะ มีร้านซ่อมอยู่ใกล้ๆและไม่หลอกคุณ หรือตอนนี้เครื่องคุณร้อนเกินไป พักรถดื่มน้ำที่ปั๊มข้างหน้ามั้ย ซึ่งข้อมูลพวกนี้Toyota มีแต่แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการแจ้งuser(เอาไปใช้คำนวนด้านเครื่องยนต์แทน) user หลายคนต้องกระเสือกกระสนซื้อ OBD มาแสดงผลเพื่อจะได้รู้ parameter ต่างๆของรถตัวเอง
ทำไมนึกถึง kodak, nokia
เคยดูข่าว ตอนนี้ในไทย รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเสียแชมป์ให้ honda 3 ปี กระบะ เสียแชมป์ให้ isuzu
ออกแบบรถได้....เอิ่ม
วิ่งมาไกล ๆ ดูไม่ออกว่า vios altis หรือ camry. Console ของ altis ก็ไม่รู้จะพูดไง คิดว่าทำอะไรมา คนก็ต้องซื้อ
เห็นข่าวนี้ ไม่แปลกใจกับวิธีคิดบริษัทนี้ เค้ายังยินดีกับความสำเร็จเดิม ๆ วันข้างหน้าลองมาดูกันอีกที
ทำไม ลิ้วพลู แวบขึ้นมาในหัวเลย
ประธาน บ. เอาอนาคตของ บริษัทไปพนันว่า แร่ Li จะขาดตลาด ผู้คนต้องแย่งชิงแร่ ไปทำ Battery รถไฟฟ้าล้วนกันจนโลกศูนย์สิ้น สภาพบ้านเมืองเหมือนหนังการ์ตูนเรื่อง หมัดดาวเหนือที่ฉายช่องเก้า ตอน 10 โมง-เสาร์ อาทิตย์ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน บรรดารถราที่วิ่งกันในเรื่องก็ต้องใช้น้ำมัน ต้องพ่นปากด้วยสีผสมอาหารสีเงิน ตะโกน "วิทเนสมี" ต่อยกันแย่งชิงน้ำมันกันกลางทะเลทรายเพื่อมีชิวิตรอด ดูแล้วมันโหดร้าย ยังไงชอบกล นี่ถ้าแก้ปัญหา Battery ได้ หรือ บังเอิญเกาหลีเหนือที่จะเปิดประเทศอยู่ร่อมร่อ ดันมีแร่ Li ที่ขุดใช้งานไปได้อีก 1,000 ปีนี่ เจ๊งทั้งยืนก่อนปี 2030 แน่ๆ
อนุรักษ์นิยมจัด ทำแต่กล้องฟิล์มตามแนวโกดัก เดี๋ยวได้ตามไปติดๆ
+4.0
ผมว่าเป็นเรื่องธุรกิจครับ โตโยต้า เป็นบริษัทฯ ที่ไม่ตกเทรนด์นะครับ แต่ข้อมูลที่กูเกิ้ลเอาไป มันก่อให้เกิดคู่แข่งในอนาคตได้ เพราะกูเกิ้ลก็พยายามทำรถเหมือนกัน
ถ้ากูเกิ้ลเอาข้อมูลน้อยแบบ แอปเปิ้ล โตโยต้า คงเซเยสไปแล้ว
และถ้าเค้าไม่พัฒนาเทคโนโลยี คงไม่รับ แอปเปิ้ล และคงไม่พัฒนารถพลังงานทางเลือก
ความเห็นส่วนตัวครับ